บทที่ 55
บทที่ 55
“ฮ่า ฮ่า ศิษย์ข้าเป็นอย่างไรบ้าง?” บนท้องฟ้า เทียนหยุนลูบเครายาว มองฉินห่าวเป็นผู้นำสาวก
“ก็ไม่เลว ถึงบางครั้งจะทำเรื่องไร้สาระซุกซนไปบ้าง แต่ก็นับว่ามีความสามารถ เราผู้เฒ่าชอบนัก เขาดีกว่าศิษย์ข้ามาก”
ผู้อาวุโสฮั่วเอ่ยชื่นชม ศิษย์ของเขาคนที่ว่าคือชายกำยำที่ชื่อว่าจ้าวเยว่
“อย่างไรก็ตาม ยอดเขาทั้งสามต่างมีผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตแก่นทองคำอย่างละ 5 คน ข้าสงสัยนักว่ายอดเขาเซียวเหยาของฉินห่าวจะมีกี่คน?” ผู้อาวุโสมู่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ยอดเขาของฉินห่าวเพิ่งสร้าง ดังนั้นอาจยังไม่มีสาวกในขอบเขตแก่นทองคำ” ผู้อาวุโสจินพูดด้วยรอยยิ้ม
แน่นอน พวกเขาไม่ได้เอ่ยเพราะต้องการอวดเบ่งกับเทียนหยุน เพียงแค่เป็นการล้อเล่นระหว่างศิษย์พี่ศิษย์น้องก็เท่านั้น
“ฮึ่ม! ลูกศิษย์เราผู้เฒ่าไม่ได้แย่ขนาดนั้น!” เทียนหยุนแก้มกระตุก ตะเบ็งเสียงเย็น
“ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์เรียกศิษย์มาด้วยเหตุใด?” หลังจากนั้นไม่นาน ฉินห่าวก็เดินเข้ามาพร้อมประสานสองมือและเอ่ยถาม
“อ้อ ก็ไม่มีอะไร พวกเราแค่อยากรู้ ในเมื่อยอดเขาทั้งสามต่างผลิตผู้บำเพ็ญเพียรแก่นทองคำได้อย่างละ 5 คนแล้วยอดเขาของเจ้าเล่ามีสาวกขอบเขตแก่นทองคำอยู่บ้างหรือไม่? แน่นอน ไม่มีก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะยอดเขาเจ้าเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน”
เทียนหยุนกล่าวประโยคเดียว ก็สามารถอุดช่องว่างที่พวกผู้อาวุโสคนอื่นๆทิ่มแทงได้ เพราะยังไงซะ ยอดเขาเซียวเหยาเพิ่งก่อตั้ง แล้วจะมีสาวกในขอบเขตแก่นทองคำได้อย่างไร?
หากไม่มี ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย
“มีนะขอรับ ซัก .... 20 คนกระมัง?”
ฉินห่าวมองสีหน้ายิ้มแย้มของเหล่าผู้อาวุโสก็พอคาดเดาบางอย่างออก หลังจากนับคร่าวๆก็เอ่ยออกมา
“อะไรนะ!?”
“มีสาวกแก่นทองคำ 20 คนในยอดเขาเซียวเหยา นี่เจ้าพูดเป็นเล่น!?”
ผู้อาวุโสทั้งห้าหน้าซีดตกใจ อุทานออกมา
มือของเทียนหยุนสั่น กระทั่งเขายังไม่คาดหวังว่ายอดเขาเซียวเหยาจะมีสาวกแก่นทองคำมากขนาดนี้
“ทุกคนเพิ่งตัดผ่านขอบเขตได้ไม่นาน รากฐานยังไม่นิ่ง ข้าคิดว่าผู้อาวุโสเลยไม่ทันได้สังเกต เดิมพวกเขาตั้งใจจะปิดด่านฝึกตน แต่ข้าคิดว่าการเดินทางพันลี้ย่อมดีกว่าการอ่านตำราหมื่นเล่ม การได้รับประสบการณ์ตรงๆ จับอาวุธฆ่าศัตรูซักคนสองคนยังไงก็ดีกว่าอ่านเนื้อหาจากตำรา พาพวกเขาไปขัดเกลาข้างนอกซักหน่อย ก็เข้าที่แล้ว”
ฉินห่าวเอ่ยด้วยสีหน้าผ่อนคลายราวกับว่าศัตรูที่เขาเอ่ยให้ฆ่านั้นไม่ต่างจากมดตัวเล็กๆ
ทุกคน “...”
น่าทึ่งมาก! ยอดเขาเซียวเหยาเพิ่งก่อตั้ง แต่กลับปรากฏสาวกขอบเขตแก่นทองคำกว่า 20 คนแล้ว
“แต่ทำแบบนี้ เจ้าไม่กลัวสาวกเหล่านั้นจะถูกสังหารหรือ?”
แม้ผู้อาวุโสมู่จะรู้สึกว่าคำพูดของฉินห่าวไม่เลว แต่เขาก็ยังเตือน
“ข้าไม่กลัว ตราบใดที่พวกเขาแจ้งผ่านยันต์สื่อสารได้ทันเวลา ไม่เอาหัวไปขึ้นเขียง เรื่องกวาดล้างกองกำลังเซี่ยถูก็ไม่ใช่ปัญหา”
ทุกคนพูดไม่ออก
เทียนหยุนลูบเครายาวตัวเองและยิ้มพอใจกับคำตอบนี้
ต่อมา เหล่าสาวกขอบเขตแก่นทองคำทั้งหมดก็มาถึง และพวกเขาพบว่ามีกว่า 20 คนออกมาจากยอดเขาเซียวเหยา รวมทั้งสิ้นเป็น 35 คน ก็ต้องตกตะลึง
ที่แท้นิกายเซียวเหยาของพวกเขาแก่กล้าถึงเพียงนี้เลยหรือ?
“สาวกขอบเขตแก่นทองคำทั้งหมด พวกเจ้าไปหาสมาชิกอีกเก้าคนมาแล้วออกเดินทางได้!” ฉินห่าวโบกมือใหญ่ เปลี่ยนตนเป็นเส้นแสงนำหน้าทุกคนออกจากนิกาย ชั่วขณะหนึ่ง บนท้องฟ้าดูงดงามและตระการตาเป็นพิเศษ
“ยุครุ่งเรืองมาถึงแล้ว!”
เทียนหยุนเฝ้ามองภาพนี้ เกิดความรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
ฉินห่าวเองก็พาศิษย์น้องทั้งเก้ามากับเขาด้วยเช่นกัน แต่ทุกคนได้รับการจัดสรรแบบสุ่ม ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่ได้รู้จักกันเป็นพิเศษ
กระนั้น มีสาวกอยู่คนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของฉินห่าวเป็นพิเศษ ไม่ใช่ว่าศิษย์น้องหญิงผู้นี้สวยหรือรูปร่างดี แต่เป็นเพราะนางสวมหน้ากา เผยให้เห็นเพียงคู่ดวงตาปราดเปรียว
อืม ดูลึกลับดี
ทั้งเก้าคนตื่นเต้นมาก ฉินห่าวเปรียบดั่งแสงนำทางในใจของพวกเขา ทั้งเจิดจ้าและน่าเคารพยกย่องเหมือนไอดอลท่านหนึ่ง
ฉินห่าวยิ้มเล็กน้อย ปลดปล่อยพลังปราณของตัวเอง พยุงเหล่าศิษย์น้องทั้งเก้าขึ้นไปบนท้องฟ้า
แต่ละกลุ่มมีเส้นทางลาดตระเวนที่ชัดเจน และสามารถกลับมาได้ตลอดเวลาหลังจากมุ่งหน้าไปถึงชายแดนของนิกายเซียวเหยา
ส่วนจุดแรกที่ฉินห่าวแวะลงจอด คือเมืองโร่วรี่