บทที่ 34 ต้องจัดการอีกทีม
“เฮ้ มีคนอยู่ที่นี่” นักรบรับจ้างสีโลหิต เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากซากศพกระทิงเกราะ
“ไอ้หนู เจ้าฆ่ากระทิงเกราะพวกนี้หรือ?”นักรบรับจ้างสีโลหิตถามอย่างดุร้าย พร้อมจ้องไปที่หลินเป้ย
น้ำเสียงไม่เป็นมิตร เหมือนเป็นการสอบสวนมากกว่า
ในจิตใจของพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่าความสุภาพคืออะไร เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเผชิญกับการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งกว่า
เมื่อเผชิญกับคนธรรมดา พวกเขาจะมีทัศนคติเช่นนี้เสมอ
“ไม่ใช่ข้า ข้าเพิ่งมาถึง” หลินเป่ยปฏิเสธ
ถ้าพวกเขาออกจากที่นี่ง่ายๆ หลินเป้ยก็ไม่ต้องการสร้างปัญหาใดๆ
แต่ถ้าพวกเขาต้องการฆ่าหลินเป้ย อย่างเลวร้ายที่สุดเขาสามารถแลกเปลี่ยนเป็นการ์ดหุ่นเชิดระดับ 4
แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ฝึกตนและสติปัญญาของพวกเขาสูงกว่าสัตว์อสูรมาก
หากหลินเป้ยไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด และผู้คนจำนวนมากหนีไป
มันจะเกิดความยุ่งยาก ในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน!
เพราะพวกเขาเห็นหลินเป้ยแล้ว และมันจะง่ายมากที่จะค้าหาหลินเป้ยเมื่อถึงเวลา
ไม่ว่าพวกเขาจะต่อสู้หรือไม่ก็ตาม
หากพวกเขาต่อสู้ หลินเป้ยตั้งใจที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมด
ตอนนี้หลินเป้ยไม่มีคะแนนมากมาย เงินและอื่นๆ ทั้งหมดถูกแลกเปลี่ยนเป็นแต้มหมดแล้ว และอย่างมากที่สุดสามารถแลกเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิดระดับ 4 ได้เท่านั้น
ทำให้ก่อนหน้านี้ หลินเป้ยจึงวางแผนที่จะกลับไปที่เมืองชิงหลิน
เขาต้องการเงิน!
ยิ่งกว่านั้นหุ่นเชิดมีขีดจำกัดของพลังงาน
หากหุ่นเชิดใช้พลังงานมาก มันก็จะสลายไปล่วงหน้า
แต่ถ้าหุ่นเชิดไม่ใช้ทักษะต่อสู้และทักษะอันทรงพลังอื่น ๆ
มันจะฆ่าคน ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งหมดอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
ทักษะต่อสู้ใช้พลังงานมาก หลินเป้ยไม่แน่ใจว่าจะล้างฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งหมดไหม
ดังนั้นจะเป็นการดีที่สุด ถ้าเขาสามารถเล่นเล่ห์กลได้!
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะไม่รบกวนเจ้า”หลินเป้ยแสดงท่าทางประจบประแจง แน่นอน การแสดงต้องสมจริง
“เดี๋ยวก่อน เราปล่อยเจ้าไปหรือไง เราสงสัยว่าเจ้าเอาของที่ไม่ใช่ของเจ้าไป เจ้าต้องปล่อยให้เราค้นตัว” นักรบรับจ้างเย้ยหยัน
ไม่จำเป็นต้องพูดมาก นักรบรับจ้างคนอื่นๆ ได้เริ่มล้อมรอบหลินเป้ยอย่างรวดเร็วแล้ว
คนเหล่านี้ทำสิ่งเหล่านี้อย่างมีความสุข ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พวกเขาปล้นและฆ่าผู้ฝึกตนจำนวนมาก
พวกเขาได้เงินมามากมาย!
ตอนนี้เจ้าเจอเหยื่อของเจ้าแล้ว เจ้าจะปล่อยมันไปได้อย่างไร?
ใบหน้าของหลินเป้ยมืดมน ไอ้เวรเหล่านี้เหมือนกันหมดจริงๆ
พวกเขาต้องการที่จะฉกของทุกสิ่งที่มันค้นพบ!
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เนื่องจากการกระทำของกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต
ผู้ฝึกตนจำนวนมากได้หลบหนีออกจากพื้นที่นี้
ด้วยจำนวนผู้ฝึกตนที่น้อยลง เป้าหมายที่พวกเขาจะปล้นก็น้อยลงเรื่อยๆ
“เจ้าหมายความว่ายังไง ข้าไม่ได้เอาของของเจ้าไป และข้าไม่ได้แตะต้องศพของกระทิงหุ้มเกราะเหล่านี้ด้วย” หลินเป่ยพูดอย่างใจเย็น
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ทุกสิ่งที่เราเห็นเป็นของเรา ดังนั้นทุกอย่างบนร่างกายของเจ้าตอนนี้เป็นของเรา หากเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าก็จะตายเท่านั้น” สมาชิกนักรบรับจ้างเย้ยหยัน
“ฮ่าฮ่า ไร้สาระ เจ้าพวกบ้าเลือดนี่มันข่มเหงเกินไปแล้ว แต่ตอนนี้ข้าพูดเหมือนเจ้าได้ไหม ทุกอย่างที่ข้าเห็นเป็นของข้า รวมทั้งชีวิตของผู้คนอีก 20 ชีวิตที่อยู่ข้างๆเจ้า ทั้งหมดเป็นของข้า ตอนนี้ข้ากำลังจะมาเอา ชีวิตของเจ้าแล้ว”หลินเป้ยหัวเราะอย่างโกรธเคือง
เนื่องจากเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ หลินเป้ยจึงไม่รังเกียจที่จะฆ่าพวกเวรนี่อีกทีม หนึ่ง
แม้ว่าพวกเขาจะค้นพบตัวตนของหลินเป้ยในอนาคต
มันก็ไม่สำคัญแล้ว!
นอกจากนี้ การค้นหาตัวตนของบุคคลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
หลินเป้ยไม่รังเกียจที่จะหลอกลวงพวกเขา
มันบังเอิญมาก ที่หลินเป้ยต้องการต่าประสบการณ์
เพื่อที่จะไปถึงนักรบฝึกหัดขั้น 9
หลังจากสังหารกลุ่มคนที่อยู่ต่อหน้าเขาแล้ว เขาเชื่อว่าเขาสามารถเข้าสู่ขั้น 9 ได้
“เพ้ย! เจ้ากล้าพูดกับเราแบบนี้ เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่หรือไง?”นักรบรับจ้างคนหนึ่งตะโกนถาม
โดยไม่คาดคิด เด็กน้อยที่อยู่ในระดับนักรบฝึกหัดที่อยู่ต่อหน้าเขา
กล้าที่จะพูดแบบนี้ กับนักรบแท้จริงทุกคนที่อยู่ที่นี่!
"เจ้ากำลังมองหาฆาตกรที่ฆ่าทั้งสองทีมของเจ้า? ใช่แล้ว ข้าฆ่าขยะเหล่านั้นไป 20 ชิ้น วันนี้ข้าจะส่งเจ้าไปพบพวกเขา"หลินเป้ยหัวเราะเยาะ
จริงๆแล้ว หลินเป้ยไม่ต้องการสร้างความลำบากในตอนแรก
แต่ความขัดแย้งระหว่างตัวเขา และกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตก็หลีกเลี่ยงไม่ได้!
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเป้ย การแสดงออกของทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตทั้งหมด ก็เปลี่ยนไป!
เมื่อก่อนพวกเขาค้นหาฆาตกร พวกเขาไม่ได้บอกคนนอก ว่าพวกเขาเสียไปสองทีม
ไม่มีใครรู้นอกจากคนในเท่านั้น
เมื่อหลินเป้ยเอ่ยเรื่องนี้ คำตอบก็พร้อมที่จะออกมา
หลินเป้ยคนนี้ คือฆาตกรที่พวกเขาตามหามาสองวันแล้ว
“เจ้าเป็นคนฆ่าคนของเรา!” ผู้นำทีมปรมาจารย์นักรบขั้น 2 พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
"ใช่แล้ว ข้าเอง ในเมื่อเจ้ากำลังมองหาความตาย ข้าจะส่งเจ้าไปหาพวกเขา"หลินเป้ยกล่าว
ในเวลานี้ เสี่ยวเฮยและหมาป่าสีครามตัวอื่นๆ ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทีมนักรบรับจ้าง
เพื่อตั้งใจ ที่จะตัดทางถอยของพวกมัน!
“ไม่ดีแล้ว มีหมาป่าสีครามอยู่ข้างหลัง” มีคนสังเกตเห็นความผิดปกติข้างหลังเขาทันที และส่งเสียงเตือน
"ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะฆ่าคนของเรา เจ้าความตายเป็นทางเดียวเท่านั้น ฆ่าเจ้าเด็กนี่ก่อน แล้วค่อยจัดการกับหมาป่าสีครามที่อยู่ข้างหลัง!" ผู้นำทีมพูด
ผู้นำทีมคนนี้มีชื่อว่า ฉินหลิน และเขาเป็นหนึ่งปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่ง ที่ออกล่า เสือขาวเนตรโลหิตในครั้งนี้
เนื่องจาก หลินเป้ยฆ่าทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตถึง 2 ทีม
เขาจึงถูกส่งมาที่นี่ เพื่อตามหาฆาตกร
ปรากฎว่า พวกเขาเจอฆาตกรได้จริงๆ!
ปราณของหลินเป้ยคือนักรบผึกหัดขั้น 8
แต่นักรบผึกหัดขั้น 8 คนเดียวจะทำลายทั้ง 2 ทีมได้อย่างไร
ทุกอย่างดูผิดปกติ ดังนั้นฉินหลินคนนี้จึงค่อนข้างระมัดระวัง
ในขณะนี้ ทุกคนในทีมนักรบรับจ้างสีโลหิต ไม่ทราบว่าหมาป่าสีครามที่อยู่ข้างหลังและหลินเป้ย
พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวกัน!
พวกเขาไม่คิดว่าหลินเป้ยซึ่งเป็นนักรบผึกหัดขั้น 8 จะสามารถควบคุมกลุ่มหมาป่าสีครามที่อยู่ข้างหลังเขาได้ ซึ่งรวมถึงราชาหมาป่าสีครามด้วย
ตอนนี้พวกเขามีคนจำนวนมากที่นี่
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวหมาป่าสีครามที่อยู่ด้านหลัง
ไม่ต้องพูดถึง พวกเขามีปรมาจารย์ที่แข็งแกร่ง
แม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ การล่าถอยก็ไม่ใช่ปัญหา
ยังมีทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตอืนอยู่รอบๆ
ตราบใดที่พวกเขาส่งสัญญาณ ทีมอื่นๆก็มาถึงได้ในเวลาอันสั้น
"ระบบ ข้าต้องการแลกเปลี่ยนหุ่นเชิดระดับ 4 ขั้น1"หลินเป้ยกล่าวกับระบบ
<แลกยันต์หุ่นเชิดระดับ 4 ขั้น1 โฮสต์ต้องใช้ 2,500 แต้ม ต้องการแลกเปลี่ยนหรือไม่>
"ยืนยันการแลกเปลี่ยน"หลินเป้ยกล่าว
<ติ๊ง การแลกเปลี่ยนแลกยันต์หุ่นเชิดระดับ 4 ขั้น1สำเร็จแล้ว> ในเวลานี้มียันต์หุ่นเชิดระดับ 4 ขั้น1เพิ่มเติมในพื้นที่จัดเก็บของหลินเป้ย
หลินเป้ย หยิบมันออกมาทันที ถือมันไว้ในมือของเขา และอัดฉีดปราณจิตวิญญาณเข้าไป กระตุ้นมันทันที
ในพริบตา ร่างหุ่นเชิดก็ปรากฏขึ้นข้างๆหลินเป้ย
คราวนี้เป็นชายอายุประมาณ 26 ปี ที่มีใบหน้าเด็ดเดี่ยว
สวมชุดเกราะรบและถือหอก เขาดูเหมือนแม่ทัพผู้เกรียงไกรในสนามรบ
ลมหายใจของมหาปรมาจารย์นักรบขั้น 1 กระจายออกไป
"มหาปรมาจารย์นักรบ" ทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตรู้สึกได้ถึงออร่าปราณอันทรงพลังที่พุ่งเข้าหาใบหน้าของพวกเขา และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
แม้แต่ฉินหลินก็หน้าซีดด้วยความตกใจ
แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์นักรบ แต่เขาก็อยู่ในขั้นที่ 2 เท่านั้น
แม้แต่ปรมาจารย์นักรบ(หวู่ฉี)ขั้น 10 ก็ไม่มีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับมหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง) ขั้น 1 ได้ นับประสาอะไรกับเขาซึ่งอยู่ขั้น 2 !