ตอนที่ 29 ร้านค้าในเครือข่ายไกอา 1(อ่านฟรี)
ตอนที่ 29 ร้านค้าในเครือข่ายไกอา 1
สำนักงานเหนือมนุษย์ ประจำเมืองปลายฝน
ผู้อำนวยการอีคอนนั่งอยู่ที่ห้องทำงานส่วนตัวฟังรายงานด่วนจากเลขาคนสนิทด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ตอนนี้มีรายงานเรื่องของชิ้นส่วนโลกต่างมิติในระดับ F ที่มีความผิดปกติขึ้นหลายครั้ง อย่างชิ้นส่วนนี้มีการเปลี่ยนแปลงของม่านแสงทำให้ระยะเวลาที่ม่านแสงอยู่ได้ 24 ชั่วโมงกลับหายไปทันที ส่วนชิ้นส่วนนี้มีมอนสเตอร์มากกว่าหลายสายพันธุ์ปรากฏขึ้นมาพร้อม ๆ กัน และนี่คือชิ้นส่วนระดับ F ล่าสุดที่มีบอสถึง 2 ตัว”
ผู้อำนวยการอีคอนเลิกคิ้วขึ้นรีบสอบถาม
“บอสสองตัว เหนือมนุษย์ที่เข้าไปทำภารกิจเป็นยังไงบ้าง”
“มีรายงานว่า ตายไป 4 คนส่วนที่เหลือบาดเจ็บต่างกัน”
“ดีที่พวกเขายังหนีออกมาทันและรักษาชีวิตเหนือมนุษย์ส่วนใหญ่ได้”
“ไม่ใช่ค่ะ แต่มีเหนือมนุษย์คนหนึ่งที่จัดการได้ ตรงนี้ที่แปลกค่ะ เหนือมนุษย์คนนี้พึ่งจะเป็นเหนือมนุษย์เท่านั้น คลื่นพลังยังไม่เกิน 100 หน่วยด้วยซ้ำ แต่จากที่หัวหน้าทีมแมวดำได้ให้รายละเอียดมากอย่างไม่ชัดเจน เหนือมนุษย์คนนี้กลับสามารถฆ่าบอสมอนสเตอร์ที่เป็นสายพันธุ์ตะขาบเขาดาบ 2 ตัว ตัวหนึ่งมีพลังที่ 700+ หน่วยและอีกตัวคือระดับสูงสุดของระดับ F แล้ว”
“ได้เรียกเขามาสอบหรือยัง”
“ยังค่ะ แต่ว่าเหนือมนุษย์คนนี้เป็นคนที่ลูกชายของท่าน คุณอีลิกเป็นผู้สังเกตการณ์ในการทดสอบฮันเตอร์ที่ของเขาด้วย”
“อีลิก ฉันลืมไปเลย เขาส่งรายงานเกี่ยวกับเหนือมนุษย์คนนี้มาหรือยัง”
“ที่จริงคุณอีลิกยังไม่ได้ส่งรายงานอะไรมาเลยนอกจากรายชื่อคนที่ผ่านเท่านั้นทำให้การรับรองสถานะของเหนือมนุษย์ช้าไปสองวันด้วยค่ะ”
หางตาของผู้อำนวยการอีคอนกระตุกเล็กน้อย
“ไปตามเขากลับมาสอบถามเกี่ยวกับเหนือมนุษย์คนนั้น”
“เออ...คือว่าเรื่องนี้คงยากหน่วยค่ะ วันนั้นผู้อำนวยการมอบงานให้เขาไปไล่ล่ามอนสเตอร์ที่กำลังยกระดับเป็นระดับ D ทำให้ตอนนี้เขายังไม่กลับมาที่เมืองและตำแหน่งของเขาก็อยู่ไกลเกินกว่าจะกลับมาได้ในวันสองวันนี้ค่ะ”
“เขาอยู่ที่ไหน”
“ป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้”
สิ้นเสียงเลขาคนสนิท ผู้อำนวยการอีคอนก็นิ่งเงียบไป ผ่านไปสักพักเขาก็พูดขึ้นมา
“เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับชิ้นส่วนโลกต่างมิติที่มีปัญหาเตรียมแจ้งจัดประชุมด่วนไปยังสำนักงานระดับรัฐ อ้อเก็บเรื่องเหนือมนุษย์คนนั้นไว้ก่อน รอตรวจสอบให้ชัดเจนค่อยว่ากันอีกที”
“ค่ะ”
...
ป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้
“ฮัดชิ้ว!”
อีลิกที่กำลังลากซากศพของมอนสเตอร์อยู่กลับจามออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาเช็ดจมูกก่อนจะจามอีกหลายครั้ง
“เป็นหวัดเหรอ ไม่น่าเป็นไปได้ ฉันคือเหนือมนุษย์จะเป็นหวัดได้ยังไง แย่ละสิ! ที่นี่คือป่ากลายพันธุ์หรือเราติดเชื้อที่ไม่รู้จัก ต้องรีบกลับออกไปแล้วที่สำนักงานน่าจะวินิจฉัยได้ พอนึกถึงที่นั่น เราลืมส่งรายงานการทดสอบไปให้ที่สำนักงาน ดันส่งไปแต่รายชื่อที่ผ่านซะได้ ช่างเถอะกลับไปแล้วค่อยไปบอกพ่อ ยังมีเรื่องของเหนือมนุษย์ที่อาจจะปลุกพลังพรสวรรค์คนนั้นได้อีก”
อีลิกรีบลากซากมอนสเตอร์ไปโยนไว้ในหลุมแห่งหนึ่งที่เขาทำขึ้นมา
“มาสิแกน่าจะหิวมาก คงต้องการพลังงานจำนวนมากในการยกระดับสินะ ฉันเอามาให้แล้วรีบมาติดกับดักสักที” อีลิกหลบซ่อนและเฝ้ารอมอนสเตอร์มาติดกับดักของเขา
...
เช้าวันต่อมามีเสียงดังเล็กน้อยมาจากห้องนั่งเล่น เป็นเจนที่ตื่นมาแต่เช้าสั่งอาหารจากห้องครัวมาเตรียมให้กับเธอและพี่ชาย
ตอนนี้พวกเขาย้ายไปอยู่ห้องใหม่ที่ทางโรงแรมจัดให้แล้ว โต๊ะทานอาหารก็อยู่ใจกลาง แต่เจนชอบวิวในมุมสูง เธอจึงใช้ความพยายามลากเก้าอี้และโต๊ะมาชิดขอบริมหน้าต่างที่สามารถนั่งกินอาหารและมองออกไปยามเช้าด้านนอกของเมืองที่วุ่นวายด้านล่างได้
“พี่ตื่นสายมากเลยวันนี้” เจนดื่มน้ำส้มมองดูอาหารที่ปิดครอบรอพี่ชาย สุดท้ายเธอจึงเดินไปดูก็เห็นลุคนั้นฟุปตัวหลับที่โต๊ะ เสียงลมหายใจแผ่วเบาสงบนิ่ง
“พี่โหมทำงานหนักอีกแล้ว”
เจนเดินไปหยิบผ้ามาห่มให้ ปรับแอร์ให้เหมาะสม ปิดประตูเดินออกมา โดยไม่รบกวนการนอนของลุค
ช่วงสายของวันลุคจึงตื่นขึ้นมา
“กว่าจะได้นอนก็เช้าซะแล้ว...ผ้าห่มเจนคงเอามาห่มให้”
ลุคออกมาพบว่าเจนนั่งอ่านหนังสืออยู่ วันนี้คือวันหยุดเจนไม่ได้ไปที่โรงเรียน จึงใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ
“พี่มีอาหารอยู่บนโต๊ะแต่เย็นหมดแล้ว ให้หนูไปอุ่นให้ไหมคะ”
“ช่างเถอะ พี่กินได้”
ลุครู้สึกหิวมาก เขาลงมือกินอาหาร อาหารเหล่านี้ใช้เนื้อมอนสเตอร์บอสที่เกือบหมดโดยฝีมือของเชฟของทางโรงแรม เพราะเมื่อคืนใช้พลังมากในการฆ่าบอสทั้งสองตัว จึงหิวมากกว่าทุกที
อาหารบนโต๊ะถูกจัดการจนหมด
ขณะที่ลุคเดินไปเก็บจาน เจนก็ถามขึ้นมาว่า “พี่เราจะไปดูบ้านเช่ากันไหม หนูเจอสองสามที่แถวนี้พอดี”
“พี่จะพูดเรื่องนี้เหมือนกัน พี่ว่าเราซื้อบ้านสักหลังเลยดีกว่า”
“ซื้อบ้านเหรอคะ แต่แบบนั้นเงินจะพอเหรอ”
“ไม่ต้องห่วง อย่าลืมสิว่าพี่เป็นเหนือมนุษย์และยังได้สถานะฮันเตอร์มาแล้ว อาชีพฮันเตอร์ทำเงินได้จำนวนมาก ดังนั้นเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา น้องลองห้าบ้านราคาสัก 1-2 ล้านก็ได้”
เจนมองพี่ชายของเธอด้วยแววตาแปลก ๆ ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อ แต่ในใจเธอก็เชื่อว่าพี่ชายไม่น่าจะโกหก เงิน 1-2 ล้านไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เธอไม่เคยฟันถึงมันมาก่อน
“พี่เราเช่าแค่บ้านก็ได้ ยังไงก็อยู่กันสองคนอยู่แล้ว” เจนกล่าวด้วยความเป็นห่วง
เขาเข้าใจน้องสาวดีที่สุดเธอน่าจะคิดว่าเขากำลังหักโหมตัวเองในการทำงานเพื่อหาเงิน
“ไม่เป็นไรหรอก หาบ้านที่ใหญ่สักหลังมีโกดังเอาไว้ทำที่เก็บด้วย ที่สำคัญควรจะเดินทางสะดวกและปลอดภัยด้วย”
น้องสาวคิดสักพักก่อนจะพยักหน้าตกลง ในแววตาเธอนึกถึงบ้านบางหลังที่ดูในเว็บ แต่ไม่กล้าคิดจะได้ครอบครองมาก่อน
หลังจากท้องอิ่มลุคก็กลับเข้าไปในห้อง เขามีเรื่องหลายอย่างที่ต้องจัดการ
ตอนที่บอกน้องสาวว่าเขาหาเงินได้นั้นคือเรื่องจริง เมื่อคืนเขากลับมาก็ใช้แหวนเครือข่ายไกอาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์พิเศษ
การซื้อขายอุปกรณ์พิเศษที่เป็นอาวุธของเหนือมนุษย์นั้นค่อนข้างเสรีกว่าที่ลุคคิด นอกจากการค้าขายตามห้างแล้ว ยังมีการขายออนไลน์ผ่านการขนส่งอย่างเร่งด่วนด้วยเครือข่ายไกอาที่เหนือมนุษย์นิยมใช้งานกันมาก
เพราะการขนส่งสินค้าในเครือข่ายไกอาครอบคลุมตั้งแต่ระดับเมืองไปจนถึงทั่วทั้งสหพันธรัฐ
ราคาของอาวุธมีราคาแพงมาก เปิดไล่ดูอาวุธในคลาสต่าง ๆ ยิ่งทำให้เห็นว่าราคาของอาวุธสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเลยหลักล้านไปแล้ว
การขายไม่ยุ่งยาก สามารถทำการขายแบบธรรมดาไม่ต้องมีเพจร้าน แค่โพสต์และรอคนสนใจมาซื้อได้เลย แบบนี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้ามือสองกันมากกว่า ส่วนแบบที่สองคือการสร้างร้านค้าในเครือข่ายไกอา เป็นร้านที่มีบริษัทและร้านค้าอาวุธที่ผลิตในระดับธุรกิจด้านอุปกรณ์พิเศษโดยตรง ยิ่งร้านมีชื่อเสียงก็ยิ่งเป็นที่นิยม
ลุคประเมินจากของที่ตัวเองมี มันไม่เหมาะเขาเอามาโพสต์ขาย จึงเลือกวิธีการที่สอง โดยเขาใช้เวลาศึกษารายละเอียดอยู่ทั้งคืนจนถึงเช้า
“คุณต้องการเปิดร้านค้าในเครือข่ายไกอาหรือไม่”
พอกดตกลงก็มีหน้าจอร้านค้าให้เขาเลือกจำนวนมาก นี่เป็นแบบร้านค้าที่แหวนสามารถฉายภาพซ้อนทับกับพื้นที่รอบตัวได้ คล้ายกับหน้าจออินเทอร์เฟส เพียงแต่เปลี่ยนทั้งห้องให้เป็นเหมือนกับร้านค้าที่สมจริงมาก
ร้านพวกนี้สามารถจัดวางอาวุธอุปกรณ์ที่สแกนและจะแสดงในระดับสัดส่วนที่สมจริง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สิ่งนี้น่าตื่นเต้นสำหรับลุคมาก พอคิดดูแล้วมันคงเหมาะกับร้านที่ขายเสื้อผ้ามาก แค่คุณกดไปที่เสื้อผ้าก็ฉายภาพสวมไปที่ตัวได้ในทันที ถ้าไม่ถูกใจก็แค่เปลี่ยนจนกว่าจะเจอตัวที่ถูกใจค่อยซื้อ
รูปแบบร้านสามารถเลือกขนาดและตกแต่งได้ตามความต้องการ ราคาต่ำสุด 100,000 เครดิตต่อเดือน ราคาสูงสุดหลายสิบล้าน ทั้งหมดเป็นแบบเช่าเท่านั้น
ความต่างของราคายังกำหนดถึงชั้นในการเข้าถึงข้อมูลด้วย ยิ่งราคาแพงก็ยิ่งถูกจัดให้อยู่ในอันดับแรก ๆ ของการค้นหาของเหนือมนุษย์ ส่วนราคาถูกก็อยู่ท้ายลงมา
“ถึงจะรู้ราคามาก่อนก็เถอะ แต่แบบนี้แพงมากจริง ๆ แถมยังแค่เช่าด้วย ถ้าขายไม่ได้ก็ขาดทุนทันที”
เงินเขามีไม่มาก ลุคจึงเช่าร้านราคาที่ถูกที่สุดแทน เงินถูกหักจากบัญชีในเครือข่ายไกอาทันที ก่อนจะมีหน้าจอดาวน์โหลดปรากฏขึ้นมา ตัวเลขวิ่งอย่างรวดเร็วจนดาวน์โหลดเสร็จสิ้นก็มีช่องให้เขาใส่ชื่อร้านค้าของตัวเอง
“ตั้งชื่อร้านค้าเหรอ” ลุคก้มหน้าคิด ก่อนจะได้มาชื่อหนึ่ง
“ร้านค้าเส้นทางตะวัน”
ที่จริงเขาอยากจะตั้งชื่อว่าร้านค้าซันเดอร์ตามชื่อตระกูล แต่พอคิดว่ามันเด่นชัดเจนเกินไป จึงเปลี่ยนซักเล็กน้อย สุดท้ายก็ได้ชื่อนี้มา
หลังจากชื่อร้านค้าก็มีประวัติผู้ขายกับข้อมูลอื่น ๆ ลุคเลือกจะปกปิดมันทั้งหมด โดยไม่สนใจว่าเรื่องนี้จะสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้ร้านค้า ปกติแล้วข้อมูลตรงนี้ทางร้านค้าใหญ่ ๆ จะใส่และแสดงให้ชัดเจนเพื่อให้เห็นว่าพวกเขามีตัวตนและเป็นบริษัทหรือผู้ผลิตอุปกรณ์พิเศษที่มีชื่อเสียง
สำหรับเราไม่จำเป็นแค่หน้าร้านค้าก็พอ ลุคค่อนข้างมั่นใจในไอเทมของเขามาก แน่นอนว่าเขายังต้องใส่ข้อมูล ซึ่งมีเพียงไกอาที่รู้ข้อมูลของเขาเท่านั้น
ลุคเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไกอาก็พบว่ามันคือปัญญาประดิษฐ์ที่มีความน่าเชื่อถือมากในการรักษาข้อมูล คนที่เข้าถึงข้อมูลได้จะต้องเป็นตัวตนระดับสหพันธรัฐหรือได้รับอนุญาตจากไกอาเท่านั้น
จากนั้นก็เป็นในส่วนการอธิบายภาษีตามราคาขาย อยู่ที่ 10% แพงพอสมควร แต่ก็สามารถยอมรับได้
ร้านค้าถูกลงทะเบียนอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่านสำนักงานเหนือมนุษย์ให้ตรวจสอบ แหวนก็แสดงภาพร้านค้ารอบตัวเขาทันที
ลุคมองดูพื้นที่ในห้องที่ค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยภาพพิกเซลทีละชิ้นด้วยความเร็ว จนเปลี่ยนทั้งหมดเป็นสถานที่เสมือนจริง ร้านค้าเก่า ๆ
พอเห็นร้านค้าของตัวเองก็มุมปากกระตุกทันที
“บ้าจริง แบบนี้มันกลั่นแกล้งกันไปแล้ว ถึงจะเป็นร้านถูกที่สุดก็ไม่เห็นต้องทำให้มันดูเก่าจนผุพัง แถมมีใยแมงมุมด้วยนี่”
ตอนนั้นลุคก็เดินไปสะดุดกับขอบเตียง
“ลืมไปเลยว่ายังอยู่ในห้องนี่เป็นแค่ภาพที่ฉายเท่านั้น”
“พี่ค่ะ”
เจนเปิดประตูห้องเข้ามา ภาพตรงประตูก็แตกออกเป็นพิกเซลเล็ก ๆ ดูเหมือนว่าระบบจะทำให้สิ่งที่เข้ามาภายหลังเป็นสิ่งแปลกปลอม
“น้องนี้เป็นยังไง” ลุคถาม
เจนทำหน้างง ๆ ก่อนจะพูดว่า “ก็เหมือนเดิมนี่ค่ะ แต่ห้องดูเละขึ้นเล็กน้อย”
“นั้นเรื่องปกติของผู้ชาย ว่าแต่น้องมีอะไรเหรอ”
“หนูจะบอกว่ามีบ้านหน้าจนใจหลังหนึ่ง”
“ไว้เดียวพี่ออกไปดู”
“ค่ะ”
เจนปิดประตูกลับไป ภาพตรงประตูก็กลับมารวมกันอย่างรวดเร็วเป็นร้านค้าที่สมบูรณ์
“ก่อนอื่นควรเพิ่มสินค้าก่อน ชั้นวางสินค้ามีจำกัดสินะ แสดงว่าใส่สินค้าโชว์ได้จำกัดด้วยตามขนาดร้านค้า แต่จำนวนไม่จำกัด ฉันมีของไม่มากในตอนนี้ชั้นวางแค่นี้พอจนเหลือเฟือ”