ตอนที่ 28 เหมาะกับเหยื่อล่อจริง ๆ(อ่านฟรี)
ตอนที่ 28 เหมาะกับเหยื่อล่อจริง ๆ
เสียงวิ่งของขาจับจำนวนนับร้อยดังสะท้านไปทั้งโถงถ้ำ ความเร็วมันรวดเร็วราวกับสัตว์ร้ายที่วิ่งเข้าหากระต่ายตัวน้อย
ภายในเส้นทางที่คับแคบพอคนเดินผ่านได้สองสามคน สิ่งที่โผล่พ้นออกมาก่อนคือเขาที่เสมือนดาบยาวเกือบสองเมตรพุ่งนำออกมา ตามมาด้วยลำตัวขนาดใหญ่ยาวไม่น้อยกว่า 15 เมตร สีตัวดำเมี่ยมพอ ๆ กับขาที่ดูน่าสยองเมื่อมันเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กัน
ลำตัวเป็นป้องไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป แต่กลับมีคลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวของมอนสเตอร์ระดับ F ที่ใกล้จะยกระดับไปอีกขึ้น ขาดเพียงสภาพแวดล้อมและพลังงานให้มันกลืนกินที่มากพอก็เท่านั้น
บอสตะขาบเขาดาบดุร้ายยิ่งมันจ้องมองสองหนวดคู่หน้าตวัดไปมาด้วยความโกรธแค้น เพราะมันพบว่าที่ด้านหน้ามีมนุษย์ผู้คนหนึ่งกำลังถือแท่งเรืองแสงในมือซ้ายและจับดาบยาวในมือขวา ข้างกายมีหัวของบอสตะขาบเขาดาบตัวผู้อยู่ปักเสียบคาอยู่
บอสตะขาบเขาดาบตัวเมียคลุ้มคลั่งทันที ลำตัวยกขึ้นงอราวกับคันศร ขานับร้อยเคลื่อนไหวด้วยความเร็วผักดันส่งร่างกายให้พุ่งเข้าไปหาเมดิสันที่ใบหน้าขาวซีด แต่ขาทั้งสองไม่กล้าขยับ
“มาสิวะ!!!” เมดิสันตะโกนสะท้านไปทั้งโถงถ้ำสร้างความกล้าหาญให้กับตัวเอง ก่อนจะยกดาบฟันใส่หัวบอสตะขาบเขาดาบตัวผู้อย่างไม่กลัวว่าจะเสียหาย เพราะมันไม่ของเขาแล้ว
บอสตะขาบเขาดาบตัวเมียเห็นแบบนั้นก็ยิ่งเกลียดคนตรงหน้า มันคิดเพียงแต่ต้องฆ่าให้ได้เท่านั้น ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นในทันที หัวยกชูขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เขาดาบตั้งตรงร่างของมนุษย์ด้านหน้า
พอห่างจากเมดิสันเพียง 10 เมตร จู่ ๆ ข้างใต้ตัวของบอสตะขาบเขาดาบตัวก็มีดาบยาวสีส้มทองแทงออกมาจากพื้นดิน ตามมาด้วยร่างของมนุษย์ที่โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
แววตาของลุคเยือกเย็นมาก ดาบในมือแทงเข้าไปที่ช่วงลำตัวด้านหน้า จนทะลุอีกฝั่งของลำตัว บอสตะขาบเขาดาบหยุดไม่ทัน เพราะความเร็วที่มันพุ่งมารวดเร็วเกินไป ส่งผลให้คมดาบที่เสียบร่างคาอยู่กรีดผ่าร่างกายของบอสตะขาบเขาดาบตัวเมียออกเป็นสองริ้วยาวจนสุดปลายหาง
สภาพครึ่งล่างของตัวบอสตะขาบเขาดาบแยกเป็นสองมีเพียงส่วนหัวที่ยึดร่างกายที่แยกติดกันไว้
อวัยวะและของเหลวในร่างกระจัดกระจายข้ามผ่านศีรษะของเมดิสัน
ตุบ ๆ
หัวของบอสตะขาบเขาดาบตัวเมียปักลงพื้น ริ้วร่างที่แบ่งสองแยกอยู่สองฝั่งไถลไปตามพื้นถ้ำ ก่อนจะม้วนกันเป็นเถาวัลย์กองทิ้งไว้ที่พื้นในสภาพเลือดนอง
ตัวเมดิสันตอนนี้ชุ่มไปด้วยเมือกและของเหลวในร่างของบอสตะขาบเขาดาบตัวเมีย เมดิสันยังตกตะลึงกับฉากนี้อยู่ มันน่าทึ่งซะยิ่งกว่าฉากการตัดหัวของบอสตะขาบเขาดาบตัวผู้ก่อนหน้านั้นซะอีก
“จบแล้ว”
คนอื่น ๆ ที่แอบอยู่ข้าง ๆ คิดว่าจะเกิดศึกใหญ่ใครจะคิดว่ามันตายง่ายขนาดนี้
“ดาบนั้นมันบ้าอะไรกัน” เมดิสันลูบเมือกออกจากหน้า ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเหยื่อล่อที่ต้องเสียสละสักหน่อย แต่ใครจะคิดว่าแผนการนี้จะฆ่าบอสได้ง่ายขนาดนี้ แม้แต่เขาที่มีประสบการณ์ต่อสู้กับมอนสเตอร์มามากมายก็ยังคาดไม่ถึงกับวิธีการนี้
ชายหนุ่มคนนั้นให้เขามายืนตรงนี้และก็โกยดินมาฝังตัวเองแบบง่าย ๆ พอบอสตะขาบเขาดาบตัวเมียเห็นเขากับหัวบอสตะขาบเขาดาบตัวผู้ก็ไม่สนใจอะไรพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
แต่ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือดาบที่ฝ่าร่างบอสตะขาบเขาดาบตัวเมีย ยังไงนั้นก็เป็นร่างกายของบอส มันแข็งแกร่งกว่าร่างของมอนสเตอร์ธรรมดาอยู่ แต่ดาบกลับโจมตีได้อย่างน่าถึง ตอนแรกสงสัยแต่ตอนนี้เมดิสันมั่นใจแล้วว่านั่นคืออุปกรณ์ระดับ F 5 ดาวไม่ผิดแน่นอน
“ถ้าฉันได้ดาบเล่มนั้นมาฉันจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างน้อยก็ 2 เท่า ไม่ 3 เท่าตัวเลย”
“มุกนี้ใช้ได้ผล ถ้าสู้ยืดเยื้อคงเสียแรงจัดการมันและอาจจะมีคนตายได้ ต้องฆ่ามันทันที” ลุคตวัดเอาเมือกและเลือดออกจากคมดาบ ก่อนจะดาบเสียบเข้าไปในช่องของชุดเกราะยึดไว้ด้านหลัง
“คุณเหมาะที่จะเป็นเหยื่อล่อมากจริง ๆ” ลุคพยักหน้าชมเมดิสันอย่างจริงใจ
“ทำไมฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้โดนชมเลย” เมดิสันปากกระตุก
“หัวหน้าเป็นเหยื่อล่อที่สุดยอดมาก”
“ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้ายั่วโมโหมันและมีหน้าตากวนตี... มันคงไม่พุ่งเข้ามาโดยไม่สังเกตอะไรแบบนี้แน่นอน”
“หัวหน้าควรเป็นเหยื่อตลอดไป”
อีกสามคนเข้ามาและกล่าวเสริมกันอย่างยินดีพร้อมกับหัวเราะไปด้วย พวกเขาพึ่งผ่านพ้นความตึงเครียดมาจึงพูดด้วยความดีใจไม่หยุด
เมดิสันเริ่มคิดว่าพวกนี้แค้นอะไรเขาหรือเปล่า แล้วก็ได้แต่ยอมรับคำชมการเป็นเหยื่อล่อไปอย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
“บนพื้นที่มันอะไร” เรรี่หญิงสาวเดินเข้าไปใช้คันธนูเขี่ยดู พบว่าเป็นก้อนขาว ๆ มีเมือกเหนี่ยวติดอยู่ มองดูมีอยู่ราว ๆ 20 กว่าฟองได้
เมดิสันรีบก้มไปเก็บด้วยสองมือ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“ไข่ของมอนสเตอร์ ยังมีชีวิตอยู่ด้วย”
พอได้ยินว่าไขของมอนสเตอร์อีก 3 คนก็รีบเข้ามามุงดูกันอย่างตื่นเต้น
“มันมีค่ามากนักเหรอ” ลุคกวาดตามองไข่ที่พื้น พวกนี้คือไข่ที่ออกมาจากท้องของมอนสเตอร์บอสตัวเมีย
“แน่นอน ผู้คนนิยมกินมันเพราะเต็มไปด้วยพลังงาน ตอนนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 5,000 เครดิตเป็นอย่างน้อย” เมดิสันกล่าวอย่างไม่ปิดบัง
กึก...
เท้าของลุคชะงักหันกลับมาถามอีกครั้ง ด้วยสีหน้าและแววตาที่ดุร้ายชวนให้ใจสั่นไหว ทำเอาคนทั้ง 4 กลัวอยู่ไม่น้อย
“พูดอีกทีสิ ฟองเท่าไหร่นะ” ลุคเค้นเสียงลากยาว
“บอก...บอกว่า ราคาฟองละ 5000 เป็นอย่างต่ำ”
ลุคที่ใบหน้าเรียบเฉยมาตลอด อยู่ ๆ ก็หัวเราะร่าออกมาในทันที
เมดิสันและพวกต่างผงะมองหน้ากันไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร สมองได้รับการกระทบกระเทือนจากการต่อสู้หรือเปล่า
แน่นอนว่าไม่มีใครเข้าใจเขา
“ห้าพัน...ฟองละห้าพัน” ลุคพึมพำราวกับคนขาดสติหันหลังเดินเข้าไปโถงถ้ำที่เป็นที่อยู่ของบอสอย่างเลื่อนลอย
ที่โถงถ้ำชั้นใจสุดของเส้นทางที่ 1 ห้องของบอส
“เวรเอ๊ย! เงิน 6 ล้านกว่าเครดิต ฉันพึ่งทำลายไข่ที่ขายได้ 6 ล้านเครดิตไป มันเท่ากับรางวัลลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลยนะ”
พอคิดว่าเงิน 6 ล้านเครดิตพึ่งถูกทำลายด้วยมือของตัวเองก็ทำให้เขารู้สึกว่างเปล่ายังไงไม่รู้
เงินจำนวนนี้คือเงินที่พวกมาเฟียบีบเขาจนเกือบตาย บังคับให้มาเป็นฮันเตอร์เถื่อน ลุครู้ว่าต่อให้เอาเงิน 5 ล้านไปจ่ายพวกมันตอนนี้ก็คงไม่อาจจะจบเรื่องได้ เพราะคนของมาเฟียตายไปจำนวนมากและมีหลายอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายได้
แต่เงินพวกนี้มากพอจะสนับสนุนในการฉีดสารกระตุ้นให้กับเจน อาจจะรวมถึงซื้อบ้านใหม่ด้วย ชีวิตดี ๆ ที่เฝ้ารอมาแล้วก็ผ่านไป
“เห้อ...” ลุคพ่นลมหายใจ
“ไม่! มันไม่ได้หายไป ถึงไข่จะขายไม่ได้แล้ว แต่มันเปลี่ยนไปเป็นไอเทมตั้งหากละ ไอเทมคือสิ่งที่พลังพรสวรรค์ของเราเรียก แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เหนือมนุษย์เรียก มันคือ อุปกรณ์พิเศษที่มีราคาแพง ฉันแค่ต้องหาวิธีขายไอเทมก็สามารถทำเงินหลักล้านได้”
พอคิดถึงเงินที่จะทำได้จากการขายไอเทม สีหน้าลุคกลับมาฮึกเหิมอีกครั้ง
ก่อนหน้านั้นเพราะไอเทมเขามีจำกัดจึงไม่ได้คิดถึงการขายมันออกไป
“กลับไปค่อยหาวิธีขายดู”
เมดิสันและชายอีกคนพึ่งตามมาถึงพอเห็นลุคกลับมาเป็นปกติแล้วจึงสอบถามเขา
“คุณเป็นอะไรไหม”
“เปล่า ขุดหินพลังงานกันเถอะ”
ลุคบอกกับเมดิสันและเหนือมนุษย์ที่เป็นตัวชนของทีมแมวดำ ส่วนอีกสองคนไม่ได้ตามมาเขาเดาว่าสองคนนั้นคงไปหาเจโรและออกไปแจ้งข่าว
ชิ้นส่วนโลกต่างมิติชิ้นนี้ถึงจะมีมอนสเตอร์บอสจำนวน 2 ตัว แต่หินพลังงานกลับมีไม่เกิน 10 ชิ้นเท่าเดิม จำนวนนี้คือหินพลังงานที่ขุดมาจากสองเส้นทางแล้ว
เมื่อพวกเขากลับไปรวมกับที่โถงถ้ำที่สองเรรี่ก็พาเจโรออกมาพอดี เมดิสันรีบเข้าไปดูอาการเจโร ก่อนจะให้ชายสองคนในกลุ่มรีบพาเจโรออกไป
ที่นี่ไม่มีอะไรให้เขาทำแล้ว ลุคจึงถือโอกาสตามออกไปด้วย ยิ่งอยู่ที่นี่นานก็ยิ่งอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนั้นเรรี่ก็เข้ามาเหมือนจะกระซิบอะไรกับเมดินสัน
“ฮะ! เธอพูดจริง”
เรรี่พยักหน้า
เมดิสันเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าลุคทำไมถึงแปลกไปตอนที่บอกว่าไข่มอนสเตอร์ฟองละ 5 พัน เขาอยากจะตามไปบีบคอชายหนุ่มคนนั้น แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเองไว้เมื่อนึกถึงซากมอนสเตอร์บอสสองตัวที่ยังตอนตายอยู่ไม่ไกล
“เขาไปแล้วเหรอ” เรรี่ถาม
“อืม” เมดิสันกล่าวและส่ายหัวเบา ๆ
ในมือมีถุงที่ใส่หินพลังงานอยู่ เพราะต้องขนซากมอนสเตอร์ออกไปลุคจึงให้หินพลังงานไปกับเมดิสัน เนื่องจากถ้าเอาออกไปด้วยชิ้นส่วนโลกต่างมิตินี้จะเริ่มพังทลาย คงเข้ามาขนซากมอนสเตอร์ไม่ทัน โดยเฉพาะมอนสเตอร์บอสที่ตัวใหญ่มากทั้งสองตัว
ส่วนเรื่องหินพลังงานลุคไม่ใส่ใจมากนัก เพราะมันคือสิ่งที่ต้องแบ่งกันตามจำนวนคนอย่างเท่าเทียม
พอเมดิสันออกไปและปิดภารกิจก็เอาไปฝากให้ทางสำนักงานเหนือมนุษย์ขายได้โดยตรงหรือจะขายเองก็ได้ ทางนั้นจะโอนเงินเข้าบัญชีเขาโดยตรงเอง รวมถึงซากมอนสเตอร์ด้วย
ลุคมีดาบตะขาบเกรดสีส้มอยู่แล้ว เขาจึงไม่สนใจเปลี่ยนพวกมันเป็นไอเทมอีก แต่ให้เมดิสันช่วยขายและชำแหละซากบอสตะขาบเขาดาบตัวเมียให้กับเขาไว้ ส่วนซากตัวผู้ตายเป็นเงิน
แค่เนื้อของมอนสเตอร์บอสตะขาบเขาดาบตัวเมียก็พอให้เขากินไปอีกหลายวันแล้ว และลุคก็ขนลุกเล็กน้อยพอคิดว่ามันคือตะขาบ จึงไม่อยากจะเก็บเอาไว้กินมาก
ส่วนแมงป่องหลังหนาม มันยังไม่สยองเท่าตะขาบจึงกินได้ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก
