สุดยอดอัศวิน บทที่ 9 : ไม่คาดคิด
สุดยอดอัศวิน บทที่ 9 : ไม่คาดคิด
“40 วินาที”
“39 วินาที”
“41 ทันที”
“38 วินาที”
…
นักเรียนจากห้อง 6 ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำการทดสอบทีละคน ส่วนใหญ่ใช้เวลาต่ำกว่า 40 วินาที มีเพียงไม่กี่คนที่ใช้เวลานานกว่า 40 วินาที และใบหน้าของคนเหล่านี้ก็บึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด
เพราะมันถูกเรียกว่าการประเมิน จึงมีมาตรฐานกำหนดว่าควรวิ่งไม่ให้เกิน 40 วินาทีซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการประเมินความเร็วของพวกเขาในครั้งนี้ สรุปก็คือ หากเกินเวลานี้ พวกเขาจะถูกตัดสินว่าไม่ผ่านการประเมินความเร็ว
จำนวนคนที่รอเข้ารับการประเมินมีจำนวนลดลง ในที่สุดก็ถึงคิวของฌอน
“ฌอน”
เมื่อเชาเซอร์อ่านชื่อของฌอน นักเรียนหลายคนมองดูเขา ในฐานะนักเรียนจากชั้นเรียนเดียวกัน พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของฌอนดี แล้วพวกเขายังรู้ว่านี่คือการประเมินครั้งที่สามของฌอน หากยังสอบไม่ผ่าน เขาจะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน
“เร็วเข้า!”
ข้างสนาม มัวร์จับมือข้างหนึ่งไว้แน่นและทำท่าทางให้กำลังใจ การทดสอบของเขาสิ้นสุดลงแล้ว 37 วินาที ซึ่งถือว่าไม่เลว และเกินเกณฑ์การประเมินไปมาก
“อืม”
ฌอนพยักหน้าและเดินไปที่จุดเริ่มต้น หลังจากฝึกฝนมากกว่าสิบวันภายใต้พรสวรรค์อัศวินระดับสูง เขารู้สึกว่าตัวเองมีความก้าวหน้าอย่างมาก ไม่น่าจะมีปัญหาในการประเมิน แต่เขาไม่รู้ว่าจะไปถึงระดับไหน
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง”
เมื่อมองไปที่ฌอนที่กำลังเดินไปที่จุดเริ่มต้น เบนสันก็หัวเราะเยาะ แน่นอนว่าเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของฌอนเมื่อหลายสิบวันก่อนเป็นอย่างดี และเขาก็ต่อสู้กับฌอนมาโดยตลอด ในเวลานี้ ฌอนยังห่างไกลจากมาตรฐานการประเมินอยู่มาก ซึ่งยังมีช่องว่างอีกยาวไกล
เขาไม่คิดว่าฌอนจะลดช่องว่างได้ในเวลาเพียงสิบวัน ถ้าเขาทำได้ ฌอนคงไม่สอบตกถึงสองครั้งติดต่อกันหรอก
ดังนั้นในความคิดของเขา ฌอนจะต้องไม่ผ่านการประเมินในครั้งนี้อย่างแน่นอน จากนั้นก็จะถูกไล่ออกจากโรงเรียน และนี่คือสิ่งที่เขารอคอย เพราะเขาเข้าใจสถานการณ์ของฌอนหลังจากถูกไล่ออกจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ดีว่าจะต้องเจอผลกระทบที่ร้ายแรงยังไงบ้าง
“เริ่มได้!”
ระหว่างที่เบนสันเย้ยหยัน ฌอนไม่ได้ทันสังเกต ในขณะนี้ จิตใจทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับเส้นชัย และเมื่อสิ้นเสียงของอาจารย์ เขาก็พุ่งออกไปราวกับลูกธนูออกจากคันศร
ฟิ้ว!
ขาทั้งสองข้างก้าวอย่างรวดเร็ว ฌอนรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบามาก ราวกับว่าเขากำลังบินอยู่ ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตาของความเร็วที่เร็วเกินไป
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเร็วในปัจจุบันของเขาอยู่เหนือกว่าแชมป์นักวิ่งในชาติที่แล้วอย่างมาก ถ้าเขามีความเร็วถึงขนาดนี้ในชาติที่แล้ว แชมป์นักวิ่งคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ความเร็วของฌอนเพิ่มขึ้น!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของมัวร์ก็ฉายแววดีใจ เขาดีใจมากจริง ๆ ดูเหมือนว่าเลือดกวางสีเงินจะมีประโยชน์ไม่น้อย ในที่สุดมันก็ไม่เปล่าประโยชน์
“ฮะ เร็วมาก?”
รูม่านตาของเบนสันหดตัวลง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเร็วของฌอนนั้นเร็วขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเมื่อกับสิบกว่าวันก่อน
“เชี่ย มีเวลาแค่สิบกว่าวัน เขาวิ่งเร็วขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ?”
ความเร็วของฌอนไม่ได้ช้าลงเพราะความประหลาดใจของเบนสัน
ครึ่งทาง
สามส่วน
สี่ในห้า
ฟิ้ว!
เขาเข้าเส้นชัยโดยไม่สูญเสียความเร็ว
“หนึ่ง สอง สาม... สามสิบแปด”
ในไม่ช้า คนรับใช้ของโรงเรียนที่รับผิดชอบเรื่องจับเวลาก็รายงานเวลาที่ฌอนใช้ไป มีเม็ดทรายทั้งหมดสามสิบแปดเม็ดตกลงมา ซึ่งหมายความว่าคะแนนของฌอนคือ 38 วินาที
“38 วินาทีจริงเหรอ?!”
“เป็นไปได้ไง?”
38 วินาทีไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีนัก ในบรรดานักเรียนที่สอบผ่านก็จัดอยู่อันดับกลาง ๆ ล่าง ๆ อย่างแน่นอน แต่เมื่อเขาได้ยินตัวเลขนี้ เบนสันแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ คิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป
นี่เป็นผลสอบของฌอนที่ไม่ผ่านการประเมินสองครั้งติดกันจริง ๆ เหรอ?
“อาจารย์เชาเซอร์ ปกติเจ้านั่นไม่ได้เร็วขนาดนั้น ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ ใช่ ต้องเป็นเขา ฌอนจ้างคุณทำอย่างนี้หรือเปล่า?”
เมื่อคิดว่าเขาเดาเหตุผลได้แล้ว เบนสันก็จ้องเขม็งไปที่คนรับใช้ของโรงเรียนที่ดูแลเรื่องจับเวลา ซึ่งทรุดลงกับพื้นทันทีด้วยความตกใจ
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเบนสัน คนรับใช้ของโรงเรียนที่ดูแลเรื่องจับเวลารู้สึกหวาดกลัวและพยายามปกป้องตัวเอง
การช่วยนักเรียนโกงเป็นสิ่งต้องห้ามที่โรงเรียนอัศวินยุคใหม่กำหนดไว้ หากพบว่าเป็นความจริง พวกเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอน เป็นเรื่องง่ายที่จะถูกเลิกจ้าง คนรับใช้ที่ถูกพบว่าช่วยนักเรียนโกงสอบจะถูกเลิกจ้าง และถูกไล่ออกจากเมืองทันที
“ฌอน เอาใหม่!”
เชาเซอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าความเร็วของฌอนจะเพิ่มขึ้นจริง ๆ แต่ด้วยระยะทางที่ยาวแบบนี้ เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าฌอนติดสินบนคนรับใช้ของโรงเรียนในการจับเวลาหรือไม่
“อาจารย์เชาเซอร์ ฌอนผ่านการทดสอบแล้ว ทำไมเขาต้องทดสอบใหม่ด้วย? ไม่ยุติธรรมเลย!”
ได้ยินดังนั้น มัวร์รีบเถียงทันที โดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างฌอนจะติดสินบนคนรับใช้ของโรงเรียน การทดสอบแบบนี้อาจเกิดความผันผวน แต่คะแนนของฌอนนั้นไม่ได้ไกลเกินมาตรฐานการประเมินไปมาก ไกลเกินกว่าจะตัดสินว่าเกิดความผันผวน
“มัวร์ ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่ออาจารย์เชาเซอร์ขอให้ฉันทดสอบอีกรอบ ก็ทำไปเถอะ”
“แต่…”
“ไม่เป็นไร ในเมื่อผ่านครั้งแรกไปแล้ว ต่อให้ทดสอบอีกรอบก็ผ่านแน่นอน”
ฌอนส่ายหน้าและขัดคำพูดของมัวร์ เป็นเรื่องปกติที่อาจารย์จะสงสัยในความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้มาจากขวดยา ดังนั้นเขาย่อมไม่กลัวที่จะทดสอบอีกครั้ง
“เริ่มได้”
เมื่อฌอนกลับมายังจุดเริ่มต้นและเตรียมพร้อมแล้ว คำสั่งให้ออกสตาร์ทก็ดังขึ้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้เป็นคนรับใช้ของโรงเรียนที่ออกคำสั่ง เชาเซอร์จะยืนอยู่ที่เส้นชัยในเวลานี้ แทนที่คนรับใช้ของโรงเรียน และตัวเขาเองก็ทำหน้าที่เป็นผู้จับเวลา
ฟิ้ว!
ฌอนกระโดดออกมาอย่างรวดเร็ว ขาของเขาแกว่งไปแกว่งมาเหมือนกังหันลม มีเพียงเส้นชัยในสายตาของเขา และในสายตาของเขา เส้นชัยก็ใกล้เข้ามาในไม่ช้า
ไม่นานฌอนก็วิ่งถึงเส้นชัยอีกครั้ง
ติ้ง!
เมื่อฌอนวิ่งข้ามเส้นชัย เสียงที่คมชัดของการหยุดเวลาก็ดังขึ้นเช่นกัน อาจารย์เทเม็ดทรายออกและเริ่มนับจำนวนเม็ดทรายที่ตกลงมา
1 เม็ด
2 เม็ด
3 เม็ด
…
ในไม่ช้า เชาเซอร์ก็เงยหน้าขึ้นและมองมาที่ฌอนด้วยสายตาซับซ้อน
“39 วินาที”
นี่เป็นผลการทดสอบครั้งที่สองของฌอน ซึ่งแย่กว่าการทดสอบครั้งแรก แต่เมื่อพิจารณาว่าการทดสอบอาจมีความผันผวน และระยะห่างของเวลาในการทดสอบทั้งสองสั้นเกินไป ทำให้ผลกระทบต่อการทดสอบอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นหมายความว่าการทดสอบก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา
“ได้ไง? ทำไมความเร็วของเจ้านั่นถึงเพิ่มขึ้น?”
สีหน้าของเบนสันมืดมนลง เนื่องจากเชาเซอร์เป็นคนจับเวลาเอง ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการโกง หมายความว่าความเร็วของฌอนนั้นเป็นของจริง
สิ่งนี้ทำให้เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเป็นเวลานาน ว่าความเร็วของฌอนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลาสั้น ๆ เกือบเหมือนเป็นคนละคน
“ฌอน เยี่ยมเลย!”
มัวร์ดูตื่นเต้นมาก เมื่อเห็นฌอนผ่านการทดสอบความเร็ว เขามีความสุขมากกว่าการที่ตัวเองผ่านการทดสอบซะอีก
“อืม”
ฌอนพยักหน้าและแสดงรอยยิ้ม แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเกินความคาดหมาย แต่เขาก็ยังรู้สึกโล่งใจเมื่อมันเป็นจริง
ในไม่ช้าการทดสอบความเร็วก็สิ้นสุดลง การทดสอบพละกำลังก็เริ่มต้นขึ้น
การทดสอบพละกำลังคือตำแหน่งของบล็อกโลหะสี่เหลี่ยม บล็อกโลหะสี่เหลี่ยมเหล่านี้จัดเรียงตามน้ำหนักจากน้อยไปหามาก แต่ละบล็อกมีวงแหวนยก ถ้านักเรียนที่ทำการทดสอบสามารถยกบล็อกโลหะสี่เหลี่ยมขึ้นมาที่ตำแหน่งหน้าอกได้ หมายความว่านักเรียนคนนั้นมีพละกำลังที่สอดคล้องกับน้ำหนักของบล็อกโลหะ
“50 เรตัน”
“51 เรตัน”
“52 เรตัน”
นักเรียนออกมาทดสอบทีละคน มาตรฐานการประเมินคือ 50 เรตัน หากพวกเขาสามารถยกบล็อกโลหะ 50 เรตันได้ พวกเขาจะผ่านการประเมิน หลังจากผ่านการประเมินแล้ว พวกเขาสามารถเพิ่มน้ำหนักและทดสอบขีดจำกัดต่อไปได้ หรือจะยอมแพ้ไปเลยก็ได้เช่นกัน
นักเรียนส่วนใหญ่เลือกที่จะเพิ่มน้ำหนักต่อไปเพื่อทดสอบขีดจำกัดของตนเอง และมีคนจำนวนน้อยที่ยอมแพ้ทันทีหลังจากผ่านการประเมิน
“ฌอน”
เมื่อเชาเซอร์อ่านชื่อของฌอนอีกครั้ง เกือบทุกคนก็หันมามองเขาโดยไม่กะพริบตา
หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ นักเรียนเกือบทั้งหมดเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าฌอนจะผ่านการทดสอบพละกำลังในครั้งต่อไปหรือไม่ ท้ายที่สุด ความเร็วของฌอนก็ผ่านการทดสอบแล้ว ถ้าเขาสามารถผ่านการทดสอบพละกำลังได้ ก็จะถือว่าผ่านการประเมิน
เรื่องแบบนี้ ถ้ามีใครพูดแบบนั้นก่อนที่ฌอนจะเข้ารับการทดสอบความเร็ว พวกเขาคงหัวเราะกันจนฟันโยก ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายที่สอบตกสองครั้งติดต่อกันจะผ่านการทดสอบได้ยังไง แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าอาจมีความเป็นไปได้สูง
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะผ่านการทดสอบพละกำลัง”
เบนสันจ้องมองมาที่ฌอนอย่างเย็นชา
ผู้คนต่างมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน บางคนเก่งเรื่องความเร็ว ในขณะที่คนอื่นเก่งเรื่องพละกำลัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนร่างบอบบางอย่างฌอนอาจทำความเร็วได้ดีกว่าด้านพละกำลังอยู่แล้ว แม้ฝึกฝนแค่ไหนก็ไม่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเท่าความเร็วแน่
“คอยดูแล้วกัน”
ฌอนพยักหน้า ก้าวไปข้างหน้า มองไปที่บล็อกโลหะซึ่งเป็นตัวแทนของ 50 เรตัน
เรตันเป็นหน่วยวัดที่ใช้กันมากที่สุดในโลกนี้ น้ำหนักของเรตันหนึ่งลูกนั้นเทียบเท่ากับน้ำหนักในโลกประมาณ 10 กิโลกรัม สรุปก็คือ บล็อกโลหะขนาด 50 เรตัน มีน้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม
น้ำหนักนี้มากเกินไปสำหรับแชมป์ยกน้ำหนักโลกในชาติที่แล้วด้วยซ้ำ แต่ในโลกนี้ มันเป็นเพียงมาตรฐานขั้นต้นในการใช้ประเมินกลุ่มนักเรียนที่ยังไม่ได้เป็นอัศวินฝึกหัด ต้องบอกว่าร่างกายของอัศวินแต่ละคนในโลกนี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ