สุดยอดอัศวิน บทที่ 7 : การรุดหน้าที่น่ากลัว
สุดยอดอัศวิน บทที่ 7 : การรุดหน้าที่น่ากลัว
หวืด!
การวาดดาบออกไปรวมกับวิธีการหายใจที่ไม่เหมือนใคร ‘เหมันต์สีเงิน หิมะหวนกลับ’ กระบวนท่าเริ่มต้นของการใช้วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงิน ถูกใช้โดยฌอนอีกครั้ง ทันใดนั้น ความแปลกประหลาดยากเกินจะอธิบายก็ปรากฎขึ้น
เขาแน่ใจว่าท่าทางออกดาบของเขาไม่ว่าจะเป็นมุมหรือความเร็วของดาบก็ไม่เหมือนเดิม แต่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้ปรากฎขึ้น
เขารู้สึกว่าท่าทางออกดาบของเขา มันเหมือนกับการเปิดประตูที่มองไม่เห็น ความหนาวเย็นที่อธิบายไม่ได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านรูขุมขน และกำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
ทุกที่ที่มีความเย็นแบบนี้มักให้ความรู้สึกสบายอย่างอธิบายไม่ได้ เหมือนกับการดื่มน้ำใส่น้ำแข็งในช่วงฤดูร้อน
ความรู้สึกนี้วิเศษมากจนเขาอดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำกับมัน และเริ่มฝึกฝนรูปแบบดาบโดยไม่รู้ตัวตามวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงิน
หวืด…
รูปแบบดาบอัศวินในมือของฌอนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็แทงตรง บางครั้งก็ตัดในแนวนอน และบางครั้งก็ตวัดจากล่างขึ้นบนเหมือนเขาของละมั่ง ยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น การฝึกฝนไม่เคยราบรื่นแบบนี้มาก่อน ปรากฎว่าการฝึกฝนก็ทำให้เกิดการเสพติดได้เหมือนกัน
จนกระทั่งเขาใช้กระบวนท่าดาบทั้งเก้ากระบวนท่า เขาจึงหลุดจากความรู้สึกผ่อนคลายนี้
“ความรู้สึกนี้ อาจเป็นอนุภาคลึกลับนั้นก็ได้…”
ฌอนหยุดนิ่งและหัวใจของเขาเต้นแรง เพราะเขาพบสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้จากความทรงจำเดิมของฌอนคนเก่า
ว่ากันว่าอัศวินที่เก่งกาจบางคนที่มีความสามารถพิเศษจะรู้สึกถึงอนุภาคลึกลับบางอย่างที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของพวกเขาจากแขนขาและกระดูกเมื่อพวกเขาฝึกฝน เดิมทีเขาคิดว่ามันเป็นแค่ตำนาน อย่างไรก็ตาม ไททัส เคิร์ก อัจฉริยะคนแรกในชั้นเรียนของพวกเขาก็ยอมรับเช่นกันว่า เมื่อเขาฝึก เขาไม่รู้สึกถึงอนุภาคลึกลับที่อยู่ในร่างกายของเขาได้เลย
ตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริง แต่กว่าจะมาถึงระดับนี้ได้ทักษะของคนคนนั้นคงต้องอยู่ในระดับสูงเสียก่อน ฌอนประเมินว่าพรสวรรค์นี้ไม่ธรรมดา อย่างน้อยที่สุดก็ควรมีพรสวรรค์อัศวินระดับสูง
ตามข่าวลือ อนุภาคลึกลับนี้เป็นอนุภาคธรรมชาติ อาจกล่าวได้ว่าอนุภาคธรรมชาติเป็นรากเหง้าแห่งความแข็งแกร่งของอัศวินทุกคน
ใครก็ตามที่มีคุณสมบัติอัศวินสามารถดูดซับอนุภาคธรรมชาติประเภทนี้จากความว่างเปล่า เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองผ่านวิชาดาบอัศวิน แต่จำนวนคนที่ทำได้นั้นมีน้อยมาก มีแค่ผู้ฝึกฝนวิชาดาบอัศวิน ที่สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของอนุภาคธรรมชาติในการฝึกฝน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับเขาในตอนนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของฌอนเต็มไปด้วยความสุข และเขาก็อุทิศตนให้กับการฝึกวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินอีกครั้งโดยไม่ลังเล
ชัวะ ชัวะ ชัวะ!
ฌอนใช้วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งความเย็นสดชื่นพลันไหลเวียนไปทั่วแขนขาและกระดูกของเขา ความรู้สึกนี้ทำให้เขาหมกมุ่นอย่างผิดปกติ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ฌอนก็หยุด แม้ว่าความรู้สึกสดชื่นจะยังคงอยู่ และเขาก็มีความต้องการที่จะฝึกฝนต่อไป ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องห้ามใจตัวเอง
เขายังไม่ลืมคำเตือนของเลดี้สการ์เล็ต เซร่า
การฝึกฝนกับการพักผ่อนต้องเป็นไปแบบควบคู่กัน หากทำร้ายร่างกายจากการฝึกฝนมากเกินไป แม้เลดี้สการ์เล็ตจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ให้ในระหว่างการฝึกฝนก่อนหน้านี้ แต่เขากลัวว่าตัวเองอาจไม่โชคดีแบบนี้อีกในอนาคต ดังนั้นเขาจะต้องไม่ยัดเยียดร่างกายของตัวเองเหมือนฌอนคนเก่า
“รู้สึกว่าพลังของฉันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแฮะ”
หลังหยุดฝึก ฌอนมีเวลาทบทวนถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา ความรู้สึกนี้ทำให้เขาค้นพบความแตกต่าง เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตัวเองดูเหมือนจะเพิ่มพูนกว่าเดิมเล็กน้อย
ชัวะ!
ฌอนเลิกคิ้วขึ้น ดาบอัศวินถูกชักออกจากฝักอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่การใช้วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงิน แต่เป็นเพียงการฟันแนวนอนธรรมดา เป้าหมายคือต้นไม้หนาทึบที่อยู่ตรงหน้าเขา
ต้นไม้ที่ว่าเป็นต้นไม้ที่มีในเฉพาะโลกใบนี้ ลักษณะเหมือนกับต้นรักซึ่งมีเนื้อไม้แข็งมากราวกับเหล็กในชาติก่อน
หวืด!
ด้วยเสียงดังคมชัด ไม้รักที่มีลำต้นหนาก็ถูกผ่าครึ่งทันที และโค่นล้มลงจนเกิดเสียงโครมคราม เผยให้เห็นรอยตัดที่เรียบเนียน ไร้ซึ่งรอยขรุขระ
“บ้าน่า ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมเนี่ย”
เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ ฌอนก็แสดงสีหน้าตื่นเต้น
ฌอนเพิ่งเริ่มฝึกฝนได้ไม่นาน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะทำอะไรแบบนั้นได้อย่างง่ายดายแบบนี้ ตอนที่เขาลงมือฟัน ฌอนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังปาดเนยอยู่ จากนั้นต้นไม้ก็ผ่าแยกออกจากกันแบบเนียนกริบ
“เจ๋งโคตร”
ดวงตาของฌอนแสดงความมั่นใจ การฝึกฝนเพียงครั้งเดียวยังให้ผลลัพธ์ดีขนาดนี้ ถ้าใช้เวลาภายในครึ่งเดือน การประเมินก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอีกต่อไป
ฌอนใช้เวลาว่างจากการเข้าเรียนเพื่อฝึกฝนตนเอง
สิบกว่าวันต่อมา
ในป่า เด็กชายผมบลอนด์สวมชุดเกราะหนังสีดำกำลังฝึกฝน
เขามีสีหน้าที่เคร่งขรึม ดาบอัศวินในมือของเขาก็เปลี่ยนรูปแบบตลอดเวลาภายใต้การควบคุม ส่งเสียงหวีดแหลมเวลาแกว่งดาบ
ประกายแสงริบหรี่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ในป่าวับแวมไปมาราวกับฟ้าแลบ เหมือนกับแสงของดวงอาทิตย์ที่สะท้อนกับดาบอัศวินจนเป็นสีขาวราวหิมะ
เขาคนนี้คือฌอน!
ตอนนี้ทักษะการใช้ดาบอัศวินของเขาแตกต่างจากเมื่อสิบวันก่อนมาก
ดาบยังคงเป็นดาบอัศวิน ความชำนาญด้านฝีมือดาบไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากหลังจากฝึกฝนมานานกว่าสิบวัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือตัวบุคคล
เมื่อเทียบกับเมื่อสิบกว่าวันก่อน รูปร่างหน้าตาของฌอนไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่พลังทางกายภาพของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุด คือร่างกายของเขาหนาขึ้น
กล้ามเนื้อทุกตารางนิ้วภายใต้ผิวหนังของเขาแข็งแรงและหนาแน่นกว่าเดิม
แม้ว่าน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการฟันดาบของฌอนไม่ได้ลดลงเลย กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก กล่าวคือความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กับน้ำหนักของเขา
ทักษะของเขาพัฒนาไปไกลเกินกว่าน้ำหนักซะอีก
ชัวะ!
ด้วยการฟันดาบครั้งสุดท้ายของฌอน ต้นรักที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เซนติเมตรถูกฟันจนขาดครึ่ง
ตึง!
ยอดของต้นไม้ล้มโค่นลงมา บดขยี้ต้นไม้เล็ก ๆ ที่อยู่รายรอบซึ่งยังโตไม่มาก ยากที่จะจินตนาการว่าต้นไม้ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร จะถูกฟันขาดครึ่งด้วยดาบของฌอนเพียงครั้งเดียว
แต่นี่คือความจริง นี่คือพลังดาบในปัจจุบันของฌอนที่ฟันออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา
ด้วยพรสวรรค์อัศวินระดับสูง หลังจากฝึกฝนนานกว่าสิบวัน ผลลัพธ์ที่ได้เกินจินตนาการของฌอนอย่างมาก เขาไม่เพียงผ่านมาตรฐานการประเมินอย่างครบถ้วนเท่านั้น แต่ความสามารถยังเกินมาตรฐานเหล่านั้นอีกด้วย
ดูเหมือนเขาจะประเมินความน่าสะพรึงกลัวของพรสวรรค์อัศวินระดับสูงและความเร็วในการฝึกฝนต่ำเกินไป แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเลดี้สการ์เล็ต เซร่าถึงสามารถเป็นอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ความฝันของเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้เป็นอัศวินที่แข็งแกร่ง และไม่มีอันตรายใด ๆ สามารถกล้ำกรายได้
“พรุ่งนี้ก็ถึงวันประเมินแล้วสินะ”
เมื่อนึกถึงการประเมินในวันพรุ่งนี้ ฌอนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย้ยหยัน ทุกวันนี้เขาถูกบางคนตามรังควาน และพรุ่งนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องสู้กลับ
เมื่อฌอนกลับมาที่หอพักหลังจากอาบน้ำในห้องน้ำ เขาก็พบว่ามีคนรออยู่ที่ประตูห้องโดยไม่คาดคิด เมื่อเห็นใครคนนั้น ฌอนขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัย
“มัวร์...?”
เมื่อได้ยินเสียง ชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นฌอน จึงทักทายเขาทันที
“ฌอน มาได้สักที…”
“อืม”
ฌอนพยักหน้า เพราะเขาครอบครองร่างเดิมของฌอน จึงจำเป็นต้องทำตัวตามรอยเท้าของฌอนคนเก่า ทุกวันนี้เขาออกไปแต่เช้าและกลับมาซะดึกดื่น ตั้งใจทำตัวแปลกแยก คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรออยู่หน้าประตูห้องของเขาตลอดเวลา
“พรุ่งนี้แล้วนะ… นายพร้อมไหม?”
มัวร์ถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อืม พร้อมแล้ว”
ฌอนพยักหน้า
“ก็ดี”
เมื่อได้ยินคำตอบของฌอน สีหน้าของมัวร์ก็ไม่รู้สึกยินดีเลย เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของฌอนโดยธรรมชาติ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะผ่านมาตรฐานการประเมินในช่วงเวลาสั้น ๆ แบบนี้ ดังนั้นเขาจึงถือว่าคำพูดของฌอนเป็นแค่คำรับปากแบบส่ง ๆ
ในที่สุด เขาก็ถอนหายใจเล็กน้อย หยิบขวดแก้วสีฟ้าขนาดเล็กที่ตกแต่งอย่างสวยงามออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง แล้วส่งให้ฌอน
“นี่คือเลือดกวางสีเงิน ใช้มันให้เป็นประโยชน์”
หลังจากพูดแบบนั้น เขาก็ไม่รอให้ฌอนตอบปฏิเสธ รีบหันหลังกลับและเดินจากไป
เขาเสาะหาเลือดกวางสีเงินขวดนี้มาด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง เพื่อของสิ่งนี้แล้ว เขาแอบใช้ทรัพยากรของครอบครัวเพื่อจ่ายเงินซื้อมันเชียว ซึ่งเขาอาจถูกครอบครัวลงโทษในภายหลังก็ได้
การทุ่มหมดหน้าตักในครั้งนี้เพื่อลงทุนในตัวฌอนอาจดูเป็นเรื่องที่งี่เง่า แต่เขาจะถือซะว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายในการลุงทุนก็แล้วกัน
ต่อให้ฌอนได้รับเลือดกวางสีเงินไปแล้ว ฌอนก็อาจถูกไล่ออกจากโรงเรียนอยู่ดี การลงทุนที่ล้มเหลวก็จะถึงคราวสิ้นสุด นี่คือครั้งสุดท้ายที่เขาจะยอมเสี่ยง!