สุดยอดอัศวิน บทที่ 4 : วิชาดาบอัศวิน
สุดยอดอัศวิน บทที่ 4 : วิชาดาบอัศวิน
ชัวะ ชัวะ ชัวะ!
นักเรียนในชุดเกราะหนังสีดำมากกว่าสองร้อยคนกวัดแกว่งดาบอัศวินอย่างพร้อมเพรียงกัน
ใบมีดที่สว่างไสวของดาบสะท้อนแสงเป็นประกายในแสงแดด จากระยะไกลมันดูขาวโพลน สร้างผลกระทบทางสายตา
เหงื่อไหลออกจากหน้าผากแต่ไม่มีใครหยุดเช็ด แม้แต่นักเรียนหญิงผู้มักจะรักสวยรักงาม ในเวลานี้ ในสนามฝึกนี้ ไม่มีความแตกต่างระหว่างเด็กหนุ่มและเด็กสาว มีเพียงกลุ่มคนที่กำลังเผชิญหน้ากับอัศวินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกรีฑาทัพ
จากคำปราศรัยของเลดี้สการ์เล็ต หลักสูตรนี้มาถูกทางแล้ว แต่นักเรียนทุกคนกลับมีพลังงานเหลือเฟือ ราวกับว่าพวกเขามีเรี่ยวแรงไม่รู้จักจบสิ้น และทุ่มเทให้กับการฝึกอย่างมีสมาธิมากกว่าปกติ
อาจารย์ทั้งหกพอใจกับสิ่งนี้มาก จุดประสงค์ของการเชิญแขกมาก็เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนใฝ่ต่อสู้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าบรรลุจุดประสงค์แล้ว
ในหมู่นักเรียน ฌอนโบกดาบอัศวินในมืออย่างตั้งใจ
แม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะฝึกฝนวิชาดาบชุดนี้มาหลายปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฌอนคนใหม่ซึ่งข้ามเวลามาเกิดใหม่จะได้ฝึกมัน แน่นอนว่าหลังจากชาติที่แล้วบวกกับชาตินี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสดาบจริง
จากความทรงจำของเขา เขารู้ว่าวิชาดาบที่เขาและนักเรียนคนอื่นกำลังฝึกฝนอยู่ตอนนี้เรียกว่าวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงิน ซึ่งเป็นวิชาดาบอัศวินที่ผสมผสานการต่อสู้และการปรับสภาพร่างกาย
เหตุผลที่กล่าวกันว่าทักษะดาบของอัศวินนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างการต่อสู้และการฝึกฝน ก็เพราะทักษะดาบอัศวินนี้ไม่เพียงใช้ต่อสู้เท่านั้น แต่ยังใช้สำหรับการทรมานร่างกายด้วย
ในความเป็นจริง ไม่เพียงแต่ทักษะดาบของอัศวินเหมันต์สีเงินเท่านั้น ทักษะดาบอัศวินอื่น ๆ ก็มีผลเช่นเดียวกัน ดาบพิเศษเคลื่อนที่ด้วยจังหวะการหายใจที่สอดคล้องกัน ไม่เพียงใช้สำหรับการต่อสู้ แต่ยังใช้สำหรับการฝึกร่างกายด้วย นี่คือสาระสำคัญของโลกใบนี้ วิชาดาบอัศวินเป็นรากฐานของพลังอัศวินโลก
อย่างไรก็ตาม วิชาดาบอัศวินไม่ได้ผลสำหรับทุกคนที่จะฝึกฝน เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติอัศวินเท่านั้น ที่สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วผ่านวิชาดาบอัศวิน แม้ว่าคนธรรมดาจะฝึกฝนวิชาดาบอัศวินเป็นเวลาสิบปี แต่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพส่วนใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นอัศวินที่มีสมรรถภาพทางกายที่น่ากลัว ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมโรงเรียนอัศวินจึงต้องทดสอบว่าพวกเขามีคุณสมบัติอัศวินหรือไม่ก่อนจะเข้าโรงเรียน
ปัญหาปัจจุบันของฌอนคือ แม้ว่าเขาจะมีคุณสมบัติอัศวิน แต่คุณสมบัติของเขายังอ่อนแอเกินกว่าจะสนับสนุนให้เขาเดินบนเส้นทางแห่งอัศวินได้ จุดประสงค์ของการเข้าร่วมการฝึกครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ แต่ต้องหาโอกาสคัดลอกคุณสมบัติอัศวินระดับสูง เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของร่างนี้
“ดีมาก”
ต่อหน้ากลุ่มนักเรียน เลดี้สการ์เล็ต เซร่าผงกศีรษะอย่างสงบเสงี่ยม เมื่อเห็นว่านักเรียนทุกคนกำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนของตน
ภาพตรงหน้าทำให้เธอนึกถึงชีวิตของตัวเองเมื่อครั้งอยู่ในสถานศึกษา ทันใดนั้นร่องรอยแห่งความคิดถึงก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ และเธอก็มาที่นี่ด้วยเหตุนั้น
“ผมอยากขอบคุณท่านเช่นกัน ท่านเซร่า สิ่งที่ท่านพูดเมื่อกี้ทำให้เลือดลมของผมพลุ่งพล่าน ไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยพวกนี้ ตอนนี้พวกเขากำลังพยายามแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าท่าน”
ผู้อำนวยการชั้นปีแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน
แม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าเลดี้สการ์เล็ต เซร่ามาก แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงความเป็นผู้อาวุโสต่อหน้าอีกฝ่าย
ในแง่ของสถานะ ตอนนี้เซร่าเทียบได้กับยศเอิร์ล มีตำแหน่งสูงกว่าเขาถึงสองตำแหน่งในฐานะบารอน ในแง่ของความแข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะพัฒนาตัวเองมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถไล่ตามเลดี้สการ์เล็ต เซร่า ที่เป็นอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ได้
ช่องว่างขนาดใหญ่ทำให้เขาต้องระวังและรอบคอบเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าเลดี้เซร่า แม้ว่าผู้สนับสนุนของเขาจะเป็นถึงโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีก่อตั้งขึ้นโดยราชวงศ์ แต่เขาจะยึดถือสิ่งนี้ไม่ได้ เพราะโรงเรียนอัศวินยุคใหม่จะไม่หนุนหลังเขาแน่ ถ้าเขาเผลอทำให้หญิงสาวผู้แข็งแกร่งตรงหน้าได้รับความขุ่นเคือง
ไม่ต้องพูดถึงโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ แม้แต่ราชวงศ์ยังทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจหญิงสาวผู้แข็งแกร่งท่านนี้ ในเมื่อเธอประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย สิบหรือยี่สิบปีต่อมาจะเกิดอะไรขึ้น? ในฐานะราชวงศ์ที่ดูแลประเทศ พวกเขาจะขาดวิสัยทัศน์ระยะยาวได้อย่างไร
เลดี้สการ์เล็ต เซร่าไม่แปลกใจกับคำชมและความนอบน้อมของผู้อำนวยการชั้นปีที่อยู่ตรงหน้า เธอมองไปรอบ ๆ กลุ่มนักเรียน ทันใดนั้นแววตาก็แสดงความสนใจ
“หืม? เจ้าหนุ่มคนนั้นกลายเป็นอัศวินฝึกหัดแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่แค่ปีที่สามใช่ไหม? เจ้าหนุ่มคนนี้มีทักษะที่ไม่เลวเลย!”
“ท่านเซร่าประเมินความสามารถของเขาสูงเกินไป นั่นคือไททัส เคิร์ก นักเรียนในชั้นเรียนของผมเอง เขาเป็นนักเรียนที่มีคุณสมบัติดีที่สุดในชั้นเรียนนี้”
เมื่อได้ยินคำชมเชยจากเลดี้สการ์เล็ต เซร่า ผู้อำนวยการชั้นปีก็พูดด้วยรอยยิ้มที่แสดงความพึงพอใจเล็กน้อยบนใบหน้า
“โอ้ เขาเป็นลูกหลานของเอิร์ลตระกูลเคิร์กนี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลย”
เซร่าพยักหน้าด้วยสีหน้าเห็นด้วย
บุตรหลานของตระกูลผู้สูงศักดิ์ไม่เพียงเหนือกว่าคนอื่น ๆ ในด้านวัตถุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความถนัดทางกายภาพด้วย เพราะความถนัดของพวกเขาได้รับการคัดเลือกและปลูกฝังโดยตระกูลจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ในบรรดาบุตรหลานของตระกูลผู้สูงศักดิ์ คนที่มีคุณสมบัติอัศวินจะมีมากกว่าเด็กสามัญชน และความสามารถพื้นฐานก็สูงกว่าเด็กทั่วไป
“ไม่ทราบว่าท่านเซร่าสนใจสอนอะไรพวกเขาสักอย่างสองอย่างเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”
“ดีเหมือนกัน”
เลดี้สการ์เล็ต เซร่าพยักหน้าตกลงหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
ดี!
หลังจากได้รับความยินยอมจากเลดี้สการ์เล็ต เซร่า ใบหน้าของผู้อำนวยการชั้นปีก็กลับมาเย็นชา เพราะได้รับเกียรติในฐานะผู้อำนวยการชั้นปีกลับมาอีกครั้ง เขาปรบมือ สั่งให้นักเรียนทุกคนหยุดการฝึกฝน
“ท่านเซร่าต้องการชี้แนะแนวทางให้กับพวกเธอ เชิญท่านเซร่าครับ!”
เมื่อเห็นสัญญาณจากผู้อำนวยการชั้นปี เลดี้เซร่าพยักหน้า ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างสง่างามและพูดว่า
“ฉันเห็นแล้วว่าทักษะพื้นฐานของพวกเธอแข็งแกร่งมาก ซึ่งเรื่องนี้ต้องชมเชยอาจารย์ของพวกเธอที่มีความเป็นมืออาชีพสูง แม้แต่ฉันก็ไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าพวกเขา
“ในฐานะผู้ที่เคยมีประสบการณ์ สิ่งที่ฉันอยากจะบอกพวกเธอก็คือ วิชาดาบอัศวินไม่ได้เป็นแค่วิธีการฝึกฝนร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะในการต่อสู้ด้วย ดังนั้นพวกเธอจะต้องต่อสู้ ถึงจะเข้าใจแก่นแท้ของมันได้อย่างแท้จริง
“พูดง่าย ๆ ก็คือ วิธีเดียวที่จะทำให้ทุกคนเชี่ยวชาญด้านแก่นแท้ของวิชาดาบอัศวินคือจะต้องผ่านการต่อสู้จริงซะก่อน”
เธอมองไปที่นักเรียนและพูดว่า
“ก่อนหน้านี้ฉันอาจทำให้พวกเธอรู้สึกสับสน ตอนนี้ฉันต้องการใครสักคนที่อาสาออกมาเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา นักเรียนทุกคนต่างตื่นเต้นมาก เพราะพวกเขาจะได้รับคำแนะนำจากเลดี้สการ์เล็ต ซาร่าแบบตัวต่อตัวของ บรรยากาศพลันเงียบลง ไม่มีเสียงใด ๆ อยู่ชั่วขณะหนึ่ง เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตกพื้น
เลดี้สการ์เล็ต เซร่าคือใคร?
เธอเป็นถึงหญิงสาวผู้มีความทรงพลังในฐานะอัศวินผู้ยิ่งใหญ่
ในขณะที่พวกเขาซึ่งเป็นแค่นักเรียน ไม่ใช่อัศวินฝึกหัดด้วยซ้ำ ถ้าได้เป็นคู่ต่อสู้ของเธอ แทบไม่ต้องคาดเดาเลยว่าเธอจะต้องทำให้พวกเขาเจ็บตัวอย่างสาหัสแน่นอน
ในเวลานี้ แม้แต่ไททัส เคิร์กยังลังเลเล็กน้อย ถ้าเขาถูกทุบตีต่อหน้าผู้คนมากมาย ในฐานะบุตรชายตระกูลขุนนาง เขาทนรับความอับอายไม่ได้จริงๆ
“ผมเอง”
ในขณะที่นักเรียนหลายคนกำลังลังเลอยู่นั้น เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้น เป็นที่สะดุดตาเป็นพิเศษท่ามกลางสนามฝึกที่เงียบสงัด
นักเรียนทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันมองไปตามเสียง เห็นเด็กชายผมบลอนด์ที่มีผ้าก๊อซพันอยู่บนศีรษะเดินออกมาจากกลุ่มนักเรียน ตรงไปหาเลดี้สการ์เล็ต เซร่าด้วยความแน่วแน่
เขาคือฌอน
อันที่จริงเขารอโอกาสนี้มานานแล้ว เนื่องจากเขารู้ตั้งแต่เมื่อวานว่าจะมีแขกมาร่วมชั้นเรียนในวันนี้ เขาจึงรอโอกาสที่จะได้สัมผัสกับแขกอย่างใกล้ชิด
เดิมที เป้าหมายแรกที่เขาต้องการคัดลอกพรสวรรค์คือไททัส เคิร์ก แต่หลังจากรู้ว่าจะมีแขกมาร่วมชั้นเรียน เขาก็หันเหความสนใจไปที่แขกผู้มีเกียรติคนนั้น
เหตุผลที่เขากำหนดเป้าหมายไปที่แขก เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว แขกรับเชิญของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ล้วนเป็นอัศวินที่ทรงพลังอย่างยิ่ง แม้แต่ระดับต่ำสุดก็ยังเป็นถึงอัศวินที่ได้รับการแต่งตั้ง ตัวตนระดับนั้นย่อมไม่มีพรสวรรค์ที่เลวร้าย
เมื่อเขารู้ว่าแขกผู้มีเกียรติคือเลดี้สการ์เล็ต เซร่า เขาก็ยิ่งตั้งใจเลือกเป้าหมายเป็นแขกผู้มีเกียรติอย่างเธอ แม้ว่าไททัส เคิร์กจะมีพรสวรรค์ แต่เขาก็ไม่เก่งเท่าเลดี้เซร่า ผู้เป็นอัศวินแห่งอาณาจักร
“ดีมาก!”
เมื่อเห็นฌอนกำลังเดินตรงมาข้างหน้าทั้งที่ศีรษะยังพันด้วยผ้าก๊อซ เลดี้สการ์เล็ต เซร่าก็แสดงรอยยิ้ม ไม่ต้องสงสัยเลย เด็กหนุ่มคนนี้ต้องเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดในชั้นเรียนแน่
“ชักดาบอัศวินออกมาโจมตีข้า อย่ารีรอ!”
“ครับ”
ฌอนไม่ลังเลเลย
สมองของเขาไม่ได้คิดถึงคำถามไร้สาระอย่างเช่น อาวุธของเขาจะทำร้ายเลดี้เซร่าหรือไม่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าอัศวินผู้ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งแค่ไหน แต่รู้ว่าอัศวินที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นแข็งแกร่งมาก อาจารย์ประจำชั้นเรียนของเขาก็เป็นอัศวินที่ได้รับการแต่งตั้งเช่นเดียวกัน
ขนาดพวกเขามีความแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นยังรู้สึกไร้อำนาจเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถเอาชนะความโหดเหี้ยมของเธอได้ เขาจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าตัวเองจะเผลอทำร้ายเลดี้สการ์เล็ต เซร่าเข้าหรือเปล่า
