บทที่ 31 กระทิงเกราะ
ในที่สุด พวกเขาก็ต้องการออกจากที่นี่
พวกเขารู้ว่าที่นี่อันตราย และเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ในความเป็นจริงในช่วงเวลาที่ผ่านมา พวกเขายังได้พบกับสัตว์อสูรระดับ 2 หลายตัว
แต่ไม่มีตัวไหนที่แข็งแกร่งมากนัก ด้วยความร่วมมือของพวกเขาทั้ง 4 สัตว์อสูรเหล่านั้นก็ถูกฆ่าหรือไม่ก็ถูกขับไล่ออกไป
ในเวลาเดียวกันพวกเขายังรู้สึกดีใจที่ไม่พบสัตว์อสูรระดับ 3
หากพวกเขาพบสัตว์อสูรระดับ 3 พวกเขาคงแทบไม่มีโอกาสรอดชีวิต
จางฮ่าวและคนอื่นๆ ได้เห็นความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเสี่ยวเฮยแล้ว
นักรบแท้จริงขั้น 9 ยังไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ของราชาหม่าป่าได้เลย
"เรื่องของหลินเป้ยเราทุกคนต้องเก็บเงียบ มิฉะนั้น ทุกคนคงจะรู้ผลที่ตามมา และกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต ก็ไม่ใช่กลุ่มที่เราจะต่อกรได้ง่ายๆ"หลิวหยานมองไปที่คนสามคนที่อยู่ข้างหน้านาง และพูดอย่างเคร่งขรึม
เป็นเพราะพวกเขาทั้งหมดก็เข้าร่วมด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ฆ่าใคร แต่หลินเป้ยที่ต้องการที่จะช่วยพวกเขา ได้ทำการสังหารทิ้งทั้งกลุ่ม
เรื่องนี้ พวกเขาก็ถือว่ามีส่วนเช่นกัน!
ณ ตอนนี้สถานการณ์แบบนี้ นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
“แม่นางหลิว เรารู้ว่าต้องทำอย่างไร และเรื่องนี้ไม่รั่วไหลแน่นอน” จางฮ่าวสัญญา
จริงๆแล้ว จางฮ่าวก็กลัวเช่นกัน
หากกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต มาถึงตระกูลจางของพวกเขา
ตระกูลจาง ไม่สามารถทนความโกรธของ กลุ่มทหารรับจ้างได้อย่างแน่นอน!
"กลับกันเถอะ"หลิวหยานกล่าว และทุกคนก็จากไปพร้อมกัน
พวกเขาไม่ได้มองหาสมุนไพรอีกต่อไป ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
เพียงครึ่งชั่วยามหลังจากที่พวกเขาออกไป ทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตใหม่ก็มาที่นี่ และพวกเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อค้นพบทุกสิ่งที่นี่
หลังจากที่หลินเป้ยและคนอื่นๆ สังหาริ้งทั้งกลุ่ม
เขาไม่ได้ทำอะไรในที่เกิดเหตุ ดังนั้นทั้ง 10 ศพจึงถูกทิ้งไว้ที่นี่
หลินเป้ยไม่ปล่อยให้หมาป่าสีครามกินซากศพเหล่านี้ เพราะหมาป่าสีครามล่าและอิ่มแล้ว
ดังนั้นหลินเป้ย จึงไม่สนใจซากศพเหล่านี้เลย
“กลับไปบอกคุณชายสาม ว่าทีมของเราถูกฆ่าตายอีกแล้ว” หัวหน้าทีมที่มาใหม่ พูดด้วยใบหน้าที่มืดลง
ตั้งแต่ชื่อเสียงของกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตของพวกเขาแพร่กระจายออกไป
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แทบไม่มีกองกำลังใดกล้าที่จะสังหารคนของกลุ่มเขา!
แต่ในเวลาเพียงสองวันตอนนี้ สองทีมถุกสังหารทิ้ง
สิ่งนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกท้าทาย!
ถ้าพวกเขาสามารถยอมรับการสูญเสียนี้
พวกเขาจะถูกผู้คนจากกองกำลังอื่นดูถูกได้
ดังนั้น พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจัดกานเรื่องนี้ให้ได้!
ในที่สุด ข่าวการทำลายทีมนี้
ในไม่ช้าก็ไปถึงหูจงหมิง ซึ่งทำให้จงหมิงโกรธมาก!
นี่คือการยั่วยุ!
“ไอ้สารเลว เจ้ากล้าแตะต้องคนของข้า เจ้าต้องจับฆาตกรให้ได้ ข้าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ” จงหมิงพูดอย่างโกรธเคือง
“ส่งคำสั่งให้ค้นหาฆาตกรด้วยกำลังทั้งหมดของเรา นอกจากนี้ ให้ไปที่กองบัญชาการนักรบรับจ้างสีโลหิตและให้ส่งทีมอื่นมา หากเราต้องการตามล่าฆาตกร และจัดการกับเสือขาวเนตรโลหิต เราจะไม่สามารถทำได้ เราไม่มีกำลังคนเพียงพอ” จงหมิงกล่าว
“ได้ นายน้อย ข้าจะจัดการทันที” เฉินไห่เต้า
ไปกองบัญชาการหลัก จะใช้เวลาประมาณหนึ่งวันครึ่ง
แต่ถ้าพวกเขาส่งจดหมาย พวกเขาก็มีนกที่สามารถส่งจดหมายได้เช่นกัน
นกส่งข้อความได้ง่ายและรวดเร็ว
ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยามกว่า ข่าวก็จะไปถึงกองบัญชาการหลัก
กองบัญชาการหลักตอบกลับ เร็วๆนี้พวกเขาจะส่งคนอีก 100 คนไป
รวมถึงปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่งห้าคน และที่เหลือทั้งหมดจะเป็นนักรบแท้จริง
กลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต ถูกสังหารโดยคนที่ไม่รู้จัก
ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต ไม่สามารถทนได้!
พวกเขาเป็นเพียวกลุ่มเดียวที่ฆ่าตลอดมา แต่ถ้ามีใครกล้าฆ่าคนของพวกเขา พวกเขาก็จะตอบโต้อย่างรุนแรง
หลังจากที่เฉินไห่ไปแล้ว ก็เหลือเพียง 20 คนเท่านั้นที่เฝ้าอยู่ที่นี่
ส่วนคนอื่นๆทั้งหมด ถูกส่งออกไปเพื่อค้นหาฆาตกร
ตราบใดที่พบผู้ฝึกตนในรัศมีห้าสิบลี้จากกลุ่มที่ถูกทำลาย
พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกฆ่า!
นี่คือสิ่งที่จงหมิงหมายถึง!
ในบรรดาผู้คนที่ส่งออกไปนั้น ยังมีปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่งอีก 3 คน
ส่วนหลินเป้ย บุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่รู้ว่ากลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต ส่งคนจำนวนมากมาฆ่าเขา
เนื่องจาก การไล่ล่าสังหารของทีมครั้งก่อน
ผู้ฝึกตนจำนวนมากออกจากพื้นที่นี้ก่อนกำหนด
หากพวกเขาไม่ไป ผู้ที่เผชิญกับทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตก็จะตาย
แต่ยังมีผู้ฝึกฝนที่โชคร้ายบางคน ในรัศมีห้าสิบลี้ไม่ได้จากไป และหลายคนกลายเป็นวิญญาณฌดยทีมนักรบรับจ้าง!
และทีมนักรบรับจ้างสีโลหิต ไม่พบข้อมูลของฆาตกรจากผู้ฝึกตนเหล่านี้
พวดเขาไม่มีใครยอมรับ ว่าเป็นฆาตกรเลย!
อีกด้ายหนึ่ง
หลินเป้ยกำลังนำกลุ่มหมาป่าสีคราม เพื่อต่อสู้กับสัตว์ร้าย กระทิงเกราะหลายสิบตัวต่อหน้าเขา
หลินเป้ยและเสี่ยวเฮย กำลังมองหาสัตว์อสูรเพื่อล่า
กลุ่มเขาพบกับสัตว์ร้าย กระทิงเกราะหลายสิบตัว
กระทิงเกราะซึ่งเป็นสัตว์อสูรระดับ 2
โดยทั่วไปแล้ว มันจะกลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 เมื่อมันโตขึ้น
แต่มีไม่กี่ตัวที่สามารถกลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ได้ และกลายเป็นราชาของสัตว์ร้ายกระทิงเกราะ
มันมีเกราะชั้นนอกที่หนาและดูเหมือนกระทิง
จริงๆแล้ว มันดูเหมือนกระทิง เพียงแต่เขาของมันงอไปข้างหน้า
มันดุมาก มันยังเป็นสัตว์อสูรที่เคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม
ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเกราะชั้นนอกที่หนา ซึ่งเพิ่มการป้องกันของมันอย่างมาก
กล่าวได้ว่า เกราะบนพื้นผิวนั้น แข็งแกร่งพอๆกับอาวุธวิญญาณระดับต่ำ
อาวุธทั่วไปที่ไม่ใช่อาวุธวิญญาณ ไม่สามารถฝ่าการป้องกันได้เลย
และความพละกำลังนั้นไร้ที่สิ้นสุด
วิธีการโจมตีที่มันชื่นชอบคือ การพุ่งกระแทกของสัตว์ร้าย!
มันจะวิ่งตรงไปข้างหน้าโดยหันเท้าไปข้างหน้า และพุ่งโจมตีเป้าหมายโดยตรง
สัตว์อสูรจำนวนมากกลัวที่จะยั่วยุกระทิงเกราะ
เว้นแต่สัตว์อสูรจะมีพลัง และสามารถเอาชนะพวกมันได้
แม้ว่าการป้องกันพื้นผิวของกระทิงเกราะจะแข็งแกร่ง
แต่ก็ถูกจำกัดไว้ที่ด้านหลังและด้านข้างเท่านั้น
แต่ส่วนล่างของท้องยังคงเป็นผิวหนัง ดังนั้นการป้องกันจึงไม่แข็งแรง
นอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งของพื้นที่ใต้ขา ที่ไม่ได้รับการปกป้องจากเกราะชั้นนอก ซึ่งเป็นจุดอ่อน
กระทิงเกราะนั้น มีความได้เปรียบโดยธรรมชาติจากการป้องกันที่แข็งแกร่ง และประสิทธิภาพการต่อสู้ของมันก็ค่อนข้างถึกทน
ยิ่งกว่านั้น กระทิงเกราะยังเป็นสัตว์กินพืช ไม่ชอบกินเนื้อ
มันชอบกินหญ้าหรือสมุนไพรเท่านั้น!
มีสมุนไพรจิตวิญญาณจำนวนมาก ในระบบไร่นาเซียนของหลินเป้ย และหลินเป้ยได้เก็บเกี่ยวบ้างแล้ว
พวกมันทั้งหมด เป็นสมุนไพรจิตวิญญาณ อายุ 2 ปี
นอกจากนี้คุณภาพของสมุนไพรนั้นดีมาก
พลังวิญญาณที่มีอยู่ในนั้น เทียบเท่ากับสมุนไพรทั่วไปที่อายุ 10 ปี
หลินเป้ยกำลังวางแผน ที่จะใช้สมุนไพรจิตวิญญาณ ที่ปลูกจากไร่นาเซียนเพื่อเลี้ยงกระทิงสวมเกราะ!
ดังนั้นหลินเป้ยจึงต้องล่า และฆ่ากระทิงเกราะห้าตัว เพื่อปลดล็อกสัตว์อสูรชนิดนี้
การเลี้ยงสัตว์อสูรที่กินพืชเป็นฝูง นั้นดีกว่าการเลี้ยงสัตว์อสูรที่กินเนื้อเป็นอาหาร
มันไม่มีความกดดันมากนัก
สำหรับหมาป่าสีครามทั้ง 20 ตัว หลินเป้ยใช้เงินจำนวนมากเพื่อการเติบโตของพวกมัน
พวกมันต้องกินเนื้อ หรืออาหารสำหรับสัตว์อสูร
ซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนมาก!
แต่สัตว์อสูรที่กินพืชนั้นต่างออกไป
สมุนไพรจิตวิญญาณที่ปลูกในไร่นาเซียนนั้น เพียงพอสำหรับการเลี้ยงพวกมัน
และหากเขามีสัตว์อสูรกินพืชไม่มากเกินไป ก็จะยังคงมีสมุนไพรเหลืออยู่
“โจมตี!” หลินเป่ยสั่ง
กลุ่มหมาป่าสีครามที่ตามหลังมา พวกมันพุ่งตรงไปยังกลุ่มกระทิงเกราะที่อยู่ข้างหน้า
แน่นอนหมาป่าสีคราม จ้องไปที่ส่วนท้องของกระทิงหุ้มเกราะเพื่อโจมตี
เสี่ยวเฮยก็เข้าร่วมกับพวกมันด้วย เปิดฉากโจมตีกระทิงเกราะระดับ 2
สัตว์ร้ายกระทิงเกราะถูกล้อม และถูกกัดโดยฝูงหมาป่าสีคราม
มันส่งเสียงร้องที่เจ็บปวด!
หมาป่าสีครามมุ่งความสนใจไปที่ จุดอ่อนของกระทิงเกราะและโจมตี
พฤติกรรมของหมาป่าสีคราม ยังกระตุ้นความโกรธของกระทิงเกราะตัวอื่นๆ
พวกมันอยู่รวมกันเป็นฝูงและหมาป่าสีครามโจมตีสหายของพวกมัน
แน่นอน พวกมันจะไม่ยืนเฉย!
กระทิงเกราะสูงใหญ่ตัวหนึ่ง คำรามเสียงดัง!
มันวิ่งตรงไปหาเสี่ยวเฮย
ราชากระทิงเกราะนั้นสูงใหญ่ มีน้ำหนักอย่างน้อย 3,000 จิน เมื่อกะดูด้วยสายตา (1,500 Kg)
เวลามันวิ่งนั้น พื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อยจริงๆ!
สัตว์ร้ายกระทิงเกราะตัวอื่นๆ ก็วิ่งตามมาโจมตีหมาป่าตัวอื่นๆด้วย
กระทิงเกราะโตเต็มวัยตัวอื่นๆน้ำหนักประมาณ 2,000 จิน
ทุกตัว ดูตัวใหญ่กว่าเสี่ยวเฮย
เมื่อเทียบกระทิงเกราะเหล่านี้ กับหมาป่าสีคราม
ก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กนั่นเอง!