ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 390 แต่งงาน (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 390 แต่งงาน (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
ดอกบัวบานอยู่ในสระนอกหน้าต่าง ภายใต้สายลมยามค่ำคืน กลิ่นของดอกไม้อบอวลไปทั่วบริเวณ
อันฉงจื่อเปิดปากกล่าวซ้ำ “ฉิงซาน มาแต่งงานกันเถอะ!”
“เจ้าคิดดีแล้วงั้นหรือ?” หลี่ฉิงซานดึงนางเข้าสู่อ้อมแขน
“ใช่!” อันฉงจื่อพยักหน้าและพิงหน้าอกของเขาเพื่อฟังเสียงเต้นของหัวใจของเขา นี่คือเสียงที่นางอยากฟังไปชั่วชีวิต
“เหตุใดเราไม่รออีกหน่อย ตราบเท่าที่เราอดทนและน้องชายของเจ้าช่วยพูดสักสองสามคำ พ่อของเจ้าจะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน” หลี่ฉิงซานอยากหนีตามนางไปแต่การหนีอาจทำให้นางตัดขาดกับครอบครัวของนาง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเห็น
“ไม่ เจ้าไม่เข้าใจพ่อของข้า เมื่อเขาตัดสินใจแล้ว ไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนใจเขา ด้วยสิ่งที่ข้ากล่าวก่อนหน้านี้ เขาต้องโกรธอย่างแน่นอน เขาคงตัดขาดข้าไปแล้ว”
“มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด” หลี่ฉิงซานลูบศีรษะของนางและถอนหายใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดว่าการแต่งงานระหว่างชายหญิงจะนำไปสู่ปัญหามากมาย
“จากวันนี้เป็นต้นไปสิ่งที่ข้าพึ่งได้มีเพียงเจ้า เจ้าต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” อันฉงจื่อกอดหลี่ฉิงซานอย่างแน่นหนา
“อันใด คุณหนูอัน เมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอัน เจ้าก็กลายเป็นลูกแมวน้อยแสนบอบบางทันที ข้าจะแกล้งเจ้า!” หลี่ฉิงซานฝังใบหน้าที่คอของนาง
“อย่าแม้แต่จะคิด การบ่มเพาะของเจ้าต่ำกว่าข้า!”
“การบ่มเพาะไม่ใช่สิ่งใด ต้องดูความแข็งแกร่ง หากเจ้ามองเพียงการบ่มเพาะ ตอนนี้ข้าก็ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะตามตอแยเจ้า ข้าจะเกลี้ยกล่อมคุณหนูอันให้หนีไปกับข้าได้อย่างไร?”
“ฮืม เพียงรอให้ข้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตผู้ฝึกตนก่อกำเนิด!”
เสียงกระซิบของพวกเขาถูกกลบด้วยเสียงฝน เมฆดำปกคลุมดวงจันทร์และดวงดาวทำให้ลานบ้านมืดมิด
เทียนสีแดงสว่างขึ้นและย้อมใบหน้าของนางให้เป็นสีแดง “ข้าจะไปล้างตัว” นางผละออกจากอ้อมกอดของเขาและเดินไปหลังม่าน
“ข้าจะไปกับเจ้า” หลี่ฉิงซานตามนางไปแต่อันฉงจื่อยกมือขึ้นหยุดเขา “ไม่ใช่วันนี้”
สิ่งที่หลี่ฉิงซานทำได้คือรออยู่ข้างนอก เมื่อมองเทียนที่ส่องสว่างและฟังเสียงฝนที่ตกลงมาในสระ หัวใจของเขาก็กระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่นและไม่สามารถสงบลง
หลังจากการรอคอยที่ดูเหมือนจะยาวนานเป็นพิเศษ มือหนึ่งก็ยกม่านลูกปัดขึ้นและเผยให้เห็นใบหน้าที่สดใส อันฉงจื่อเปลี่ยนเป็นชุดสีแดงขนาดใหญ่ เส้นผมสีดำของนางถูกหวีและพาดไว้บนไหล่
“เจ้าให้ข้ารอนานมาก” หลี่ฉิงซานอุ้มนางขึ้น
“เดี๋ยว!”
“อันใด?”
“มีขั้นตอนมากมายในการแต่งงาน”
“ข้าจำได้สิ่งเดียว”
“สิ่งใด?”
“ไปที่ห้องเจ้าสาว!” หลี่ฉิงซานพานางไปที่ห้องโดยตรง
“ปีศาจบ้ากาม!” อันฉงจื่อบ่น
เสียงฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงหายใจอันแผ่วเบาดังขึ้นผ่านม่านหนาทึบ ร่างงามของนางนอนอยู่บนเตียงและปล่อยให้เขาสัมผัสนางตามปรารถนา
“ฉงจื่อ” หลี่ฉิงซานหยุดอย่างกะทันหันและกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยน
อันฉงจื่อพยุงตัวเองขึ้น นางโอบแขนรอบคอของเขาและฝังใบหน้าไว้ที่ไหล่ของเขาก่อนกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ทำเถอะ!”
หลี่ฉิงซานลงมือทันที ทั้งหมดที่เขาได้ยินคือเสียงครางเบาๆที่เต็มไปด้วยความสุขและความเจ็บปวด
หลังจากค่ำคืนที่พายุโหมกระหน่ำ ละอองฝนกลิ้งอยู่บนใบบัวและสะท้อนแสงเจ็ดสีออกมาภายใต้ดวงอาทิตย์ที่เจ็ดจ้า
หลี่ฉิงซานเปิดหน้าต่าง ยืดเส้นยืดสายและหาว เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นอันฉงจื่อนานหลับอยู่บนเตียง แต่ดูเหมือนแสงอาทิตย์จะปลุกให้นางตื่นขึ้น นางหันไปด้านข้างและเผยให้เห็นแผ่นหลังอันงดงาม มีรอยฟกช้ำเล็กน้อบที่บั้นท้ายของนาง เมื่อหลี่ฉิงซานคิดถึงคืนที่ร้อนแรง เขาก็เผยรอยยิ้ม “อากาศดีนัก!”
หลี่ฉิงซานปิดหน้าต่างและกลับไปนอนต่อ
อันฉงจื่อลืมตาขึ้นเล็กน้อย สิ่งแรกที่นางเห็นคือใบหน้าของหลี่ฉิงซาน หัวใจของนางเต็มไปด้วยความสุข นางซบหน้าอกของเขาอย่างเกียจคร้าน “กี่โมงแล้ว”
“ตะวันลับขอบฟ้าไปนานแล้ว” หลี่ฉิงซานจูบหน้าผากของนางอย่างอ่อนโยน
“ไม่ วันนี้ข้าต้องจัดการธุระของผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์” อันฉงจื่อพยุงตัวเองขึ้นแต่นางกลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่น เจ้าไม่อยู่ในสภาพที่จะออกไปข้างนอกได้”
“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า” อันฉงจื่อรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า นางชกหน้าอกของเขา เมื่อคิดถึงคืนที่ผ่านมา นางก็รู้สึกเขินอาย นางไม่เคยคิดว่าจะมีช่วงเวลาที่ร้อนแรงเช่นนี้
“ได้ มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด ภรรยา รอข้าสักครู่ ข้าจะไปเตรียมอาหาร เจ้าควรพักผ่อนให้มาก”
การพักนี้กินเวลาสามวัน ทั้งสองตัวติดกันตลอดเวลาและหลงลืมเรื่องอื่นไปโดยสิ้นเชิง
ในสำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์ อาจารย์ยังมาไม่ถึง ดังนั้นจึงมีเสียงพูดคุยในห้องเรียน ศิษย์กลุ่มหนึ่งกำลังจับกลุ่มคุยกัน
“จริงหรือ? ข้าคิดว่ามันน่าประทับใจมาก แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร?”
“ผู้ใดจะรู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร? สองสามวันแล้วที่ไม่มีข่าวของพวกเขา ข้าได้ยินว่าพวกเขาหนีตามกันไปแล้ว”
“โอ้ว!” ดวงตาของศิษย์หญิงส่องประกายขึ้น
“ดูสิ จื่อเจี้ยน หลี่ฉิงซานผู้นั้นก่อเรื่องอีกแล้ว หือ? เหตุใดเจ้าจึงดูไม่ดีเลย?” ฮัวเฉิงลู่เรียกอวี๋จื่อเจี้ยน
ผ่านไปสองปีแล้ว ร่างกายของฮัวเฉิงลู่เติบโตขึ้นมาก จากเด็กสาวที่เหมือนดอกไม้พึ่งเริ่มผลิบานกลายเป็นหญิงงามที่โดดเด่น คิ้วของนางโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากของนางเป็นสีแดงตามธรรมชาติ และผิวของนางก็ขาวราวหิมะ
ใบหน้าของนางค่อนข้างคล้ายกับฮัวเฉิงซาน มันเหมือนฮัวเฉินซานในร่างผู้หญิง ในสำนักศึกษา นางได้รับสมญานามว่าหญิงงามที่ยิ่งใหญ่ มีผู้ชายมากมายไล่ตามนาง ด้วยการนั่งอยู่ข้างๆอวี๋จื่อเจี้ยน นางยิ่งโดดเด่นและสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคน
ฮัวเฉิงลู่ไม่ได้ติดต่อหลี่ฉิงซานมาเกือบสองปี ความประทับใจพิเศษที่เคยมีต่อเขากลายเป็นอดีตอันเลือนราง สิ่งเดียวที่นางจำได้คือเขายังติดหนี้นางอยู่แต่บางทีเขาอาจลืมไปแล้ว
“โอ้ ข้าไม่เป็นไร อาจารย์มาแล้ว!” อวี๋จื่อเจี้ยนกลับมามีสติและชี้ไปหน้าห้อง
ห้องเรียนเงียบลงทันที ฮัวเฉิงลู่หันกลับไปสนใจชั้นเรียนเช่นกัน
อวี๋จื่อเจี้ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ‘เขาไม่ควรเป็นหนิวจูเซียใช่หรือไม่?’
หลังจากกลับมาจากภูเขาเถาองุ่นเขียว อวี๋ฉูกวงกล่าวซ้ำๆว่าหลี่ฉิงซานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนิวจูเซี่ยและนางก็เต็มใจที่จะเชื่อเช่นนั้น ด้วยวิธีนี้นางจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หากหลี่ฉิงซานไม่ใช่หนิวจูเซี่ย เขาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง นางกระทั่งรู้สึกเห็นใจเขา เห็นได้ชัดว่าหลี่ฉิงซานกับอันฉงจื่อรักกันแต่พวกเขากลับถูกครอบครัวของฝ่ายหญิงปฏิเสธ เขาน่าสงสารจริงๆ