ตอนที่ 27 ตัวผู้และตัวเมีย 3(อ่านฟรี)
ตอนที่ 27 ตัวผู้และตัวเมีย 3
เมื่อรู้ว่ายังมีคนรอดอยู่ เขาก็ไม่เสียเวลาเพิ่มความเร็ววิ่งไปยังจุดที่เกิดการต่อสู้ คือโถงถ้ำส่วนที่สอง พอพ้นจากทางเดินท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงแสงจากแท่งเรืองแสงที่ตกอยู่บนพื้นให้แสงสว่างสลัว ๆ พอเห็นสิ่งรอบตัว
แต่ด้านในกลับเต็มไปด้วยความโกลาหลวุ่นวายและเสียงปะทะของโลหะ มีการต่อสู้อยู่จริง ๆ โดยมีกลุ่มคนกำลังปะทะกับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่กว้าง 1 เมตร ยาว 10 เมตร
นั้นคือ มอนสเตอร์บอสตะขาบเขาดาบไม่ผิดอย่างแน่นอน
คนที่ต่อสู้อย่างสุดชีวิตนั้นเป็นกลุ่มของเมดิสันที่กันแค่ 4 คน ประกอบไปด้วยตัวเมดิสันหนึ่งคนผู้เคลื่อนไหวด้วยความเร็ว หนึ่งนักดาบยาวที่ความเร็วไม่ด้อยไปกว่าเมดิสัน และตัวชนหลักที่ใช้โล่และดาบสภาพสาหัสแต่ยังกัดฟันสู้
สุดท้ายคือมือธนูสาวที่หลบอยู่ไกลออกมาค่อยยิงช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนลูกศรของเธอจะไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับบอสตะขาบเขาดาบได้ จึงทำได้เพียงช่วยสกัดบอสตะขาบเขาดาบจนเสียจังหวะการโจมตี สนับสนุนให้คนอื่นรอดพ้นจากอันตรายเป็นครั้งคราวไป
‘พวกนั้นกำลังแย่’
ถึงก่อนหน้าคนพวกนี้จะกรีดกันเขาจากการมีส่วนร่วมในการจัดการมอนสเตอร์ระดับสูง แต่ลุคก็แยกเยอะเป็น คนพวกนี้ไม่ได้มีแผนร้ายขนาดฆ่าเขาและยังเป็นเหนือมนุษย์ที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์ คงปล่อยให้คนตายต่อหน้าโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้
‘อาศัยตอนที่มันยังไม่พบเรารีบจัดการมัน’
แววตาของเขามั่นคง ในมือขวาปรากฏหอกออกมาจากความว่างเปล่าเปล่งแสงออร่าสีม่วงอย่างเด่นชัด ตัวย่อลงเล็กน้อย ก่อนจะยันเท้าถีบร่างพุ่งเข้าไปหามอนสเตอร์บอสตะขาบเขาดาบที่กดดันพวกเมดิสันอยู่อีกฝั่งของโถงถ้ำ
ทะยานด้วยความเร็วไปได้หลายสิบเมตรมือขวาก็ง้างอย่างเต็มกำลังขว้างหอกออกไปจนสุดแรง
ฟริ้ว!
หอกพุ่งผ่านอากาศแทงเข้าใส่ที่ลำตัวช่วงหางของบอสตะขาบเขาดาบราวกับตะปูที่ตอกลงพื้นดินยึดร่างของบอสตะขาบเขาดาบติดไว้แน่น
ความเจ็บปวดส่งผลอย่างร้ายแรง บอสตะขาบเขาดาบที่กำลังจะฆ่าเจโรตัวชนที่บาดเจ็บจนสะบักสะบอม ไม่มีโอกาสได้แยกร่างเหยื่อ มันก็ต้องหันกลับมาดิ้นรนอย่างเจ็บปวด พยายามดึงร่างส่วนร่างออกจากพื้นดินราบกับถูกโยนเข้ากองไฟ
พร้อมทั้งพยายามหาผู้ที่ลอบทำร้ายมันด้วยและพบว่าเป็นมนุษย์ตัวเล็กคนหนึ่งที่สองมือคว้าเอาหอกที่ยึดติดกับตัวด้วยไว้ภายใต้ชุดเกราะออกมาถือสองมือ แววตาปลดปล่อยประกายเข่นฆ่าอย่างชัดเจน
หอกทั้งสองถูกเขวี้ยงออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่บอสตะขาบเขาดาบยังไงก็เป็นบอส มันฉลาดพอจะตอบโต้โดยใช้เขาดาบฟันกับป้องกันไว้ได้สองครั้ง
แต่แล้วเสี้ยววินาทีที่ปัดป้องสองหอกกระเด็นออกไปจากตัวเองได้ พริบตานั้นก็มีหอกหนามเล่มที่สามมีออร่าสีส้มทองเด่นชัด อาศัยการโจมตีของสองหอกแรกปิดบังไว้ จนพุ่งห่างจากตัวไม่ถึงครึ่งเมตรก็แทงใส่กลางลำตัวบอสตะขาบเขาดาบ
ฉวก!
หอกหนามเกรดสีส้มคือไอเทมเกรดสูงสุดที่มีผลพิเศษเจาะทะลวง ระดับ 5 จึงสร้างบาดแผลร้ายแรงให้กับบอสตะขาบเขาดาบระดับ F ได้อย่างร้ายแรง
ตัวหอกแทงเข้าด้านหน้าทะลุออกจากจากลำตัวที่หลานเกือบครึ่งเมตรของบอสตะขาบเขาดาบจนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่เท่าศีรษะ ร่างของบอสตะขาบเขาดาบเกือบขาดออกจากกัน แต่ยังเหลือส่วนที่ยึดตัวไว้อยู่ จึงไม่ขาดเป็นสองท่อน
พลังชีวิตบอสนั้นไม่ใช่สิ่งที่มอนสเตอร์ธรรมดาระดับเดียวกันจะเปรียบเทียบได้
ลุควิ่งมาจนถึงที่ส่วนห่างก็เหยียบวิ่งไปบนลำตัวทำเหมือนตัวที่ยาว 10 เมตรของบอสตะขาบเขาดาบเป็นสะพานเชือกไต่ทะยานไปจนถึงช่วงหัวของมันได้
บอสตะขาบเขาดาบยังไม่ทันตอบสนองก็พบว่ามนุษย์อันตรายคนนั้นมาถึงตัวมันแล้ว จึงตอบสนองไปตามสัญชาตญาณของสัตว์ ใช้เขาดาบฟันออกไป
ลุคสายตาเฉียบคมเอี้ยวตัวบิดหลบ ก่อนจะชักดาบที่อยู่บนหลังออกมา
“ตาย!”
มือทั้งสองจับดาบอาศัยจังหวะหมุนตัวเพื่อพลังโจมตีฟันจากด้านบนเข้าที่ช่วงลำติดส่วนคอและหัว ดาบฟันเข้าอย่างง่ายดาย ตัดเป็นรอยลึก หัวบอสตะขาบเขาดาบเกือบขาด แต่ก็แค่เกือบ ทำให้ลุคต้องกลับคมดาบตวัดขึ้นอีกครั้งด้วยความเร็วสูง
หัวของบอสตะขาบเขาดาบตกลงมา เขาดาบของมันปักคาที่พื้นตั้งตรง ร่างไร้หัวทรุดตัวเสียงดังตุบ โดยมีลุคยืนเหยียบอยู่
ทุกอย่างหยุดนิ่งทันที
เมดิสันและพวกที่พึ่งรอดตายมาทำได้แต่อ้าปากค้างมองดูฉากนี้ด้วยความอึ้ง แสงไฟพอส่องให้เห็นคนที่ลงมือช่วยชีวิตตัวเองแต่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อและสงสัยว่าตัวที่พวกเขาสู้เป็นบอสจริง ๆ ไหม ทำไมลุคถึงฆ่ามันง่ายขนาดนี้
ลุคสะบัดเลือดบนดาบเก็บกลับเข้าไปที่เกรี้ยวกราดเดินไปเก็บหอกที่ขว้างออกไปก่อนหน้ามาจนหมด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเพียงแต่มองดูว่าเป็นชายหนุ่มที่เข้ามาเป็นตัวเสริมให้ครบคนเพื่อเข้าประตูเคลียร์ชิ้นส่วนจริง ๆ ใช่ไหม หรือเป็นคนหน้าเหมือน แต่ทุกอย่างก็หักล้างความคิดไร้สาระ
เมื่อเดินเข้ามาใกล้แสงจากแท่งเรืองแสงส่องให้เห็นชัดเจน พวกเขาจำได้ไม่ผิดแน่นอนนี่คือชายหนุ่มที่ชื่อ ลุค คนนั้นจริง ๆ คนที่พวกตนพยายามกรีดกันหวังไม่ให้เข้ามายุ่งมอนสเตอร์ราคาสูงคนนั้น
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่” ลุคถามเมดิสันที่ยังเอาแต่จ้องมองเขา
“พวกเราโดนลอบโจมตี คนตาย ที่เหลือบาดเจ็บหนีตาย” เมดิสันตอบไปอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะตั้งสติและอธิบายเรื่องราวเพิ่ม
ลุคสรุปเรื่องราวจากคำพูดของเมดิสัน
หลังจากที่เขาไปยังเส้นทางที่สาม เมดิสันและพวกก็แบ่งคนไปยังสองเส้นทาง เมดิสันพา 5 คนไปยังเส้นทางแรก ส่วนอีก 4 คนไปยังเส้นทางที่สอง แต่แล้วพอเข้าไปได้ประมาณ 10 นาที พวกเขาก็พบกับบอสตะขาบเขาดาบที่วิ่งออกมาตามทางเดินและไล่ฆ่าพวกเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
พวกเขาคิดว่าบอสตะขาบเขาดาบอาจจะสัมผัสถึงการมาของพวกเขาได้ จึงรีบหนีกันออกมา เพราะคนแค่ 5 คนแถมสถานที่ยังเป็นทางเดินที่คับแคบ ทำให้อยากจะรับมือกับบอสตะขาบเขาดาบได้
แต่พอออกมาที่ทางแยกหวังจะรีบเข้าไปตามอีกกลุ่มกลับมาจัดการบอสตะขาบเขาดาบ ใครจะไปคิดว่าทางของกลุ่มคนแมวดำที่ไปยังเส้นทางที่ 2 ก็หนีในสภาพบาดเจ็บสาหัสด้วยเช่นกัน
ด้านหลังพวกนั้นยังมีบอสตะขาบเขาดาบอีกตัวตามติดมาด้วยความบ้าคลั่ง
“เดี๋ยวก่อนจะบอกว่ามีบอสสองตัว”
ลุคประหลาดใจอย่างแท้จริง
“ใช่ พวกเราก็ไม่คิดว่าจะมีบอสสองตัวได้ สถานการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดกับชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ F ได้เลย สุดท้ายพี่น้องก็ต้องมาตายไปหลายคน” เมดิสันกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ลุคไม่ได้สนใจสีหน้าของเมดิสัน แต่ในใจกับนึกถึงเรื่องหนึ่ง สองเส้นทางแรกมีบอสตะขาบเขาดาบอาศัยอยู่ ส่วนเส้นทางที่สามนั้นคือ รังฟักไข่
“ตัวผู้และตัวเมีย” เขาพูดคำนี้ออกมาในทันที
“นายได้รู้ได้ยังไง” หญิงสาวมือธนูถามอย่างสงสัย เพราะลุคน่าจะไม่เคยเจออีกตัวหนึ่ง
‘เพราะฉันเจอไขพวกมันยังไงละ’ ลุคตอบในใจ
“ตัวที่นายฆ่าคือตัวผู้ ส่วนอีกตัวคือตัวเมีย มันไล่ตามคนในทีมของเราไป ตอนแรกพวกเราคิดจะยื้อพวกมันสองตัวไว้แล้วให้คนที่เหลือวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือที่ด้านนอก ไม่คิดว่าตัวเมียจะฉลาดอีกทั้งดุร้ายและดูจะแค้นพวกเรามากไม่ยอมปล่อยให้ใครรอดตายไปจึงไม่สนใจพวกเรา ไล่ตามคนที่วิ่งออกไปทางประตูมิติ”
‘อาจจะเพราะพวกมันรู้ว่าฉันทำลายไข่พวกมันจนหมดแล้วจึงแค้นคิดว่าพวกนายคือคนทำลายไข่พวกมันสินะ ส่วนที่ไม่ไปหาฉันคงเพราะคิดจะฆ่าพวกนายก่อน ส่วนฉันอยู่ลึกไปด้านในยังไงพวกมันก็กลับมาฆ่าได้ตลอด’ ลุคเสริมประโยคนี้ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป
“คุณรู้ได้ยังไงว่าตัวที่ไล่ตามไปเป็นตัวเมีย” ลุคถาม แม้จะรู้ชื่อแต่ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดของมอนสเตอร์ เขาไม่ใช่นักสำรวจที่เป็นพวกนักมอนสเตอร์วิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับมอนสเตอร์โดยเฉพาะ
“บอสมอนสเตอร์ตัวที่ไล่ตามไปมันใหญ่กว่าและดุร้ายกว่าบอสที่พึ่งตายไปมาก” เมดิสันกล่าว
ลุคพยักหน้าเหมือนเข้าใจ โดยพื้นฐานแล้วสัตว์ตัวเมียมักจะใหญ่กว่าตัวผู้ เพราะต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์เพื่อให้กำเนิดลูก แต่ตัวผู้ไม่จำเป็นต้องตัวใหญ่ก็ได้ แค่น้ำเยอะพอ
“จริงสิ ผมเจอเจโรยังรอดอยู่แต่สภาพเขาไม่ค่อยดีนัก”
“เจโรอย่างนั้นเหรอ ขอบคุณพระเจ้าที่เขายังรอด” เมดิสันมีสีหน้าขอบคุณ
“หัวหน้าเราไปช่วยเขาก่อนไหม”
“ไม่เขาอยู่ที่นั่นจะปลอดภัยกว่า พวกเรายังต้องสู้กับบอส”
ลุคหันมองเมดิสันและยอมรับว่าเขาเป็นคนที่เหมาะจะเป็นหัวหน้าจริง ๆ
คลื่น...
ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เกรี้ยวกราดดังมาจากอุโมงค์ออกไปยังทางทิศทางประตูมิติดังขึ้นมาไม่ต้องเดาพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือมอนสเตอร์บอสตัวเมียแน่นอน
“มันกลับมาทางนี้หรือว่าพวกนั้นจะไม่รอด” มือธนูสาวพูดด้วยสีหน้าตกใจ
ไม่มีใครตอบเธอเพราะทุกคนนั้นไม่กล้าคิด แถมพวกเขายังต้องเตรียมตัวสู้กับมันอีก
“ซากบอสตัวนี้เป็นของผมคุณคิดว่าไง” ลุคหันไปถามเมดิสัน
“ฮะ!” เมดิสันทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจว่าลุคจะมาถามอะไรตอนนี้
“บอสตะขาบเขาดาบตัวผู้ ตัวนั้นถือว่าเป็นของผมใช่ไหม” เขาถามซ้ำ
ที่จริงเมดิสันไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่เข้าใจดี ลุคต้องการบอสตะขาบเขาดาบ ก่อนหน้านั้นพวกเขากรีดกันลุคจากการฆ่ามอนสเตอร์ตัวที่แข็งแกร่ง
ตอนนี้จึงโดนเอาคืนเล็กน้อย ถ้าไม่ตอบตกลงลุคก็จะไม่ช่วยพวกเขา หรือแม้กระทั่งหนีไปคนเดียวแน่นอนเมดิสันกัดฟันพยักหน้าให้
“แล้วถ้าผมฆ่าตัวเมียได้ด้วยนะ”
เมดิสันทำสีหน้าจำใจ ตอนนี้เสียงเข้ามาใกล้มากแล้ว เวลาเหลือไม่เยอะ "ได้"
ลุคเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารู้ว่าเมดิสันต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน ชายคนนี้เป็นคนฉลาด ซากมอนสเตอร์ทั้ง 2 ตัวถึงจะสำคัญ แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิต และจะโทษว่าเขารีบบังคับก็ไม่ได้ควรจะโทษที่ว่าคนพวกนี้เล่นเล่ห์เหลี่ยมกับเขาก่อน
‘ถือว่าเอาคืนก็แล้วกันเป็นการชดเชยด้วยซากบอสสองตัว’ ลุคคิดในใจและกลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้าต่อ
เขาฆ่าบอสตะขาบเขาดาบตัวผู้ได้ง่ายเดาว่าเป็นพวก F4 แต่คนพวกนี้บอกว่ามอนสเตอร์บอสตัวเมียแข็งแกร่งยิ่งกว่าแสดงว่ามันอาจจะเป็นถึง F5 ซึ่งมีพลังอยู่ที่ 1,000 หน่วยเลยก็ได้
“ผมต้องการเหยื่อล่อ” ลุคหันไปมองพวกเมดิสัน
เมดิสันหันไปมองลุคที่มีสีหน้ามั่นใจ ก่อนจะพยักหน้าตกลง
“เรรี่ถอยไปแอบก่อน” เมดิสันบอกหญิงสาว มือธนูสาวมีค่ามากกว่าไปเป็นเหยื่อ