(ฟรี)ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 493 การเปลี่ยนแปลงในความโกลาหล(1)
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 493 การเปลี่ยนแปลงในความโกลาหล(1)
ภายในอาณาเขตของเผ่าพันธุ์มารในโลกโกลาหลบรรพกาล ม่อซุนขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่เทียนม่อเลี่ย
“เจ้ายังติดต่อเขาไม่ได้เลยหรือ?”
“ดูเหมือนเขากำลังฝึกฝนอย่างสันโดษ และไม่สนใจข้า” เทียนม่อเลี่ยกล่าวอย่างโกรธเคือง
“แล้วคนอื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”
สีหน้าของม่อซุนดูน่าเกลียดขึ้น
“ข้าไม่สามารถติดต่อพวกเขาได้แม้แต่คนเดียว!”
ใบหน้าของเทียนม่อเลี่ยบูดบึ้ง
เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์เทพและเซียนแล้ว เผ่าพันธุ์มารมีความได้เปรียบในเก้าดินแดน
อย่างไรก็ตาม มารเลือดผสมยังคงอยู่ในเก้าดินแดน
ยิ่งไปกว่านั้น มีผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเต๋านิรมิตอยู่ในหมู่พวกเขา
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันในเก้าดินแดน เผ่าพันธุ์มารจะได้เปปรียบอย่างแน่นอนหากพวกเขาสามารถควบคุมผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเต๋านิรมิตได้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้แม้แต่คนเดียว!
หรือว่า…
พวกเขาจะถูกเมิน!
“เบี้ยเลือดผสมเหล่านี้ไม่เต็มใจที่จะยอมรับการสื่อสารจากข้า พวกเขาก็เหมือนเศษขยะที่ต้องการแยกออกจากเผ่าพันธุ์มาร พวกเขาสมควรตาย!”
น้ำเสียงของเทียนม่อเลี่ยเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเต๋านิรมิตของเผ่าพันธุ์มารหลายคนออกจากเก้าดินแดนไปแล้วในยุคนั้น
ส่วนหนึ่งของพวกเขาไม่เต็มใจที่จะเป็นเบี้ยของเผ่าพันธุ์มารโบราณ
ส่วนหนึ่งถูกบังคับให้ออกไป และถูกสังหารไปสองคน
สิ่งนี้ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตเต๋านิรมิตเลือดผสมอื่น ๆ ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น พวกเขาหนีเข้าไปในความโกลาหลทีละคน และมองหาโอกาสที่จะหลบหนีจากเผ่าพันธุ์มาร
ในสายตาของเทียนม่อเลี่ย การฆ่าเบี้ยเลือดผสมสองตัวนั้นไม่ได้มากมาย
โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่คิดว่าตนทำผิด
“รอต่อไป บางทีอีกฝ่ายอาจใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของโลก และใช้โอกาสนี้ขยายเส้นทางเต๋าของพวกเขาอยู่” ม่อซุนกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เทียนม่อเลี่ยพยักหน้า
ยังมีมารเลือดผสมจำนวนมากในเก้าดินแดน ท้ายที่สุดแล้ว บางส่วนที่เขาเตรียมการไว้เพื่อเป็นเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ชาวพุทธน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง พวกเขาทำลายแผนการของเขาทั้งหมดทั้งมวล ทำให้ทุกอย่างสูญเปล่า
“ท่านลุง ข้าจะฆ่าชายชราคนนั้น เขาเป็นคนทำลายแผนของข้า!”
เขาโกรธมากเมื่อเห็นว่าความพยามามของตนไร้ผล
เพื่อวางแผนในเก้าดินแดน เขาได้ใช้ทรัพยากรไปจำนวนมาก
สิ่งที่ไม่คาดคิดคือการปรากฏตัวของมารสายเลือดบริสุทธิ์ในเก้าดินแดน ซึ่งสำคัญมาก
เขาต้องการที่จะฆ่าชายชราก่อนที่ยอดฝีมือคนอื่น ๆ ของเผ่าพันธุ์เทพจะกลับมา!
“เราไม่สามารถเริ่มสงครามได้” ม่อซุนขมวดคิ้ว
“หากเผ่าพันธุ์เทพและเซียนร่วมมือกันเพื่อสร้างชาวพุทธจริง ๆ เราก็ยิ่งต้องระวังให้มากขึ้น”
“อย่าตั้งเป้าหมายไปที่เผ่าพันธุ์มนุษย์มากเกินไป คราวนี้เผ่าพันธุ์มารของเราจะไม่เป็นแนวหน้าอีก”
“เพราะเหตุใดรึ?”
เทียนม่อเลี่ยไม่เต็มใจที่จะยอมรับสิ่งนี้ เขาเกลียดชังเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างมาก
“เหตุใดเราจึงกำหนดเป้าหมายไปที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ได้รึ”
เมื่อเขานึกถึงวิธีที่หยางปัดป้องการโจมตีอย่างง่ายดาย เขาก็รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก
ม่อซุนเย้ยหยัน “เจ้าจะไปรู้อะไร หากเผ่าพันธุ์เทพและเซียนร่วมมือกันอย่างลับ ๆ เพื่อต่อต้านเผ่ามาร เหตุใดเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงไม่ทำเช่นเดียวกัน?”
“เผ่าพันธุ์มารนั้นเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มาโดยตลอด จะเป็นอย่างไรหากพวกเขารู้แผนการของเผ่าพันธุ์เทพและเซียน และร่วมมือกันเพื่อกำจัดเผ่าพันธุ์มาร”
“เราไม่สามารถประเมินเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่ำไปได้ หากทั้งสามเผ่าพันธุ์บรรลุข้อตกลงกันจริง ๆ เผ่าพันธุ์มารจะจบลงด้วยความคับแค้น จำไว้ว่าทุกคนต้องการเห็นเผ่าพันธุ์มารของเราอ่อนแอลง!”
เผ่ามารนั้นหยิ่งยโสและเอาแต่ใจมาก
มีหลายเผ่าพันธุ์ที่ไม่พอใจกับเผ่าพันธุ์มาร อย่างไรก็ตาม พวกเขากลัวพลังของเผ่าพันธุ์มาร และไม่กล้าแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย
นอกจากนี้ยังมีแบบอย่างสำหรับเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังอื่น ๆ ที่เข้าร่วมขุมอำนาจเพื่อจัดการกับเผ่าพันธุ์มาร
ในตอนนั้นเผ่าพันธุ์มารถูกปราบปรามอย่างรุนแรง
หากเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันจนเผ่าพันธุ์อื่นรู้สึกว่าถูกคุกคาม พันธมิตรพิชิตมารก็คงไม่สลายไป
สงครามและความกระหายเลือดที่มารแสดงออกมาในตอนนั้นทำให้เผ่าพันธุ์อื่น ๆ หวาดกลัว
ในฐานะที่เป็นคนที่มีประสบการณ์ส่วนตัวกับเหตุการณ์นั้น ม่อซุนมีความชัดเจนมากเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เทียนม่อเลี่ยยังไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้
“สามารถปล่อยเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปก่อนได้ แต่เราต้องฆ่าชายชรา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราสงสัยว่าเผ่าพันธุ์เทพและเผ่าพันธุ์เซียนได้จัดตั้งพันธมิตรอย่างลับ ๆ เหตุใดเราไม่ฆ่าเขา และทดสอบทัศนคติของพวกเขา”
ด้วยลักษณะที่เย่อหยิ่งและเอาแต่ใจของเผ่าพันธุ์มาร จึงเป็นเรื่องปกติมากที่พวกเขาจะพยายามฆ่าศัตรูก่อนที่ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งจะมาถึง
ม่อซุนขมวดคิ้ว “พวกเขาจะไม่นั่งดูเฉย ๆ”
“หากเผ่าพันธุ์เซียนขัดขวาง มันจะพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาได้เข้าร่วมขุมอำนาจอย่างลับ ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะมายุ่งเรื่องบาดหมางของเราเพื่อเหตุใด”
เทียนม่อเลี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
ครั้งนี้ การสังหารบรรพชนหยวนซานก็เพื่อทดสอบว่าเผ่าพันธุ์เทพและเซียนได้สร้างพันธมิตรกันจริง ๆ หรือไม่
สถานะของบรรพชนหยวนซานในเผ่าเทพนั้นไม่ต่ำ ท้ายที่สุด เขาเป็นยอดฝีมือ เต๋าเก้านิรมิต
หากพวกเขาสร้างพันธมิตรกันจริง ๆ เผ่าพันธุ์เซียนจะไม่เพียงแค่นั่งเฉย ๆ เป็นแน่
มิฉะนั้นพันธมิตรระหว่างสองเผ่าพันธุ์จะสูญสลาย
“หยวนชาน?” ม่อซุนขมวดคิ้ว
“หากพวกเขาไม่ได้เป็นพันธมิตรกันตั้งแต่แรก หยวนซานคงหลบซ่อนตัวไปแล้ว”
“นอกจากนี้ การทำให้ชัดเจนในเวลานี้อาจไม่ใช่เรื่องดี”
“เผ่าพันธุ์มารต้องทำอย่างลับ ๆ มิฉะนั้น เผ่าพันธุ์เทพและเซียนจะป้องกันอย่างแน่นอน หรือแม้กระทั่งกำหนดเป้าหมายมาที่เรา”
ม่อซุนไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของเทียนม่อเลี่ย
เขามองไปที่ใบหน้าที่บิดบี้ยวเทียนม่อเลี่ย และพูดว่า “หนึ่งในคนเหล่านั้นจากเผ่าพันธุ์เซียนจะกลับมาแล้ว ข้าและตู้เสิ่นจุนอยู่ที่นี่แล้ว หนึ่งในนั้นกลับมาแล้วอย่างแน่นอน พวกเขาแค่ปิดเรื่องนี้ไว้”
“ความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์เซียนกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ชัดเจนเท่ากับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ พวกเขาทิ้งทางออกไว้เสมอ”
“อย่าลืมว่าพวกเขาเป็นคนแรกที่ได้รับอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์มนุษย์”