เล่ม 6 ตอนที่ 282: ความเร็วสูงสุด
เล่ม 6 ตอนที่ 282: ความเร็วสูงสุด
ในคฤหาสน์เจ้าเมืองคิลิน เจ้าเมืองผู้งดงามแห่งเมืองฟินิกซ์และเจ้าเมืองเฉิงฮัวที่มีตาขวางก็มารอกันที่นั่นแล้ว
ตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ของมู่หรงเสี่ยวเทียน พวกเขาได้นำสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของพวกเขาติดตามมาด้วย
เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจจากคนภายนอก ทันทีที่พวกเขามาถึง เจ้าเมืองซุนแห่งเมืองคิลินก็ได้เปิดการอนุญาตให้พวกเขาเข้าไปในสนามหลังคฤหาสน์ของเจ้าเมืองได้
มันไม่มีทางอื่น ใครใช้ให้สุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ทั้งสองตัวใหญ่เกินไป ? ถ้าหากว่าพวกมันถูกสั่งให้อยู่ด้านนอกคฤหาสน์เจ้าเมือง มันก็จะต้องเป็นข่าวร้อนแรงเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นมู่หรงเสี่ยวเทียนพาหลงเอ๋อ ซินเอ๋อ เจ้าเมืองหินโบราณจากเขตฟามาและเจ้าเมืองหญิงมู่จากเขตสหพันธรัฐเข้ามา ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนทันที
หลังจากแนะนำให้รู้จักกันทั้งสองฝ่าย มู่หรงเสี่ยวเทียนก็กล่าวอย่างตรงประเด็น “เจ้าเมืองซุน ช่วยไปเชิญเจ้าเมืองอีกสามคนมาในตอนนี้ ขังพวกเขาเอาไว้ในสวนด้านหลังของคฤหาสน์เจ้าเมือง”
เจ้าเมืองซุนเป็นรูปลักษณ์ของชายที่ซื่อสัตย์ เขาเหมาะสมที่สุดที่จะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับกลอุบาย มู่หรงเสี่ยวเทียนย่อมสอนเขาโดยธรรมชาติ นั่นก็เพราะมู่หรงเสี่ยวเทียนเข้าใจตัวตนของ NPC อย่างละเอียดแล้ว
หลังจากที่เจ้าเมืองซุนจากไป มู่หรงเสี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ ก็เข้าไปในสวนด้านหลังของคฤหาสน์เจ้าเมืองคิลินเพื่อจะเฝ้ารอ
‘วิหารศักดิ์สิทธิ์’ ได้หายไปแล้ว แต่ในขณะนี้ที่ลานด้านหลัง มีสุดยอดสัตว์อสูรที่ทรงพลังสามตัวกำลังยืนอยู่
มันคือฟินิกซ์เพลิงของเจ้าเมืองจ้าวแห่งเมืองฟินิกซ์ ด้วยการกางปีกทั้งสองออกมา มันมีขนาดใหญ่กว่าเสี่ยวไป๋ และสิงโตสามหัวของเจ้าเมืองตาขวาง ขนาดของมันเทียบได้กับเต่ามังกรปฐพีสองปีก
มีเพียงกิเลนน้ำแข็งจากเมืองคิลินที่สีของมันขาวราวกับหิมะ ตัวของมันดูเล็กน่ารัก ทันทีที่กิเลนเพลิงเห็นมัน เขาก็รีบบินเข้าไปหาทันที มู่หรงเสี่ยวเทียนเดาว่ามันจะต้องเป็นตัวเมีย
ไม่เช่นนั้นกิเลนเพลิงที่แสนเกียจคร้านก็คงจะไม่ตื่นเต้นอย่างแน่นอน
ในไม่ช้า เจ้าเมืองของเมืองตงหมิง เจ้าเมืองหลงเฉิง และเจ้าเมืองเทียนฉุยก็ถูกพามาโดยเจ้าเมืองซุนผู้ซื่อสัตย์
อันที่จริง เขาแค่พูดเพียงแค่คำเดียว เจ้าเมืองเหล่านั้นก็ติดตามเขาเข้ามาแล้ว
เขาบอกกับคนเหล่านั้นว่า “ที่สวนด้านหลังคฤหาสน์เจ้าเมือง มันมีสารจากเมืองแห่งเทพเจ้านั้นถูกส่งมา”
ทุกอย่างนั้นแสนง่ายดาย
และเมื่อมองเห็นเจ้าเมืองจ้าวและเจ้าเมืองตาขวางที่สวนด้านหลัง พวกเขาก็รู้สึกสบายดี แต่เมื่อเห็นเจ้าเมืองหินโบราณจากเขตฟามาและเจ้าเมืองหญิงมู่แห่งเขตสหพันธรัฐ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เพราะประตูสู่ลานด้านหลังของคฤหาสน์เจ้าเมืองถูกสกัดกั้นโดยสุดยอดสัตว์อสูรทั้งสี่
สำหรับประตูของสวนด้านหลัง ไม่มีใครสามารถเปิดได้นอกเสียจากเจ้าของคฤหาสน์เจ้าเมือง
“ทั้งสามคนอยากจะมีชีวิตหรือว่าอยากตาย ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนถามอย่างเย็นชา
นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาทั้งสาม มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้ดีว่า NPC นั้นซื่อสัตย์เสียยิ่งกว่าผู้เล่น ตราบใดที่พวกเขาบอกว่าจะเข้าร่วม พวกเขาก็จะไม่มีวันโกหกเด็ดขาด
“ไอ้สารเลว กล้าดียังไงมาพูดกับข้าแบบนี้.......”
“เจ้าเมืองทั้งหลาย ทำไมถึงเข้าร่วมกับการก่อกบฏเช่นนี้ ?”
การเข้าร่วมการก่อกบฏนั้นย่อมหมายถึงเจ้าเมืองทั้งสองของเขตฟามาและเขตสหพันธรัฐ
“ฆ่า !” มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนออกมาด้วยความหนักแน่น จากนั้นสกิลที่หลอมรวมกันของเขาก็ปลิวออกไปทันที
ในโอกาสแบบนี้ มันไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย แต่ตราบใดที่มีโอกาส เขาก็ไม่ลืมที่จะทำการฝึกฝนสกิลหลอมรวมจิตใจ
จากสายตาของอีกฝ่าย มู่หรงเสี่ยวเทียนก็เข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เจ้าเมืองทั้งสามนั้นจะเข้าร่วม ดังนั้นเขาจึงถ่ายทอดคำสั่งฆ่า ก่อนที่คนเหล่านั้นจะพูดจบเสียอีก
ทันใดนั้นเอง เจ้าเมืองทั้งห้า สุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์หกตัวและซินเอ๋อก็โจมตีพร้อมกัน
นี่อาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นการสังหารที่มีคอมโบที่รุนแรงที่สุดที่มู่หรงเสี่ยวเทียนเคยเห็นมาก่อนก็ได้
หากว่าไม่ใช่เพราะผนึกที่ทรงพลังที่ครอบคลุมทั่วทั้งคฤหาสน์เจ้าเมือง เขาเกรงว่าสถานที่แห่งนี้จะต้องเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ภายในพริบตา
โชคดีที่การโจมตีทั้งหมดนั้นถูกกำหนดเป้าหมาย มันจึงไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อมู่หรงเสี่ยวเทียน ไม่เช่นนั้น คลื่นกระแทกที่ทรงพลังจะต้องฆ่าเขาจนไม่เหลือซาก
ใบหน้าของเจ้าเมืองทั้งสามซีดเซียว แต่ในลานด้านหลังของคฤหาสน์เจ้าเมือง มันก็ถูกปิดกั้นด้วยผนึกบาเรียร์ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถส่งข้อความใด ๆ ออกไป ไม่ต้องพูดถึงว่าจะร้องขอให้ใครมาช่วย
จนกว่าพวกเขาจะตาย ถึงตอนนั้นสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์และผู้บัญชาการหน่วยปกป้องเมืองถึงจะรับรู้ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมู่หรงเสี่ยวเทียนถึงต้องการหลอกล่อให้พวกเขามาสวนด้านหลังคฤหาสน์เจ้าเมืองก่อนที่จะทำการประหารชีวิต
เนื่องจากได้ลงมือทำ เขาก็จะต้องกระทำมันอย่างละเอียด ส่วนสุดยอดสัตว์อสูรและผู้บัญชาการหน่วยปกป้องเมืองของอีกฝ่ายก็จะไม่ได้รับโอกาสในการป้องกันหรือว่าตอบโต้กลับ
ภายใน 10 วินาที แค่ 10 วินาทีเท่านั้น เจ้าเมืองทั้งสามของระบบก็ถูกสังหารด้วยความโหดเหี้ยม
นี่เป็นฉากที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ที่มู่หรงเสี่ยวเทียวเคยเห็นสำหรับฆ่าผู้ที่แข็งแกร่งขั้นเทพมาก่อน และพวกเขาทั้งสามก็ถูกสังหารอย่างพร้อมเพรียงกัน
“บัดซบ ฆ่าไปตั้งสามคน แต่ดาบแห่งคำพิพากษาก็ไม่ตกลงมา” เขาพึมพำกับตัวเอง และทันใดนั้นเขาก็เริ่มถ่ายทอดคำสั่งใหม่ ๆ “เจ้าเมืองหวัง เจ้าเมืองจ้าว ทั้งสองคนพาสิงโตสามหัวและฟินิกซ์เพลิงไปที่เมืองหลงเฉิงทันที เป้าหมายก็คือการฆ่าสุดยอดสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเมืองหลงเฉิง”
“ไม่มีปัญหา !”
“รับทราบ”
เจ้าเมืองตาขวางและเจ้าเมืองจ้าวตอบกลับ
“เจ้าเมืองซุน เจ้าเมืองหญิงมู่ ทั้งสองคนพากิเลนเพลิงและกิเลนน้ำแข็งไปที่เมืองเทียนฉุยเพื่อฆ่าสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของเมืองเทียนฉุย”
“รับทราบ !” เจ้าเมืองซุนตอบกลับ
เจ้าเมืองหญิงมู่ไม่พูดอะไร เธอแค่พยักหน้า
“เจ้าเมืองหินโบราณ พาสุดยอดสัตว์อสูรปีศาจสี่ร่างและหลงเอ๋อไปที่เมืองตงหมิง ไปจัดการกับสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ที่นั่น”
“อืม !”
“ทราบ !”
เจ้าเมืองหินโบราณและหลงเอ๋อตอบกลับตามลำดับ
ในที่สุด มู่หรงเสี่ยวเทียนก็กล่าวขึ้นว่า “จำเอาไว้ พยายามลากคู่ต่อสู้ขึ้นไปในอากาศ อย่าโจมตีบนพื้นดิน ส่วนการโจมตีทั่วไปจะเริ่มในอีกห้านาที”
นอกจากซินเอ๋อ ทุกคนก็พยักหน้าและจากไปอย่างรวดเร็ว
“ไปกันเถอะ !” มู่หรงเสี่ยวเทียนเองก็ออกจากคฤหาสน์เจ้าเมืองคิลินพร้อมกับซินเอ๋อ เขาตรงไปที่สำนักงานใหญ่ของเมืองลอยฟ้า
ห้านาทีต่อมา มู่หรงเสี่ยวเทียนก็อัญเชิญนกคามิคาเซ่ เขาสั่งให้เริ่มทำการโจมตี
เมืองหลักของระบบทั้งสามถูกทำการโจมตีพร้อมกัน
ที่บนอากาศ สุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์เก้าตัวกำลังต่อสู้กันด้วยความเมามัน ฉากนี้สร้างความตื่นเต้นในหัวใจของผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วน
ที่ตรงบนพื้น มันก็เกือบจะเป็นการนองเลือดของหน่วยปกป้องเมืองจากสามค่ายหลัก สมาชิกเกือบจะทั้งหมดของกองกำลังคฤหาสน์โจรอันดับหนึ่งในใต้หล้าถูกแบ่งออกเป็นสามทีม พวกเขามุ่งหน้า สิ่งแรกที่พวกเขาเข้าไปก็คือค่ายของหน่วยปกป้องเมือง
สมาชิกทั่วไปต่างวิ่งเข้าไปอย่างท่วมท้น และผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงบินได้ทุกคนก็บินมาจากในทุกทิศทาง
ให้ตายเถอะ นี่มันคือสงคราม แต่ทว่ามันเป็นการเก็บแต้มชัด ๆ
“ไอ้บัดซบ ช้าหน่อยไม่ได้หรือไง ?” คนที่กังวลที่สุดก็คือสายฟ้าปาฉี เพราะเธอผู้นี้วิ่งช้าที่สุด
“จะให้เรารออยู่อีกยังไง ? ถ้าเราไม่วิ่งให้ไว เราจะไม่เหลือแม้แต่ซุป !”
“ใช่แล้ว !”
คนที่วิ่งเร็วกว่าตอบกลับเสียงดัง
“เทียนหยา ไอ้สารเลว รอจนกว่าแกจะกลับมา ดูสิว่าฉันจะฆ่าแกตายได้ไหม”
“ไม่นะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น !” เทียนหยาเพิ่งตระหนักได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นคือสายฟ้าปาฉี และเขาดันคัดค้านเธอขึ้นมาอีกด้วย
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....”
ทุกคนหัวเราะอย่างหนัก จากนั้นก็เร่งฝีเท้า
“หลิงเอ๋อ ยิง ยิงสมาชิกหน่วยปกป้องเมืองที่อยู่ตรงหน้า” สายฟ้าปาฉีกัดฟันพูดขึ้นมา เธอพูดกับหลิงเอ๋อที่มักจะอยู่กับเธอ
ทันใดนั้น ลูกธนูแหลมคมของหลิงเอ๋อก็พุ่งออกไปอย่างไร้ความปรานี ระยะการยิงในปัจจุบันของเธออยู่ห่างถึง 90 เมตร
“หลิงเอ๋อ อย่าไปฟังปาฉี ไม่ ไม่ อย่าทำแบบนี้....”
สมาชิกหลักที่อยู่ด้านหน้าตะโกนอย่างไม่พอใจ
“เอ้า ก็ใครบอกให้พวกนายไม่รอฉันก่อน” สายฟ้าปาฉีเริ่มที่จะพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิ....
ในทางกลับกัน มู่หรงเสี่ยวเทียนก็เริ่มเล่น ‘บทเพลงสังหารตำนานห้าบท’ ที่สำนักงานใหญ่ของปราสาทกิลด์คฤหาสน์โจรอันดับหนึ่งในใต้หล้า คนที่ติดตามมาก็คือกุนซือผู้ยิ่งใหญ่และซินเอ๋อ
แม้แต่มังกรกระหายเลือดและกู่เฟิ่งหลางก็เข้าไปร่วมสังสรรค์บันเทิง
นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะทั้งผู้เล่น ฮีโร่ หรือว่าสัตว์เลี้ยง การมีส่วนร่วมในสงครามมากขึ้นจะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงประสบการณ์ในการต่อสู้ มันจะทำให้ความสามารถของพวกเขาพัฒนาไปสู่อีกขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสัตว์เลี้ยงและเหล่าฮีโร่
การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นและดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เวลาที่มู่หรงเสี่ยวเทียนออกคำสั่งให้ทำการโจมตีจนกระทั่งจนจบ ทั้งหมดใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
เจ้าเมืองของแต่ละทีม แต่ละเขต และหน่วยต่าง ๆ ต่างก็กลับมายังสำนักงานใหญ่เพื่อรับคำสั่งต่อไปของพวกเขา
หลังจากประชุมกับสมาชิกหลักทั้งหมดรวมถึงเจ้าเมืองหลักต่าง ๆ มู่หรงเสี่ยวเทียนก็จากไปพร้อมกับหลงเอ๋อ ซินเอ๋อ หลิงเอ๋อ นักรบวิญญาณ นักรบเงาและอัศวินโล่หนัก
แต่คราวนี้ มันมีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน และคนคนนั้นก็คือเจ้าเมืองหญิงมู่
ในอดีต เจ้าเมืองจะไม่สามารถออกจากเขตที่พวกเขาอยู่ได้ แต่ตอนนี้ มันยังมีกฎใดในเกมส์เดสตินี่ ? ทุกอย่างสลายไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ผู้เล่นโจมตี NPC ของหน่วยปกป้องเมืองจากระบบ NPC จากเมืองหลักจากระบบทำการกบฏ การพูดถึงกฎของเกมส์ ไม่ใช่ว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกงั้นหรือ ?
อย่างไรก็ตาม มันไม่มีอะไรผิดปกติในเขตสหพันธรัฐ ผู้บัญชาการก็ปกป้องอยู่ที่แห่งนั้น นี่ไม่ต้องพูดถึงว่ายังมีมู่หรงเสี่ยวเฟิ่งคอยประจำการ ดังนั้น เจ้าเมืองหญิงมู่จึงยืนกรานที่จะอยู่ ส่วนมู่หรงเสี่ยวเทียนก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
สำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ได้พาพวกเขามาด้วยเลยแม้แต่คนเดียว สำหรับเขาในฐานะหัวหน้าครอบครัว เขาได้สร้างความรำคาญให้กับกลุ่มแกนนำหลักของกองบัญชาการทหารสูงสุดอยู่เป็นอย่างมาก หากว่าเขาพาคนติดตามไปอีกสองสามคน ไม่ใช่ว่าคนเหล่านั้นจะไม่จัดการประชุมเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ตัวเขางั้นหรือ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ อำนาจของเขาขยายตัวอย่างรวดเร็วเกินไป การจัดตั้งกิลด์ชั้นสูงสุด การยึดอำนาจของเขตฟามา การแก้ปัญหาอำนาจในเขตฮัวเซีย ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน
มู่หรงเสี่ยวเทียนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากจบการดำเนินการ เขาก็มักจะทำให้สมาชิกหลักไม่ได้ว่างเว้น
ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าสมาชิกหลักหนึ่งคนทำหน้าที่สองอย่างงั้นหรือ ?
หากว่าเป็นงานใหญ่เช่นเมืองแห่งเทพเจ้าเมื่อก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูด แม้ว่าทุกอย่างจะยุติลง แต่เขาก็ควรจะระดมพล เพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นและความตายของคฤหาสน์โจรอันดับหนึ่งในใต้หล้า
แต่คราวนี้ สิ่งที่มู่หรงเสี่ยวเทียนทำนั้นคือเรื่องส่วนตัว เพื่อจะช่วยนักรบวิญญาณแก้ปัญหาของการ ‘วิวัฒนาการ’ แน่นอน เขาย่อมไม่เอาสมาชิกหลักคนใดออกไป
ในความเป็นจริง มันก็ใช่ว่าสมาชิกหลักทุกคนนั้นจะงานยุ่ง มันยังมีข้อยกเว้นอยู่อีกหนึ่งคน และนั่นก็คือไป่หยุน
แต่มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่สามารถพาเธอไปได้ เพราะสิ่งที่ไป่หยุนต้องการมากที่สุดก็คือการรักษาจิตใจให้สงบ
หากว่าตื่นเต้นหรือว่าถูกฆ่าตาย มันไม่ใช่แค่การจะเร่งอาการป่วยของเธอเท่านั้น แต่มันยังทำให้ชีวิตของเธอสั้นลงอีกด้วย
ดังนั้น เขาจึงไม่มอบหมายภารกิจหรือพาเธอออกไปข้างนอก นอกเหนือจากการที่อยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษ เธอก็แทบจะเป็นเสาเหล็กของกองกำลังคฤหาสน์โจรอันดับหนึ่งในใต้หล้า