ตอนที่ 753 ลมแรง และเมฆที่พลุ่งพล่าน (ฟรี)

ตอนที่ 753 ลมแรง และเมฆที่พลุ่งพล่าน

“อ๊ะ อ๊ะ? มันเป็นไปได้จริงๆ ด้วย? นี่คือการแปลงร่าง ร่างกายที่หยาบได้กลายเป็นสิ่งที่สวยงามและมีความคมชัดสูง? เหมือนคนจริงๆ?”

“นี่คือการถอดรหัสในตำนาน?”

“เปลี่ยนสัตว์พิกเซลแต่เดิมให้เป็นคนที่มีชีวิตจริงๆ?”

ผู้คนนับไม่ถ้วนตกตะลึง

นี่คือ 'ไม่มีรหัสอยู่ในใจ ดังนั้นมันจึงมีความคมชัดสูงโดยธรรมชาติ!'!

“เราทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว นี่คือซุปเปอร์ไซย่าจริงๆ รูปแบบนี้ในจักรวาลนี้คือความลับในการเป็นซุปเปอร์ไซย่า มันน่าทึ่งและน่าตกใจเกินไป! ไม่มีอะไรสามารถปิดกั้นการถอดรหัสของพวกเขาได้?”

เหมิงเหม่ย “มันกลายเป็นจริงในที่สุด”

จักรพรรดินักเล่นแร่แปรธาตุ “มันยากที่จะจินตนาการ เหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว (อึ้ง)”

นักแข่งรถแห่งภูเขาฮารุนะ “ม่านหมอกของจักรวาล สัตว์พิกเซลความคมชัดต่ำ หลอมรวม บีดอัด ละเปลื่ยนแปลง นี่เป็นเส้นทางที่ทรงพลังสู่ระดับ 9!!”

เมื่อหลายๆ คนเห็นภาพนี้ พวกเขาตกใจกับพลังการต่อสู้ที่ทรงพลัง แม้จะเป็นผู้อ่อนแอระดับ 9 แต่มันลบข้อเสียของเส้นทางอันยาวนานสู่ระดับ 9 ได้อย่างน่าทึ่ง

แน่นอน ซู่จือก็ตกใจมากเช่นกัน

เขามองไปที่การต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวนี้ และไม่คาดคิดว่าจะก้าวผ่านไปเป็นผู้อ่อนแอระดับ 9ได้จริงๆ แม้ว่ามันจะอ่อนแอที่สุด แต่มันก็เป็นพลังรบที่น่ากลัวอยู่แล้ว

เทคนิคแบบนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการท้าทายสวรรค์จริงๆ

…

บูม!

ในชั่วพริบตา ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวก็กวาดกระจายออกไป

พวกเขาทั้งสามรวบรวมลูกบอลรังสี และระดมโจมตีไปยังบาดัค

ดาวเคราะห์เกือบครึ่งจักรวาลแหงนหน้าขึ้น และเห็นแสงสีขาวที่น่าสะพรึงกลัว มันเหมือนกับบิ๊กแบง

คนนับไม่ถ้วนกำลังสวดมนต์ และมองดูท้องฟ้าด้วยความตกใจ

หวือ

แสงสว่างก็สลายไป

บาดัคยังคงถูกเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิง เขามองไปที่ทั้งสามคนแล้วพูดว่า "ยุคของเจ้ากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว พวกอ่อนแอ ยอมรับกฎของข้า!”

ฟรีเซอร์ ซัลลู ออปติมัสไพรม์และคนอื่นๆ ต่างก็หมดแรง พวกเขามองไปที่เปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา และมันเกือบจะอยู่ยงคงกระพัน

แม้แต่ลูกบอลรังสีก็ไร้ประโยชน์?

'ไม่ มันไม่ใช่ว่ามันไร้ประโยชน์ ด้วยพลังมหาศาลที่พุ่งเข้าใส่เขา เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน เขาบิดเบือนกฎรอบตัวเขา ใครก็ตามที่อยู่ต่ำกว่าระดับเก้าไม่สามารถบิดเบือนกฎเพื่อโจมตีเขาได้ มันทำอะไรเขาไม่ได้เลย…'

นี่คือระดับเก้า?

พวกเขากำลังจะพูด

ทันใดนั้น สีหน้าของบาดัคก็เปลี่ยนไป และออร่าของเขาก็อ่อนลง เขาพึมพำ “เวลาสำหรับการแปลงร่างใกล้จะหมดลงแล้ว ระดับ 9 นี้ไม่เสถียรเกินไป และพลังงานที่เก็บไว้ก็กำลังจะพังทลาย… ให้ตายเถอะ มันแย่ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”

“วันนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก่อน”

แวบเดียวเขาก็หายไปจากจุดนั้น

ฟรีเซอร์ และคนอื่นๆ มองหน้ากัน และความภาคภูมิใจของพวกเขาก็พังทลายลง

คราวหน้า?

พวกเขาจะป้องกันอีกฝ่ายได้อย่างไร?

ในวันนี้ อารยธรรมทั้งหมดบนดาวต่าง กำลังเดือดดาลด้วยความตื่นเต้น ทุกคนรู้ว่ายุคกำลังจะเปลี่ยนไป!

…

หนึ่งวันต่อมา อารยธรรมของดาวเคราะห์หลักต่างๆ ใช้เวลาไปกับความหวาดกลัวและความงุนงง

อารยธรรมนับไม่ถ้วนเริ่มศึกษาวิดีโอที่เหลือของการแปลงร่างของซุปเปอร์ไซย่า โดยหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่ระดับเก้าในรูปแบบการแปลงร่าง!

“เส้นทางที่เป็นไปได้ของระดับเก้าปรากฏขึ้น เส้นทางที่ส่องสว่างด้วยแสง คนอื่นๆ ไม่พยายามสำรวจเส้นทางอื่นอีกต่อไป แต่เลือกที่จะเดินตามเส้นทางนี้แทน”

ซู่จือ มองไปที่อารยธรรมสำคัญต่างๆ ด้วยสีหน้าเฉยเมย อย่างไรก็ตาม หลักการเบื้องหลังนี้ง่ายมาก มีเพียงสายเลือดของเผ่าเอนดาริ และสัตว์พิกเซลเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงมันได้ หลักการคือ เมื่อจำนวนเซลล์น้อย สามารถพัฒนาและใช้คุณสมบัติของเซลล์ของเอนดาริเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์อย่างต่อเนื่อง”

เขาก้มหัวลงและแสดงท่าทางประหลาดใจ “ทั้งจักรวาลกำลังมุ่งสู่เส้นทางอันเหลือเชื่อของผู้อ่อนแอระดับ 9?”

…

…

ดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอน

ในเมืองจักรกล

ราชาไซเบอร์ตรอนคือ ออปติมัสไพร์ม ซึ่งสูงส่งและทรงพลัง ร่างกายทั้งหมดของเขาเป็นหุ่นยนต์ที่ประกอบขึ้นจากเกราะจักรกลที่คล่องตัว และเปลวไฟแห่งพลังงานล้อมรอบหัวใจของเขา

"ราชา?"

นักรบอัคคีที่มีรูปร่างเหมือนบัมเบิลบีพูดด้วยสีหน้าประหม่า

ออปติมัสไพร์มหลับตาและพูดว่า "ข้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการเแปลงร่างของซุปเปอร์ไซย่าอยู่บ้าง! ฟรีเซอร์ และซัลลูทำไม่ได้เพราะร่างกายของพวกเขาใหญ่เกินไป มีเซลล์ประมาณร้อยล้านล้านเซลล์ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฝ่าเข้าไปได้ แต่เราต่างกัน…”

เขาเหยียดมือออกและดึงร่างหลักของเขาออกมา

หวือ

ลูกบอลสีขาว ราวกับเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ลึกลับ ล้อมรอบด้วยส่วนโค้งไฟฟ้า

นี่คือไข่มุกหิน มันถูกสร้างเป็นดราก้อนบอล บนดาวเคราะห์หิน แต่ในไซเบอร์ตรอน มันถูกสร้างเป็นเมล็ดอัคคี นี่คือร่างที่แท้จริงของเรา และเรายังเป็นลูกหลานของเผ่าเอนดาริอีกด้วย

รูปร่างที่แท้จริงของเราคือไข่มุกหิน จำนวนเซลล์ในร่างกายของเรามีน้อยกว่ารูปแบบชีวิตปกติหลายเท่า เรามีเซลล์เพียงหนึ่งล้านล้านเซลล์เท่านั้น ในจักรวาลทั้งหมด หากเราจะบอกว่าใครมีเซลล์น้อยที่สุดนอกจากสัตว์พิกเซล มันจะเป็นเรา … อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการพัฒนาของข้ายังยาวเกินไป” ออปติมัสไพร์มหายใจเข้าลึก ๆ

เขาฉลาดแค่ไหน?

เขาเข้าใจวิธีการก้าวหน้าของเผ่าพันธุ์ของเขาในทันที

โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเป็นเอนดาริ!

เช่นเดียวกับ นักรบพิกเซล พวกเขามีความสามารถในการสังเคราะห์ และย่อยสลาย พวกเขาสามารถทำลายขีดจำกัดด้วยจำนวนเซลล์ขั้นต่ำ และเพิ่มจำนวนเซลล์

“อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างที่สั่นสะเทือนโลกระหว่างเซลล์นับล้านล้านในเผ่าพันธุ์ของเรากับเซลล์นับแสนในเผ่าพันธุ์ของเขา เราทำได้แค่วิ่งหนี แต่ในอนาคตอันไกลโพ้นเราจะกลับมาอีกครั้ง”

คชา!

จู่ๆ ออปติมัสไพร์มก็แตกออกเป็นอัญมณีทั้งหก

“ข้าจะแยกออกเป็นหก ดังนั้นความเร็วในการหลอมรวมของระดับเก้าจะเร็วขึ้น … พวกเจ้าทุกคน รับร่างกายของข้าไป และช่วยข้าในการฝึกฝนของข้า!”

พรึ่บ!

อัญมณีทั้งหกแยกออกจากกัน

“เมื่อข้ารวบรวมอัญมณีทั้งหก ข้าจะกลายเป็นจักรพรรดินิรันดร์ของจักรวาล และกลับมา สิ่งที่เรียกว่าซุปเปอร์ไซย่า และฟรีเซอร์เป็นเพียงมดที่สามารถทำลายได้ด้วยการดีดนิ้วของข้า”

คำทำนายโบราณของจักรวาลแพร่กระจายไปเหมือนนักรบในตำนาน ซุปเปอร์ไซย่า

…

ดาวน้ำเงิน

ซัลลูสูดหายใจเข้าลึก ๆ ถอนหายใจให้กับพลังอันน่าสะพรึงกลัว “สิ่งมีชีวิตสายเลือดบริสุทธิ์ที่มีพลังในการแปลงร่างที่น่าสะพรึงกลัวของระดับ 9?”

“ช่างน่ารังเกียจ! ข้าก็มีสายเลือดของเอนดาริด้วย” การแสดงออกของเขาดุร้าย

ในฐานะอดีตทรราชสังหาร เขาไม่เพียงแต่มียีนของฟรีเซอร์ แมลงเปลือกแดง และชาวไฮกรีนเท่านั้น แต่เขายังมีสายเลือดของเผ่าเอนดาริด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะมีสายเลือดของเอสดาริ แต่จำนวนเซลล์ก็มากเกินไป ซึ่งเป็นจำนวนปกติที่ร้อยล้านล้าน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเดินบนเส้นทางนี้

นี่คือจำนวนเซลล์ในแต่ละเผ่า ซึ่งกำหนดความยาวของเส้นทางสู่ระดับ 9!

สิ่งนี้ทำให้เขาอิจฉาเผ่าเมล็ดอัคคีอย่างมาก พวกเขามีเชลล์น้อยกว่า แต่เขาไม่ใช่คนที่น่าสังเวชที่สุด ในสามคนปัจจุบัน ฟรีเซอร์ไม่มีสายเลือดเทพเจ้าโบราณ เขาเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด!

“ให้ตายเถอะ ข้าทำได้แค่ฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง และซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ใครพบตัวข้า”

ทันทีที่พูดจบ เขาก็หายไปจากจุดนั้น “โชคดีที่ข้าแตกต่างจากคนอื่นๆ ข้าเป็นคนสันโดษและไม่ถูกผูกมัดด้วยอำนาจใดๆ”

"แต่ …"

ริมฝีปากของซัลลู โค้งขึ้นในขณะที่เขามองไปที่ดราก้อนบอลสีดำเจ็ดลูก

หลังจากรวบรวมประชากรทั้งหมดของดาวน้ำเงินทั้งหมด ในช่วงไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา มีคนมากกว่าหกหมื่นล้านคนได้รับการบูชา และพวกมันก็เต็มไปด้วยพลังความปรารถนาชั่วร้ายที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“ราชาไซเบอร์ตรอนควรรับรู้ถึงเส้นทางสู่ความก้าวหน้าของเขาเอง! และดราก้อนบอลที่อยู่ตรงหน้าข้า … แต่ละลูกมีเซลล์ล้านล้านเซลล์ น้อยมาก เช่นเดียวกับราชาไซเบอร์ตรอน พวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่า!”

“ช่างเป็นข้อได้เปรียบที่น่าอิจฉา นอกเหนือจากสัตว์พิกเซลแล้ว เผ่าพันธุ์ที่มีเซลล์น้อยที่สุดคือเผ่าเมล็ดอัคคี” ซัลลู ฉีกยิ้มที่โหดร้ายในขณะที่เขามองไปที่ ดราก้อนบอลทั้งเจ็ด

“แต่ต่อหน้าข้า… พลังแห่งความปรารถนาอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ดราก้อนบอลแต่ละลูกสร้างจิตสำนึกของตนเอง และพัฒนาอย่างรวดเร็ว…”

“เนื่องจากข้ารู้เส้นทางการบ่มเพาะของเขา ดราก้อนบอลที่อยู่ตรงหน้าข้าก็สามารถทำได้เช่นกัน … ข้าต้องสร้างปัญหาให้บาดัคเล็กน้อยก่อนที่จะจากไป เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีเวลามาหาข้า”

เขามองไปที่ดราก้อนบอลใจดำเจ็ดลูกแล้วยิ้ม “ออกมา เทพมังกร!”

บูม!

มังกรดำขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าปรากฏขึ้นในอากาศ ดวงตาของมันเป็นสีเลือด “มนุษย์บอกความปรารถนาของเจ้ามา”

“สังหารบาดัค” ซัลลูล่าวว่า

“พลังชีวิตแข็งแกร่งเกินไป ข้าไม่สามารถฆ่าเขาได้” เทพมังกรตอบ

ซาลูยิ้มกว้าง “เช่นนั้น เนื่องจากจิตสำนึก และวิญญาณชั่วร้ายถูกหลอมรวมโดยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด จงหลอมรวมเข้ากับดราก้อนบอลแต่ละลูก กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แท้จริง และฆ่าบาดัค!”

เทพมังกรเงียบไปครู่หนึ่ง “มนุษย์ ข้าเห็นด้วยกับความปรารถนาของเจ้า”

ซัลลูออกจากโลกทันที และหัวเราะ

“ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว วิญญาณมังกรแห่งความมืดจะหลอมรวมกับเซลล์ของดราก้อนบอลอย่างรวดเร็ว ในอีกสิบปี … นักรบมังกรทมิฬที่ชั่วร้ายทั้งเจ็ดจะถือกำเนิดขึ้นทีละคน”