ตอนที่ 161 : พบปะ
ตอนที่ 161 : พบปะ
อาหารเย็นมื้อนี้หรูหราอย่างมาก เพราะมีไป่จิงหยานกับหนานหนานอยู่ด้วย หลี่เทียนจึงทำอาหารเพิ่มอีก 2-3 เมนู ส่วนมากเป็นอาหารเมนูเนื้อ
ไป่จิงหยานชินกับการใช้มีดผ่าตัดเฉือนร่างกายมนุษย์มาแล้ว เขายังเคยใช้มีดปังตอเพื่อฆ่าแพะด้วยซ้ำ
หลังจากมื้อเย็น หลี่เทียนก็ยกห้องนอนให้กับหนานหนาน โดยที่ไป่จิงหยานไปนอนที่โซฟา คืนนั้น หลี่เทียนนอนไม่หลับเพราะเหลือเวลาไม่ถึง 24 ชม.ก่อนที่จะเกิดหายนะครั้งสองขึ้นมา แรงกดดันที่มองไม่เห็นถาโถมเข้ามาใส่เขา แม้แต่จิตใจที่แข็งแกร่งของหลี่เทียนก็ยังทำให้เขาอดกังวลไม่ได้
ต้องบอกว่าตอนนี้หลี่เทียนนั้นกังวลเป็นอย่างมาก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ตัวหายนะ แต่เป็นการรอคอยทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหายนะกำลังจะคืบคลานเข้ามา
คืนนั้นหลี่เทียนฝันอีกรอบ ตอนที่เขาตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็เริ่มมีแสงแดดสาดเข้ามาแล้ว
“ยังเหลืออีก 12 ชม. ก่อนจะเกิดหายนะ...”
มีแจ้งเตือนสีแดงโผล่มาตรงหน้าเขาบอกว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เขามองไปที่ฮานฮานที่หลับอยู่ ก่อนจะมองไปที่โซฟาที่ว่างเปล่าในห้องนั่งเล่น ก่อนที่คิ้วจะขมวดขึ้นมา
ไป่จิงหยานหายตัวไป เขาเดินไปที่หน้าต่างและมองไปที่คอกสัตว์และพบว่าไฟเปิดอยู่ ไป่จิงหยานกับหนานหนานทำตัวราวกับคู่รักที่กำลังเตรียมอาหารให้กับวัวและแกะอยู่...
“สองคนนี้เข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อเลยแหะ...” หลี่เทียนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
หากไม่ใช่เพราะนิสัยของไป่จิงหยานแล้ว หลี่เทียนคงอยากให้ไป่จิงหยานทิ้งงานและอยู่ที่นี่ไปแล้ว
ลูกจ้างแบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก ?
ครืด...ตอนนั้นเองมือถือของหลี่เทียนก็สั่นขึ้นมา เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูและพบว่าเป็นเบอร์แปลก
หลังจากที่เงียบอยู่สักพักหลี่เทียนก็กดรับสาย
“หลี่เทียน ฉันเหรินเสี่ยว” อีกฝ่ายบอกตัวตนของตัวเองออกมาทันทีที่เขารับสาย เสียงของเธอน่ะเฉยเมยอย่างมาก “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย นายออกมาหาฉันหน่อย”
เสียงของเหรินเสี่ยวนั้นดูจริงจังและหนักแน่นมาก
หลี่เทียนคิ้วขมวด
ไป่จิงหยานเพิ่งสร้างปัญหาขึ้นมา เหรินเสี่ยวกลับโทรหาเขา มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย
“ประธานเหริน...ฉันขอโทษด้วย ฉันไม่มีเวลา ฉันยังไม่ตื่นเลย..” หลี่เทียนแสร้งทำเสียงงัวเงียราวกับเพิ่งตื่น “มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันวันอื่น !”
“หลี่เทียน ฉันไม่ได้ล้อนายเล่น” เสียงของเหรินเสี่ยวฟังดูจริงจังกว่าเก่า เธอพูดขึ้น “ฉันเถียงกับตัวเองมาทั้งคืนกว่าจะตัดสินใจได้ ! นายอย่าทำให้ฉันต้องเปลี่ยนใจ !”
“เธอมีเรื่องอะไร ?” น้ำเสียงของหลี่เทียนก็จริงจังขึ้นมาเหมือนกัน แต่เขายังแสร้งทำเป็นสับสนอยู่ “ฉันไม่เข้าใจ”
“ถ้านายไม่เข้าใจจริง ๆ งั้นนายก็คงวางสายไปตั้งนานแล้ว” เหรินเสี่ยวฮึดฮัดออกมาและพูดขึ้น
“ฉันจะรอนายที่บ้านเลขที่ 220 ที่สวนหนานจิง และจะรอแค่ 30 นาที ถ้าเกินเวลาแล้ว นายจะต้องรับผลที่ตามมาเอง...”
“หลี่เทียน อย่าทิ้งความเมตตาที่ฉันไม่ค่อยมีไปซะล่ะ ถ้านายไม่มา นายจะรู้ว่านายพลาดโอกาสสำคัญแค่ไหนไป !”
หลังจากที่พูดจบเหรินเสี่ยวก็วางสายไป
หลี่เทียนยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าต่างและมองไปที่มือถือพร้อมสายตาที่ดูซับซ้อนขึ้นมา
เหรินเสี่ยวโทรมาหาเขาทำไม ?
เธอรู้เรื่องโจรที่แอบเข้าไปในบ้านเธอหรือไง ?
ความเมตตาที่เธอว่าน่ะคืออะไร ?
หลี่เทียนคิดถึงอันตรายจากคำพูดของเหรินเสี่ยวรวมถึงคิดถึงข้อดีข้อเสียต่าง ๆ.... แม้ว่าจะเคยคุยกันหลายครั้ง แต่หลี่เทียนก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหรินเสี่ยวนะคือคนบ้าอำนาจ ในสถานการณ์ตอนนี้ หลี่เทียนไม่อยากเชื่อใจคนที่ไม่รู้จัก
“ถ้าเหรินเสี่ยวคิดร้ายต่อฉันจริง ๆ ด้วยอำนาจที่เธอมีอยู่แล้ว ฉันคงหนีไปไหนไม่ได้” หลี่เทียนพึมพำกับตัวเอง ตาเขาเป็นประกายขึ้นมา “แทนที่จะนั่งอยู่เฉย ๆ..ฉันควรจะรุกก่อนดีกว่า !”
...
สวนหนานจิงไม่ได้อยู่แถวบ้านของเหรินเสี่ยว มันอยู่ในพื้นที่ชุมชนที่ค่อนข้างห่างไกล หลี่เทียนไปจอดรถที่ประตูหลังของชุมชนแล้วกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปด้านใน
ด้วยพริกที่มีสกิลอำพราง ตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรเลย แม้ว่าจะต้องเข้ารังเสือ แต่เขาก็กล้าที่จะเข้าไป !
หลี่เทียนปีนข้ามกำแพงบ้านแล้วเปิดหน้าต่างออก ไม่กี่นาทีก็มีหุ่นนกบินเข้าไปด้านใน จากนั้นเขาก็เดินไปที่ทางเข้าก่อนจะเคาะประตู
“ประตูไม่ได้ล็อค” เสียงของเหรินเสี่ยวดังขึ้นมาจากด้านใน
หลี่เทียนเลิกคิ้วก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
แสงในห้องนั้นมืดสลัว หลี่เทียนเห็นเหรินเสี่ยวยืนอยู่ข้างหน้าต่างที่ชั้นแรก เธอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “มาแล้วสินะ”
“มีเรื่องอะไร... ? ” หลี่เทียนถามขึ้นมา
เหรินเสี่ยวเดินเข้ามาหาหลี่เทียนพร้อมกับยกมือฟาดเขา !
หลี่เทียนจับข้อมือของเธอเอาไว้และพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอบ้าไปแล้วหรือไง ? ประสาทหรือ ?”
มือขวาของเหรินเสี่ยวถูกจับ แต่เธอยังใช้เข่าซ้ายแทงเข้าที่ท้องน้อยของหลี่เทียน หลี่เทียนยื่นมือออกมากดที่เข่าของเหรินเสี่ยวเอาไว้
มือซ้ายที่ว่างของเหรินเสี่ยวฟาดเข้าที่บ้องหูของหลี่เทียน แม้ว่าจะไม่ได้เจ็บ แต่ก็เหมือนกับการดูถูก
หลี่เทียนกดความโกรธเอาไว้และจับมือเธอทั้งสองข้าง เขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอควรอธิบายมาให้ดี ๆ ไม่งั้นแล้วอย่าคิดว่าเธอเคยช่วยโหวตให้ฉัน ฉันจะจัดการเธอที่นี่แหละ !”
“นายจะจัดการฉันยังไง ? แพร่เชื้อเอดส์ใส่ฉันหรือ ?” ถึงมือจะโดนจับ แต่เหรินเสี่ยวก็ยังฮึดฮัดออกมาตามเดิม
ตัวของหลี่เทียนแข็งทื่อ เขากลับอายขึ้นมาแทน
นี่คือคำพูดที่เขาเคยใช้ตอนที่แอบเข้าไปในบ้านของเหรินเสี่ยว
“ฉันไม่รู้เลยว่าฮีโร่ที่ช่วยเด็กผู้หญิงหลายคนจากลัทธิจะเป็นโจรโรคจิตแอบเข้าไปในบ้านของผู้หญิงคนอื่นในตอนกลางคืน !” เหรินเสี่ยวกัดฟันแน่นและมองไปที่หลี่เทียน !
ต่อหน้าสายตานี้ หลี่เทียนไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเธอ
ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เพราะเขาละอายใจ !
“เธอมาป้ายความผิดคนอื่นได้ยังไง...” หลี่เทียนราวกับหมูที่ไม่กลัวน้ำร้อน เขายังไม่คิดจะยอมรับอะไรเลย
“หลี่เทียน นายเป็นฮีโร่...วันนี้ฉันไม่ได้มาหานายเพราะเรื่องนี้ เรื่องของเรานะค่อยสะสางกันทีหลัง”
เหรินเสี่ยวเรียกสติกลับมาและสลัดมือของหลี่เทียนออกแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ส่งตัวไป่จิงหยานมา”
ตอนนั้นในหัวหลี่เทียนว่างเปล่าไปทันที
เหรินเสี่ยว...รู้หรือว่าไป่จิงหยานอยู่ที่ฟาร์มเขา ?
“อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนาย อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ว่าไป่จิงหยานอยู่ที่ไหน !” เหรินเสี่ยวเอากระดาษที่มีผลเปรียบเทียบดีเอ็นเอออกมาและชูใส่หน้าหลี่เทียน “ไป่จิงหยานรู้ตัวตนของนายตั้งนานแล้ว แต่เขาปิดบังมันจากฉัน !”
“ไป่จิงหยานนะไม่มีเพื่อนหรือญาติในหนานเฉิง เราไม่มีทางหาตัวเขาพบได้”
“ถ้าปะติดปะต่อกับรายงานนี้ แล้วบอกว่าไม่มีเรื่องสกปรกระหว่างนายกับไป่จิงหยาน แล้วใครจะไปเชื่อล่ะ ใช่ไหม ? !”