บทที่ 40
บทที่ 40
“เอ๊ะ? บนพื้นนั่นมันยามเฝ้าคลังสมบัติไม่ใช่หรือ? ไม่ได้การ! มีคนปล้นคลังสมบัติ! เจ้ารีบกลับไปรายงาน ข้าจะคอยจับตาดูที่นี่เอาไว้”
ข้างนอกประตู ได้ยินเสียงฝีเท้าดังแว่วเข้ามา
ฉินห่าวชะงักไปชั่วคราว แต่ตอนนี้เขารวบรวมสมบัติเสร็จหมดแล้ว ดังนั้นไม่กลัวว่าจะถูกใครพบ
ครู่ต่อมา เสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงก็ดังขึ้น
“เปิดคลังสมบัติ!”
ครืดดดด!
ทันทีที่ประตูคลังสมบัติเปิดออก เส้นแสงสีเลือดพุ่งสวนออกมา ทุกคนไม่ทันตั้งตัว ชักฝีเท้าเปิดทางถอยด้วยความตกใจ
เส้นแสงสีเลือดทะยานสู่ฟากฟ้า!
ผู้อาวุโสโจวมองภาพภายในคลังสมบัติ เกิดอาการสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ชิบหายหมดแล้ว! ไม่มีอะไรเหลือเลย!
ไม่รอช้า เขาอุทานอย่างรวดเร็ว “หยุดแสงสีเลือดนั่นไว้!”
วินาทีต่อมา ทุกคนพลันตอบสนอง และไล่ตามมันไปอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้าพวกสำนักเซี่ยเจี้ยนที่โง่เขลา เป็นข้าเองแหละที่ขับเรือเหาะ และก็เป็นข้าเองที่ ‘ยืม’ สมบัติจากคลังของพวกเจ้า ฟังให้ดี ข้าพูดว่ายืม หมายความว่าข้าจะคืนให้ถ้านำพวกมันไปเล่นสนุกจนพอใจแล้ว!”
“จดจำไว้ว่านามของข้าคือฉินห่าว หากใครไม่พอใจ แน่จริงก็มาฆ่าข้าซะ!”
ณ ขณะนี้ เหนือท้องฟ้าสำนักเซี่ยเจี้ยนกังวานไปด้วยเสียงหัวเราะเย่อหยิ่งของฉินห่าว
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสยดสยอง พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนกล้ามาสร้างปัญหากลางสำนักเซี่ยเจี้ยน และปัญหานี้ ยังเป็นปัญหาใหญ่โตมากเสียด้วย!
“ช่างกำเริบเสิบสาน! จงตายให้ข้า!”
ดวงตาของผู้อาวุโสโจวแทบหลั่งเป็นเลือด ขณะไล่ตามไป เขาถ่ายเทพลังปราณลงในฝ่ามือ และฟาดออกทันใด
อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสหยินเงยหน้าขึ้น ดวงตากะพริบไหวด้วยความบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกัน เขาก็เหยียดฝ่ามือและฟาดออก จากนั้นทะยานร่างลอยขึ้นไปในอากาศ ตรงไปทางฉินห่าว
“อีกหมื่นปีนับจากนี้ พวกเจ้าทุกคนจะไม่มีวันลืมเลือนชื่อข้าฉินห่าว!”
ฉินห่าวตะโกนเสียงดัง แต่ในหูเขาเสียงแจ้งเตือนค่าความเกลียดชังของระบบดังยิ่งกว่า พุ่งเป็นเส้นแสงสีเลือดขึ้นฟ้า และหายวับไปในพริบตา
สองฝ่ามือของผู้อาวุโสหยินและโจวประกบกันกลางอากาศ เกิดเสียงดังเปรี้ยง! แต่แน่นอนว่าไม่ถูกเป้าหมาย
“ให้ตายเถอะ ไล่ตามไป!”
ใบหน้าของผู้อาวุโสโจวหมองคล้ำ เรื่องนี้ใหญ่โตมาก ในคลังสมบัติไม่เหลือกระทั่งหมอยสักเส้น หากเขานำพวกมันกลับมาไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่แน่
“เกิดอะไรขึ้น?”
ณ ขณะนี้ เงาร่างอีกสองสามร่างปรากฏขึ้น
“พวกเจ้าก็ดูสถานการณ์ตอนนี้เองสิ ข้าขอไล่ตามไปก่อน” ผู้อาวุโสหยินเอ่ยสั้นๆ ทะยานร่างไล่ตามเส้นแสงสีเลือดไป
พรวดดด!
ฉินห่าวร่วงลงกับพื้น กระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง เขาฆ่าตัวตายและฟื้นคืนชีพ จากนั้นหลบหนีด้วยสลายโลหิตอีกที!
ห่างออกมาร้อยลี้ ผู้อาวุโสหยินและผู้อาวุโสโจวยิ่งไล่ตามยิ่งตื่นตระหนก เพราะพวกเขาเกิดความรู้สึกว่า ต่อให้เร่งความเร็วแค่ไหน อีกฝ่ายกลับยิ่งห่างไกลไปเรื่อยๆ
“ไม่ต้องออมแรงแล้ว!”
ผู้อาวุโสโจวกัดฟัน ตะโกนเสียงดัง ระเบิดแรงกดดันตัวเอง เร่งความเร็วเพิ่มขึ้นสองส่วน ความเกลียดชังที่มีในตัวฉินห่าวตอนนี้ คล้ายแซงหน้าผู้อาวุโสหยินไปแล้ว
ด้านฉินห่าว หลังจากฆ่าตัวตายไปสามครั้ง จู่ๆเขาก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าตนจะหนีทำซากอะไร? เพราะยังไงศัตรูก็ฆ่าเขาไม่ได้ ดังนั้นจะกลัวทำไม?
“เฮ้อ บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องของมโนธรรมก็ได้กระมัง!”
พอคิดได้แบบนี้ เขาก็เลือกที่จะหนีต่อ
คาดว่านี่กระมังที่เรียกกันว่าความรู้สึกผิดของโจร แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าลึกๆแล้วนิสัยฉินห่าวยังคงซื่อตรงอยู่
“ชายผู้นี้ฝึกฝนวิชามารอันใดกันแน่? เหตุใดถึงได้หนีเร็วนัก?”
ไล่ตามมานาน ผู้อาวุโสโจวใกล้อาเจียนเป็นเลือด ด้วยพลังรบในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น เขาไม่เชื่อจริงๆว่าตัวเองจะไล่ศัตรูไม่ทัน
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่าตนจะไม่สามารถนำสมบัติของนิกายกลับมาได้ เกรงว่าต่อให้เขามีสถานะเป็นถึงผู้อาวุโส ก็คงหลีกหนีความผิดนี้ไม่พ้น
เจ้าตัวกัดฟัน หยิบโอสถแล้วโยนเข้าปากโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
โอสถวายุพิโรธ!
เมื่อกินเข้าไป ความว่องไวจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก!
เห็นภาพนี้ แก้มของผู้อาวุโสหยินกระตุก เขาพยายามเตือนตัวเองว่าตนกับฉินห่าวไม่ได้เกลียดชังกันขนาดนั้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเสี่ยงตายเหมือนผู้อาวุโสโจว
เมื่อคิดได้ อารมณ์โกรธและตึงเครียดของเขาก็ผ่อนคลายลง....