ตอนที่ 25 ตัวผู้และตัวเมีย 1(อ่านฟรี)
ตอนที่ 25 ตัวผู้และตัวเมีย 1
ลุคเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งที่ผ่านมาก่อนจะบอกเส้นทาง ตอนแรกเขาคิดว่าคนขับอาจจะมองด้วยความประหลาดใจที่เห็นเขาแต่งตัวแบบนี้ แต่พอขึ้นรถมาขนขับก็ชวนคุยด้วยบทสนทนาที่ว่า
“วันนี้คุณลูกค้าจะไปร้านไหนเหรอครับ แต่งชุดจัดเต็มเลย”
“หอกนั้นเหมือนจริงมาก เป็นธีมนักรบยุคโบราณเหรอครับ”
คำถามเหล่านี้ทำให้พอจะเข้าใจว่าคนขับนั้นกำลังเข้าใจว่าลุคแต่งคอสเพลย์ไปงาน ลุคก็ไม่ได้อธิบาย เพียงแต่พยักหน้าและตอบกลับไปว่าใช่และประโยคอื่น ๆ ไม่กี่คำ
ใช้เวลาเกือบ 1.20 นาทีก็มาถึงที่ห้างสรรพสินค้า BCB คนขับดูจะกังวลอยู่เล็กน้อย เมื่อพบว่าด้านหน้ามีการปิดเส้นทางบางส่วน
“คุณลูกค้าครับเหมือนจะมีปัญหาแล้วครับ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษถือไฟฉายเดินเข้ามาโบกสกัดให้รถแท็กซี่ที่กำลังเข้าไปด้านในหยุดรถ ก่อนจะพูดคุยกับคนขับ
“คุณเข้ามาที่นี่ไม่ได้ ตอนนี้มีประตูมิติปรากฏขึ้นมาอยู่ด้านในห้าง ขอให้เลี้ยวรถกลับไปด้วยครับ”
“ประตูมิติเหรอ” คนขับตกใจมองหา แต่ไม่เห็นประตูมิติจึงเสียดายไม่น้อย
“คุณลูกค้าห้างน่าจะปิดแล้ว คุณจะกลับเลยหรือไปที่อื่นไหมครับ” คนขับสอบถาม เพราะถ้าไปที่อื่นจะได้ไปส่งได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกรถคันอื่น
“ไม่ต้องหรอกที่นี่แหละ”
ลุคหยิบเงินออกมาจ่ายให้กับคนขับที่ไม่เข้าใจว่าลุคมีธุระอะไรที่นี่ เขาเปิดประตูออกไปและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิทักษ์ประตูมิติ
“สวัสดีครับ ผมฮันเตอร์ลุค มาทำภารกิจเคลียร์ชิ้นส่วนโลกที่นี่ครับ”
แหวนไกอาเปิดรหัสตัวตนให้กับเข้าหน้ารักษาความปลอดภัย
ขณะเดียวกันคนขับรถก็มองเห็นเหตุการณ์นี้พอดี
“พระเจ้าฉันรับเหนือมนุษย์เป็นลูกค้าเหรอนี่ วันนี้คงโชคดีสุด ๆ ไปเลย”
...
ลุคผ่านหน่วยพิทักษ์ประตูเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะพบว่าที่นี่ยังมีฮันเตอร์คนอื่น ๆ อีก คลื่นพลังของพวกเขาชัดเจน รวมทั้งการแต่งกายและมีสัญญาอาร์มสัญลักษณ์รูปแมวสีดำติดตัว บ่งบอกว่าอยู่กลุ่มเดียวกัน
พอจะคาดเดาได้ทันทีว่า กลุ่มเหล่านี้เป็นเหมือนกับทีมที่รวมขึ้นมาเพื่อเป็นทีมเคลียร์ภารกิจในองค์กรอย่างกิลด์ แต่ว่ากลุ่มจะไม่ถือเป็นสมาชิกของกิลด์ พวกเขาเป็นเหมือนกับกลุ่มรับจ้างให้กับกิลด์อีกที
‘ประตูของชิ้นส่วนโลกต่างมิติอันนี้น่าจะเป็นของกิลด์ พวกนั้นไม่ลงมาจัดการเองแต่ก็ขายให้กับทีมย่อยได้ พวกเขามีกัน 9 คน ถ้างั้นเหตุผลที่เราถูกเรียกมาก็เพื่อเติมเข้ามาให้ครบตามจำนวนการเคลียร์ภารกิจเฉย ๆ สินะ’
มีชาย 7 คนและหญิง 2 คน การแต่งตัวของแต่ละคนราวกับเป็นชุดเกราะยุทธวิธี อาวุธดาบและโล่ 3 คน ดาบยาว 3 คนและมือธนูอีก 3 คน อาวุธทั้งหมดนั้นดูคุณภาพสูงมาก คงจะจัดอยู่ในอุปกรณ์พิเศษระดับ F 2-3 ดาวได้อยู่
ถึงจะไม่เคยเห็นทีมแบบนี้เพราะนี่คือการเคลียร์ชิ้นส่วนโลกต่างมิติในฐานะฮันเตอร์จริง ๆ ครั้งแรก แต่บอกได้เลยว่าคนพวกนี้คือมืออาชีพ
ชายร่างกำยำสูง 190 เซนติเมตรพร้อมกับดาบยาวเดินเข้ามาหา
“ฉันชื่อ เมดิสัน หัวหน้าทีมแมวดำ คลาส F สูงสุด”
“ผมลุค ฮันเตอร์คลาส F”
ตอนแรกคิดว่าระบบจะเลือกหน้าใหม่มาเติมให้เต็มทีมเฉย ๆ แต่ทำไมถึงได้พวกระดับ F ขั้นกลางมากัน เมดิสันแปลกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ถาม
“อย่างที่เห็นพวกเรามาเป็นทีมและที่นายถูกเรียกมาเพื่อให้เต็มจำนวนเท่านั้น ยังไงก็ตามในเมื่อนายมาแล้วก็ใช้กฎของฮันเตอร์แล้วกัน โอเคใช่ไหม”
“แน่นอน” ลุคพยักหน้า
กฎของฮันเตอร์เขาเคยอ่านผ่านตามาแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มันเป็นกฎในการแบ่งของง่าย ๆ
ซากมอนสเตอร์จะเป็นของคนที่จัดการมันได้ และถ้าร่วมมือกันฆ่าก็จะต้องแบ่งกันตามผลงาน ส่วนหินพลังงานต่างมิติจะถูกแบ่งกันตามจำนวนคนที่เข้าไปด้านในทำให้ทุกคนได้เท่า ๆ กัน
“นายไปเตรียมตัวเถอะ อีก 5 นาทีเราจะลุยกันแล้ว”
ทีมแมวดำพาสมาชิกเดินเข้าไปด้านในประตูมิติทีละคน โดยมีพวกมือถือดาบและโล่เข้าไปก่อน ตามด้วยมือธนูสามคนและดาบยาวที่เหลือปิดท้าย นับว่าเป็นการป้องกันที่ดี ลุครู้สึกว่าตัวเองโดนโดดเดี่ยวอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เขาตามเข้าไปทีหลัง
“ประเภทถ้ำเหรอ” เมดิสันเงยหน้ามองดูด้วยความสนใจ แสงไฟจากไฟฉายที่ชุดสาดส่องไปรอบบริเวณในระยะ 30 เมตร
‘ที่นี่กว้างกว่าชิ้นส่วนโลกแบบถ้ำที่เคยเข้าไปซะอีก อย่างน้อยก็ 2 เท่าได้เลย’
ทีมแมวดำเริ่มโยนแท่งไฟเรืองแสงออกไปรอบข้างสร้างอาณาเขตของตัวเองขึ้นมา ตอนนั้นเองก็มีแท่งแสงอันหนึ่งลอยไปตกในความมืด ทำให้มีบางสิ่งเคลื่อนที่หลบแสงหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
“มอนสเตอร์”
หนึ่งในสมาชิกทีมร้องเตือนทุกคน พวกเขารีบหันไปตรวจสอบทิศทางนั้นกันทันที ก่อนจะเห็นว่ามีมอนสเตอร์กำลังเคลื่อนไหวไปมาด้วยความเร็วสูง เสียงดังกุกกัก ๆ ๆ อยู่รอบตัวตลอดเวลา
“เห็นพวกมันไหม”
“มีหลายขา”
สมาชิกทีมแลกเปลี่ยนข้อมูลก่อน ก่อนที่เมดิสันจะสั่งให้ทั้งทีมเคลื่อนที่เข้าไปด้านหน้าหวังบีบให้พวกมอนสเตอร์ออกมา และก็เป็นผล มอนสเตอร์เผยตัวออกมาโจมตีทันที
“ตะขาบเขาดาบ ทุกคนระวังตัวด้วยพวกนี้อันตรายมาก ดาบมันมีพิษร่างกายไร้แรงได้” เมดิสันตะโกนเตือนลูกทีม
ตะขาบเขาดาบ...ลุคเพ่งมองไปที่ตะขาบที่มีขนาดตัวกว้างประมาณ 70 เซนติเมตรและลำตัวยาว 4 เมตร บนหัวของตะขาบมีเขาคล้ายกับเขายูนิคอร์น เพียงแต่มันเป็นดาบยาวที่อยู่บนหัวตะขาบร้อยขา
และจากการประเมินมอนสเตอร์พวกนี้มีคลื่นพลังอยู่ที่ 150-350 หน่วย
‘พวก F1-F2 จำนวนค่อนข้างเยอะพอสมควร’ ลุคประเมินมอนสเตอร์ตะขาบเขาดาบอยู่ด้านหลังคนอื่น ๆ
ทีมแมวดำไม่ได้ตื่นตระหนก กลับกันพวกเขายินดีที่ได้เจอตะขาบเขาดาบ เพราะว่าเขาที่เหมือนดาบของตะขาบเขาดาบเป็นเหมือนกับอุปกรณ์พิเศษจำพวกดาบ
“มีกันเป็นฝูงเลย จับทีมช่วยกันสู้ ระวังเขาดาบมันจะเสียหายด้วย ไม่อย่างนั้นจะเสียราคา”
เมดิสันสั่งการทีมแมวดำ พวกเขาเคลื่อนไหวกันเป็นทีม คือ ตัวชน 1 คน เป็นพวกที่ถือโล่และดาบค่อยล่อมอนสเตอร์ไว้ เหนือมนุษย์ที่เน้นพลังโจมตีเป็นหลักอย่างพวกที่ใช้ดาบยาว และสุดท้ายคือมือธนูที่โจมตีระยะไกล คอยคุมจังหวะการต่อสู้อย่างแท้จริง
ลุคค่อนข้างสนใจมือธนู เพราะอาวุธพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่โจมตีระยะใกล้ได้ ถ้าจะบอกว่าในสมัยโบราณหนึ่งในอาวุธที่สังหารหมู่ผู้คนมากสุดในสนามรบคงหนีไม่แพ้ธนู แม้ในภายหลังมันจะถูกลืมเลือนด้วยการปรากฏขึ้นมาของปืน
แต่หลังจากมีชิ้นส่วนโลกต่างมิติเชื่อมต่อเข้ามาที่นี่ อาวุธอย่างธนูก็ได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้ง
หัวลูกศรของลูกธนูจัดเป็นอุปกรณ์พิเศษที่สร้างมาจากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์ ทำให้มันสามารถโจมตีและสร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์ในระยะไกลได้
ที่จริงก็มีหัวกระสุนที่สร้างมาจากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์เหมือนกัน เพียงแต่หัวกระสุนเมื่อยิงไปแล้วก็จะไม่สามารถเอามาใช้ใหม่ได้อีก จึงกลายเป็นจุดข้อเสียด้านความสิ้นเปลืองอย่างชัดเจน
เหนือมนุษย์ในระดับต่ำยากที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากขนาดนี้ได้ แต่ยังมีพวกที่นิยมใช้คือพวกที่ร่ำรวยจนไม่สนใจเงินที่ยิงออกไปพร้อมกับกระสุนแต่ละนัด
ส่วนลูกศรกลับได้เปรียบกว่าที่สามารถเอามาใช้ใหม่ได้ เพียงแค่ดึงมาจากซากมอนสเตอร์ ถ้าไม่เสียหายก็ยิงได้ทันที
การต่อสู้ระหว่างทีมแมวดำกับตะขาบเขาดาบดุเดือดเป็นอย่างมาก พวกเขาแยกพวกมันออกไปและสังหารทิ้งทีละตัวทีละตัว
ในระหว่างนั้นลุคก็คอยจัดการตัวที่หลุดรอดมา ตะขาบเขาดาบมีเขาเป็นดาบ การโจมตีจึงแปลกอยู่ไม่น้อย พวกมันทำเหมือนลำตัวเป็นแขน หัวเป็นมือ เขาเป็นดาบ ใช้เขาดาบไล่ฟันโจมตีศัตรู
ลุคไม่ได้เข้าไปปะทะตรง ๆ แต่ใช้หอกขว้างออกไปฆ่าพวกมันก่อนจะเข้ามาถึงตัว จากนั้นก็วิ่งไปยังขุดต่าง ๆ บางครั้งจะหลบดาบของตะขาบเขาดาบและใช้หอกแทงสวนกลับไป
มอนสเตอร์พวกนี้ยังเป็นเพียงพลทหารเฝ้าประตูเท่านั้นระดับก็แค่พวก F1-F2 เขาใช้เพียงหอกเกรดสีฟ้าก็ฆ่าได้อย่างสบาย
ผ่านไปราว ๆ 10 นาทีมอนสเตอร์ในโถงถ้ำส่วนแรกก็โดนสังหารจนหมด นับรวมกันแล้วมีประมาณ 25 ตัว ในจำนวนนั้นลุคฆ่าไปคนเดียวถึง 4 ตัว
พวกเหนือมนุษย์กลุ่มแมวดำอดที่แปลกใจไม่ได้ที่ชายคนนี้กลับฆ่าได้เยอะขนาดนี้ พวกเขาต่างมองไปที่หอกหนามของลุคและเดาว่านั่นคงเป็นอุปกรณ์พิเศษระดับ F3 ดาว แถมไม่ได้มีชิ้นเดียวด้วย
“ไปกันต่อเดี๋ยวก่อนย้อนกลับมาขนพวกมันออกไปในภายหลัง” เมดิสันจัดทีมเดินเข้าไปตามทางเดินของถ้ำต่อ
ในระหว่างทางที่เดินก็พบกับพวกตะขาบเขาดาบอยู่หลายตัว แต่ลุคไม่มีโอกาสได้ลงมือก็โดนคนของกลุ่มแมวดำสังหาร โดนเฉพาะพวกมือธนูที่ได้เปรียบในเส้นทางคับแคบยากที่จะหลบได้ก็โดนยิงตายก่อนจะคลานมาถึงพวกเขาซะอีก
เมดิสันดูจะเป็นหัวหน้าทีมที่ระวังมาก เขาไม่รีบพาทีมออกไปยังโถงถ้ำที่สอง แต่ส่งคนที่ใช้ดาบยาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีความแข็งแกร่งเฉพาะด้านความเร็วออกไปตรวจสอบมอนสเตอร์ในโถงถ้ำนั้นซะก่อน
เมื่อกลับมาก็ได้รับข้อมูลที่ว่าโถงถ้ำที่สองดูจะมีมอนสเตอร์อยู่เป็นจำนวนมากกว่าเดิมถึงเกือบเท่าตัวที่สำคัญคือความแข็งแกร่งของมันมากกว่าเดิมด้วย
เหนือมนุษย์คนนั้นไม่กล้าใช้คลื่นพลังประเมินเพราะอาจจะทำให้มอนสเตอร์บางตัวสัมผัสถึง
หลังจากเมดิสันวางแผนกันก็เริ่มลงมือต่อ
ครั้งนี้เมดิสันได้ข้อความร่วมมือกับลุคด้วย เพราะเห็นถึงพลังที่มีแล้ว เขาไม่ได้ปฏิเสธ ยินดีที่จะรวมมือด้วยทันที พอออกมาได้พวกเขาก็ตั้งทำตามแผน คราวนี้ไม่ใช่การโจมตีแบบเดิมที่แยกกันเป็นสามทีมย่อยฆ่าอีก แต่พวกเขารวมกันเป็นกลุ่มก้อนเดียวและบุกเข้าโจมตีในรูปแบบคล้ายกับหัวลูกศร
แน่นอนว่าลุคไม่ได้เป็นหัวลูกศร แต่คนทำหน้าที่นี้คือ เมดิสัน ส่วนเขานั้นรับหน้าที่ฆ่ามอนสเตอร์ตัวที่เล็งมายังมือธนู
“ย้า!”
“ระวังด้านขวา ยิงมันเร็ว”
“แย่แล้วเจโรโดนดาบมันแทงที่ขา”
“ช่วยเขาก่อน”
ในระหว่างที่สู้กลับมีคนหนึ่งที่พลาดโดนดาบของตะขาบเขาดาบฟันใส่ บาดแผลไม่ลึก แต่ผลของเขาดาบคือมันมีพิษที่ทำให้อ่อนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากสำหรับตัวชน
“ฉันเอง”
ลุควิ่งเข้าไปช่วย เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วใช้หอกหนามเป็นเหมือนกับคมเขี้ยวของหมาป่าจัดการมอนสเตอร์ตะขาบเขาดาบที่พยายามเข้ามาจากทางจุดอ่อนของขบวนต่อสู้ได้
“ตาย!”
หอกหนามเกรดสีฟ้าสองเล่มขว้างออกไปใส่มอนสเตอร์ตะขาบระดับ F3 ของตัวจนมันตาย แต่ว่านี่ยังไม่จบ เพราะอยู่ ๆ ก็มีมอนสเตอร์ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากทางเดิน
“ระวังเจ้านั้นมีพลังมากกว่า 780 หน่วย” เมดิสันรีบเตือนลูกทีม
“ทำไมมันถึงมาโผล่ที่นี่”
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคิดจัดการมันก่อน”
กลุ่มฮันเตอร์แมวดำที่มีโล่สองคนรีบเข้ามาดึงความสนใจและให้มือธนูสองคนโจมตีถ่วงเวลาขณะที่คนที่เหลือรีบฆ่ามอนสเตอร์ตะขาบเขาดาบตัวอื่น ๆ ให้เร็วที่สุด
“ดาบมันมาแล้ว” หนึ่งในตัวชนตะโกนพร้อมกับยกโล่กัดฟันแน่น
ปัง!
ดาบของตะขาบเขาดาบฟันเข้าที่โล่จนเกิดรอยยุบตามคมดาบ ตัวของเหนือมนุษย์คนนั้นเท้าทั้งสองถอยขูดลากไปกับดินหลายสิบเมตร ก่อนจะเสียหลักกลิ้งต่อไปอีกเล็กน้อย
ลุคกำลังจะโจมตี แต่แล้วตอนนั้นเมดิสันก็หันมาบอกกับเขา
“ลุคคุณช่วยจัดการพวกนี้ที”
ไม่รอให้ลุคตอบรีบทั้งทีมของเมดิสันก็พากันไปโจมตีตะขาบเขาดาบตัวนั้นปล่อยให้ลุครับมือกับตะขาบเขาดาบที่อ่อนแอราว ๆ 3-4 ตัว
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเมดิสันกำลังกันเขาออกจากมอนสเตอร์ตะขาบเขาดาบตัวนั้น มอนสเตอร์อ่อนแอแบ่งปันกันได้เพราะพวกมันมีมากที่สุด แต่มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งนั้นราคาดีกว่ามากและมีน้อย ลุคเป็นแค่ตัวเสริมไม่ใช่สมาชิกทีมตั้งแต่แรก เมดิสันไม่มีทางให้เขาได้ส่วนแบ่งในมอนสเตอร์ที่ทำราคาเหล่านี้แน่นอน
“หึ” ลุคพ่นลมหายใจเล็กน้อย ก่อนจะสังหารโหดตะขาบเขาดาบตัวที่เหลือ 2 สามตัว
“ให้ฉันช่วยไหม” เขาที่พึ่งฆ่าตะขาบเขาดาบตัวอื่นไปจนหมดตะโกนถามเมดิสัน
“ไม่จำเป็นพวกเราเอาอยู่”
พวกนั้นเริ่มล้อมกรอบ ก่อนจะฆ่ารุมฆ่าตะขาบเขาดาบ F4 ตัวนั้นจนตายได้ในที่สุด