ตอนที่ 1 : จดหมายหย่า (อ่านฟรี)
ในเดือนมีนาคม ณ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตอนใต้ในยุคสมัยจีนโบราณ มีฝนตกปรอยๆลงมาที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ริมแม่น้ำเมืองหลินอัน น้ำฝนหยดลงมาจากชายคาด้านนอก ฝนฤดูใบไม้ผลิตกลงมาได้ประมาณครึ่งเดือนแล้ว ต้นวิลโลว์ด้านหน้าร้านอาหารก็เริ่มแตกหน่อ ที่โต๊ะแปดอมตะในบ้าน หญิงสาวอายุประมาณ 17 ถึง 18 ปีกำลังกำกระดาษในมือแน่น
มีสองคำที่โดดเด่นบนหน้ากระดาษ "จดหมายหย่า"
ดวงตาที่สดใสตามปกติของเฉียวจิงเหนียน ได้สูญเสียประกายและปกคลุมไปด้วยความเกลียดชัง เธออดไม่ได้ที่จะกัดฟันกรอด “เจ้ากล้าดียังไง เจ้ากล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างขุ่นเคือง “คุณหนู เขาทำแบบนี้กับคุณหนูได้ยังไงกันเจ้าคะ! ถ้าตอนนั้นคุณหนูไม่ช่วยเขาขึ้นมาจากแม่น้ำ ป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว ถึงต่อให้เขาจะสูญเสียความทรงจำ แต่กระนั้นคุณหนูก็ยังรับเขาเข้ามาดูแลและแต่งงานด้วย แต่ในทันทีที่เขาฟื้นความทรงจำ เขากลับต้องการหย่ากับท่าน ไอ้เลวแบบนี้สมควรสับเป็นชิ้นๆแล้วเอามาทำเป็นซาลาเปาเนื้อมนุษย์!”
“โอ้ นั่วหมี่ เจ้าพูดอะไรออกมา! ถ้าคนอื่นได้ยินสิ่งที่เจ้าพูด พวกเขาอาจคิดว่าโรงเตี๊ยมหมื่นรส
ของเราขายซาลาเปาเนื้อมนุษย์! แต่สามีของคุณหนูช่างอุกอาจจริงๆ เขายังกล้าพานายน้อยไปด้วย”
เฉียว จินเหนียงกัดริมฝีปากอย่างเงียบ ๆ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน พ่อแม่ของเธอป่วยหนักและอยู่ในอาการวิกฤต ในเวลานั้น ลุงและป้าของเธอต้องการที่จะยึดโรงเตี๊ยมหมื่นรสของครอบครัว
พ่อแม่ของเธอมีลูกสาวเพียงคนเดียว และเธอก็บังเอิญไปช่วยชายหนุ่มรูปงามขึ้นมาจากแม่น้ำ เขาแต่งตัวหรูหราแต่กลับสูญเสียความทรงจำ เมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อแม่ของเธอก็บอกกลับเขาว่าเขาเป็นลูกเขย
เพื่อให้เขาแต่งงานกับเฉียวจินเหนียง และทำให้ลุงและป้าของเธอเลิกแผนการที่จะฮุบโรงเตี๊ยมของพวกเขา
หลังจากจินเหนียงแต่งงานได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตและในเวลาเพียงไม่นาน เฉียวจินเหนียงก็พบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ หลังจากนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกชายและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสามี
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายเดือนก่อน จู่ๆ สามีของเธอก็ฟื้นความทรงจำ เขาบอกกับเฉียวจินเหนียงว่าเขาเกิดในครอบครัวชนชั้นสูงของเมืองหลวง และถ้าเขาต้องการแต่งเฉียวจินเหนียงเป็นภรรยา เขาต้องเตรียมการบางอย่างก่อน
หลังจากนั้น สามีของเธอก็พาลูกชายกลับไปที่ฉางอัน เธอรอแล้วรอเล่าเป็นเวลากว่าสองเดือน ตั้งแต่เทศกาลโคมไฟไปจนผ่านพ้นเทศกาลเช็งเม้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากรอมายาวนาน สิ่งที่เธอได้รับกลับไม่ใช่จดหมายขอแต่งงานและสินสอดทองหมั้น แต่กลับเป็นเอกสารการหย่าร้าง
ผู้ส่งสารไม่แม้แต่จะใส่จดหมายหย่าไว้ในซอง ทำให้ผู้คนจำนวนมากทราบเรื่องระหว่างทาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่ข่าวการหย่าร้างของเธอจะแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลินอัน
และเธอซึ่งเป็นนายหญิงของโรงเตี๊ยมหมื่นรส จะกลายเป็นตัวตลกของเมืองหลินอันอย่างแน่นอน!
“เฉียวจินเหนียง! ออกมา!”
“ตอนนี้อดีตสามีของเจ้า หนีไปพร้อมลูกและส่งจดหมายหย่ามาแล้ว ในฐานะผู้หญิง เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะสืบทอดโรงเตี๊ยมของตระกูลของเรา ออกมาและมอบโรงเตี๊ยมให้เราซะ!”
ได้ยินเสียงดังโหวกเหวกข้างนอก เฉียวจินเหนียงออกไป ก็พบว่าตั้งแต่ประตูโรงเตี๊ยมยาวไปจนถึงแม่น้ำต่างเต็มไปด้วยคนในตระกูลเฉียวและพวกอันธพาลที่ถูกว่าจ้างมา
เสียงฝนที่ตกยังไม่สามารถบดบังเสียงประท้วงของพวกเขาได้
"ทำไม? พ่อของข้าถูกขับออกจากตระกูลเฉียวมานานแล้ว ต้องกำพร้าและยากจนตั้งแต่เด็ก ดีที่ท่านพ่อติดตามเจ้านายไปที่ฉางอันและได้ทำงานเป็นพ่อครัวให้กับหวังอันหยวน หลังจากนั้นถึงได้แต่งงานกับท่านแม่และหาเงินได้มากพอที่จะกลับมาเปิดโรงเตี๊ยมที่บ้านเกิดแบบนี้ เพราะฉะนั้นที่แห่งนี้เป็นผลพวงจากความอุตสาหะตลอดชีวิตของท่านพ่อท่านแม่ของข้า ตระกูลเฉียวของเจ้าเกี่ยวอะไรด้วย”
เฉียวจินเหนียงถือร่มเดินออกมาหน้าโรงเตี๊ยม
ก่อนที่พ่อของเธอจะเสียชีวิต ท่านได้สั่งเสียเอาไว้ว่าต่อให้ต้องขายโรงเตี๊ยมแห่งนี้ทิ้ง ก็ห้ามยกมันให้กับตระกูลเฉียวเด็ดขาด
พ่อของเธอถูกบังคับให้ออกจากบ้านเกิด ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดทั้งที่ตอนนั้นท่านเพิ่งจะสิบขวบเท่านั้นโชคดีที่หวังอันหยวนรับท่านพ่อเข้าทำงาน ทำให้เขามีชีวิตที่ดีอย่างทุกวันนี้
“เพ้ย! อย่างไรก็ตาม นามสกุลของพ่อเจ้าคือเฉียว ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เจ้าไม่มีลูกนี่ แม้แต่สามีก็ยังขโมยลูกชายหนีไป เพราะฉะนั้นถ้าเจ้าไม่อยากมีปัญหารีบส่งโรงเตี๊ยมมาให้เราเร็วๆ!”
“เราทุกคนเป็นลุงและป้าของเจ้า เจ้าควรแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส! ไม่ว่าเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่โรงเตี๊ยมจะไม่มีทางเป็นของคนที่ไม่มีทายาทเด็ดขาด!”
ผู้คนหลายสิบคนด้านล่างตะโกนอย่างไม่สะทกสะท้าน
เฉียวจินเหนียงกำมือแน่น เธอละเกลียดจริงๆ! ต่อให้เขาจะอยากทิ้งเธอไป แต่ทำไมเขาต้องป่าวประกาศให้คนอื่นรับรู้แบบนี้?
เธอมองไปที่โรงเตี๊ยมด้านหลัง “พวกเจ้าต้องการโรงเตี๊ยมนี่ใช่ไหม ถ้างั้นก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ดวงตาของเฉียวจินเหนียงแน่วแน่
หนึ่งในลุงของเธอกล่าวว่า “นี่เป็นสมบัติของตระกูลเฉียว ในฐานะที่เป็นผู้หญิง เจ้าสมควรได้รับมรดกนี้หรือ?”
“ยิ่งกว่านั้น ตระกูลเฉียวไม่เคยเก็บผู้หญิงที่ถูกหย่าไว้”
“และเมื่อพิจารณาว่าเจ้าก็มาจากตระกูลเฉียว ผู้เฒ่าได้หมั้นหมายเจ้าให้กับบุตรนายอำเภอ ในฐานะบำเรอคนที่ 18 ของเขาแล้ว!”
นัวหมี่ พูดด้วยความโกรธว่า “ชาวบ้านต่างรู้กันไปทั่วว่าบุตรนายอำเภอคนนั้นทั้งอ้วนและบ้าตัณหาขนาดไหน ไม่รู้ว่าเขาทำร้ายผู้หญิงไปกี่คนแล้ว! พวกท่านจะบังคับคุณหนูให้ไปเป็นนางบำเรอให้คนแบบนั้นได้ยังไง!”
ป้าคนที่สองของตระกูลเฉียวที่แต่งตัวซอมซ่อกัดฟันสีเหลืองของเธอ
“เขาเป็นบุตรนายอำเภอ! และเฉียวจินเหนียงเป็นเพียงผู้หญิงที่หย่าร้าง! ได้ป็นนางบำเรอให้บุตรของนายอำเภอก็ถือได้ว่าเธอโชคดีแล้ว”
“สามีทิ้งไป แต่เจ้าก็ยังสามารถแต่งกับบุตรของข้าราชการได้ เธอนี่ช่างโชคดีจริงๆ!”
“เกี้ยวเจ้าสาวของลูกชายเจ้าเมืองมาแล้ว!~”
เฉียวจินเหนียงเห็นชายอ้วนที่มีดวงตาขุ่นมัวมองลงมาจากสะพาน
ชายผู้นี้เป็นบุตรชายของนายอำเภอเมืองหลินอัน
นายอำเภอหลินอันเป็นข้าราชการที่ดี แต่ลูกชายของเขากลับเป็นคนชั่วช้า
เขาเคยข่มขืนผู้หญิงมาแล้วมากมาย
“วันนี้ ต่อให้ต้องมัด เราก็ต้องจับเฉียวจินเหนียงขึ้นเกี้ยวให้ได้! ดูสินสอดที่พวกเราจะได้รับสิ!”
ผู้หญิงของตระกูลเฉียวทุกคนรีบลุกขึ้น นำเชือกมาเพื่อพยายามมัดเฉียวจินเหนียงไว้
ท่ามกลางสายฝน คนรับใช้ สาวใช้ และพ่อครัวของร้านอาหารต่างก็พยายามหยุดคนของตระกูลเฉียวอย่างสุดกำลัง
แต่ด้วยความที่ฝั่งตระกูลเฉียวมีจำนวนมากกว่ามาก
เป็นครั้งแรกที่เฉียวจินเหนียงรู้สึกหมดหวัง เธอรีบหยิบคบไฟขึ้นมา
“อย่าเข้ามานะ ถ้าใครเข้ามา ข้าจะเผาโรงเตี๊ยมนี่ทิ้งซะ แล้วเราก็มาตายด้วยกันเถอะ!”
แต่เหมือนชีวิตเล่นตลก แม้แต่ตอนนี้พระเจ้าก็ช่วยเธอไม่ได้ เพราะฝนที่เคยตกปรอยๆอยู่ๆก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ชายวัยกลางคนของตระกูลเฉียวกล่าวอย่างมีชัยว่า “ฝนตกหนักขนาดนี้ ข้าเกรงว่าต่อให้เจ้าอยากจะเผาก็คงเผาไม่ได้หรอก!”
คบไฟในมือของเฉียวจินเหนียงร่วงลงพื้น ในเวลาเดียวกับที่เธอถูกผู้หญิงในตระกูลเฉียวจับไว้ เธอพลันได้ยินเสียงของรถม้าเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ครืด! ครืด!
เฉียวจินเหนียงฟังด้วยความสงสัยว่านั่นอาจเป็นสามีของเธอที่กลับมาหาหรือเปล่า
ในตอนนั้น ได้มีรถม้าคันหนึ่งหยุดลงด้านหน้าเฉียวจินเหนียง พร้อมสาวใช้ชราคนหนึ่ง
เมื่อเธอเห็นเฉียวจินเหนียงเพียงแค่แวบเดียว สาวใช้ชราก็น้ำตาไหลพราก “คุณหนู คุณหนู บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ เป็นความผิดของบ่าวเองที่ปล่อยให้คุณหนูต้องทนทุกข์ทรมาน”
หญิงชราผู้นี้คือสาวใช้เก่าแก่ของจวนหวังอันหยวน เธอสามารถยืนยันตัวตนของ เฉียวจิงเหนียงได้อย่างรวดเร็วจากรูปโฉม
แม้ว่าจะงดงามกว่า แต่คุณหนูก็คล้ายกับฮูหยินสมัยเด็กยิ่งนัก
“ยายเฒ่า! เจ้าทำอะไรคุณหนูของข้า”
เธอสามารถบอกได้เลยว่าผู้หญิงในหมู่บ้านโทรมๆ เหล่านี้มีเจตนาร้าย “ท่านเป็นบุตรสาวคนโตของหวังอันหยวน เจ้าคิดว่านางเป็นคนที่เจ้าสามารถดูถูกได้ตามต้องการงั้นหรือ!”
เฉียวจินเหนียงรู้สึกสับสนเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงชรา
ทหารรักษาการณ์ที่หญิงชราผู้นี้พามาล้วนแล้วแต่มีอาวุธ
พวกเขาขับไล่คนที่น่ารังเกียจของตระกูลเฉียวไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นอย่างนั้น เฉียวจินเหนียงคิดว่า ต่อให้หญิงชราผู้นี้จะเป็นนักต้มตุ๋น แต่ก็ยังเป็นผู้มีพระคุณของเธอ
เฉียวจินเหนียงเชิญหญิงชราและทหารรักษาการณ์เข้ามาในโรงเตี๊ยม รินชาให้ “ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ใช่ลูกสาวของหวังอันหยวน คงมีความเข้าใจผิดบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ”
“ท่านแม่ของข้าเคยเป็นสาวใช้ในจวนหวังอันหยวน และท่านพ่อก็เป็นพ่อครัวที่นั่นก็จริง แต่พวกท่านกลับมาที่เมืองหลินอัน เพื่อเปิดร้านอาหารแห่งนี้ตั้งแต่ 18 ปีที่แล้ว”
หญิงชราใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาออกจากดวงตาของเธอ “ใช่สิเจ้าคะ ในตอนที่ฮูหยินเดินทางกลับไปที่บ้านเกิดของหวังอันหยวน ตอนนั้นนายหญิงก็เจอกลุ่มโจรระหว่างทาง
“ในสถานการณ์เช่นนั้น นายหญิงต้องซ่อนตัวและให้กำเนิดคุณหนูบนท้องถนน
“มันบังเอิญมากที่ภรรยาของพ่อครัวคนหนึ่งก็กำลังให้กำเนิดลูกของเธอด้วย ด้วยเหตุนี้จึงมีคนคิดร้าย สับเปลี่ยนลูกสาวของนายหญิงกับแม่ครัว”
“เจ้าคนเลวนั่นได้สารภาพเรื่องนี้ออกมาก่อนตาย
“ตอนนั้นแหล่ะเจ้าค่ะ ฮูหยินถึงได้รู้ว่าคุณหนูเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่าน ดังนั้นท่านจึงสั่งให้บ่าวพาคุณหนูกลับไปที่จวนให้เร็วที่สุด!”
เฉียวจินเหนียงตกตะลึง เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องที่เหมือนกับในนิยายนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ!