(ฟรี) ตอนที่ 141 เธอรู้มากเกินไปแล้ว!
ปั้มลูกฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ตอนที่ 141 เธอรู้มากเกินไปแล้ว!
เมื่อสิ้นคำของนัตสึฮิโกะ
องครักษ์พิทักษ์โฮคาเงะทั้ง 3 พลันโจมตีพร้อมกัน
“เขาเป็นพวกโอโรจิมารุ!”
“ฆ่ามัน!”
“อย่าให้มันกระทบท่านโฮคาเงะที่อยู่ข้างในม่านพลัง!”
นินจาระดับโจนินสามคนพุ่งเข้าไปในทันที
แต่ละคนแทงคุไนไปยังจุดสำคัญบนร่างกายของนัตสึฮิโกะ
นัตสึฮิโกะยิ้มบาง
เขาจับข้อมือของโจนินคนหนึ่งที่ถือคุไนด้วยมือเดียว แล้วเบี่ยงทิศทางของคุไนในมือโจนินคนที่หนึ่ง แทงปลิดชีวิตโจนินคนที่สอง
แล้วนัตสึฮิโกะก็เตะโจนินคนที่สามและแทงปลิดชีวิตอีกฝ่าย
จากนั้นนัตสึฮิโกะก็เหวี่ยงโจนินที่เหลืออีกคนที่ถูกจับข้อมือ ใส่นินจาที่เพิ่งถูกแทงตาย และบังเอิญว่าคุไนจ่อที่คอหอยของเขาพอดี
กระแสเลือดไหลกระเซ็นออกมาทันที ย้อมกระเบื้องมุงหลังคาเป็นสีแดงฉาน
แค่พริบตา!
โจนิน 3 คนถูกสังหาร!
"เจ้าหมอนั่น-"
สี่นินจาแห่งเสียงหน้าถอดสีพร้อมกัน องครักษ์พิทักษ์โฮคาเงะรุ่นที่ 3 นั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกเขา
นัตสึฮิโกะสามารถฆ่าองครักษ์พิทักษ์โฮคาเงะได้ในพริบตา แถมเขายังปลิดชีวิตได้ในการโจมตีเดียวอีกด้วย!
“ดูเหมือนพวกนายไม่อยากให้ฉันผ่าน” นัตสึฮิโกะถอนหายใจเบา ๆ และมองไปที่ม่านพลังค่ายผนึก 4 ทิศ
ในวินาทีต่อมา แขนสีม่วงขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นข้างๆ นัตสึฮิโกะ
แขนยักษ์แทงเข้าไปในม่านพลัง!
ฉึก~…
แกร๊ก!
ม่านพลังสีม่วงได้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ!
สี่นินจาแห่งเสียงพลันรู้สึกหนังศีรษะด้านชา ผมลุกชูทันที หัวใจของพวกเขาดูเหมือนจะหยุดเต้นชั่วชณะ
“รักษาจักระของพวกนายให้คงที่” นัตสึฮิโกะหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ควบคุมให้แขนของซูซาโนะโอะแหวกม่านพลังและก้าวเข้าไปในรอยแยกอย่างช้าๆ
เมื่อพลังของซูซาโนะโอะสลายไป จักระที่รักษาม่านพลังของสี่นินจาแห่งเสียงก็ไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ในที่สุดม่านพลังค่ายผนึก 4 ทิศก็กลับมาเสถียรอีกครั้ง
แต่หัวใจของพวกเขากลับเต้นแรงและตื่นตระหนก
วิชาม่านพลังหายากที่แม้แต่นินจาระดับคาเงะก็ยังทำอะไรไม่ได้ กลับเป็นเหมือนกระดาษแผ่นหนึ่งต่อหน้าชายผู้นี้ ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แค่การสะบัดมือ...
พวกเขาจำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งของท่านโอโรจิมารุ โดยใช้จักระรักษาม่านพลังเพื่อป้องกันไม่ให้โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ใช้ประโยชน์ในการหลบหนี
……
แต่ม่านพลังนี้ได้ผลจริงเหรอ!
"คุณโอโรจิมารุ นี่คือม่านพลังค่ายผนึก 4 ทิศที่ปรับปรุงแล้วของคุณงั้นเหรอ? สุดยอดมาก” นัตสึฮิโกะถอนหายใจราวกับว่าเขาได้เห็นสิ่งแปลกใหม่
โอโนจิมารุมุมปากกระตุก: “ช่างเถอะ วิชานี้ได้มาจากการปรับปรุงจากม่านพลัง 4 ทิศของตระกูลอุซึมากิตอนที่ฉันยังอยู่ในโคโนฮะ”
“ถึงพลังจะลดลงอย่างมาก แต่ม่านพลัง 4 ทิศนั้นจำเป็นต้องใช้นินจาระดับคาเงะถึงสี่คน เงื่อนไขยากเกินไป ไม่สามารถใช้ได้จริง”
"คุณโอโรจิมารุสมกับเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกของโลกนินจา เก่งกาจมาก!“ นัตสึฮิโกะยกนิ้วให้:”ม่านพลังค่ายผนึก 4 ทิศนี้มีประโยชน์เยอะมาก!”
อย่าได้มองแค่ว่าม่านพลัง 4 ทิศมีพลังมากกว่าม่านพลังค่ายผนึก 4 ทิศเป็นสิบเท่า แต่ปัญหาคือคุณต้องหานินจาระดับคาเงะสี่คนซะก่อน!
ภายใต้สถานการณ์ปกติ แม้แต่โคโนฮะที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดก็ยังหานินจาระดับคาเงะสี่คนในคราวเดียวไม่ได้เลย
ถึงจะหามาได้และเปิดใช้ได้ แต่จะสามารถดึงศัตรูให้ติดอยู่ในม่านพลังแล้วปิดล้อมสังหารได้งั้นเหรอ?
ฝันไปเถอะ!
เพราะฉะนั้น ม่านพลัง 4 ทิศที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก แต่ความจริง การใช้งานจริงนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ยกตัวอย่าง ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ตอนที่โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ถูกอัญเชิญ เหล่านินจาแทบจะเปิดใช้งานวิชาม่านพลังนี้ไม่ได้เลย
กลับกัน ม่านพลังค่ายผนึก 4 ทิศที่ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้จริง ดูอย่างตอนนี้ซิ เพียงแค่สี่นินจาแห่งเสียงก็ขังโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และแยกองครักษ์พิทักษ์โฮคาเงะให้อยู่ด้านนอกได้แล้ว
โอโรจิมารุอดมุมปากกระตุกไม่ได้
หลังจากถูกนายฉีกเป็นชิ้นๆ นั่นสุดยอดของนายเหรอ?
ฉันต้องการปรับปรุงมันเพื่อไม่ให้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แบบนี้โว้ย!
“นัตสึฮิโกะ… เธอคือนัตสึฮิโกะงั้นเหรอ?” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ดูเคร่งขรึม: “เธอซ่อนตัวไว้ลึกขนาดนี้ทำไม?”
“สิ่งที่เรียกว่าการฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ที่เรียกว่าการให้กำเนิดทายาท ที่เรียกว่าต้องการลูกพร้อมจ่ายหนัก…”
“เธอพยายามซ่อนพลังจากฉันและดันโซเพื่อรอโอกาสงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วครับท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่เจอกันนานเลย” นัตสึฮิโกะพูดด้วยรอยยิ้ม: “แต่กับเรื่องนี้คุณคิดผิด เรื่องที่ผมต้องการลูกนั้นเป็นความจริง และเด็กที่เกิดมาก็เป็นความจริง”
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่เชื่อเลยสักนิด คนที่หมกหมุ่นกับการตามใจผู้หญิงทุกวัน และให้กำเนิดลูกสองร้อยกว่าคนในเวลาไม่กี่ปี เขาจะสามารถมีพลังขนาดนี้ได้ยังไง?
ถ้างั้น คนที่ฝึกหนักทุกวันคงได้แต่เอาหัวโขกกำแพงตายไปซะ เพื่อจะได้ไม่โชว์ความโง่ของตัวเอง!
“นัตสึฮิโกะ เธอมาทำอะไรที่นี่” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 จ้องนัตสึฮิโกะด้วยดวงตาแก่ชรา: “อุจิวะจะทรยศโคโนฮะงั้นเหรอ?”
“ฮึ่ม โคโนฮะทรยศอุจิวะมากกว่าไม่ใช่เหรอ?” นัตสึฮิโกะยิ้มและพูดว่า “โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ลืมไปแล้วเหรอว่าคุณกับดันโซหลอกอุจิวะ และร่วมมือกันทำลายตระกูลอุจิวะ”
“ผมยังพบดวงตาของอดีตผู้นำตระกูล-ฟุงาคุกับภรรยาผู้นำตระกูล-มิโคโตะในห้องทดลองของดันโซอีกด้วยน๊า”
อย่ามาบอกว่าคุณไม่รู้เห็น!
ใบหน้าแก่ชราของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 กระตุก อันที่จริง ทันทีที่เขาเห็นนัตสึฮิโกะ เขานึกถึงคดีโจมตีหน่วยรากและทำร้ายดันโซ
แม้นว่าดันโซจะปฏิเสธความจริงของห้องทดลองต่อหน้าผู้นำตระกูลคนอื่นๆ แต่ในการสนทนาที่ลับกับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เขายังระบุอย่างชัดเจนถึงสิ่งของที่หายไป –ใครจะรู้ว่านักโทษจะใช้มันแบล๊คเมย์โคโนฮะรึไม่
ถึงยังไง ดันโซก็สูญเสียไปจริงๆ ในเรื่องนี้ เขาจึงไม่ปิดบัง
“เธอรู้จริงๆ ด้วย…” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ดูลังเลก่อนจะพูดว่า “นัตสึฮิโกะมีบางส่วนที่เธอเข้าใจผิดอยู่ ไม่ใช่ฉันกับดันโซที่หลอกอิทาจิ แต่ตระกูลอุจิวะที่วางแผนก่อกบฎต่างหาก”
“อิทาจิห้ามปรามพ่อของเขาหลายครั้ง แต่เขาแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้อง——”
“งั้นเหรอครับ เหมือนกับที่คุณเฝ้ามองดันโซฆ่าชิซุย เหมือนกับที่คุณตัดสินใจกำจัดคนแก่ คนป่วย คนอ่อนแอ และคนพิการในตระกูลอุจิวะจนสิ้นซาก แม้แต่ลูกเล็กเด็กแดง ทารกแรกเกิด แถมยังขุดเอาเนตรวงแหวนของอุจิวะมาใช้เป็นหัวข้อวิจัยของคุณงั้นเหรอ?”
มุมปากของนัตสึฮิโกะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งเต็มไปด้วยความประชดประชัน
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 แทบสำลัก พูดไม่ออกไปพักใหญ่
ยกเว้นคนโง่ๆ อย่างอิทาจิ ใครจะอยากยืนหยัดเคียงข้างโฮคาเงะเมื่อรู้เรื่องนี้?
“ตอนที่เธอเพิ่งกลับมา ดันโซแนะนำให้ฉันกำจัดเธอ… ฉันน่าจะฟังเขา” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 หายใจเข้าลึก ดวงตาของเขาดูเคร่งขรึมมากขึ้น: "เธอรู้มากเกินไปแล้ว!"
“ฮึ่ม ไม่ใช่ว่าคุณไม่อยากกำจัดผมหรอก แต่หาโอกาสที่ผมออกจากโคโนฮะไม่ได้มากกว่า” นัตสึฮิโกะยิ้มแล้วพูดว่า "ถ้าผมออกจากโคโนฮะ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าดันโซกับคุณจะดูโชคลาภมหึมาของตระกูลอุจิวะที่ผมใช้อยู่รึเปล่า?"
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 มุมปากกระตุก ใช่ ไม่ว่าเขาหรือดันโซต่างก็คิดหาวิธีที่จะหลอกนัตสึฮิโกะออกจากหมู่บ้าน
นัตสึฮิโกะกลับแสดงเป็นแมวเชื่องในหมู่บ้าน และไม่ได้ก้าวออกจากหมู่บ้านแม้แต่ก้าวเดียว
“เธอมาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้ตระกูลอุจิวะงั้นเหรอ?” โฮคาเงะรุ่นที่ 3 หายใจเข้าลึก “ดวงตาคู่นั้นของเธอคงสะสมความแข็งแกร่งไว้เพื่อล้างแค้นด้วยใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่ ผมไม่ได้สนิทกับตระกูลอุจิวะขนาดนั้น และเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของผมที่ไม่เปิดเผยเพราะมีเหตุผลอื่น” นัตสึฮิโกะหัวเราะเบาๆ: “ที่จริง ถึงอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่การกระทำของอิทาจิที่ฆ่าล้างตระกูลอุจิวะนั้นช่วยเหลือผมอย่างมาก”
“เพราะการกระทำของเขาที่ทำให้ผมได้รับโชคลาภมหึมานี้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้น ผมถึงได้มีความสุขทุกวัน…”