ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 42 - มนุษย์ครึ่งสัตว์ร้าย?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 44 - นายน้อยนิค

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 43 - การบังคับท้าประลอง


คนที่พูดประโยคนั้นออกมา เป็นเด็กวัยรุ่นผิวขาวคนหนึ่ง มีผมสีน้ำตาลอ่อน ยาวจนสามารถมัดเป็นทรงหางม้าไว้ที่ด้านหลังได้ หน้าตาดูหล่อเหลา และน่าจะดึงดูดใจสาว ๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจมูกโด่งยาวที่เข้ากับปากที่ได้รูปนั่น และในตอนนี้ เขากำลังเดินมุ่งหน้ามายังมุมที่เดวิดนั่งกินอาหารอยู่แล้ว

ตอนที่ประโยคนั้นดังขึ้น เดวิดกำลังยกช้อนส่งอาหารเข้าปากอยู่ เสียงที่ดังขึ้นมานั้น ทำให้เขาชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็ทำเหมือนว่าไม่ได้ยินอะไรเลย ส่งอาหารคำนั้นเข้าปากไป ก่อนจะรีบกินอาหารที่เหลืออย่างต่อเนื่องจนหมด ระหว่างที่เคี้ยวคำสุดท้ายอย่างช้า ๆ  เขาหลับตาลงซึมซับรสชาติของอาหาร และพลังงานที่กระจายออกไปทั่วร่างอย่างเพลิดเพลิน

หลังจากถอนหายใจออกมาด้วยความอิ่มเอม เขาลืมตาของตัวเองขึ้น แล้วก็ต้องผงะไปเล็กน้อย เมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนกำลังยืนอยู่ตรงข้ามของโต๊ะที่เขานั่งอยู่พอดี และกำลังจ้องมองมาอย่างโกรธเกรี้ยว ด้านหลังของเด็กหนุ่มคนนั้น ยังมีนักเรียนชายอีก 3 คนยืนอยู่ด้วย ทั้งหมดกำลังจ้องมาที่เดวิด เหมือนกำลังอยากจะเข้ามาขย้ำเขาให้แหลกคามือ

1 ในนักเรียน 3 คนนั้น เป็นเด็กหนุ่มที่มีร่างกายขนาดมหึมา ต้นแขนของเขาน่าจะใหญ่กว่าต้นขาของนักเรียนคนอื่น ๆ ยืนอยู่ตำแหน่งด้านหลังของ ‘นิค’ ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดผู้ซื่อสัตย์

ส่วนอีกคน ก็มีร่างกายของคนที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ส่วนสูงน้อยกว่าเด็กหนุ่มร่างยักษ์นั่นเล็กน้อย แต่หัวของเขานั้นไม่มีผมตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นเลยหรือ?

คนสุดท้าย มีลักษณะของหนอนหนังสือผู้อ่อนแอ แต่ถ้าสังเกตดูให้ดี จะพบว่าเขานั้นมีสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ มันกลอกมองไปรอบ ๆ อย่างไม่อยู่นิ่ง ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าเขานั้นกำลังวางแผนที่จะทำอะไรอยู่กันแน่

เดวิดนั้นตกใจจริง ๆ ก่อนหน้านี้เขากำลังอยู่ในภวังค์ของความรู้สึก ตั้งใจรับรู้รสชาติของอาหาร และพลังงานที่ส่งออกมาฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง ไม่ได้สนใจกับสภาพแวดล้อมรอบข้างเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นกลุ่มคนมายืนจ้องอยู่ด้านหน้า เขาได้แต่ขมวดคิ้วแน่น และเมื่อยิ่งสังเกตว่ากลุ่มคนพวกนี้กำลังอยู่ในอาการโกรธ คิ้วเขาก็เลิกขึ้นสูง แล้วก็คิดออกในทันที นั่นทำให้สีหน้าของเขากลับมาอยู่ในสภาพผ่อนคลายอีกครั้ง

“ฉันกินอิ่มแล้วพอดี พวกนายใช้โต๊ะนี้ต่อได้เลย” เดวิดเข้าใจว่ากลุ่มนักเรียนที่อยู่ด้านหน้าของเขา มายืนกดดันเพื่อจะใช้โต๊ะที่เขานั่งอยู่ ดังนั้นเมื่อเขาลุกขึ้น จึงผายมือทำท่าเชื้อเชิญ แล้วก็พาตัวเองออกจากโรงอาหารนั้นทันที ไม่ได้สนใจพวกเขาอีก นี่เป็นวิธีรับมือกับคนประเภทนี้ได้ดีที่สุด แค่อย่าไปให้ความสนใจอะไรพวกเขาก็พอแล้ว

สีหน้าของนิคเปลี่ยนไปเล็กน้อย ขณะที่มองตามหลังของเดวิดซึ่งกำลังเดินออกจากโรงอาหารไป และสีหน้าของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้

แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรลงไปเพราะความโกรธ หนอนหนังสือคนนั้นรีบเข้ามากระซิบที่ข้างหู ทำให้สีหน้าของนิคเริ่มผ่อนคลายลง และเปลี่ยนกับไปเป็นยิ้มเยาะออกมาอย่างหยิ่งผยอง ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รอยยิ้มของเขานั้นดูชั่วร้ายไม่น้อยทีเดียว

“รอเดี๋ยว” นิคส่งเสียงเรียกไปที่เดวิด ซึ่งกำลังจะถึงทางออกของโรงอาหารอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงเรียกมาจากทางด้านหลัง สีหน้าของเดวิดก็กลายเป็นเคร่งขรึม เหลือบกลับมามองที่เด็กหนุ่มผิวขาวคนนั้นด้วยหางตา

“มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงของเดวิดนั้นไม่ดีนัก เห็นได้ชัดว่ามันแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

แต่นิคไม่ได้แสดงอาการโกรธออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว เขามีแผนบางอย่างอยู่ในใจแล้ว “นายหน้าตาคุ้น ๆ” ขณะที่พูด ก็ใช่นิ้วชี้เคาะที่ขมับของตัวเอง เหมือนว่ากำลังนึกทบทวนความทรงจำของตัวเองอยู่

“โอ้! ฉันจำได้แล้ว เป็นนายนี่เอง นายถูกครูฝึกส่งเข้าไปที่ห้องพลังงานพร้อมกับพวกเรานี่นา” เขาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

‘หือ?’ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะเดวิดรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกส่งเข้าไปพักฟื้นในถังพลังงาน แต่! ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ต่อให้ถูกส่งเข้าไปพร้อมกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นพวกเดียวกัน หรือต้องกลายเป็นคนคุ้นเคยกันเลยนี่?

“อ้อ! แล้วยังไงต่อล่ะ?” เดวิดตอบกลับไปด้วยเสียงแข็ง ๆ ไม่เห็นประโยชน์ของการสนทนานี้เลยแม้แต่นิดเดียว

รอยยิ้มของนิคแข็งค้าง ก่อนที่สีหน้าจะกลายเป็นเย็นชา “ตามกฎที่สถาบันตั้งเอาไว้ นักเรียนสามารถทำการขอท้าประลองเชิงบังคับกับนักเรียนคนอื่นได้อาทิตย์ละครั้ง และตราบใดที่ระดับพลังของทั้งคู่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก นักเรียนที่ถูกท้าประลองจะต้องรับคำท้า ไม่สามารถปฏิเสธได้” รอยยิ้มเย็นชาของเขานั้นกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่กล่าวคำพูดเรื่องพวกนี้ออกมา เขาจินตนาการว่ากำลังทุบตีเดวิดอยู่อย่างเมามัน

ในกลุ่มคนที่ถูกครูฝึกส่งเข้าไปที่ห้องทดลองพลังงาน เขาได้ท้าประลองด้วยไปแล้ว 2 คน แน่นอนว่าเขาเป็นฝ่ายชนะ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ชัยชนะที่ได้มาง่ายมากนักก็เถอะ แต่มันก็ทำให้เขานั้นมั่นใจในตัวเองมากพอสมควรทีเดียว

นิคเป็นนักเรียนพรสวรรค์ระดับ 3 ดาว นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาสามารถเอาชนะการประลองทั้ง 2 ครั้งนั้นมาได้ ความเร็วในการฝึกฝนของนักเรียนพรสวรรค์ระดับ 3 ดาวนั้นสูงกว่าระดับ 2 ดาวเกือบเท่าตัว การฝึกเพียง 1 วันจะให้ผลเท่ากันนักเรียนพรสวรรค์ระดับ 2 ดาวฝึกอย่างหนัก 2 วัน และนั่นก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดเสียด้วย

อันที่จริงแล้ว เขาได้เริ่มเลือกคู่มือการฝึกฝนมาใช้ตั้งแต่เมื่อ 2 วันก่อนแล้ว เมื่อรวมผลของการแช่ในถังพลังงาน พรสวรรค์ และเวลาในการฝึกของเขา ความก้าวหน้านั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก อัตราการหมุนเวียนเลือดของเขาในตอนนี้ ถึงระดับ 20 รอบต่อนาทีเรียบร้อยแล้ว มันสามารถหมุนเวียนครบ 1 รอบได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 วินาทีเท่านั้น นี่เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในคืนที่ผ่านมา เขาสามารถเพิ่มความเร็วจาก 12 รอบเป็น 20 รอบต่อนาทีได้สำเร็จ เขากำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยทีเดียว

นั่นทำให้เขามีความมั่นใจอย่างที่สุด ว่าในหมู่นักเรียนรุ่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าอาจจะเอาชนะไม่ได้หมดทุกคน แต่เขาน่าจะเอาชนะนักเรียนส่วนใหญ่ได้อย่างแน่นอน และทำให้เขาจ้องมองเดวิดราวกับจ้องมองเหยื่อที่กำลังจะล่า แม้จะพยายามซ่อนรอยยิ้มชั่วร้ายของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว แต่มันก็ยังปรากฏให้เห็นอยู่ที่มุมปากอย่างชัดเจน

คิ้วของเดวิดขมวดแน่น สีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก ถึงแม้ว่าเขาจะเปิดคู่มือนักเรียนของตัวเองอย่างผ่าน ๆ แต่ก็เคยเห็นหัวข้อนี้ผ่านตาอยู่บ้าง และแน่ใจว่านิคไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน เขาแค่สงสัยว่าทำไมนิคแน่ใจนัก ว่าเขาเป็นนักเรียนคนที่ถูกนำตัวส่งไปแช่ในถังพลังงานด้วย

แล้วความคิดของเขาก็ถูกขัด เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวของเขาโดยตรง

“นิคยื่นคำขอท้าประลองมาที่คุณ ต้องการจะตอบรับหรือไม่? ใช่ หรือ ไม่ใช่?” มันเป็นเสียงที่ไร้อารมณ์ของฮาเซลนั่นเอง

ในขณะที่เขากำลังจะตอบตกลงไปตามสัญชาตญาณ เพราะดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

“หืม?” ก่อนที่เขาจะได้ตอบกลับไป สัญชาตญาณอีกส่วนหนึ่งรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ประโยคที่เขาได้ยินนั้นไม่ถูกต้อง!

เขารีบถาม AI ซ้ำอีกครั้ง เป็นการตรวจสอบให้แน่ใจ และพบว่ามันผิดปกติจริง ๆ

‘เขายื่นคำขอท้าประลอง แทนที่จะเป็นบังคับท้าประลองโดยตรง คิดจะหลอกฉันอย่างนั้นหรือ? แสดงว่าเขาใช้การบังคับท้าประลองของอาทิตย์นี้ไปกับใครบางคนแล้ว หรือไม่ก็อยากจะเก็บเอาไว้ใช้กับใครบางคนโดยเฉพาะ คิดว่าฉันเป็นคนโง่หรือยังไง?’ โดยปราศจากความลังเล เขาปฏิเสธคำขอท้าประลองไปในทันที และไม่รอให้นิคกล่าวอะไรออกมาอีก เขาเดินออกจากโรงอาหารอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่เขาจะทันได้เดินลับตาไป ยังได้ยินเสียงคำรามตามมาจากทางด้านหลัง เหมือนจะเป็นคำว่า ‘ขี้ขลาด’ อะไรนี่แหละ

แต่เดวิดก็แค่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้น “ทำไมจะต้องทำให้ตัวเองยุ่งยากด้วย ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงมันเสียเท่านั้น”

.....................

ย้อนกลับมาที่ในโรงอาหาร

สีหน้าของนิคกำลังเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมา ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเขากำลังแปรปรวนเป็นอย่างมาก แต่ทั้งหมดน่าจะเป็นในทางที่ไม่ดี

จนในที่สุด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ มันเต็มไปด้วยความโกรธ และขุ่นเคืองใจ ทั้ง ๆ ที่ได้พยายามใช้เล่ห์กลทางจิตวิทยาออกไปแล้ว มันไม่น่าจะล้มเหลวได้เลย ทำไมเดวิดถึงได้รู้ทันเขา

ทำไมเจ้าคนธรรมดาที่ไม่มีแม้แต่ความกล้าอย่างนั้น ถึงได้มีสติมากพอที่จะปฏิเสธคำท้าประลองของเขาได้ คู่ประลองก่อนหน้านั้นตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก จากคำพูดกล่าวนำของเขา อะไรที่ทำให้เดวิดต่างออกไป? เขาทำท่าเหมือนเกือบจะยอมรับการประลองแล้ว แต่ก็ปฏิเสธในท้ายที่สุด

ก่อนที่เขาจะได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เสียงของหนอนหนังสือเจ้าเล่ห์นั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง มันนุ่มนวลแต่ชัดเจนมาก “หัวหน้า ในเมื่อเจ้าหมอนั่นมองออก ทำไมท่านไม่ให้สตราเวอร์ท้าประลองกับเขาแทน..” นิ้วของเขาชี้ตรงไปยังเด็กวัยรุ่นร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างของนิค สื่อความหมายว่าให้ ‘สตราเวอร์’ บังคับท้าประลองกับเดวิดแทน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด