ตอนที่แล้วตอนที่ 73 รู้สึกผูกพันขึ้นมาเสียแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป ตอนที่ 75 หญิงสาวในผ้าคลุม

ตอนที่ 74 เพื่อร้านที่กำลังจะใหญ่โตขึ้น


ตอนที่ 74 เพื่อร้านที่กำลังจะใหญ่โตขึ้น

เมื่อเปิดร้านจนถึงช่วงเย็นลูกค้าก็มาถึงทีละคน มีลูกหาบจากท่าเรือที่มาที่นี่แล้วเมื่อตอนเที่ยง ๆ กระจายอยู่สองสามคน พวกนี้ก็ชายโสดทั้งนั้น ที่บ้านไม่มีเมียดูแลมันง่ายและสะดวกที่จะมานั่งกินที่ร้าน

นอกจากนี้ยังมีคนละแวกใกล้เคียงที่ ชุนหยาเคยแจกใบปลิว ลูกสะใภ้บางคนมาพร้อมกับกล่องอาหารและผู้ชายบางคนพาลูก ๆ มาด้วย

ในบรรดาลูกค้าที่มากลุ่มใหญ่ก็เป็นครอบครัว เพราะตอนที่ เพราะตอนที่ชุนหยาไปแจกใบปลิวเธอบอกว่า ที่ร้านนี้มีห้องอาหารส่วนตัวไว้รับรองพวกเขา

แต่สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือนักเรียนหลายคนที่เป็นลูกค้าเก่าจากร้านเดิม ตั้งใจมาที่นี่ในวันนี้ด้วย เมื่อเห็นซือต๋า และคนอื่น ๆ พวกเขาก็มีความสุขเช่นกัน “ยินดีด้วยนะครับเฒ่าแกซือ เรามาที่นี่เพื่อให้กำลังใจท่านและตั้งใจมาอุดหนุนฝีมือการทำอาหารของท่าน”

ซือต๋า ก็มีความสุขเช่นกันและทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่นให้เข้ามานั่งลงและตัดไข่ชาสองสามฟอง และเต้าหู้ที่เขาทำเมื่อตอนเที่ยง เสิร์ฟให้พวกเขา

“เฒ่าแก่ซือยังใจดีเหมือนเดิมเลย”

และมีบางคนพูดว่า : “ท่านรู้ไหมว่าเฒ่าแก่หลินเจ้าของร้านที่ท่านเคยเช่า ก็เปิดร้านขายขนมด้วย แต่รสชาตินั้นเทียบไม่ได้กับของท่านเลยเราจึงตังใจมาที่ร้านใหม่ของท่านเพราะอยู่ไม่ไกลมากด้วย”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าสมควรที่เจ้าของร้านคนนั้นเปิดร้านแล้วขายไม่ดีนัก แต่ซือต๋าก็ยังคงแสร้งทำเป็นสงบและพูดว่า : “เฮ้~ ช่างเขาเถอะทุกครอบครัวมีดีในตัวเอง ขอบคุณพวกท่านที่ตั้งใจมาหากันในวันนี้กินและดื่มให้อร่อยดีกว่า แค่บอกข้าว่าท่านอยากกินอะไร”

หลังจากทักทายลูกค้าเก่า ซือต๋าก็กลับไปที่สวนหลังบ้าน แต่ นางจาง ยังยืนกรานที่จะเล่าเรื่องซุบซิบของเกี่ยวกับครอบครัวของเจ้าของร้านหลินให้กับคนอื่นฟัง

และโดยธรรมชาติแล้วสำหรับอาหารค่ำไม่ได้วุ่นวายเท่าตอนเที่ยงแต่จำนวนลูกค้าที่อยู่ในร้านนี้ก็ไม่เลว มีคนไม่กี่คนที่ต้องการไวน์เช่นกันและซือต๋าก็เตรียมไว้แล้วเช่นกัน หากแต่เขาต้องระวังการเก็บภาษีด้วย

เมื่อถึงเวลาที่แขกคนสุดท้ายจากไป บนท้องฟ้าก็มีดวงจันทร์แล้ว     ถ้าร้านของพวกเขาต้องขายจนถึงเวลานี้จริง ๆ ทุกวัน การกลับบ้านก็ไม่มีปัญหาอีกแล้ว เพราเจิ้งซานฝูและครอบครัวของเขา สามารถดูแลทำความสะอาดหรือรอให้แขกรับประทานอาหารและจ่ายเงินได้

ซือต๋ากำลังมองไปที่ชุนหยาและนางจาง วันนี้เป็นวันที่ยาวนานจริงๆ ตอนนี้เขาเหนื่อยมาก ดังนั้นแค่ขอให้ถึงบ้านโดยเร็วก่อน

เมื่อพวกเขามาถึงหมู่บ้านพวกเขาไปที่บ้านเก่าเพื่อรับเถี่ยโถวและส่งโถ่วจิน  ชายชราซือ ต้องการถามซือต๋า เกี่ยวกับการค้าของเขาในวันนี้ แต่ซือต๋าตอบเพียงไม่กี่คำเพราะเหนื่อยมาก

นางไค่อดไม่ได้ที่จะกลอกตาและพูดว่า “คุณงามความดี!”

แต่ซือต๋าก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน ทั้งหมดเหนื่อยราวกับสุนัขที่ตายแล้ว แต่สุนัขตัวจริงนั้นตื่นเต้นมากที่ได้พบเจ้านายของมัน และมันก็ไม่ได้เจอเจ้านายของมันเลยตลอดทั้งวัน มันกระโดดหาชุนหยาแต่ชุนหยาไม่สนใจมันเธอต้องการอาบน้ำและพักผ่อน พรุ่งนี้เธอจะไม่ไปที่ร้านอีกเด็ดขาด

……………

และทุกเช้าของชุนยะก็จะมาพร้อมกับเสียงหัวเราะแหลมสูงของป้าอ้วนเสมอ เนื่องจากเธอต้องมาส่งผักเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 8 กำ เสียงหัวเราะของป้าอ้วนดูเหมือนจะสูงขึ้นสองเดซิเบลด้วยความสุข ชุนหยาทำอะไรไม่ได้นอกจากตื่นมารับผักและฟังเสียงป้าอ้วน

เมื่อชุนหยาแต่งตัวช้า ๆ ยังไม่ออกมา ซือต๋าก็กินข้าวแล้ว และเขาก็เรียกลูกสาวของเขา : “ชุนหยา รีบไปอาบน้ำ กินข้าวแล้วไปที่ร้านกันต่อเถอะได้เวลาแล้ว”

“ท่านพ่อพูดเรื่องอะไร ข้าไม่ไปหรอก” ชุนหยา ตะโกนออกมาจากห้องของเธอ

“ล้อเล่นนะ พ่อก็พูดไปอย่างนั้นบางทีเจ้าอาจเปลี่ยนใจ” ซือต๋าคาดว่าเธอคงจะเหนื่อยมากเมื่อวานนี้ และอาจเป็นเรื่องยากที่จะเกลี้ยกล่อมให้ ชุนหยาไปในวันนี้

ดังนั้นเขาจึงต้องเล่นใหญ่ขึ้นเพื่อโน้มน้าวชุนหยา: “แม่ของเจ้าบอกว่า ให้เจ้าไปช่วยวันอื่นก็ได้ แล้วจะให้เงินค่าขนมเพิ่มอีก 1 เดือน แก่อู๋ฟางอยู่คนเดียว…”

ก่อนที่พ่อของเธอจะพูดจบ ชุนหยาก็เดินมาหยิบข้าวต้มเย็น ๆ บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม และเธอก็จิบไปพร้อมกับพูดอย่างคลุมเครือว่า : “ไม่ใช่ว่าข้าเห็นแก่เรื่องเงินนะ แต่ข้ากังวลเกี่ยวกับหวู่ฟาง ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไปวันสุดท้าย ข้าแทบหมดแรงแล้ว ข้าอายุแค่แปดขวบเองท่านพ่อรู้ไหม?

“พ่อรู้ พ่อรู้ ดื่มเร็วๆ” ซือต๋า เร่งลูกสาว

ฉื้อโถว ผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรู้สึกว่าพ่อของเขาชนะแล้ว เพราะเมื่อที่พ่อของเขาอ้างว่านางจางต้องการให้ชุนหยาไปที่ร้านอีกหนึ่งวันนั้น นางจางไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยแม้แต่น้อย ในเวลานี้นางจางกำลังจัดผักในสวนหลังบ้านไม่รู้อะไรเลย

หลังจากที่พวกเขารับประทานอาหารเช้าเสร็จ นางจาง เห็นว่าชุนหยากำลังจะไปเช่นกัน และยิ้มให้เธออย่างมีเลศนัย ทำให้นางจาง รู้สึกงุนงงเล็กน้อย เธอจึงถามชุนหยาว่า: “เจ้ายิ้มแบบนี้ให้แม่ทำไม หมายความว่ายังไง”

ซือต๋า ผู้สำนึกในความผิดกลัวความความจะแตกได้กล่าวว่า : “รีบไปเถอะ ต้องรีบไปเตรียมอาหารกลางวันเดี่ยวจะสายเกินไป”

วันนี้นางจางต้องอยู่บ้านและไม่สามารถทิ้งเรื่องทั้งหมดของครอบครัวนี้ให้กับคนสองสามคนในบ้านเก่าโดยไม่สนใจอะไรไม่ได้อย่างน้อยเธอต้องหยุดมาดูแลพวกเขาบ้าง

วันนี้มีคนน้อยกว่าหนึ่งคนในร้านอาหาร แต่เสียงก็ยังดังมากเพราะยังมีไก่อยู่สามสิบตัวที่ถูกเตรียมไว้ปรุงอาหาร

หลังจากมาถึงร้านและขนผักออกแล้ว ซือต๋า ก็ไปส่งไก่ หลังจากเปิดร้านเต็มเวลา 2 วันแล้ว กระบวนการก็ดำเนินการจัดเตรียมเป็นไปอย่างราบรื่น ชุนหยานำปากกา หมึก กระดาษและหินบดหมึก และวางกระดาษ ในขณะที่ยังเช้าอยู่เธอวางแผนที่จะเขียนขั้นตอนมาตรฐานสำหรับกิจการทั้งหมดในร้าน เธอคิดว่ามันน่าจะทำให้เหมือนกับร้านอาหารในยุคหลัง ๆ มีเมนูอาหารที่ชัดเจนและพนักงานในร้านต้องกินก่อนจะเปิดร้าน ไม่งั้นจะเหมือน 2 วันก่อนที่ทุกคนกินอาหารไม่เป็นเวลา  ประการที่สองเธฮต้องการเขียนเกี่ยวกับการแบ่งงาน ฉื้อโถวและโถ่วจิน ต้องหมุนเวียนตำแหน่งในการเสิร์ฟและคิดเงินรวมไปถึงต้อนรับลูกค้า

ซือต๋า พูดหลายครั้งว่าเขาต้องกลับไปทำฟาร์มจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ร้านนี้จะเป็น ส่งมอบให้กับฉื้อโถวในอนาคต ส่วนโถ่วจินจะทำงานที่ร้านนี้ต่อไปหรือไม่ในอนาคตทั้งหมดขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเขาเอง แต่ท้ายที่สุดเขาก็เป็นญาติของครอบครัวยังไงก็ต้องฝึกและทำให้ได้ทุกอย่างในร้าน

สำหรับหวู่ฟาง และเจิ้งซานฝู ต้องดูแลพวกเขามากกว่านี้ ทุกคนต้องมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นบริกรควรคล่องแคล่ว ในการชักชวนและต้อนรับลูกค้า และเมื่อลงตัวก็ยังช่วยเหลือผู้ที่มีงานยุ่งได้อีกด้วย

ย่าหวู่และอาฟางมีหน้าที่ทำความสะอาดและเตรียมวัตถุดิบครัวด้านหลังร้าน พวกเขาจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับหน้าร้าน

ซือต๋า รับผิดชอบการทำอาหารและการประสานงานที่สำคัญอื่น ๆ ในเวลาที่จำเป็น

นอกจากนี้เก็ไม่ควรปิดร้านดึกเกินไป ควรมีเวลาเปิดปิดที่แน่นอน ชุนหยา รู้สึกว่าคนเราไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับการหาเงินเพียงอย่างเดียวการพักผ่อนก็ยังสำคัญมาก

ดังนั้นเธอจึงคิดว่าหลังจากตอนเย็นที่ร้านปิด แล้วหากมีลูกค้าเหลืออยู่สองสามคนพ่อของเธอจะกลับบ้านก่อนและฝากเรื่องนี้ไว้กับ เจิ้งซานฝูและเจี้ยงเซี่ยเพราะพวกเขาทั้งคู่ยังเด็กและอีกคนเป็นชายวัยกลางคน ไม่น่าจะมีปัญหากับการปิดประตูร้านในเวลากลางคืน สำหรับเงินที่เก็บได้จากลูกค้า จะนำมันไปเก็นในกล่องลิ้นชักสำหรับเก็บเงิน

ตอนนี้ความไว้วางใจต่อกันและกันเป็นเรื่องง่าย ๆ มิฉะนั้น ในอนาคตถ้าหารร้านมีขนาดใหญ่ขึ้นจะลำบากหากไม่สามารถไว้วางใจลูกจ้างได้

สุดท้ายแล้วบัญชีของร้านนี้ก็ยังต้องได้รับการจัดทำในแต่ละวันอยู่ดี ทุกวัน ๆ จะมีสมุดจดเล็ก ๆ จดรายจ่ายและรายรับ บางวันเพราะคนซื้อน้อยบัญชีก็อาจจะถูกเขียนอย่างง่าย ๆ ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็จะสามารถทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของรายได้อย่างชัดเจน

และตอนนี้ยังมีค่าแรงของคนงาน 6-7 คน ค่าน้ำมัน เกลือ ซอส น้ำส้มสายชู การซื้อและการบริโภคประจำวันต้องคำนวณอย่างชัดเจนเพื่อวางรากฐานสำหรับการพัฒนาที่ดีขึ้นในอนาคต ดังนั้น ชุนหยา จึงตัดสินใจทำบัญชีด้วยตนเอง จำเป็นต้องมีตารางหลักสามตารางที่จะต้องแสดงรายการและสรุปค่าใช้จ่ายและรายได้ทั้งหมดตามหลักของบัญชีขั้นพื้นฐาน แล้วค่อยทำการสร้างบัญชีรายเดือนและบัญชีรายปีต่อไป

ในขณะนี้ ชุนหยากำลังเขียนบัญชีอย่างต่อเนื่องและเมื่อเธอรู้สึกว่ามีเสียงดัง เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นลูกค้าที่มาทานอาหารเย็นทีละคน เธอรีบเก็บข้าวของบนโต๊ะของเธอและไปที่สวนหลังบ้าน พึมพำขณะที่เธอเดินไป “ทำไมฉันถึงทุ่มเทขนาดนี้! เวลาผ่านไปเร็วมากจริง ๆ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด