ตอนที่แล้วตอนที่ 69 สี่ยอดสามชีพจร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 71 รังแกกันเกินไป

ตอนที่ 70 กำลังมหาศาล


เฉินเฟยใช้เวลาสองชั่วยามในการอ่านตำราในมือ เฉินเฟยลูบตาที่แห้งผาก วางตำราในมือลงและครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

พลังเข้าใจต้นกำเนิดเป็นวิชาที่ศิษย์ภายในสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวต้องฝึกฝนให้สำเร็จเท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้รับมรดกแท้จริงของสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว

พลังเข้าใจต้นกำเนิดมีทั้งหมดห้าขั้น ตอนนี้ในมือเฉินเฟยมีเพียงขั้นหนึ่ง แต่เพียงแค่ขั้นหนึ่งก็เทียบได้กับเคล็ดกลืนเมฆาที่เคยซื้อ

กล่าวได้ว่าเคล็ดตระหนกกลืนกินของเฉินเฟยแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะการเปิดข้อจำกัดการกินโอสถ พลังเข้าใจต้นกำเนิดจะอ่อนด้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม พลังเข้าใจต้นกำเนิดมีห้าขั้น ขั้นต่อไปจะยากกว่าขั้นหนึ่งและผลของขั้นต้องไปจะดีกว่าขั้นหนึ่งเมื่อพลังเข้าใจต้นกำเนิดถึงขั้นสาม คุณสมบัติพิเศษของวิชายุทธ์จะเกิดขึ้น

ใช่ มันเหมือนกับคุณสมบัติพิเศษที่ได้รับจากการฝึกเคล็ดชำระใจ

วันนี้เฉินเฟยได้เข้าใจแล้วว่าเกณฑ์ตัดสินวิชายุทธ์ที่ดีคือหลังจากฝึกฝนแล้วต้องเกิดคุณสมบัติพิเศษ คุณสมบัติเหล่านี้ไม่ง่ายเหมือนโรยไอซิ่งบนเค้ก แต่มันเป็นพลังที่ก้าวหน้าไปอีกระดับของวิชายุทธ์

เช่นเดียวกับคุณสมบัติช่วงเวลาของเคล็ดชำระใจที่ทำให้ความแข็งแกร่งของเฉินเฟยเพิ่มขึ้นมามาก

เมื่อพลังเข้าใจต้นกำเนิดถึงขั้นสามจะได้รับคุณสมบัติพิเศษแรกคือกำลังมหาศาล ในขั้นที่ห้าจะได้รับคุณสมบัติพิเศษที่สองคือกระดูกเหล็ก!

เฉินเฟยมีเพียงวิธีฝึกฝนขั้นหนึ่ง หากต้องการขั้นต่อไปจะต้องฝึกขั้นหนึ่งให้สำเร็จเสียก่อน

ระดับนั้นเข้มงวดมาก ค่าใช้จ่ายของพลังเข้าใจต้นกำเนิดพูดได้เลยว่าฟ้าสูงดินต่ำ

เฉินเฟยนั่งสมาธิ รวบรวมพลังภายในฝึกฝนพลังเข้าใจต้นกำเนิด ในช่วงแรกยังมีสะดุดบ้าง แต่ผ่านไปครึ่งชั่วยามเฉินเฟยก็ใช้พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นหนึ่งได้อย่างเต็มที่

[วิชายุทธ์: พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นหนึ่ง(1/1000)]

“หืม? ระดับความชำนาญไม่ได้แบ่งเป็นระดับเริ่มต้นแต่แบ่งเป็นห้าขั้น?”

เฉินเฟยมองระบบอย่างประหลาดใจ เฉินเฟยคิดว่าพลังเข้าใจต้นกำเนิดแต่ละขั้นจะเป็นเหมือนเดิม สิ่งที่ปรากฏในขณะนี้จึงเหนือความคาดหมาย

บางทีมันอาจเกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าพลังเข้าใจต้นกำเนิดของเฉินเฟยไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ หากได้ฉับบสมบูรณ์มาแล้วอาจเข้าสู่ระดับรู้แจ้ง

“ผสานเคล็ดตระหนกกลืนกิน!”

[วิชายุทธ์: พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นหนึ่ง(693/1000)]

เฉินเฟยรู้สึกถึงความเข้าใจที่เกิดขึ้นในใจ เคล็ดตระหนกกลืนกินส่วนใหญ่ถูกทิ้งไปหลังการผสาน เหลือเพียงแก่นแท้บางอย่างเช่นการดูดซับโอสถกับความสามารถในการหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว

ในส่วนอื่นขึ้นอยู่กับพลังเข้าใจต้นกำเนิดเป็นหลัก ดังนั้นแม้แต่ชื่อวิชายุทธ์จึงไม่เปลี่ยนแปลง

“ค้นพบวิชายุทธ์ ต้องการใช้เงินหนึ่งพันตำลึงทำให้พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นหนึ่งเป็นแบบง่ายหรือไม่?”

“มันแพงขึ้นเรื่อยๆ!” เฉินเฟยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นราคา

“พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นหนึ่ง...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นหนึ่ง → เคล็ดตระหนกกลืนกิน!”

เป็นตุ๊กตาแม่ลูกดกอีกครั้ง เฉินเฟยเพียงใช้เคล็ดตระหนกกลืนกินก็สามารถฝึกฝนพลังเข้าใจต้นกำเนิดจากขั้นหนึ่งไปถึงจุดสูงสุด จากนั้นเขาจะฝึกขั้นสองและขั้นสามต่อไป

ในระหว่างทางกลับเมืองเซียนเมฆาเฉินเฟยได้อธิบายสถานการณ์ให้ฉือเต๋อเฟิงฟังและบอกให้ฉือเต๋อเฟิงมารับโอสถที่สำนักกระบี่เริ่มดวงดาว

แม้สิ่งนี้จะทำให้ฉือเต๋อเฟิงลำบากเล็กน้อยแต่มันปลอดภัยกว่า

เมื่อคนอื่นเห็นฉือเต๋อเฟิงไปรับโอสถที่สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวทุกวัน คนเหล่านั้นจึงไปต้องตรวจสอบอีกครั้ง ตอนนี้เฉินเฟยกลายเป็นศิษย์ภายในของสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว ผู้สนับสนุนพื้นหลังไม่มากก็น้อยจึงต้องยั้งมือไว้บ้าง

แน่นอนว่าถ้าต้องการมั่นคงอย่างสมบูรณ์ สถานะศิษย์ภายในนั้นยังห่างไกลจากความเพียงพอ เฉินเฟยจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์อีกชั้นหนึ่ง อย่างเช่นเฟิงซิงผู่ซึ่งเป็นอาจารย์เฉินเฟยในเวลานี้

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะเร่งรีบไม่ได้ เฉินเฟยยังไม่รู้ว่าเฟิงซิวผู่เป็นคนแบบไหน หากดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง ท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นการนำหมาป่าเข้ามา[1] และถ้าต้องการส่งออกไปมันจะไม่ยอมออก

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เฉินเฟยมาที่ลานบ้านเฟิงซิวผู่และพบว่ามีคนจำนวนมากรออยู่ที่นี่

หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองเฉินเฟย

“เจ้าเป็นศิษย์ใหม่ของอาจารย์หรือ? เจ้าชื่ออะไร?” จู่ๆมีคนมาหาเฉินเฟยและถามอย่างสงสัย

“เฉินเฟย ข้าเพิ่งเข้าร่วมเมื่อวาน โชคดีที่ได้รับการยอมรับจากอาจารย์” เฉินเฟยยิ้ม

“เช่นนั้นเจ้าก็เป็นศิษย์น้องเล็ก? ข้าชื่อลั่วจวิ้น เรียกข้าว่าศิษย์พี่ลั่วก็ได้”

ทันใดนั้นลั่วจวิ้นแสดงสีหน้ามีความสุข ในที่สุดเขาก็ไม่ใช่น้องเล็กอีกต่อไป

“ยินดีที่ได้พบศิษย์พี่ลั่ว!” เฉินเฟยมองลั่วจวิ้นอย่างตกตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังดีใจอะไร

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยินดีที่ได้พบศิษย์น้องเล็ก หากไม่เข้าใจอะไรก็มาถามข้าได้!” ลั่วจวิ้นแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยแล้วตบไหล่เฉินเฟย

“ขอบคุณศิษย์พี่ลั่ว!” เฉินเฟยส่ายหัวยิ้ม ลั่วจวิ้นคนนี้ดูเป็นคนที่ดีเลย

ครู่ต่อมาเฟิงซิวผู่ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน เขาแนะนำเฉินเฟยให้ทุกคนรู้จักจากนั้นเริ่มอธิบายการฝึกพลังเข้าใจต้นกำเนิด

ไม่รู้ว่าเป็นการดูแลเฉินเฟยหรือเพราะมีศิษย์ใหม่จำนวนมาก เฟิงซิวผู่ได้อธิบายเนื้อหาพลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นแรกเป็นหลัก

“พลังเข้าใจต้นกำเนิดเป็นวิชาฝึกฝนพื้นฐานของเราและเป็นรากฐานโดยเฉพาะ หากรากฐานไม่มั่นคงไม่ว่าจะฝึกอีกกี่ครั้งก็ฝึกฝนไม่ได้ หวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจ!”

หนึ่งชั่วยามต่อมา เฟิงซิวผู่ยืนขึ้นมองไปกลุ่มคนและพูดด้วยเสียงทุ้ม

“ปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์!” ศิษย์ทุกคนรีบตอบ

“คนอื่นไปได้ จากนี้อีกหนึ่งเดือนค่อยกลับมา ส่วนเฉินเฟยและกัวหลินซานให้อยู่ก่อน”

เฝิงซิวผู่โบกมือ ศิษย์คนอื่นกุมมือแล้วจากไป

“ท่านอาจารย์ ศิษย์น้องเล็ก”

กัวหลินซานเป็นชายร่างกำยำที่มีตาเสือเครามังกร เขากุมมือทางเฉินเฟย

“เฉินเฟยเพิ่งมาใหม่ เขาต้องมีคำถามมากมายในวิชายุทธ์ เนื่องจากอาจารย์มีเรื่องต้องทำมากมายจึงยากที่จะให้คำชี้แนะ ต่อจากนี้หากเฉินเฟยมีคำถามใดๆให้เจ้าตอบแล้วกัน”

เฟิงซิวผู้มองกัวหลินซานแล้วพูด เฟิงซิวผู่ค่อนข้างพอใจกัวหลินซาน ในบรรดาศิษย์มากมายที่เขายอมรับ กัวหลินซานมีระดับสูงสุดซึ่งอยู่ในระดับขัดเกลาไขกระดูกสูงสุด หลังขัดเกลาอีกระยะหนึ่งเขาจะสามารถทะลวงระดับขัดเกลาอวัยวะภายในได้

นอกจากนี้ยังฝึกฝนพลังเข้าใจต้นกำเนิดถึงขั้นสี่และเข้าถึงคุณสมบัติพิเศษกำลังมหาศาลแล้ว นั่นทำให้เขามีคุณสมบัติที่จะชี้แนะศิษย์ใหม่ได้

“อาจารย์โปรดวางใจ ข้าจะดูแลศิษย์น้องเล็กเป็นอย่างดี” กัวหลินซานแสดงรอยยิ้มเรียบง่ายที่จริงใจ

เฟิงซิวผู่พยักหน้า มองเฉินเฟยและพูด “พลังเข้าใจต้นกำเนิดขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ แต่ยังรวมถึงความขยันหมั่นเพียรเช่นกัน เจ้าต้องพยายามค้นหาความลับของวิชายุทธ์ เมื่อพบสิ่งใดที่ไม่เข้าใจก็ให้ไปถาม ด้วยวิธีนี้เจ้าจะก้าวหน้าในเส้นทางยุทธ์ได้”

“ขอบคุณท่านอาจารย์สำหรับคำสั่งสอน!”

เฉินเฟยก้มหน้ารับโดยรู้ว่าเฟิงซิวผู่ยอมรับและไม่ถือว่าเขาเป็นคนนอกแล้ว เพียงแต่ว่าความคาดหวังในตัวเฉินเฟยยังไม่สูงมากนัก

นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ท้ายที่สุดแล้วกับฐานกระดูกและอายุก็อยู่ตรงนั้น สำหรับคนทั่วไปมันเป็นอุปสรรคที่ไม่อาจก้าวข้ามได้

[1]การนำหมาป่าเข้ามาคือชักนำคนร้ายเข้ามาทำร้ายคนตัวเอง