นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 37 - วิธีที่ใช้ในการฝึกฝน
“มันสามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่าเหมือนกับจอมยุทธ์เลือกวิชาฝึกตน ถ้าคิดอย่างชาวตะวันออก หรือการเลือกเส้นทางในการเป็นอัศวิน ของชาวตะวันตก และไม่ว่าจะเลือกทางไหน หากมันเหมาะสมกับบุคลิกส่วนตัวของคนที่เลือก ถ้ามีคู่มือในการฝึกฝนที่ดี ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ต่างกัน”
ครูฝึกสตามอสแจกแจงต่อไปอีก
“ยกตัวอย่างง่าย ๆ สำหรับมือใหม่อย่างพวกเธอ หลังจากที่ประสบกับสภาวะคอขวดในครั้งแรก วิธีที่เลือกใช้กันมากที่สุด ที่จะทำลายสภาวะคอขวดก็คือ การรับภารกิจออกไปฆ่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับต่ำ ความคิดที่จะได้ฆ่าสัตว์ร้ายที่มนุษยชาติเกลียดชัง ความคิดที่จะได้ฆ่าสิ่งที่ทรงพลังและอันตราย จะทำให้นักเรียนใหม่ส่วนใหญ่นั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นั่นจะทำให้สามารถทำลายสภาวะคอขวดไปได้...แต่! ไม่ได้ต้องเป็นเช่นนั้นทุกคน นักเรียนอัจฉริยะบางคน อาจจะสามารถทำลายสภาวะนั้นได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ความคิดเท่านั้น ไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย
และสำหรับบางคน ที่เกิดมาเป็นคนโหดร้าย ชื่นชอบการทำร้ายทารุณคนอื่น การได้ลงมือทรมานใครบางคน ก็อาจจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจพุ่งทะยานได้ และมันก็ช่วยให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
เส้นทางที่สามารถเลือกเดิน มันมีทั้งที่เป็นแบบแผนดั้งเดิม และหลุดกรอบ หลุดแบบแผนไปเลยก็มี การทรมานนั่นก็อย่างหนึ่งแล้ว ยังมีการลงมือสังหารผู้อื่นอย่างเลือดเย็นอีก ทุกวิธีที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นได้ สามารถใช้เพิ่มความแข็งแกร่งได้ทั้งนั้น
หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ ที่ดูจะเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าจะส่งผลอะไรได้มากนัก เพราะบางคนทำมันเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว จนไม่มีความตื่นเต้นอะไรที่มากมายนัก แต่ลองคิดดู ถ้าส่งเด็กผู้ชายที่ยังบริสุทธิ์อยู่ เข้าไปในห้องที่มีสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยรออยู่สัก 3 คน ผ่านเวลาไปเพียงไม่กี่วัน เขาจะกลับออกมาด้วยความแข็งแกร่งขนาดไหน?” หลังจากจบประโยคสุดท้าย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กลายเป็นหมกมุ่นไปแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะนึกย้อนกลับไปตอนที่เขาทำสิ่งที่บอกใครไม่ได้ สมัยที่ยังหนุ่มกว่านี้
หลังจากปรับสีหน้าท่าทางของตัวเองแล้ว เขาก็ชี้มือออกมาอีกครั้ง “คำถามสุดท้าย เอาล่ะ เธอที่อยู่ตรงนั้น!”
เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งลุกขึ้น หลังจากได้ยินเสียงเรียกจากครูฝึก และเอ่ยถามขึ้น “ถ้าเกิดว่าอวัยวะใหม่ที่ใส่เข้าไปเสียหายขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นครับ?” คำถามของเด็กคนนี้ เป็นสิ่งเดียวกับที่เดวิดกำลังสงสัยอยู่ จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สีหน้าของครูฝึกสตามอสกลายเป็นดำคล้ำอีกครั้ง “ถึงแม้ว่าคำถามนี้จะฟังแล้วดูฉลาดดี แต่มันเป็นคำถามที่โง่มาก เธอไม่รู้หรือยังไง? ว่าถ้าหัวใจของเธอเสียหาย แล้วมันจะส่งผลอย่างไรต่อตัวเธอ? ก็ตายยังไงล่ะ”
หลังจากตอบคำถามเสร็จ เขาก็อธิบายต่อด้วยการกระทำทันที ยื่นนิ้วออกมาอยู่ในรูปของกรรไกร ตัดหลอดเลือดที่ต่อกับหัวใจที่สองในภาพร่างของมนุษย์ที่ยังยืนอยู่ข้าง ๆ ให้ขาดออกจากกันในทันที ภาพที่ปรากฏออกมานั้นสมจริงไม่น้อย เลือดทะลักออกมาจากหลอดเลือดที่ถูกตัดขาด ท่วมอยู่เต็มบริเวณช่องอกไปหมด และทำให้หัวใจทั้งสองเริ่มเต้นช้าลง ก่อนที่จะหยุดเต้นในที่สุด
สีหน้าของนักเรียนที่นั่งอยู่ในห้องซีดลงในทันที “นี่คือคำแนะนำจากฉัน เมื่ออยู่ในระหว่างการต่อสู้ ปกป้องหัวใจของตัวเองเอาไว้ให้ดี อย่างน้อย ๆ ก็ให้ดีกว่าปกป้องหัวของตัวเอง” หลังจากกล่าวจบ เขาก็วาดแขนออกมาอย่างรวดเร็ว ส่งนักเรียนทั้งหมดออกจากการเชื่อมต่อกับพื้นที่เสมือนในพริบตา
เดวิดก็หลุดออกมาจากเครือข่ายเสมือนเรียบร้อยแล้ว เขายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม หลังจากลองต่อยต้นขาของตัวเองแล้วรู้สึกเจ็บ ก็ถอนหายใจยาว แล้วพึมพำออกมา ‘เอาล่ะ กลับมาสู่โลกจริง ๆ ได้เสียที’
และโดยที่ไม่รอให้ครูฝึกสตามอสก้าวพ้นออกจากห้องนั้นไปก่อน ไนฮุนรีบหันมายิงคำถามกับเดวิดทันที
“ได้ข่าวว่านายไปแช่อยู่ในถังพลังงานตั้ง 4 ชั่วโมงเลยเหรอ มันรู้สึกเป็นอย่างไงบ้าง?” ใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม
เดวิดขมวดคิ้ว “4 ชั่วโมง? ฉันสลบไปนานขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย?” มันน่ากังวลอยู่ไม่น้อยเลยจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะชอบการนอนมาก แต่ไม่ได้อยากนอนแบบหมดสติไปอย่างนี้
ใบหน้าของไนฮุนยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว! แต่นายยังไม่ได้บอกเลยว่ารู้สึกยังไงบ้าง? ฉันได้ยินมาว่าใครที่ได้แช่ในถังพลังงานแล้ว ออกมาแล้วจะแข็งแกร่งมากขึ้นไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่หมดแรงจนสลบไปจากการฝึกฝน มันจะให้ผลที่ดีมากขึ้นไปอีก” เขาถามต่ออย่างตื่นเต้น
รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเดวิดในทันที ก้มลงมองมือที่กำเป็นหมัดแน่นของตัวเอง รับรู้ความรู้สึกของพลังที่กำลังหลั่งไหลออกมา และพยายามกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “ก็น่าพอใจอยู่นะ”
ไนฮุนเอามือตบหน้าผากของตัวเอง แล้วอุทานออกมา “ฉันว่าแล้ว ก่อนหน้าที่นายกับครูฝึกจะเข้ามา คนที่ถูกส่งไปที่ห้องทดลองพร้อมกับนาย พากันออกมาโชว์พลังของตัวเองกันใหญ่ พวกเขาแข็งแรงกว่าแต่ก่อนพอสมควรเลย พูดถึงเรื่องนี้ นายนี่โชคดีมากจริง ๆ ที่ยังไม่ได้มาเข้าเรียนสาย นึกภาพไม่ออกเลย ว่าถ้านายมาช้ากว่านี้ไปสักวินาทีหนึ่ง จะโดนลงโทษยังไงบ้าง แต่คงจะไม่เบาแน่นอน ฉันบอกได้เลย”
แต่คิ้วของเดวิดแข็งข้างตั้งแต่ไนฮุนพูดช่วงแรกจบแล้ว “ฉันไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกส่งไปที่ห้องทดลองหรอกหรือ?” เขาถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ใช่อยู่แล้ว!” ไนฮุนตอบกลับ พร้อมกับพึมพำเบา ๆ ‘นี่เขาคิดว่าตัวเองพิเศษนักหรือยังไง?’ และกล่าวออกมาต่อ “รวมนายด้วย ครั้งแรกก็มีทั้งหมด 8 คน ที่หมดสติ แล้วถูกครูฝึกพาตัวไปเป็นชุดแรก แต่หลังจากนั้น ครูฝึกก็กลับมาอีกรอบ แล้วก็พาไปอีก 2 คน รวมทั้งหมดก็ 10 คน ที่ถูกส่งไปแช่ในถังพลังงาน แต่ที่ฉันได้ยินมาอีก เขาพูดกันว่าค่าใช้จ่ายมันแพงมากไม่ใช่หรือ? ไอ้การลงไปแช่ในถังพลังงานนี่น่ะ?” เขาถามออกมาด้วยท่าทางที่เป็นปกติมาก
หลังจากได้ยินจำนวนที่ไนฮุนบอกออกมา คิ้วของเดวิดก็ขมวดแน่นขึ้นไปอีก ถ้ามีคนเป็น 10 มีพลังมากขึ้นเช่นเดียวกับเขา นี่ไม่ใช่ข่าวที่ดีเลย
และตอนที่ได้ยินคำถามในช่วงหลัง เขาก็จ้องไปที่ไนฮุนเขม็ง มีอารมณ์โกรธเขาขึ้นมาเล็กน้อย ที่ดันทำให้เขานึกถึงตอนก่อนที่จะออกมาจากห้องทดลองพลังงานนั่นขึ้นมาได้อีก
“50 คะแนนจีโนต่อครั้ง” เขากัดฟันตอบออกไป เช่นเดียวกันกับไนฮุนที่ถึงกับสำลักออกมา “50 คะแนนจีโน?? นั่นมันแพงเกินไปแล้ว! แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ถ้ามันทำให้นายแข็งแกร่งขึ้นมากในระยะเวลาสั้น ๆ มันก็น่าจะคุ้มค่าอยู่หรอก แล้วอีกอย่างหนึ่ง ฉันไม่รู้เลยจริง ๆ ว่านายเป็นคนที่ตั้งใจฝึกฝนขนาดนั้น ตั้งใจวิ่งมากจนลืมไปทุกอย่าง วิ่งจนกระทั่งสลบลงไปเลย ความมุ่งมั่นแบบนี้ ฉันนี่นับถือจากใจจริงเลย” สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม ตอนที่กล่าวออกมา
แต่เดวิดรับรู้ได้ถึงท่าทีล้อเลียนของเขา ที่แม้จะพยายามปกปิด แต่ก็ยังส่งออกมาทางสายตาด้วยเล็กน้อย “นายเชื่อฉันมั้ย ว่าตอนนี้ฉันดึงลิ้นของนายออกมาตัดได้เลยนะ?” นั่นทำให้ไนฮุนทำตัวเรียบร้อยอีกครั้ง วางท่าเป็นคุณชายที่มาจากตระกูลใหญ่ และเมื่อเห็นว่าเดวิดยังทำหน้าจริงจัง เขาก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องออกมา “ฉันจะไปที่หอสมุด จะลองไปเลือกวิธีการฝึกฝนสำหรับตัวเองดู แล้วนายล่ะ จะไปด้วยกันมั้ย?”
เดวิดคิดอยู่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น “อืม! ไปสิ ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าหอสมุดที่นี่เป็นยังไงบ้าง” แล้วทั้งสองคนก็พากันเดินออกจากเรียน แล้วมุ่งหน้าไปที่หอสมุดกันทันที
..........
“การฝึกของที่นี่เป็นยังไงบ้าง? ถ้าเทียบกับการฝึกของตระกูลเรา?”
เสียงของชายที่เกือบจะสูงวัยคนหนึ่งถามออกมา เขาแต่งกายอยู่ในชุดที่สะอาดตา นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ดูหรูหราราคาแพงในห้อง