ตอนที่ 68 กระบี่แรกเริ่ม
“เข้าร่วมได้หรือไม่?”
กลับมาที่ลานบ้านในเมืองเซียนเมฆา ฉือเต๋อเฟิงเห็นเฉินเฟยจึงถามขึ้นทันที
“สำนักกระบี่เซียนเมฆาไม่ให้โอกาส ได้เข้าสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวแทน” เฉินเฟยส่ายหัวและพูดคุยสั้นๆเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในขณะเดียวกันก็แสดงตราสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวของตัวเอง
“เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆเลย”
เมื่อได้ยินว่าเฉินเฟยไม่สามารถเข้าร่วมสำนักกระบี่เซียนเมฆาได้ ฉือเต๋อเฟิงจึงรู้สึกเสียใจกับเฉินเฟย ท้ายที่สุดแล้วนี่คือสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิชาสืบทอดหรือการสนับสนุนจากเบื้องหลังล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“คนเยอะมาก”
เฉินเฟยยังคงรู้สึกเสียใจ ก่อนหน้านี้ตั้งเป้าหมายไว้เป็นสำนักกระบีเซียนเมฆาและยังได้เรียนรู้กระบวนท่าหนึ่งของสำนักกระบี่เซียนเมฆาแล้ว
เพราะได้เรียนรู้กระบวนท่าของสำนักกระบี่เซียนเมฆาเฉินเฟยจึงรู้ว่าสำนักกระบี่เซียนเมฆาแข็งแกร่งเพียงใด น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ต้อนรับเขา ซึ่งเขาทำอะไรไม่ได้เช่นกันเพราะสองฝ่ายมีสถานะไม่เท่ากัน
“สำนักกระบี่เริ่มดวงดาว? ได้ยินมาว่ามรดกสืบทอดของพวกเขามีชื่อว่ากระบี่ฟ้าคำรามใหญ่ด้วย?” ฉือเต๋อเฟิงถาม
“กระบี่ฟ้าคำรามใหญ่? ไม่ใช่ว่าชื่อกระบี่ฟ้าคำรามหรือ?”
เฉินเฟยถามด้วยความประหลาดใจ กระบี่ฟ้าคำรามเคยมีชื่อแบบนั้นด้วย? แล้วทำไมถึงมีคำว่าใหญ่อยู่ด้านหน้า?
“ข้าได้ยินชื่อนี้มาจากคนนอก” ฉือเต๋อเฟิงสับสนเช่นกัน
เฉินเฟยอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร กระบี่ฟ้าคำรามใหญ่อันนี้ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็จงใจข่มกระบี่ฟ้าคำราม
ใช้เวลาสองสามชั่วยามในการหลอมโอสถจิตเบาของวันนี้และส่งมอบให้ฉือเต๋อเฟิง เฉินเฟยหยิบตำรายุทธ์ที่สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวมอบให้ออกมา
ตอนนี้ได้เข้าร่วมสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวแล้ว สิ่งที่เฉินเฟยต้องพิจารณาคือวิธีรับวิชามรดกของสำนักที่ทรงพลังยิ่งกว่า
แม้ว่าสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวจะดูเหมือนค่ายยุทธ์ขนาดใหญ่ แต่ค่ายยุทธ์ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยถ้าคุณนำให้เงินอีกฝ่ายจะรับคุณไว้ และเมื่อแสดงความสามารถมากพออีกฝ่ายจะพาคุณไปหาวิชาสืบทอดทันที
กระบี่แรกเริ่ม!
นี่คือชื่อของตำรานี้ เฉินเฟยใช้เวลาอ่านหนึ่งชั่วยาม หลังจากอ่านตำรากระบี่แรกเริ่มเสร็จสีหน้าเขาดูแปลกใจเล็กน้อย
แม้จะเข้าสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวได้ด้วยเงิน แต่มันไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะหลอกลวงผู้คน
กระบี่แรกเริ่มเป็นวิชากระบี่เริ่มต้นของสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว แม้จะเป็นพื้นฐานแต่พลังของมันไม่ได้อ่อนแอและสามารถเชื่อมกับวิชามรดกของสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวได้อย่างสมบูรณ์
เท่าที่เฉินเฟยรู้ในตอนนี้ กระบี่แรกเริ่มอันนี้อ่อนด้อยกว่ากระบี่ลายเพลิงของเฉินเฟยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต้องรู้ก่อนว่าท้ายที่สุดแล้วกระบี่ลายเพลิงถูกสร้างจากการผสานวิชากระบี่มากมายของเฉินเฟย
นอกจากอธิบายว่ากระบี่แรกเริ่มไม่ได้อ่อนแอ ยังมีความจริงที่ว่าวิชากระบี่ที่เฉินเฟยได้รับภายในอำเภอผิงหยินในตอนนั้นค่อนข้างเลอะเทอะ ซึ่งมันเกือบถูกครอบงำด้วยวิชากระบี่เริ่มต้นอันนี้
“ค้นพบวิชายุทธ์ ต้องการใช้เงินแปดสิบตำลึงทำให้กระบี่แรกเริ่มเป็นแบบง่ายหรือไม่?”
“กระบี่แรกเริ่มแบบง่าย...ทำให้เป็นแบบง่ายสำเร็จ...กระบี่แรกเริ่ม → แกว่งกระบี่!”
เฉินเฟยมองผลของการทำเป็นแบบง่ายอย่างประหลาดใจ ไม่ใช่ว่าการแกว่งดาบเป็นเรื่องยาก แต่การทำให้เป็นแบบง่ายแล้วเจอเรื่องปกติเป็นสิ่งหายาก
เฉินเฟยมาที่ลานบ้านพร้อมกับกระบี่
การพบหนอนชิมเลือดในเมืองซิ่งเฝินทำให้เฉินเฟยระวังตัวมากขึ้น
หลังจากมาถึงเมืองเซียนเมฆา เขาซื้อสมุนไพรเป็นพิเศษและนำไปผสมยาซึ่งสามารถลบล้างลมปราณที่เหลืออยู่บนกระบี่ได้ นอกจากนี้ยังเก็บตุนเป็นขวดขนาดใหญ่ไว้ในช่อมิติเพื่อใช้ไว้ใช้งานในภายหลัง
กระบวนท่ากระบี่ลายเพลิงปลดปล่อยจากมือเฉินเฟย เฉินเฟยจมดิ่งลงสู่การฝึกกระบี่อย่างรวดเร็ว
หนึ่งเค่อต่อมา เฉินเฟยหยุดขยับและหายใจออกยาว
[วิชายุทธ์: กระบี่แรกเริ่ม(เชี่ยวชาญ102/1000)]
มองข้อมูบนระบบ เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะรอยยิ้ม เมื่อเทียบกับการแกว่งดาบไปมา การฝึกกระบี่ย่อมน่าสนใจกว่าและมันสามารถทบทวนสิ่งที่รู้และเรียนรู้สิ่งใหม่ได้
ตามจังหวะนี้ เฉินเฟยขยันมากขึ้นคาดว่าอีกหลายวันจะฝึกกระบี่แรกเริ่มได้ถึงระดับรู้แจ้ง ในเวลานั้นเขาจะเข้ารับการทดสอบการเข้าเป็นศิษย์ภายใน
จะเด่นเกินไปไหม?
เฉินเฟยคิดเกี่ยวกับคำถามนี้เช่นกันในตอนแรก ท้ายที่สุดแล้วเวลาที่สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวมอบให้คือครึ่งปี แต่นั่นสำหรับคนธรรมดา เขาจำเป็นต้องเสียเวลารอตรงนี้หรือ?
นี่เป็นเพียงวิชากระบี่เริ่มต้น จุดประสงค์ของเฉินเฟยคือการได้รับวิชาทรงพลังให้เร็วขึ้นเพื่อให้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
ตราบเท่าที่ระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้นเร็วพอ แม้จะมีอันตรายเข้ามาก็สามารถต้านทานได้
เจ็ดวันผ่านไปในพริบตา ในช่วงเจ็ดวันนี้เฉินเฟยฝึกหลอมโอสถในตอนเช้า ฝึกพลังภายในและวิชาธนูในตอนบ่าย จากนั้นฝึกกระบี่แรกเริ่มในเวลาที่เหลือ
ในเวลานี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องการขายโอสถและเฉินเฟยระวังตัวมากขึ้นโดยรักษาปริมาณต่อวันให้ต่ำกว่าหนึ่งร้อยเม็ด กล่าวได้ว่าโครงสร้างเมืองเซียนเมฆานั้นค่อนข้างใหญ่ พวกเขาอาจดูถูกผลกำไรของโอสถนี้หรือกำลังตรวจสอบพื้นพลังอยู่
หากสิ่งต่างๆดำเนินไปเช่นนี้ก็ต้องมีคนคอยจับตามองเฉินเฟยทั้งสองคน ท้ายที่สุดแล้วการได้รับหลายร้อยตำลึงต่อวันยังน่าประทับใจเกินไป
นั่นคือเหตุผลที่เฉินเฟยเข้าร่วมสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวในตอนแรก
เพราะเข้าร่วมสำนักกระบี่เซียนเมฆาไม่ได้จึงเป็นธรรมดาที่จะให้สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวเป็นผู้สนับสนุน แต่ศิษย์ภายนอกยังห่างไกลจากความเพียงพอ เฉินเฟยจำเป็นต้องกลายเป็นศิษย์ภายในหรือแม้กระทั่งศิษย์แท้จริง
เช้าตรู่ เฉินเฟยมาที่ประตูสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว วิชากระบี่แรกเริ่มถึงระดับรู้แจ้ง วันนี้เฉินเฟยจึงเข้าร่วมการทดสอบเพื่อกลายเป็นศิษย์ภายในสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว
“มาทดสอบหรือ?”
ศิษย์ดูแลมองป้ายคาดเอวที่เฉินเฟยส่งมาให้ ดูหมายเลขที่สลักไว้แล้วเงยหน้ามองเฉินเฟยด้วยความประหลาดใจ “เจ้าเพิ่งเข้าร่วมเมื่อไม่กี่วันก่อน?”
“ใช่” เฉินเฟยพยักหน้า
“เจ้าคงเคยเรียนกระบี่แรกเริ่มมาก่อนสินะ เอาล่ะ ตามข้ามา” ศิษย์ดูแลพยักหน้า
สีหน้าเฉินเฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อย มีคนไม่น้อยที่เข้ามารับการทดสอบหลังจากได้รับกระบี่แรกเริ่ม
แต่มันเป็นเรื่องปกติเช่นกัน กระบี่แรกเริ่มสามารถใช้เงินในการเรียนรู้และสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวไม่เคยนึกถึงความลับ บางทีสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวอาจตั้งใจทำสิ่งนี้เพื่อปล่อยตาข่ายรับสมัครศิษย์
คนมากมายที่สนใจสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวล้วนสามารถเรียนรู้ให้ดีก่อนแล้วค่อยมาที่นี่ได้ ด้วยวิธีนี้แม้แต่เส้นตายครึ่งปีจะถูกละไว้
เฉินเฟยเดินตามหลังศิษย์ดูแล เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวจนมาถึงโถงมังกรซ่อน
“ศิษย์พี่หยาง ศิษย์น้องเฉินคนนี้มาทดสอบเลื่อนขั้น” ศิษย์ดูแลเดินมาหาหยางฉวนเจินแล้วกุมมือพูดเสียงต่ำ
“มีคนมาเพิ่มอีก? ช่วงนี้คนในสำนักเราเพิ่มขึ้นมากจริงๆ!”
หยางฉวนเจินกำลังหลับตาพักผ่อน พอได้ยินเสียงเขาจึงเงยหน้ามองเฉินเฟยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะมีเจ้าสำนักดี” ศิษย์ดูแลรีบพูดด้วยรอยยิ้ม
หยางฉวนเจินพยักหน้า ลุกขึ้นเดินไปหาเฉินเฟยแล้วมองเขาขึ้นลง “กระบี่แรกเริ่มเป็นวิชากระบี่สร้างรากฐานของสำนักกระบี่แรกเริ่ม เน้นรากฐานและระดับบ่มเพาะ ศิษย์น้องเฉินตัดสินใจมาทดสอบวันนี้? หากเจ้าไม่ผ่านการทดสอบจะต้องรออีกสามเดือน หากหลังจากนี้สามยังสอบไม่ผ่านอีกจะต้องรออีกหนึ่งปี!”
“ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ!” เฉินเฟยพูดอย่างจริงจังพร้อมกุมมือ
“ได้ ศิษย์น้องขึ้นลานประลองเลย”
หยางฉวนเจินผายมือขวาชี้นำ เฉินเฟยก้าวเท้าขึ้นลาน หยางฉวนเจินยิ้มเล็กน้อย เพียงพริบตาเดียวเขาก็มาอยู่ตรงข้ามเฉินเฟย
ดวงตาเฉินเฟยสว่างขึ้นเมื่อเห็นท่าร่างหยางฉวนเจิน เป็นท่าร่างที่ดี หลังเข้าเป็นศิษย์ภายในแล้วจะสามารถฝึกฝนมันได้ สิ่งนี้จะทำให้ความว่องไวของเฉินเฟยก้าวหน้าไปอีกขั้นแน่นอน
“ศิษย์น้องใช้กระบี่แรกเริ่มให้สุดกำลัง ไม่ต้องกังวล” หยาฉวนเจินพูดเสียงดัง
“ล่วงเกินท่านแล้ว!”
เฉินเฟยไม่สุภาพ หยางฉวนเจินอยู่ในระดับขัดเกลาไขกระดูกเป็นอย่างน้อย เฉินเฟยไม่สามารถทำร้ายหยางฉวนเจินได้เลยเว้นแต่จะใช้ห้ากระบี่