เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 18: รังต่อ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 1 บทที่ 18: รังต่อ
.
(วอลสัน)
ข้าทำการปลดผนึกทางเข้าถ้ำ เผยให้เห็นถ่านหลายก้อนบนพื้นดิน ข้าเก็บพวกมันกลับมาเพื่อนำไปใช้ใหม่ในอนาคต
ข้าไม่อยากจะใช้ของอย่างเปล่าประโยชน์อยู่แล้ว เอามันไปใช้ทำคบเพลิงยังได้เลย
จากนั้นข้าก็ขอให้เกรซใช้เวทมนตร์แห่งลม เสกพายุทอร์นาโดขนาดเล็กที่ปากถ้ำ ซึ่งจะมีผลอยู่ห้านาที
เพราะเหตุใดงั้นเหรอ...เหตุผลธรรมดามาก
เมื่อกี้ข้าทำให้ตัวต่อหมดความสามารถโดยการสร้างคาร์บอนมอนอกไซด์ด้วยการเผาไม้ถ่าน
เนื่องจากถ้ำถูกปิด ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จึงไหลเวียนอยู่ภายในถ้ำ ข้าคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์คืออะไรใช่ไหม?
ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะไม่ตายภายในถ้ำเพราะก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ข้าจึงให้เกรซเติมอากาศลงไปด้วยพายุทอร์นาโด
แล้วเราก็เข้าไปในถ้ำกัน
ถ้ำค่อนข้างแคบ มันกว้างพอที่จะมีคนสี่คนเดินได้ แต่พวกเรามีกันแค่สามคน ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา
ขณะที่เราเดินเข้าไปในถ้ำ กลิ่นของไม้ไหม้ก็แทรกซึมไปทั่วทั้งสถานที่
จากนั้นเราก็พบกับ [ครีปเปอร์]
[ครีปเปอร์_ระดับ 11_เลือด: 10/20_สถานะ: อ่อนแอ_สมญานาม: ไม่มี]
อะไรนะ? ทำไมล่ะ? นี่ไม่ใช่ [รังต่อ] เหรอ?
ไม่สิ บางทีมอนสเตอร์พวกนี้คงถูกสร้างขึ้นผ่านการกลายพันธุ์เนื่องจากความเข้มข้นของมานาสูง บางทีอุปนิสัยของพวกมันก็คงกลายพันธุ์ด้วยใช่ไหม?
ปกติครีปเปอร์ชอบที่จะเกิดในที่มืดและทำให้ผู้เล่นประหลาดใจด้วยการระเบิดผู้เล่นให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ทำไมตัวต่อถึงไม่ฆ่าพวกมันกันล่ะ?
อืม... ข้าจำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือมอนสเตอร์วิทยาที่กล่าวว่าตัวต่อเป็นพวกหวงที่ ทว่าตราบใดที่สิ่งมีชีวิตอื่นไม่เข้ามาขวาง พวกมันก็สามารถอยู่ร่วมกันได้
นี่หมายความว่า [ครีปเปอร์] ทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันสำหรับตัวต่อเพื่อแลกกับที่หลบภัยใช่ไหม?
มีใครไม่รู้เรื่อง [ครีปเปอร์] บ้างไหม? ข้าจะได้เลาให้ฟัง
พวกมันมาจากมายคราฟ นิสัยของพวกเขา...อืม ข้าไม่คิดว่ามันควรจะเรียกว่านิสัย... พวก [ครีปเปอร์] มีอยู่เพื่อวัตถุประสงค์ในการแอบระเบิดลับหลังผู้เล่นเท่านั้น
ฟู่... ตู้มมมมมม
เป็นมอนสเตอร์ที่ระเบิดตัวเอง มือระเบิดพลีชีพ
รูปลักษณ์ของพวกมันจะทำให้พวกเจ้านึกถึง "ปืนใหญ่นีลโออาร์มสตรอง" จากกินทามะ พวกมันไม่ส่งเสียงใดๆ เมื่อเคลื่อนไหวเพื่อให้พวกมันสามารถระเบิดหลังผู้เล่นได้อย่างง่ายดาย
เดิมทีในมายคราฟ พวกมันมักจะเป็นสีเขียวเสมอ แต่ในโลกนี้ ดูเหมือนว่าพวกมันจะพัฒนาและปรับตัวได้ เดี๋ยวนี้มันมีทุกสีเลยนะ
สีเทาเพื่อซ่อนตัวได้ดีขึ้นภายในถ้ำและสีเขียวภายในป่าหรือพุ่มไม้
แม้จะมีการพัฒนาการพรางตัวที่สูงขึ้น แต่มันก็ยังหนีไม่พ้นการตรวจจับใน [แผนที่ขนาดเล็ก] ของข้าหรอก
แต่เอาจริงๆ นะ... การมีอยู่ของพวกมันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อใครเลย ประการแรก พวกมันฆ่าตัวตาย ดังนั้นพวกมันจึงไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวมันเอง ประการที่สอง การเก็บพวกมันไว้รอบๆ ไม่ได้ให้ผลประโยชน์อะไรเลย เพราะมันฆ่าตัวตายด้วยการระเบิด ดังนั้นมันจึงมีแต่ผลเสียทั้งนั้น
ตั้งแต่เราอยู่ที่นี่ ข้าก็เริ่มสอนเมล่อนและเกรซเกี่ยวกับวิธีต่อสู้กับ [ครีปเปอร์]
ตราบใดที่เจ้าไม่ได้โดนมันซุ่มโจมตี ก็แค่ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ แต่สิ่งต่างๆ จะกลายเป็นอันตรายมากเมื่อ [ครีปเปอร์] มาเป็นกลุ่มตั้งแต่สองตัวขึ้นไป
การต่อสู้กับพวกมันในระยะประชิดนั้นมีวิธีการที่ง่ายมาก โจมตีพวกมันหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ถอยออกจากระยะการระเบิดอย่างรวดเร็ว จากนั้น [ครีปเปอร์] จะค่อยๆ เข้ามาหาและก็แค่ต้องทำซ้ำไปมาจนกว่ามันจะตาย
มันไม่ใช่มอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาสักเท่าไร
หากมีอาวุธระยะไกล การต่อสู้กับพวกมันก็จะง่ายยิ่งขึ้น เพียงแค่โจมตีมันจากระยะไกลจนกว่าพวกมันจะตายก็พอแล้ว
เมื่อ [ครีปเปอร์] ตาย พวกมันจะทิ้งดินปืนเอาไว้ เราสามารถสร้างระเบิดด้วยสิ่งนี้ได้ ข้ามักจะฆ่ามันเพื่อหาวัตถุดิบมาทำระเบิดอยู่เสมอเลย
เราเดินลึกเข้าไปในถ้ำ และเห็นได้ชัดว่าครีปเปอร์เป็นเพียงหนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่ตัวจากกลยุทธ์การรมควันของข้า
มีศพกองอยู่บนพื้นมากมาย
ศพ...พวกนี้คือตัวที่ 'ตายไปแล้ว' เมื่อมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ข้าจึงสามารถโยนมันลงใน [กระเป๋าเก็บของ] ของข้าได้ทันที
ข้ามองไปที่ [แผนที่ขนาดเล็ก] และค่อยๆ เดินลึกเข้าไปถ้ำ จนพบกับผู้รอดชีวิต
ซึ่งมันคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ข้างในถ้ำนี้
[ตัวต่อยักษ์_ระดับ 24_เลือด: 2/98_สถานะ:โคม่า, อ่อนแอ_สมญานาม:ไม่มี]
มันนอนอยู่บนพื้นและไม่ขยับ มีความยาวประมาณ 1.5 เมตรและดูเหมือนแตนยักษ์
ขนาดของมันน่ากลัวมาก ใครๆ ที่พบมันเข้าครั้งแรกมีอันต้องกลัวทั้งนั้น
โดยรอบเป็นศพพี่น้องของมัน
“มันยังมีชีวิตอยู่ มีใครอยากเป็นคนจัดการมันไหม?”
เมล่อนและเกรซจ้องมันค้างอยู่สักพัก แต่ในไม่ช้าพวกนางก็รู้สึกตัวกัน พวกนางมองหน้ากัน จากนั้นเมล่อนก็ทำท่า 'เจ้าไปเลย' และเกรซก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยกไม้เท้าขึ้น
“โอ้ เดี๋ยวก่อน อย่าใช้ไฟ นั่นจะทำให้เราเก็บวัตถุดิบยาก” ข้าเตือนนาง
เกรซใช้เวลาคิดสักครู่แล้วนางก็ยกไม้เท้าขึ้นอีกครั้ง
"â â â â - ศรแห่งความมืด" ต้องเป็นคาถาที่นางไม่คุ้นเคยแน่ เพราะนางต้องใช้เวลาหนึ่งวินาทีในการร่ายคาถา
เงาดำทะยานผ่านอากาศและทะลุผ่านหัวของตัวต่อ
ว้าว! โคตรเจ๋งไปเลย!
คาถาธาตุมืด!
{ปาร์ตี้ได้รับค่าประสบการณ์ 183}
{ระดับเพิ่มขึ้น! ตอนนี้เมล่อนมีระดับ 9 แล้ว}
{ระดับเพิ่มขึ้น! ตอนนี้เกรซมีระดับ 12 แล้ว}
โอ้ พวกนางเพิ่มระดับอีกครั้งแล้ว
ข้าคอยดู [แผนที่ขนาดเล็ก] และพาปาร์ตี้เข้าไปในรังต่อไป จากนั้นเราก็พบอีกหนึ่งผู้รอดชีวิต
เมล่อนไม่ได้สนใจมันนักและฆ่ามันด้วยการกระทืบหัว
จากนั้นเราก็กำจัดผู้รอดชีวิตทุกตัวที่เราเห็น...
... * เฮ้อ * นี่มันช่างน่าเบื่อเกินไปแล้ว
แต่ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก
ข้าสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างที่แสดงบน [แผนที่ขนาดเล็ก] กำลังเคลื่อนไหวและมันก็พุ่งเข้าหาเราอย่างรวดเร็ว
เสียงกระหึ่มของปีกดังมาถึงก่อนที่เราจะพบตัวมัน
[ตัวต่อยักษ์_ระดับ 28_เลือด: 61/123_สถานะ: อ่อนแอ, สมญานาม: ไม่มี]
“หากมันเสียงดังเกินไปก็ให้เริ่มใช้โทรจิต เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!” ข้าตะโกนออกมา
มอนสเตอร์แมลงสีน้ำตาลพุ่งเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็ว... * บูม *
* แพล๊ะ *
{ปาร์ตี้ได้รับค่าประสบการณ์ 178}
และเมล่อนก็ยืนอยู่ที่ด้านหน้าของปาร์ตี้ด้วยมือข้างหนึ่งที่ถือดาบ ส่วนอีกข้างจมเข้าไปในหัวของศัตรูแล้ว
มันจมลงไปในหัวอย่างสมบูรณ์ จนจบชีวิตของมันลงไปเลย
“อย่าหวังจะได้เข้าใกล้นายท่านนะ”
“ว้าว เข้าหัวเป๊ะ” ข้าอุทานออกมา จิตสังหารของนางแพร่กระจายไปทั่ว
แต่จะว่าไปแล้ว ดาบในมือซ้ายของนางมีไว้เพื่อประดับหรือไงกันเนี่ย?
“...โอ้...นางเร็วเกินไป ให้ตายสิ” เกรซพึมพำ
จากนั้นทั้งสองก็คล้ายกำลังแข่งขันกันอยู่!
ข้าพูดจริงนะ! พวกนางเหมือนกับกำลังแข่งขันราวกับทำสงครามกันอยู่เลย!
มีเสียงอึกทึกครึกโครมมากขึ้น แต่ในไม่ช้ามันก็เงียบลงไป
{ปาร์ตี้ได้รับค่าประสบการณ์ 173}
“...ใบมีดวายุ” นั่นคือเสียงของเกรซ
เชี่ย! ข้าไม่เห็นแม้แต่เป้าหมาย เจ้าฆ่ามันทันทีก่อนที่ข้าจะตรวจพบอีกเหรอเนี่ย!?
รู้ไหมว่าข้าสงสารตัวต่อพวกนี้จริงๆ สาวๆ ไม่ได้แสดงความเมตตาต่อพวกมันเลย
...เฮ้อ ช่างเถอะ เรามาเร่งความเร็วกันดีกว่า
ตาม [แผนที่ขนาดเล็ก] ด้านล่างของถ้ำกว้างขวางกว่ามาก ยิ่งเราเข้าใกล้จุดต่ำสุดมากเท่าไหร่ ตัวต่อก็ยิ่งเริ่มโจมตีเรามากขึ้นเท่านั้น
แต่พวกมันทั้งหมดก็ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
เด็กผู้หญิงสองคนที่อยู่เคียงข้างข้าดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีจริงๆ พวกนางยังคงยิงศัตรูที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ข้าคิดว่าพวกนางค่อนข้างแข็งแกร่งมาก ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเด็กๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสามารถเลียนแบบการกระทำของพวกนางในตอนนี้ได้หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม บางครั้งศัตรูก็ยังไม่ตายในการโจมตีครั้งเดียวของพวกนาง แต่หลังจากนั้นมันก็ตายจากการโจมตีครั้งที่สองอยู่ดี
มีตัวหนึ่งมุ่งเป้าหลุดไปหาเกรซ เพราะนางดันยิงไปโดนปีกมัน แทนที่จะเป็นศีรษะ ขณะที่ตัวต่อตกลงไปบนพื้น มันก็เลื่อนไถลไปหาเมล่อนและนางก็ตบเข้าที่หัว
ไปสู่สุคตินะเจ้าตัวต่อยักษ์
เมื่อเห็นว่าสิ่งต่างๆ กำลังดำเนินไปได้ดี เห็นทีข้าคงไม่ต้องใช้ [รถราง] แล้ว
แค่ฆ่าตัวต่อทั้งหมดก็สิ้นเรื่อง
“เอาล่ะ พวกเจ้าสองคนทำได้ดีมาก! แต่เราต้องระวัง เพราะเรากำลังเข้าใกล้ราชินีมากขึ้นแล้ว”
ข้ายืนยันตำแหน่งของราชินีด้วย [แผนที่ขนาดเล็ก] และเดินผ่านถ้ำที่ดูกว้างมาก
สิ่งที่เข้ามาในวิสัยทัศน์ของเราคือพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ซึ่งน่าจะเกือบเท่ากับสนามฟุตบอลที่มีเพดานสูงกว่า 20 เมตร
มีก้อนที่ดูแปลกประหลาดอยู่ด้านบนของตำแหน่งรังด้วย
ไม่มีตัวต่อยักษ์อีกต่อไป มีเพียงราชินีที่อยู่ในรังจ้องมองมาที่เราด้วยดวงตาที่ซีดเซียว
...นางดูเหมือนจะโกรธมาก
[ราชินีตัวต่อยักษ์_ระดับ 30_เลือด: 256/524_สถานะ: โกรธเกรี้ยว_สมญานาม: ไม่มี]
ข้าหยิบกำแพงหินที่ข้าประกอบไว้ล่วงหน้าออกมา
ทำไมข้าถึงเอามันออกมาน่ะเหรอ? ก็ราชินีกำลังเข้ามาหาเราแล้ว!
ทั้งสองที่อยู่ด้านข้างของข้าพุ่งออกมาโดยไม่มีคำสั่งใดๆ
“...ใบมีดวายุ” อากาศถูกควบแน่นเป็นใบมีดและพุ่งเข้าไปฟัน
ราชินีหลบการโจมตีด้วยการเร่งความเร็วอย่างผิดธรรมชาติ
...แต่มันก็ล้มลงมากองกับพื้นด้วยใบมีดวายุครั้งที่สอง ใบมีดนั่นฟันผ่านปีก
ให้ตายสิ เจ้าตัวนี้ใหญ่มาก! มันมีขนาดเท่ากับรถบรรทุก!
“…ใบมีดวายุ ใบมีดวายุ ใบมีดวายุ!” เดี๋ยวก่อน นางจะใช้คาถามากมายขนาดนี้ทำไมกัน...
ความเร็วในการร่ายของนางมันบ้าไปแล้วจริงๆ! นางแทบจะร่ายหนึ่งครั้งต่อวินาทีเลย
เมื่อนางโตขึ้น เกรซคงจะน่ากลัวมากแน่ๆ
แต่...ใบมีดวายุไม่ได้มีผลอะไรเลย นอกจากทิ้งรอยตะปุ่มตะป่ำไว้บนตัวราชินี
ช่างเป็นโครงกระดูกภายนอกที่ทนทานนัก! ใบมีดลมพวกนี้สามารถตัดตัวต่ออื่นๆ ได้อย่างหมดจดเชียวนะ
* ก๊าซซซ * ราชินีส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรงและพุ่งเข้ามาหาเรา
แต่ก่อนที่นางจะไปถึงเกรซ นางก็ถูกคนอื่นผลักออกไป
เมล่อนเป็นคนจัดการราชินี และหลังจากที่มันฟื้นตัวขึ้นมา นางก็ระดมหมัดใส่ราชินีด้วยหมัดขวาของนาง
หมัดได้สร้างรูของเหลวสีเขียวขึ้นบนตัวราชินี ทว่าตัวราชินีก็พ่นพิษออกมาไปทางเมล่อน
ไม่นะ การโจมตีคราวนี้อันตราย!
แต่ในขณะนั้นเอง ข้าก็เห็นเกรซเคลื่อนย้ายไปอยู่ข้างๆ นางพร้อมกับคว้าเมล่อนและหายตัวไปโดยทิ้งเพียงกลีบดอกไม้เอาไว้
จากนั้นพวกนางก็โผล่มาที่ข้างๆ ตัวข้า
วู้วว ช่างเป็นทำงานเป็นทีมที่เข้าขาอะไรขนาดนี้!
แม้ว่าพวกนางจะสามารถทำได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่อย่าลืมนะว่าเกรซเพิ่งจะได้ทักษะนี้แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง การที่นางทำได้ถึงขั้นนี้คงต้องขอชื่นชมจริงๆ
ในกรณีที่เมล่อนบาดเจ็บ เราก็ยังมีของที่ไว้ใช้ช่วยรักษาอยู่ แต่ก็ดีที่เวทมนตร์ของเกรซสามารถทำให้ไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้นได้
“...เมล่อน เจ้าบาดเจ็บตรงไหนไหม?”
"ข้าสบายดี ขอบคุณนะเกรซ”
"เจ้าสองคนร่วมมือกันได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย..."
“...เมล่อนรู้ว่าวอลสันน่าทึ่งแค่ไหน ดังนั้นนางจึงเป็นสหาย”
เดี๋ยว เชี่ยอะไรก่อนวะเนี่ย?
เด็กสาวลุกขึ้นยืนและเผชิญหน้ากับราชินีตัวต่อด้วยความโกรธเกรี้ยว
อา ไอ้เหล็กในนั่นมันอันตรายจริงๆ ข้าคิดว่าข้าควรทำอะไรสักอย่างกับมันแล้ว
ด้วยเหตุนี้ข้าจึงหยิบ [ธนู] ที่ทำเองออกมา
ตามปกติวิธีเล็งในมายคราฟ เราใช้จะเป้าเล็งสีขาวที่อยู่กลางหน้าจอกัน ซึ่งในโลกแห่งนี้ เมื่อใดก็ตามที่ข้าใช้ธนูเล็ง มันจะกลายเป็นจุดสีเขียวบอกว่าข้ากำลังเล็งไปที่ไหน มันเกือบจะเหมือนกับการเล็งด้วยเลเซอร์ไม่มีผิด
“เกรซ เบี่ยงเบนความสนใจของมันให้ข้าด้วย ข้าไม่อยากให้มันหลบด้วยความเร็วแบบนั้นอีก”
"â â â â - ศรแห่งความมืด" ศรแห่งความมืด! ศรแห่งความมืด!" เดี๋ยวสิ! ข้าไม่ได้บอกให้เจ้ายิงแบบนี้ออกไปเสียหน่อย!
ราชินีหลบได้ก่อน แต่dHได้รับบาดเจ็บจากการยิงทันที
ข้าผูกเชือกที่ทำจากไหมแมงมุมไว้ที่ลูกศร และยิงไปที่ใต้ท้องอันอ่อนนุ่มของราชินี
ข้าไม่มีปัญหาในการเล็งยิงเลย เพราะข้าสามารถเห็นจุดเป้าหมายได้ด้วยเลเซอร์สีเขียวนี้!
ข้าดึงเชือกที่ผูกระหว่างธนูด้วยความเร็วที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก
จากนั้นราชินีก็นอนดิ้นทุรนทุรายลงกับพื้น
"เมล่อน!"
"ข้ากำลังไป!"
จากนั้นเมล่อนก็ตัดหัวด้วยดาบเอนชานท์ [สังหารอาร์โทรพอด] และทำให้การต่อสู้จบลง
{ปาร์ตี้ได้รับค่าประสบการณ์ 7583}
{ระดับเพิ่มขึ้น! ตอนนี้วอลสันมีระดับ 26 แล้ว}
{ระดับเพิ่มขึ้น! ตอนนี้เกรซมีระดับ 16 แล้ว}
{ระดับเพิ่มขึ้น! ตอนนี้เมล่อนมีระดับ 14 แล้ว}
วู้ววววววว ค่าประสบการณ์เยอะมาก! ระดับของเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จะว่าไปแล้ว... เมล่อนไม่คิดจะใช้ดาบที่อยู่มือซ้ายเลย ตั้งแต่ต้นจนจบนางก็ใช้แต่หมัดของตนเอง...
เอาเถอะ นางก็สู้ได้ดี เราทุกคนออกมาโดยไม่ได้รับอันตรายและประสานงานกันเป็นอย่างดี
แถมข้ายังมีเครื่องจ่ายเอาไว้ยิงระเบิดด้วย ข้าติดระเบิดกับน้ำของสไลม์ เพื่อทำให้มันสามารถเกาะติดกับรังต่อได้
จากนั้นทั้งรังก็ระเบิด
ข้ารออยู่ข้างใต้นั้นพร้อมกับหม้อขนาดมหึมาเพื่อรอให้น้ำผึ้งเริ่มไหลลงมา
อา ~ น้ำผึ้งแสนหวาน นานแล้วนะที่ข้าไม่ได้กินอะไรแบบนี้