บทที่ 18 ตามล่าหมาป่าสีคราม
"ข้าและเพื่อนทำธุรกิจกันอยู่ และสิ่งนี้คือเงินทุนหมุนเวียน"หลินเป้ยโกหกอย่างไม่ใส่ใจ
หลินคังมองไปที่หลินเป้ยอย่างสงสัย แน่นอนว่าเขารู้ว่าคำพูดของหลินเป้ยไม่น่าเชื่อถือ
"ข้าเกรงว่าตระกูลหลินจะไม่สนับสนุนเจ้าในการต่อสู้ระหว่างเจ้ากับโจวหยวน"หลินคังกล่าว
100,00 ตำลึง คนธรรมดาไม่สามารถหาเงินจำนวนนี้ได้เลย
เว้นแต่ตระกูลหลินจะออกมาสนับสนุนหลินเป่ย และนำเงินมาให้
“ข้าไม่มีความตั้งใจจะให้ตระกูลหลินช่วย ข้าจะจ่ายเอง แพ้หรือชนะเป็นของข้า!” หลินเป่ยกล่าว
“ผู้อาวุโสสี่ ข้ามีอย่างอื่นที่ต้องทำ วันนี้ข้าเป็นหนี้บุญคุณ ถ้าท่านต้องการอะไรในอนาคต ท่านสามารถมาหาข้าได้ ถ้าข้าสามารถช่วยได้ ข้าจะช่วยอย่างเต็มที่” หลินเป่ยพูดอย่างจริงจัง
แม้ว่าหลินเป้ยไม่ต้องการให้หลินคังเคลื่อนไหว แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ทำเช่นนั้น หลินเป้ยยังรู้สึกขอบคุณในใจ
การใช้หุ่นเชิดในที่สาธารณะ อาจมีเรื่องยุ่งยากตามมาได้ง่าย
ดังนั้นหลินเป้ยจึงยอมรับความช่วยเหลือนี้
สำหรับหลายๆคนในตระกูลหลินไม่ชอบหลินเป้ย และโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเป็นพวกหยิ่งยโส
ผู้คนเหล่านั้นไม่ค่อยลดตัวลงมารังแกหลินเป้ย อย่างไรก็ตามหลินเป้ยก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากพวกนั้นเช่นกัน
หลังจากที่หลินเป้ยพูดจบ เขาก็แยกจากหลินคัง
"เจ้าจะช่วยอะไรข้าได้?"หลินคังยิ้มเล็กน้อย
หลินเป้ยเป็นเพียงเด็กที่อยู่ระดับนักรบฝึกหัดเท่านั้น ส่วนเขาเป็นปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่ง
หลินคัง คิดเพียงว่าคำพูดของหลินเป้ยเป็นเรื่องตลก!
หลินเป้ยมาที่ร้านว่านเป่า(ร้านสรรพสินค้า) เข้าไปดูอาวุธวิญญาณ และหลังจากเลือกสักพัก ในที่สุดเขาก็เลือกอาวุธวิญญาณที่ถูกใจ
"ดาบชางเย่ว(จันทร์กระจ่าง) อาวุธจิตวิญญาณระดับสามขั้นกลาง"
"ราคา 25,000 ตำลึง"
หลินเป้ยจ่ายเงินอย่างมีความสุข เขาซื้อดาบชางเย่วพร้อมด้วยฝักที่ไม่ธรรมดาเพื่อที่จะซ่อนดาบ
มิฉะนั้น การเดินถืออาวุธวิญญาณมูลค่า 25,000 ตำลึงจะสร้างปัญหาได้ง่าย
เป็นการดีกว่าที่จะเก็บรายละเอียดต่ำไว้
เดิมทีหลินเป้ยต้องการซื้อกระเป๋าเก็บของ แต่หลังจากถามระบบ ระบบมีฟังก์ชันการจัดเก็บ แต่ต้องใช้ 20,000 แต้มในการเปิดครั้งแรก
นั่นเท่ากับสองหมื่นตำลึง
หลินเป้ยรอจนถึงวันรุ่งขึ้น แล้วเก็บเกี่ยวหญ้าห้ามเลือดอีกชุดหนึ่ง นำไปแลกเป็นเงิน 27,000 ตำลึง
หลังจากนั้นเขาก็ใช้ 20,000 ตำลึงแปลงเป็นแต้ม และเปิดใช้งานฟังก์ชั่นการจัดเก็บ
ในตอนนี้หลินเป้ยจะมีคลังสินค้ามิติในร่างกายของเขา
เมื่อมันถูกเปิดขึ้นเป็นครั้งแรก พื้นที่ภายในจะไม่ใหญ่ มีเพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
นั่นคือพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความยาว ความกว้าง และความสูงหนึ่งเมตร
อย่างไรก็ตาม พื้นที่เล็กๆนี้ก็เพียงพอสำหรับหลินเป้ยที่จะใช้ในขณะนี้
ครั้งต่อไปต้องใช้ 30,000 แต้ม เพื่อขยายขนาดของพื้นที่
ตอนนี้หลินเป้ยขาดแคลนเงิน ดังนั้นเขาจึงยังไม่ได้อัปเกรดในทันที
หลังจากทุกอย่างพร้อม หลินเป้ยก็บอกให้หลินหลิงเอ๋ออยู่ที่บ้าน เพราะเขาจะออกไปข้างนอกสักสองสามวัน
หลังจากที่หลินเป้ยออกจากเมือง เขาก็ปล่อยเสี่ยวเฮย
ทันทีที่เสี่ยวเฮยออกมา มันก็เดินวนรอบหลินเป้ยอย่างมีความสุข
มันอยู่แต่ในบ้านสัตว์อสูรมาหลายวันแล้ว ตอนนี้มันได้รับการปล่อยตัวออกมา มันมีความสุขมากที่ได้เห็นหลินเป้ย
"เสี่ยวเฮย ครั้งนี้ข้าจะเข้าไปในภูเขาเทียนหยาง เจ้าพาข้าไปหาหมาป่าสีคราม" หลินเป้ยกำลังขี่หลังของเสี่ยวเฮยอยู่ในเวลานี้
เสี่ยวเฮยตัวไม่เล็ก และหลินเป้ยชอบที่จะขี่มัน
เสี่ยวเฮยยังคงเป็นสัตว์อสูรระดับสองขั้นเก้า ที่มีพละกำลังและความเร็วที่ดี เพียงแค่หลินเป้ยเพียงลำพัง มันไม่รู้สึกหนักเลย
“วู้” หมาป่าสีครามร้องโหยหวน วิ่งอย่างรวดเร็ว และนำหลินเป้ยไปที่ภูเขาเทียนหยาง
ในไม่ช้า ร่างของชายหนึ่งคนกับหมาป่าหนึ่งตัวก็หายไปในป่า
...
"เสี่ยวเฮย เจ้าคิดว่าเจ้าได้พาข้ามาในที่ที่ดีจริงๆ" ในขณะนี้ หลินเป้ยและเสี่ยวเฮยกำลังมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
สีหน้าของหลินเป้ยจริงจัง!
พวกเขาบุกเข้ามาในถ้ำหมาป่าจริงๆ!
หมาป่าสีครามมากกว่าสิบตัวล้อมรอบพวกเขาไว้
โดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นหมาป่าสีครามตัวเต็มวัยที่มีความแข็งแกร่งระดับสอง และยังมีราชาหมาป่าสีครามซึ่งมีความแข็งแกร่งถึงระดับสามขั้นแรกอีกด้วย
หลินเป้ยขอให้เสี่ยวเฮยมองหาหมาป่าสีคราม แต่เจ้าหมาโง่ตัวนี้พาเขาเข้ามาในถ้ำของหมาป่า
เมื่อมองไปที่หมาป่าที่อยู่รอบตัวเขา หลินเป้ยก็กังวลเล็กน้อยเช่นกัน
แม้ว่าเสี่ยวเฮยจะเป็นหมาป่าสีคราม แต่มันไม่ได้เป็นสมาชิกของหมาป่าสีครามฝูงนี้
แถมมันยังอยู่กับหลินเป้ย หมาป่าสีครามตัวอื่นๆจึงระบุว่ามันเป็นศัตรูโดยธรรมชาติ
ฝูงหมาป่าที่แตกต่างกัน หากเกิดความขัดแย้งกัน ฝูงหมาป่าทั้งสองฝั่งก็อาจจะฆ่ากันเองได้
“ฆ่า”หลินเป้ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันสู้
ไม่ใช่ว่าหลินเป้ยไม่เคยคิดเกี่ยวกับการใช้หุ่นเชิดเพื่อฆ่าหมาป่าเหล่านี้
แต่ระบบแสดงให้เห็นว่า สัตว์อสูรที่ถูกฆ่าด้วยหุ่นเชิดจะไม่ถูกนับค่าประสบการณ์ และไม่รีไซเคิลในบ้านสัตว์อสูร
มันต้องถูกฆ่าด้วยหลินเป้ยเอง หรือโดยสัตว์เลี้ยงวิญญาณเท่านั้น ระบบถึง
จะนับ!
การค้นหาหมาป่าสีครามของหลินเป้ย ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อปลดล็อกสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณหมาป่าสีคราม
เสี่ยวเฮยเป็นสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณมือใหม่ที่ระบบส่งให้
โดยบ้านสัตว์อสูรที่เสี่ยวเฮยอยู่ สามารถเก็บหมาป่าสีครามได้เท่านั้น ไม่สามารถเก็บสัตว์อสูรชนิดอื่นได้เลย
ดังนั้นเพื่อปลดล็อกหมาป่าสีคราม หลินเป้ยต้องการเพียงฆ่าหมาป่าสีครามห้าตัวแล้วส่งมอบให้กับระบบ จากนั้นหลินเป้ยก็สามารถแลกเปลี่ยนลูกหมาป่าสีครามกับระบบได้
หมาป่าสีครามที่โตเต็มวัยจะเป็นสัตว์อสูรระดับสอง เทียบเท่ากับนักรบแท้จริง และพลังการต่อสู้ของมันก็แข็งแกร่งกว่านักรบแท้จริงทั่วไป
ส่วนที่ดีคือ มันไม่มีการจำกัดจำนวนของสัตว์อสูรที่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านสัตว์อสูรได้
เพราะฉะนั้น ถ้าหลินเป้ยมีฝูงหมาป่าสีครามที่อยู่ขั้นนักรบแท้จริง สิ่งนี้นับว่าเป็นพลังอันแข็งแกร่งของหลินเป้ยได้!
แน่นอนว่าในการเลี้ยงสัตว์อสูร เขาต้องจัดหาอาหาร
มิฉะนั้น มันจะตายได้จากการอดอาหาร!
อาหารก็เป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตเช่นกัน เสี่ยวเฮยต้องการอาหาร 150 ตำลึงต่อเดือน แล้วถ้ามีสัก 10 ตัว หรือ 100 ตัวล่ะ??
ดังนั้นหลินเป้ยจึงรู้แล้วว่าในอนาคตเขาจะขาดแคลนเงินเพียงใด!
เสี่ยวเฮยกล้าหาญมาก มันรีบตรงไปหาราชาหมาป่าคราม และต่อสู้กับราชา
"ระบบ แลกยันต์หุ่นเชิดระดับสามขั้นสิบ" หลินเป้ยทำอะไรไม่ถูก และในที่สุดก็แลกยันต์หุ่นเชิดกับระบบ
หมาป่าสีครามตัวอื่นๆ ล้วนอยู่ในระดับสองหลินเป้ยเป็นเพียงนักรบฝึกหัดขั้นสี่
เขาสามารถต่อสู้ได้ถ้ามีเพียวหนึ่งถึงสองตัว แต่ถ้าเป็นโหล มีแต่ความตายเท่านั้นเป็นคำตอบ!
เมื่อหุ่นเชิดออกมา ปรากฏว่าเป็นหญิงสาวที่เย็นชา
อารมณ์เหมือนนางฟ้าที่อยู่กลางพงไพร
“บ้าไปแล้ว ระบบ หุ่นเชิดที่เจ้าสร้างมาสวยมาก เจ้าพยายามจะให้ข้าทำอะไรกับมันหรือเปล่า?”หลินเป้ยเบิกตากว้าง
“ปล่อยหมาป่าสีเครามไว้ห้าตัว และฆ่าที่เหลือ”หลินเป้ยสั่งหุ่นเชิดหญิงสาว
หุ่นเชิดและจิตใจของหลินเป้ยเชื่อมโยงกัน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่มันก็เชื่อฟังคำสั่งของหลินเป้ย
ดังนั้น มันรู้ว่าเสี่ยวเฮยเป็นสัตว์เลี้ยงทางวิญญาณของหลินเป้ย มันจะไม่ฆ่าเสี่ยวเฮย!
ระบบยังทำให้หุ่นเหล่านี้มีความสมจริงมาก จนแยกไม่ออกจากคนจริงๆ ยกเว้นแต่ไม่มีการแสดงออก
ด้วยดาบในมือของหุ่นหญิงสาว ปราณดาบจำนวนมากก่อตัวขึ้นทันที
พลังปราณของดาบเหล่านี้ ห่อหุ้มหมาป่าสีครามโดยรอบ
แน่นอนว่าเหลือหมาป่าสีครามห้าตัวถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการโจมตี และหมาป่าสีครามทั้งห้าตัวนี้อ่อนแอที่สุดในผูง
ระบบอธิบายว่าถ้าสัตว์อสูรได้รับบาดเจ็บจากหุ่นเชิด แล้วถูกหลินเป้ยสังหาร
ระบบจะไม่นับสัตว์อสูรดังกล่าวเช่นกัน!