นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 36 - เส้นทาง
สีแดงเข้มของสิ่งที่กำลังเต้นอยู่ และตำแหน่งที่มันถูกวางเอาไว้ ทำให้ถ้าไม่ได้สังเกตอย่างจริงจัง จะไม่มีทางมองเห็นมันได้เลย
หลังจากชี้ให้ดูถึง ‘อวัยวะ’ ที่เขากล่าวถึงอย่างชัด ๆ แล้ว ครูฝึกก็กล่าวต่อออกมาอีก “หน้าที่ของอวัยวะใหม่นี้ คือการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความบริสุทธิ์ของเลือด สร้างให้มันกลายเป็นของเหลวที่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ได้ขึ้นมา และส่งออกไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย”
แล้วเขาก็ขยับมืออีกครั้ง บริเวณส่วนหน้าอกของร่างที่มีอวัยวะแปลกปลอมทำหน้าที่อยู่ ก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า ทำให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน นักเรียนทุกคนสังเกตเห็นลักษณะของเลือดที่เพิ่งออกมาจากหัวใจดวงเดิม วิ่งผ่านเส้นเลือดที่ถูกเชื่อมต่อเอาไว้เป็นอย่างดี ก่อนจะไหลเข้าไปในอวัยวะแปลกปลอมนั้น
ภาพที่ขยายใหญ่นั้น ยังแสดงให้เห็นว่าเมื่อเลือดถูกส่งเข้าไปภายในอวัยวะนั้นแล้ว มันจะผ่านเนื้อเยื่อบาง ๆ ที่คล้ายกับเป็นชั้นกรอง ก่อนที่จะแยกออกเป็นหลายสาย กระจายตัวกันไปผ่านเนื้อเยื่อบาง ๆ ที่จุดอื่น ๆ อีกหลายชั้น
มันสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เมื่อเลือดถูกกรองผ่านเนื้อเยื่อบาง ๆ เหล่านั้นแล้ว มันจะมีสีแดงเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับว่ายิ่งผ่านการกรองจากเนื้อเยื่อไปมากชั้นเท่าไร มันจะยิ่งมีความบริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น จนในที่สุด เลือดที่ถูกแยกออกเป็นสาย ๆ ก่อนหน้านี้ ก็จะกลับมารวมตัวกันอยู่ที่ท่อเดียวเท่านั้น ก่อนจะถูกส่งผ่านไปยังส่วนที่คล้ายกับก้อนหินสีดำก้อนหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ตรงบริเวณศูนย์กลางของหัวใจดวงที่ 2 นี้อย่างพอดี
เดวิดทั้งตื่นเต้นและตกใจไปพร้อม ๆ กัน เหมือนกับว่าสติของเขาจะถูกเป่าจนกระเจิงไปหมดแล้ว ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ชีววิทยาไม่เคยเป็นหัวข้อที่เขาให้ความสนใจเลย มันเป็นเรื่องที่ยากจะทำความเข้าใจ แต่การอธิบายด้วยภาพที่น่าเหลือเชื่อนี้ มันทำให้เขาเริ่มจับประเด็นหลัก ๆ ได้ในทันที แม้ว่าความลึกลับบางอย่างจะยังไม่สามารถเข้าใจได้ก็ตาม แต่เขาก็แน่ใจว่า ถ้าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสมือนอย่างนี้ และอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว แม้แต่เรื่องพื้นฐานเบื้องต้น เขาก็อาจจะฟังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ
หลังจากที่เลือดสีแดงเข้ม ถูกส่งออกมาจากหัวใจดวงที่ 2 มันจะไหลเวียนออกไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย และทันทีที่มันผ่านเนื้อเยื่อ หรือแม้แต่เข้าไปสู่กระดูก มันจะทำให้เนื้อเยื่อเหล่านั้นดูมีความหนาแน่นที่มากขึ้น รวมถึงอ่อนนุ่มขึ้นด้วย ในแต่ละรอบที่เลือดถูกหมุนเวียนส่งออกมา ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ
เสียงของนักเรียนอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจเป็นระยะ ข้อมูลที่พวกเขาเพิ่งได้รับไปใหม่นี้ มันมีความแปลกใหม่ และน่าอัศจรรย์ใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เสียงดีดนิ้วดังขึ้น ภาพที่ขยายใหญ่อยู่ เริ่มหดตัวกลับลงไปเป็นขนาดตอนเริ่มต้นอีกครั้ง
“การเลือกเส้นทางนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับการเริ่มต้นเป็นสไปร์เยอร์ ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ มันขึ้นอยู่กับวิธีการฝึกฝนที่พวกเธอจะเลือกใช้ ว่าจะมุ่งมั่นฝึกฝนอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับตัวเองที่สุด แต่ผลสุดท้ายแล้ว ถ้าทุกคนเลือกได้ถูกต้อง และฝึกฝนได้ดี ประสิทธิภาพโดยรวมจะไม่ต่างกันมากนัก
สิ่งที่พวกเธอทุกคนต้องการ คือเพิ่มความเข็งแกร่งให้ตัวเอง ด้วยการทำให้หัวใจของตัวเองนั้นเต้นแรงขึ้น และเร็วขึ้นให้ได้มากที่สุด มันจะทำให้พวกเธอสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วตามไปด้วย สิ่งเดียวที่ต้องระวัง คืออย่างให้เกินขีดจำกัดของร่างกายตัวเอง ดังนั้น ฉันจึงหวังว่าพวกเธอทุกคน จะเลือกเส้นทางในการฝึกฝนอย่างฉลาด เอาล่ะ ก่อนจะเลิกเรียน มีคำถามอะไรหรือไม่?”
เขากวาดตามองไปที่นักเรียนอีกครั้ง ตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะไม่มีใครสงสัยอะไร ทุกคนควรจะเข้าใจบทเรียนได้ทั้งหมด แต่ดูเหมือนนั่นจะเป็นการตั้งความหวังที่สูงเกินไป
....
ที่โต๊ะของนักเรียนทุกตัว จะมีปุ่มเล็กปรากฏอยู่ที่มุมด้านซ้ายล่างของโต๊ะ ถ้ากดลงไป มันจะส่งแสงสว่างจ้าออกมาในทันที แต่จะเรียกมันว่าสว่างจ้าก็คงจะไม่ถูกมากนัก มันแค่เรืองขึ้นเป็นลำ สว่างพอที่จะให้ครูฝึกที่ยืนอยู่หน้าห้องสังเกตุเห็นได้เท่านั้น
ในตอนนี้ แสงสว่างที่เพิ่งกล่าวถึงไป กำลังสว่างมาจากโต๊ะของนักเรียนจำนวนหนึ่ง และเมื่อได้เห็นดังนั้น สีหน้าท่าทางของครูฝึกก็หม่นลงเล็กน้อย เขาตั้งความหวังเอาไว้จริง ๆ ว่า นักเรียนทุกคนจะต้องทึ่งกับสิ่งที่เพิ่งได้เห็นไปเป็นอย่างมาก และจะไม่มีข้อสงสัยอะไรเหลือให้ถาม แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นเลย ไฟคำถามสว่างขึ้นจำนวนไม่น้อยเลยจริง ๆ
ด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ครูฝึกเลือกชี้มือที่แสงไฟที่สว่างอยู่อย่างสุ่ม ๆ “เธอคนนั้น มีคำถามอะไรอย่างนั้นรึ?” เสียงของเขานั้นราบเรียบ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีความสุขนัก
เดวิดต้องเลิกคิ้วของตัวเองขึ้นอย่างประหลาดใจเล็ก ๆ เพราะครูฝึกนั้นชี้มือมาทางเขา แต่เมื่อหันไปมอง ก็พบว่าที่โต๊ะของไนฮุนที่อยู่ด้านข้าง นั้นมีแสงไฟสว่างอยู่
และถึงแม้ว่าจะตกใจเล็กน้อย เขาก็ตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยถามออกมาอย่างฉะฉาน
“ครูฝึกครับ ก่อนหน้านี้คุณพูดว่ายิ่งหัวใจเต้นแรงและเร็วมากขึ้นแค่ไหน ก็จะยิ่งได้ความแข็งแกร่งกลับมามากเท่านั้น อย่างนี้ไม่ได้หมายความว่า มันไม่มีขีดจำกัดของความแข็งแกร่งเลยหรือครับ ถ้ามันขึ้นอยู่กับการเต้นของหัวใจเพียงอย่างเดียว?” น้ำเสียงของไนฮุนแฝงไปด้วยความสงสัยจริง ๆ และถ้ามองดูที่หน้าของเขาชัด ๆ จะเห็นว่ากำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ใบหน้าของครูฝึกเริ่มเปลี่ยนสีทันที ใบหน้าเรียบเฉยของเขา กลายเป็นดำทะมึนอย่างมาก ‘ถ้ามันเป็นอย่างนั้นได้จริง ๆ ทำไมฉันจะต้องมาอยู่ที่นี่ คอยสอนพวกเด็กโง่เง่าอย่างพวกแกด้วยล่ะ ฉันคงจะออกไปใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระ ไม่ต้องมามีข้อผูกมัดอะไรอยู่ที่นี่แล้ว!’ เขาเกือบจะตะโกนออกมาเสียงดังแล้ว แต่ก็ยังสามารถควบคุมความโกรธของตัวเองเอาไว้ได้ แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินคำถามแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เขาก็มีอารมณ์ทุกครั้งที่ได้ยินมันขึ้นมา
ในขณะที่ไนฮุนเหมือนจะรู้ตัวว่าคำถามของเขาทำให้ครูฝึกโกรธ ตัวของเขาสั่นออกมาเล็กน้อย
หลังจากสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ ครูฝึกสตามอสก็ตอบคำถามออกมาในที่สุด “ไม่! ไม่มีใครสามารถแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้ พอถึงจุด ๆ หนึ่ง มันจะเกิดจุดติดขัดขึ้น ที่เรียกว่าสภาวะคอขวด การทำให้ตัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างเดียว จะไม่สามารถทำลายสภาวะนั่นได้”
และโดยไม่รอให้ไนฮุนกล่าวอะไรออกมาอีก เขาชี้นักเรียนคนต่อไปทันที
“คุณพูดบางอย่างออกมาเกี่ยวกับการเลือกเส้นทาง หรือการเลือกวิธีการฝึกฝน ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้หรือไม่คะ?” นักเรียนหญิงคนหนึ่งกล่าวถามออกมา
คราวนี้ครูฝึกพยักหน้าอย่างพอใจ “มันมีหลายวิธีที่จะทำให้ผู้คนตื่นเต้น และกระตุ้นให้หัวใจของเขาเต้นเร็วเกิดขีดจำกัดเดิมของมัน
มันเหมือนกับการเลือกทางเดินที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง เลือกวิธีปฏิบัติที่เหมาะสม และสามารถปฏิบัติได้ เพื่อให้ได้ผลที่ดีทีสุดกลับมา”
และเมื่อยังเห็นว่านักเรียนเกือบทุกคนยังมีสีหน้าสงสัย เขาก็อธิบายต่อ
“ยกตัวอย่างง่าย ๆ สำหรับมือใหม่อย่างพวกเธอ หลังจากที่ประสบกับสภาวะคอขวดในครั้งแรก วิธีที่เลือกใช้กันมากที่สุด ที่จะทำลายสภาวะคอขวดก็คือ การรับภารกิจออกไปฆ่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับต่ำ ความคิดที่จะได้ฆ่าสัตว์ร้ายที่มนุษยชาติเกลียดชัง ความคิดที่จะได้ฆ่าสิ่งที่ทรงพลังและอันตราย จะทำให้นักเรียนใหม่ส่วนใหญ่นั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นั่นจะทำให้สามารถทำลายสภาวะคอขวดไปได้...แต่! ไม่ได้ต้องเป็นเช่นนั้นทุกคน นักเรียนอัจฉริยะบางคน อาจจะสามารถทำลายสภาวะนั้นได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ความคิดเท่านั้น ไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย..