นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 35 - ชิ้นส่วนแปลกปลอม
ในคราวนี้ เดวิดนั้นถือว่าโชดดีไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าเขายังคงยืนชื่นชมอยู่ที่ทางเข้าของห้องเรียนนานกว่านี้แค่วินาทีเดียว ก็ไม่รู้แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง
แต่จากเสียงคำรามอยู่ในลำคอของครูฝึก มันก็ทำให้เขารู้ได้อย่างชัดเจนเลยว่า เขาทำให้ครูฝึกไม่พอใจ และถูกหมายหัวเอาไว้แล้วอย่างแน่นอน
เขารีบนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างข้าง ๆ กับไนฮุนทันที ไม่ได้สนใจที่จะเอ่ยคำพูดอะไรออกมาเลย เพียงแค่พยักหน้าของตัวเองแทนคำทักทายเท่านั้น ไนฮุนเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เขารู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าครูฝึกจะยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย การมาเข้าเรียนสายนั้นถือว่าหยาบคาย และไม่ให้ความเคารพต่อครูผู้สอนมาก และเขาก็นึกว่าเดวิดรู้ตัวในเรื่องนี้ และพยายามทำตัวไม่ให้มีปัญหา แต่เขาคิดผิด!
เดวิดแค่ไม่อยากจะกล่าวอะไรกับ ‘จอมพูดมาก’ ขึ้นมาก่อนเท่านั้น ถ้ามันมีทางเลือกจริง ๆ เขายอมที่จะไม่พูดเลยด้วยซ้ำ
หลังจากที่เห็นนักเรียนทุกคนนั่งประจำที่กันหมดแล้ว ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่บนเวทีหน้าห้อง ก็กวาดสายตาของเขาไปที่นักเรียนที่กำลังนั่งเงียบอยู่ สีหน้าแสดงความพอใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นมา
“นี่คือชั้นเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ฉันชื่อ สตามอส เวสโตร จะเป็นครูฝึกของพวกเธอในภาคการศึกษานี้ รหัสที่พวกเธอจะต้องใช้คือ 2340804792157 เริ่มลงมือกันได้เลย” ครูฝึกสตามอสกล่าวออกมาเสียงดัง พอที่จะให้นักเรียนทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน น้ำเสียงนั้นไร้อารมณ์อย่างสิ้นเชิง
แต่เมื่อนักเรียนคนอื่นได้ยินสิ่งที่เขากล่าวออกมาแล้ว เกือบทุกคนรีบตอบสนองออกมาทันที แม้ว่ามันจะแตกต่างกันไปบ้างก็ตาม
ยกเว้นเดวิด เพราะตอนนี้เขาได้แต่มองนักเรียนคนอื่น ๆ ไปทั่ว ตาเบิกกว้างออก จ้องมองพวกเขาเปิดโฮโลแกรมของระบบส่วนตัวขึ้นมาทีละคน แม้ว่าจะยังไม่รู้เหตุผล แต่เขาไม่ยอมแพ้เรื่องง่าย ๆ อย่างนี้แน่นอน เขาตัดสินใจแตะไปที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง และเรียกหน้าโฮโลแกรมส่วนตัวขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
แต่ก็ได้เพียงแค่นั้น เพราะเขาไม่รู้แล้วว่าคนอื่น ๆ กำลังทำอะไรกันต่อ ไม่สามารถเห็นขั้นตอน และรายละเอียดบนหน้าโฮโลแกรมของนักเรียนคนอื่นได้เลย สังเกตได้แต่เพียงว่า ทุกคนกำลังแตะลงไปที่หน้าจอ ทำให้โฮโลแกรมนั้นส่องแสงแวบ ๆ ออกมาเป็นสีสันต่าง ๆ กันไป เขาต้องหันมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง แล้วก็รู้ตัวว่า มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป หลังจากที่เรียกระบบส่วนตัวออกมาแล้ว
แต่ก็แค่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น เขายังเหลือที่พึ่งสุดท้ายอยู่ หันหน้าไปทางไนฮุนทันที และเป็นไปตามที่คาด ดูเหมือนว่าไนฮุนรู้ดีว่าจะต้องทำอะไร เขากำลังทำแบบเดียวกันกับนักเรียนคนอื่น ๆ อยู่
“มันเกิดอะไรขึ้น? พวกนายทำอะไรกัน?” เสียงของเดวิดนั้นเบามาก กระซิบถามไนฮุนที่กำลังยุ่งอยู่กับการแตะ และปัดหน้าจอของตัวเองอยู่ มีแสงสว่างวาบ ๆ ขึ้นมาเป็นระยะ
“ฉันกำลังเชื่อมต่อระบบการรับรู้ของสมองเข้ากับช่องทางของเครือข่ายเสมือน โดยการใช้รหัสที่ครูฝึกเพิ่งบอกออกมาเมื่อกี้นี้” เขาตอบออกมาอย่างคล่องแคล่ว และไหลลื่น เหมือนกับเตรียมตัวรับมือกับคำถามประเภทนี้จากเดวิดเอาไว้แล้ว
และนั่นทำให้เดวิดอึ้งไปเลย สายตาอันว่างเปล่ายังจ้องค้างอยู่ที่หน้าของไนฮุน จนเมื่อเขาได้สติกลับมา ก็รีบถามออกไปต่อทันที “แล้วนั่นมันหมายถึงอะไรกันแน่?” คราวนี้เสียงของเขาเริ่มกดดันไนฮุนมากขึ้น แต่มันก็ยังคงเป็นแค่เสียงกระซิบเบา ๆ อยู่เหมือนเดิม
ไนฮุนถอนหายใจออกมา และตอนที่เขาเปิดปากตอบกลับมาอีกครั้ง ดวงตาของเขาเริ่มแข็งค้าง ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายเสมือนได้สำเร็จแล้ว “แค่ใส่รหัส 23408147921517 ลงไป แล้วที่เหลือ AI จะช่วยจัดการให้เองนั่นแหละ”
เมื่อได้คำตอบกลับมา เดวิดก็ลงมือพิมพ์รหัสลงไปทันที เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น มีตัวเลือกเดียวปรากฏขึ้นมาบนหน้าโฮโลแกรมของเขา มันเขียนเอาไว้ว่า SCIENCE 101 แน่นอน เขาแตะลงไปที่ตัวเลือกนั้นอย่างไม่ลังเล
และในทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับตัวเลือกนั้น ดวงตาของเขาก็เริ่มแข็งค้าง และเหลือกขึ้นด้านบนเล็กน้อย
การมองเห็นของเขากลายเป็นมืดดำไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีแสงจ้าระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน มันหมุนวนไปรอบ ๆ ในหัวของเขา ต้องใช้เวลาหลายวินาทีเลยทีเดียว กว่าที่เขาจะรู้ตัวว่า กำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนขนาดใหญ่ แต่ไม่ใช่ห้องเดิมที่อยู่ในชีวิตจริง ไนฮุนยังปรากฏตัวนั่งอยู่ข้าง ๆ เหมือนเดิม และแน่นอน ครูฝึกสตามอสก็ยืนอยู่ที่หน้าห้องเหมือนเดิมเช่นกัน สิ่งที่ทำให้ห้องนี้ดูแตกต่างจากเดิม จนสามารถสังเกตได้ง่ายเป็นอย่างมาก ก็คือผนังห้องที่เปลี่ยนเป็นสีขาวไปหมดทั้ง 4 ด้าน
‘หืม? นี่มันอะไรกัน?’ เดวิดลองใช้มือทุบลงไปที่ต้นขาของตัวเองอย่างแรง แต่มันก็เป็นแค่เพียงกลุ่มของแสงที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น ทั้งต้นขาและมือที่เขาใช้ทุบลงไป กระจายตัวออกเล็กน้อย ก่อนจะกลับมารวมกันเป็นรูปร่างเหมือนเดิมอีกครั้ง ในเวลาเพียงแวบเดียวเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นมันสั่นประสาทของเขาพอสมควร เมื่อคิดได้ว่า ครูฝึกสามารถที่จะเลือกชี้ หรือนักเรียนคนไหนก็ได้อย่างอิสระแน่นอน
“แฮ่ม! ฉันค่อนข้างจะแน่ใจ ว่าพวกเธอทุกคนได้อ่านคู่มือนักเรียน และรู้เกี่ยวกับพื้นที่เสมือนนี้ดีแล้ว ดังนั้น ฉันจะไม่กล่าวอะไรเกี่ยวกับมันอีก” ครูฝึกเริ่มต้นง่าย ๆ แบบนั้น
แต่มันไม่ง่ายสำหรับเดวิดเลย เขาเกือบจะตะโกนออกไป ‘เป็นคนสอนภาษาอะไร เรื่องที่สำคัญอย่างนี้ก็ไม่ยอมอธิบายออกมาให้ชัดเจน’
“พวกเราจะเริ่มเข้าหัวข้อหลักของบทเรียนในวันนี้กันเลย ‘สไปรเยอร์’” หลังจากที่เขากล่าวจบ แสงที่อยู่รอบ ๆ ตัวก็เริ่มมารวมกันในทันที และเริ่มสร้างเป็นตัวหนังสือ ‘สไปรเยอร์’ ขนาดใหญ่ขึ้นมา
นั่นทำให้เดวิดมหัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ถึงกับตะโกนออกมาในหัวของตัวเอง ‘โลกเสมือน!’
อันที่จริง ในตอนนี้เดวิดกำลังเชื่อมต่ออยู่กับพื้นที่เสมือนระดับพื้นฐาน ที่ครูฝึกได้ขอยืม หรือสร้างขึ้นมาจากเครือข่ายเสมือนของทางสถาบัน
ที่เรียกมันว่าพื้นที่เสมือนระดับพื้นฐาน เพราะว่าในพื้นที่เสมือนแห่งนี้ จะไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกอะไรได้เลย ร่างกายของนักเรียนทุกคน รวมทั้งครูฝึก ถึงสร้างขึ้นมาจากการปรับคลื่นสมอง และกระแสไฟฟ้า ก่อนที่จะถูกส่งตรงไปยังสมองส่วนที่รับผิดชอบต่อการมองเห็น สร้างเป็นภาพให้ปรากฏขึ้นในสมองโดยตรง โดยจะมีการจัดการกับภาพที่ปรากฏขึ้นมาได้เล็กน้อย มันเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนพอสมควร
เสียงของครูฝึกดังขึ้นอีก “สไปร์เยอร์คือสิ่งมีชีวิต ที่ได้รับการดัดแปลงให้มีความแข็งแกร่งได้มากขึ้น ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งจะเป็นอัตราที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาโดยทั่วไปจะทำได้” เมื่อคำพูดต่าง ๆ ถูกกล่าวออกมาจากปากของเขา แสงที่อยู่รอบ ๆ ตัวก็เริ่มสร้างเป็นภาพมนุษย์ 2 คนขึ้นมา ผิวหนังนั้นโปร่งใส มองเห็นอวัยวะภายในได้อย่างชัดเจน
มนุษย์ทั้ง 2 คนนั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลย แต่เดวิดสามารถสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็ว ว่าร่างของมนุษย์คนหนึ่ง มีหัวใจ 2 ดวงกำลังเต้นอยู่เกือบจะพร้อม ๆ กัน
เขาเกือบจะต้องอ้าปากค้าง เมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ครูฝึกเอลล่าเคยบอกเอาไว้ ว่ามีการปลูกถ่ายวัตถุพิเศษเข้ามาไว้ในร่างกายของพวกเขา ในตอนนั้น ไม่มีใครจับคำพูดนี้มาคิดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตัวของเดวิดเอง เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องที่ว่า มีอะไรแปลกปลอมอยู่ในร่างกายมาก่อนเลย
ครูฝึกวาดมือของเขาออก ดึงภาพของร่างกายมนุษย์ทั้ง 2 คน ที่สร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ให้เข้าไปอยู่ใกล้ ๆ กับตัวเขามากยิ่งขึ้น
“สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้สไปร์เยอร์แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดา ก็คือพวกเราได้เพิ่มอวัยวะที่จะทำหน้าที่เหมือนหัวใจเข้าไปในร่างกาย และกระตุ้นให้มันทำหน้าที่ควบคู่ไปกับหัวใจดวงเดิม” เขาใช้มือชี้ไปที่หัวใจดวงที่ 2 ซึ่งกำลังเต้นอยู่ในร่างกายของภาพมนุษย์คนหนึ่ง
‘หัวใจ’ ดวงนั้นมีสีแดงเข้ม กำลังเต้นด้วยจังหวะเดียวกันกับหัวใจปกติ ถ้าไม่สังเกตให้ดี จะไม่มีทางเห็นได้เลยว่ามีหัวใจอีกดวงซ่อนอยู่ตรงนั้นด้วย