ตอนที่แล้วตอนที่ 20 มื้อค่ำ 3(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 หอกคืนสนอง 2(อ่านฟรี)

ตอนที่ 21 หอกคืนสนอง 1(อ่านฟรี)


ตอนที่ 21 หอกคืนสนอง 1

อีกฝั่งของโต๊ะอาหารที่เรทเจอร์และนิโคลนั่งอยู่ เรทเจอร์ยังคงมีใบหน้ายิ้มแย้มและเอาแต่หรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า แต่นิโคลกลับไม่สนใจเขา ใบหน้าบึ้งตึงมองด้วยความเฉยชา

“นายคิดจะทำอะไร”

“ทำไมละ ฉันก็แค่ชวนเขาเข้ากิลด์ก็เท่านั้น ไม่ต้องห่วงฉันไม่ทำร้ายเขาหรอก”

เรทเจอร์ตอบอย่างกวน ๆ แต่ในแววตาไม่เป็นอย่างที่ปากพูดแม้แต่นิดเดียว

นิโคลพ่นเสียงไม่พอใจ “หึ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้จักนิสัยนาย การที่มาครั้งนี้เพราะคุณป้าฉันเป็นคนจัดการให้”

“แต่เธอก็ได้ในสิ่งที่พ่อฉันเสนอให้จริงไหม เลิกพูดได้แล้ว เธอทำให้เสียบรรยากาศนักเรามาเดทกันตามที่ตกลงไว้ก็พอจริงไหม”

เรทเจอร์เอื้อมมือไปจะจับมือของนิโคล เธอปัดมือออกทันที ก่อนจะไม่พูดไม่จากินอาหารอย่างเย็นชา

‘หึ...ยิ่งนัก เธอมันก็แค่หญิงจากบ้านที่กำลังล้มละลายเท่านั้น แค่เพราะพ่อฉันไม่ให้ความสำคัญกับเธอ อย่าคิดว่าจะทำตามใจได้ตลอด คอยดูเถอะสักวันเธอจะต้องเป็นของฉัน’

เรทเจอร์พ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งที่คิดในใจออกมา

“เรื่องที่ตกลงกันไว้นายทำสำเร็จหรือยัง” นิโคลถามตรงประเด็นทันที

“ไว้ฉันจะบอก แต่ตอนนี้ฉันหิวแล้ว โอ้อาหารมาพอดี ได้ข่าวว่ามีเนื้อมอนสเตอร์บอสแมงป่องหลังหนามพอดี เธอลองกินดูสิ” เรทเจอร์กล่าวขึ้นมา

‘เนื้อบอสแมงป่องหลังหนาม? บังเอิญเหรอ...ไม่ติดหนี้’ นิโคลคาดเดาว่าเนื้อนี่น่าจะเป็นของลุคแน่นอน เพราะเขาคือคนที่ล่าบอสแมงป่องหลังหนามได้ และยังอยู่ที่นี่อีกด้วย

...

ด้านของลุคก็สังเกตเห็นเช่นกัน

‘ไม่คิดว่าจะเป็นหมอนั่น ตอนแรกไม่รู้จึงให้ไป ถ้ารู้เราคงไม่ให้ไปหรอก แต่ก็ช่างเถอะยังไงฉันก็ได้ค่าตอบแทนมาแล้ว’

ลุคมองไปที่โต๊ะอาหารของนิโคล ถึงจะไม่ชอบหน้าของเรทเจอร์ แต่มันก็แค่การไม่ชอบหน้ากันเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับเป็นศัตรูกัน ที่สำคัญก็แค่รู้จักกันไม่กี่ประโยคเท่านั้น ทำไมจะต้องเก็บมาใส่ใจด้วย

มื้ออาหารตรงหน้านั้นสำคัญยิ่งกว่า ลุคจัดการกินด้วยความสุข โดยเฉพาะเมื่อเห็นน้องสาวกินอาหารด้วยรอยยิ้ม

“พี่ค่ะ ทำไมหนูรู้สึกว่ากินไม่เท่าไหร่ก็อิ่มแล้ว หรือจะเป็นเพราะเนื้อมอนสเตอร์” เจนรู้สึกแปลก

ลุคมองไปที่จานอาหารจากเนื้อมอนสเตอร์บอสตรงหน้า เขาไม่มีความรู้สึกอิ่มกับกระหายซะมากกว่า

“อาจจะเพราะเรื่องความต่างของระดับชั้นชีวิต น้องเป็นคนธรรมดาคงกินได้จำกัด”

“อย่างนั้นก็น่าเสียดาย” เจนรู้สึกเศร้าอยู่ไม่น้อย อาหารมื้อนี้อร่อยจริง ๆ แต่เธอกลับกินได้ไม่เยอะเท่าไหร่ก็อิ่มซะแล้ว

เจนนึกขึ้นได้จึงถามว่า “พี่บอกว่าเป็นคนล่าเนื้อมอนสเตอร์บอสเองใช่ไหมคะ”

“อืม”

“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ายังมีเนื้อพวกนี้อยู่อีกใช่ไหมคะ”

“ใช่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นไว้วันหลังหนูก็ค่อยกินอีกก็ได้”

เจนไม่ได้เศร้าที่กินไม่ไหวอีก เพราะเธอรู้ว่าถ้ายังมีอยู่ในวันหลังก็ได้กินอยู่ดี

ลุคยิ้มมุมปาก ก่อนจะพยักหน้าก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อไป เจนกินไม่เยอะ ส่วนใหญ่แต่จานละนิดละหน่อยก็อิ่มแล้วและที่เหลือลุคเป็นคนจัดการ

แม้จะเป็นกระเพาะของเหนือมนุษย์ก็ยังคงมีขีดจำกัน ครั้งนี้เขาอิ่มจริง ๆ ทั้งยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน เนื้อมอนสเตอร์ถูกเขาย่อยอย่างต่อเนื่อง ร่างกายถูกเติมเต็มไปด้วยสารอาหารและพลังงาน

ลุคและเจนต่างก็พอใจกับมื้ออาหารในครั้งนี้ทั้งสองกำลังดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ สายลมเย็น ๆ เสียงดนตรีและความผ่อนคลายของจิตใจ เป็นความสุขที่น่าหลงใหลอยู่ไม่ใช่น้อย

‘พอเข้าใจแล้วว่าทำไมคนมีเงินถึงชอบมากินอาหารที่ดาดฟ้ากัน’

ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศสบาย ๆ ขนลุกทั้งตัวเตือนอันตราย ทำเอาลุคหน้าเปลี่ยน ไม่ใช่แค่ลุคที่สัมผัสได้ นิโคลและเรทเจอร์ที่เป็นเหนือมนุษย์ก็สัมผัสได้เช่นกัน

นี่คือสัญชาตญาณของเหนือมนุษย์ที่เกิดขึ้นตอนที่เจอกับอันตราย

“มาจากไหน” นี่คือสิ่งที่ทั้งสามอยากจะถาม

“เจน” ลุคแทบจะตอบสนองในทันทีถีบเท้าพุ่งข้ามโต๊ะเข้าหาเจน

ตูม!

เสียงลมรุนแรงพัดทุกสิ่งกระจายไปคนละทิศละทาง คนที่ตอบสนองทันก็หลบพ้น แต่คนที่ตอบสนองไม่ทันก็ได้แต่ไหลไปตามกระแสลมพร้อมกับสิ่งของ ร่างกายกระแทกเข้ากับขอบกำแพงกระจกของชั้นดาดฟ้า บางคนสลบ แต่ส่วนใหญ่จะร้องออกมาอย่างตื่นตกใจและมึนงงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“มอนสเตอร์โจมตี ทุกคนรีบหนีเร็ว”

เสียงบริกรของทางโรงแรมร้องตะโกนให้ลูกค้าหนีเข้าไปหลบด้านในอาคาร ขณะที่สัญญาณเตือนภัยฉุกเฉินดังขึ้นมาเช่นกัน คนที่อยู่ใกล้ประตูวิ่งเข้าไปในอาคารได้สำเร็จส่วนคนอื่นหลบอยู่ตามโต๊ะมุมต่าง ๆ ด้วยความกลัว

นิโคลที่ใช้โต๊ะกำบังต้านการโจมตีจึงรอดไร้รอยแผล ส่วนเรทเจอร์นั้นสามารถยืนต้านได้โดยไม่มีปัญหา

“พี่ค่ะเกิดอะไรขึ้น”

เจนที่อยู่ในอ้อมกอดของลุคถามด้วยความตื่นตกใจ แต่แล้วเธอก็พบว่าพี่ชายของเธอนั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไป ชุดที่สวมใส่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นชุดเกราะที่มีขนสร้างมาจากเส้นเหล็กทั้งตัวดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก

เขาไม่มีเวลามาอธิบาย ยกโต๊ะมาขวางกั้นให้น้องสาวหลบเพิ่มเติม ก่อนจะออกไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่พึ่งจะโจมตีร้านอาหารดาดฟ้าที่พวกเขาอยู่

เขามองตอนแรกนึกว่ามันคือไดโนเสาร์จำพวกเทอโรซอร์ที่บินได้ แต่พอมองดี ๆ กลับไม่ใช่ สิ่งนี้มีปีกคล้ายกัน ขนาดใหญ่ประมาณ 2 เมตรคล้ายกับมนุษย์อยู่ไม่น้อย ตามตัวมีขนสีดำ ใบหน้าไร้ดวงตาราวกับปีศาจและหูมีขนาดที่ใหญ่เป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าปีก

“ค้างคาว!” ลุคแววตาเคร่งขรึม

“มันคือมอนสเตอร์ค้างคาวปีศาจ ระวังมีกันอยู่ 3 ตัว” นิโคลช่วยเสริม

ค้างคาวปีศาจมีทั้ง 3 ตัว สองตัวกำลังไล่กินมนุษย์อยู่ ส่วนอีกตัวบนวนไปมาใบปากมีมนุษย์ร่างหนึ่งกำลังโดนกัดกินทั้งเป็นอย่างได้ใจ

มอนสเตอร์มองว่ามนุษย์นั้นอ่อนแอ นั้นก็เป็นความจริงเพราะเมื่อเทียบสัดส่วนระหว่างเหนือมนุษย์กับมนุษย์ธรรมดาแล้วยังคงห่างกันมากเกือบร้อยเท่าพันเท่าตัว

“ก็แค่ระดับ F ช่วงกลาง ๆ มีอะไรต้องกลัว” เรทเจอร์ประเมินพลังมันก็พูดอย่างดูถูก ด้านหลังปรากฏปีกที่ขนทุกเส้นเป็นเหมือนกับโลหะออกมา 1 ข้าง

ถึงจะเป็นเพียง 1 ข้าง แต่นี่ก็เป็นพลังพรสวรรค์ที่ถูกเรียกว่า ปีกเหล็ก

“เหนือมนุษย์พวกเรารอดแล้วที่มีเหนือมนุษย์อยู่”

“โชคดีมาก จัดการมันเลย”

เหล่าแขกที่สิ้นหวัง พอเห็นเรทเจอร์แสดงพลังของเหนือมนุษย์ออกมาก็พากันส่งเสียงเชียร์ด้วยความหวัง บนดาดฟ้ามีพื้นที่กว้างพอสมควรบรรจุคนมากกว่า 200 คนและที่นี่ในตอนนี้มีมากกว่า 150 คนที่หนีไม่พ้น

“หึ มันแน่นอนขยะพวกนี้ไม่เกินมือฉันหรอก”

เรทเจอร์ตะโกนด้วยท่าทางองอาจก่อนจะกระพือปีกเหล็กพุ่งเข้ามาไปต่อสู้กับค้างคาวปีศาจ

ค้างคาวหันกลับมาใช้ปีกสร้างลมอัดอากาศพัดใส่ สายลมรุนแรงมากจนพัดพื้นที่รอบตัวปั่นป่วนส่งผลกระทบต่อผู้คนที่ยังหนีไม่พ้น

“อ่า!” แขกสองคนหาที่จับไม่ทันถูกลมพัดจนกระเด็นไปที่ราวกำแพงกั้น ตัวหลุดออกไปนอกระเบียงกระจกของโรงแรม

“ช่วยด้วย”

“จะตกแล้วใครก็ได้ช่วยด้วย”

ทั้งสองส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่ใช้มือจับราวเหล็กอย่างสุดกำลัง แต่คนอื่น ๆ ยังเอาตัวไม่รอดเลยไม่มีใครไปช่วย

“หึ”

เรทเจอร์ได้ยินและเหลือบมองสองคนที่กำลังตก แต่ก็ไม่สนใจยังคงต่อสู้กับค้างคาวปีศาจ ใช้ปีกเหล็กข้างเดียวของตัวเองต้านลมอย่างไม่ยากเย็น

“พลังแค่ 700 กว่าหน่วยอย่าหวังจะหยุดฉันได้ ฉันก็มีเหมือนกัน”

เรทเจอร์ตวาดเสียงแข็งใช้ปีกสร้างคลื่นกระแทกกลับไป สายลมสองสายปะทะจนเกิดลมหมุนพัดรุนแรงจนข้าวของกระจัดกระจาย ทุกคนก้มหน้าหมอบหลบที่พื้น รอจนลมทั้งสองสลายหายไป

ก่อนจะสะบัดปีกยิงขนนกเหล็กที่คมราวกับมีดใส่ค้างคาวตัวนั้นจนมันตายและเข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด

“อ้า...”

สองคนที่เกือบตก พอมีลมจากเรทเจอร์เข้าปะทะก็จับไม่ไหวอีก สุดท้ายมือก็หลุดออกจากระเบียง แต่โชคดีที่ตอนนั้นก็มีผ้าม่านที่ถูกม้วนจนเหมือนกับเชือกสีขาวเส้นหนึ่งพุ่งเข้ามาก่อนจะรัดตัวคนทั้งสองและดึงขึ้นมาด้านบนได้สำเร็จ

“ขอบคุณ”

“รีบไปจากตรงนี้”

นิโคลกล่าวอย่างจริงจัง ตอนนี้เธอไม่มีเชือกคู่กาย จึงได้แต่อาศัยถ้าทำเป็นเชือกเพื่อควบคุม พลังการต่อสู้จึงลดน้อยอย่างยิ่ง

ทั้งสองคนพยักหน้าและทำตามรีบหาที่หลบ

ลุคในตอนนี้กำลังปกป้องน้องสาวไม่ให้โดนลูกหลงของสายลมที่เกิดจากการต่อสู้

“พี่เราจะทำยังไงกันดี” เจนถามด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว

“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่นี่แล้ว”

ลุคมองดูสถานการณ์ นอกจาก 2 ตัวที่ลงมายังมีอีกตัวบินอยู่ด้านบนลงมาโฉบกินคนเป็นบางครั้ง

‘พวกมันทั้งสามตัวมีพลังอยู่ที่ 700-800 หน่วย จัดอยู่จำพวก F4 ส่วนพลังที่เรทเจอร์แสดงออกมาชัดเจนว่าน่าจะอยู่ห่างจากระดับ E ไม่มากนัก แถมยังมีพลังพรสวรรค์อีก ถึงว่าทำไมเขาถึงมั่นหน้าดูถูกคนอื่นเสมอ’

‘พลังพรสวรรค์หายากไม่ใช่หรือไงทำไมถึงเจอบ่อยขนาดนี้ ตอนนี้ไม่ใช่มาคิดเรื่องนี้ ต้องพาเจนออกไป ร่างกายเจนอ่อนแอกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าโดนลูกหลงมาอาจจะบาดเจ็บได้’

สมองของลุคทำงานอย่างรวดเร็วประเมินสถานการณ์รอบตัว หนึ่งตัวกับสู้กับเรทเจอร์คงจะใกล้ฆ่าได้แล้ว ส่วนนิโคลอ่อนแอกว่ามากแถมอาวุธก็ไม่มีจึงอาศัยเชือกจากผ้าปูโต๊ะพยายามยื้อมอนสเตอร์ค้างคาวอีกตัว แต่ผ้าธรรมดาไม่อาจจะต้านและฆ่ามันได้

อย่างมากสุดก็ก่อกวนจนมันโมโหหันมาเล่นงานเธอ ส่วนอีกตัวบินโจมตีสร้างความวุ่นวายและแข็งแกร่งสุด

“เจนจับพี่ไว้นะ”

“อืม”

ลุคโอบอุ้มน้องสาวในท่าเจ้าหญิง ในมือปรากฏหอกหนามเกรดสีม่วงส่งให้คลื่นพลังเขาเกิน 800 หน่วย ส่วนชุดเกราะเพียงแค่เกรดสีขาวเท่านั้น เพราะหลังจากจัดการเรื่องราวในการทดสอบมีไอเทมเสียหายหลายชิ้น เขายังมีโอกาสได้จัดการพวกมัน จึงอาศัยเกราะระดับต่ำนี้ไปก่อน

ประสาทสัมผัสขยายการตอบสนองพุ่งสูงกว่าเดิมมาก

“ไป”

เขาอุ้มน้องสาวก่อนจะวิ่งด้วยความเร็วสูงตรงไปที่ประตู แต่แล้วการกระทำของลุคก็ดึงดูดค้างคาวปีศาจตัวที่บินอยู่ด้านบนมันบินโฉมเข้ามา

“หลับตาไว้”

ลุครีบกระโดดขึ้นข้ามหลบการโจมตีของค้างคาวปีศาจไปอย่างเฉียดฉิว

“อ้า!” เจนหลับตาแต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าตัวกำลังลอยในอากาศเหมือนกำลังอยู่บนรถไฟเหาะที่อันตราย แถมยังมีเสียงของมอนสเตอร์ที่น่ากลัวดังอยู่ใกล้ ๆ

เด็กสาวกอดพี่ชายไว้แน่น

แต่ขณะที่ลุคลอยอยู่กลางอากาศก็มีค้างคาวปีศาจอีกตัวบินจากพื้นหวังเพิ่มแรงส่งเข้ามาโจมตีเขาระยะประชิด

“เวร!”

ลุครีบใช้แผ่นหลังของตัวเองบังน้องสาวเอาไว้ กรงเล็บค้างคาวเกือบจะโจมตีโดน แต่แล้วนิโคลก็ใช้เชือกพุ่งมารัดพันขาของค้างคาวปีศาจตัวนั้นและกระชากมันลงกลางอากาศ

ปัง!

ค้างคาวกระแทกพื้น มันคำรามอย่างหวาดกลัวหันกลับไปเล่นงานนิโคล

ลุคที่รอดมาได้ถอดหายใจด้วยความโล่งอกคิดในใจว่า เขาติดหนี้นิโคลแล้ว แต่ไม่มีเวลามาขอบคุณ รีบพาน้องสาวหนีไปที่ประตูตรงบันไดหนีไฟได้สำเร็จ

“เปิด” ลุคบอกคนที่เข้าไปหลบด้านใน

บริกรสาวคนเดิมที่คุ้นเคยรีบเปิดประตูให้เขาและน้องสาวเข้าไป เป็นบริกรของทางโรงแรมที่กำลังช่วยคนอยู่ แม้จะมีมอนสเตอร์โจมตี แต่บริกรเหล่านี้ก็ยังช่วยลูกค้าและแขกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

‘สมกับเป็นมืออาชีพ’ ลุคชื่นชม

ลุครีบเข้าไป ก่อนจะวางน้องสาวที่ใบหน้าซีดขาว มือสั่นด้วยความกลัวและหายใจเหนื่อยหอบ

“เจนหายใจช้า ๆ”

ลุคพยายามให้น้องสาวตั้งสติ รีบหยิบยาพ่นโรคหอบจากในกระเป๋าสะพายในเล็กของเธอออกมา ก่อนจะกดพ่นยาให้เธอ

เจนสูดเข้าตามสัญชาตญาณอยู่สองสามครั้งทำให้การหายใจสงบลงมากขึ้น แต่หน้ายังซีดอยู่

“คุณครับ ผมฝากดูน้องสาวผมหน่อยได้ไหม”

ลุคเงยหน้ากล่าวกับบริกรสาวที่เคยพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเนื้อมอนสเตอร์ ตอนนี้เธอกำลังช่วยทำแผลให้ลูกค้าที่บาดเจ็บและสั่งให้บริกรอีกสองสามคนพาคนอื่น ๆ หนีลงไปทางบันได

“ได้ค่ะ” เธอรีบเข้ามาดูเจน มือทั้งสองโอบศีรษะของเจนพาเธอพิงกำแพงไว้

“พี่...จะไปไหนคะ” เจนรวบรวมเสียงเพื่อถาม

“พี่จะไปจัดการพวกมัน น้องรีบหนีลงไปข้างล่างก่อนนะ” ลุคบอกกับน้องสาวและหันไปย้ำกับบริกรสาวอีกครั้งว่า “น้องสาวผมร่างกายไม่แข็งแกร่ง ยาอยู่ในกระเป๋า ฝากพาเธอลงไปด้วย”

“วางใจได้เลยค่ะฉันจะดูแลเธออย่างดี ไม่ห่างไปไหนแน่นอน” บริกรสาวรับปากอย่างจริงจัง

ลุคพยักหน้าหันกลับถือหอกเปิดประตูวิ่งออกไป จะต้องรีบไปช่วยนิโคลเพราะเธอรับมือกับมอนสเตอร์ค้างคาวปีศาจไม่ไหวอย่างแน่นอน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด