ตอนที่ 20 มื้อค่ำ 3(อ่านฟรี)
ตอนที่ 20 มื้อค่ำ 3
ลุคพาน้องสาวสุดน่ารักของเขากลับไปโรงแรมที่พักอาศัยของสองพี่น้องชั่วคราว เขาให้เจนกลับไปก่อน ส่วนตัวเองไปยังทางด้านหลังของโรงแรม
เขาได้ติดต่อกับทางโรงแรมและแจ้งถึงของที่จะมาส่งไว้อยู่แล้ว ของที่มาส่งคือเนื้อมอนสเตอร์บอสแมงป่องหลังหนามที่ทางถูกบริษัทนายหน้าที่เขาขายให้ไปก่อนหน้านั้น ได้ชำแหละแยกสิ้นส่วนออกเป็นเนื้อสำเร็จรูปจัดลงกล่องอย่างดี
ทั้งหมดถูกส่งไปยังห้องแช่แข็งที่ห้องครัวของทางโรงแรม
โรงแรมมีบริการปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่ลูกค้านำมาด้วยตัวเอง แน่นอนว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มบางส่วน ลุคยินดีจ่าย เพื่อมื้อค่ำที่จะมาถึงนี้
ทางโรงแรมยินดีบริการให้ลุคเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าสิ่งที่นำมาเป็นเนื้อมอนสเตอร์ แน่นอนว่าทางโรงแรมก็มีเนื้อมอนสเตอร์ไว้ทำอาหารให้กับลูกค้า แต่เนื้อพวกนั้นไม่พิเศษเท่าเนื้อบอส
พ่อครัวในร้านยินดีอย่างมากที่จะได้ลงมือปรุงเนื้อบอสที่หาได้อยาก เพราะเวลามีเนื้อบอสเข้าสู่ตลาดจะถูกกว้านซื้อในทันที ยากที่พ่อครัวจากโรงแรมชั้นสองแบบพวกเขาจะได้สัมผัส
ขณะที่กำลังจะกลับห้อง บริกรสาวก็เข้ามาพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
“คุณลุคค่ะช่วยรอสักครู่ค่ะ”
“มีอะไรเหรอครับ”
“ไม่ทราบว่าคุณลุคต้องการให้จัดโต๊ะเพื่อรับประทานอาหารที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมไหม”
“ที่นั่นได้เหรอครับ ผมไม่ได้จองโต๊ะไว้ที่นั่น”
เท่าที่เขารู้มาโต๊ะอาหารบนดาดฟ้ามีไว้สำหรับลูกค้าของทางโรงแรมก็จริง แต่ต้องจองล่วงหน้า ซึ่งเขาไม่ได้จองไว้
“ได้แน่นอนค่ะ เพราะคุณคือลูกค้าพิเศษของเรา”
“ลูกค้าพิเศษ?”
“ใช่ค่ะ คุณคือลูกค้าพิเศษ ก่อนหน้านี้ทางเราไม่ทราบว่าคุณคือเหนือมนุษย์ต้องขออภัยด้วยค่ะ ดังนั้นเราจึงอยากจะชดเชยเป็นมื้อค่ำบนชั้นดาดฟ้า 1 โต๊ะ และเรายังได้จัดเตรียมที่พักห้องใหม่ให้คุณลูกค้าพักที่ห้องสวีท ชั้นบนสุดเป็นอย่างไรคะ”
บริกรสาวกล่าวด้วยรอยยิ้มรอคำตอบจากเขา
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ”
“ถ้าคุณลูกค้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วงนะคะ คุณลูกค้าเป็นเหนือมนุษย์จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าพักโรงแรมที่ฟรี 7 วันต่อเดือน เป็นสิทธิ์ที่ทางภาครัฐมอบให้เหนือมนุษย์ทุกคนค่ะ เหนือมนุษย์อาจจะต้องเดินทางไปยังชิ้นส่วนโลกต่างมิติที่อยู่ไกลจากบ้าน การจะพักตามโรงแรมก็ถือเป็นปกติ รัฐจึงมอบสิทธิ์ในการเข้าพักตามโรงแรมให้ฟรีเพื่อสนับสนุนให้เหนือมนุษย์เดินทางไปจัดการกับมอนสเตอร์ได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ”
ลุคได้ยินก็เหมือนจะนึกได้ว่ามีสิทธิพิเศษนี้จริง ๆ ในตอนเซ็นเอกสาร แค่เขาลืมไปแล้ว
‘ถ้าอย่างนั้นก็ฟรีสินะ’ ลุคยิ้มในใจตอบรับ
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นก็จัดตามที่คุณเสนอแล้วกัน”
“ได้ค่ะ”
...
“พี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
เจนที่เห็นพี่ชายกลับมาก็รีบสอบถามด้วยความสนใจ
“มี” ลุคพยักหน้ายอมรับ ก่อนจะเผยรอยยิ้ม “เดี๋ยวเราจะย้ายไปห้องสวีทที่อยู่ชั้นบน”
“ห้องใหม่เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็จะเห็นวิวได้ชัดเจนเลยสิ”
“แน่นอน ที่จริงเรายังจะไปกินมื้อค่ำกันที่ดาดฟ้ากัน มื้อนี้พิเศษหน่อยเพราะเป็นเนื้อมอนสเตอร์บอสเลยละ”
“เนื้อมอนสเตอร์บอส” เจนถามด้วยความสงสัยอยู่ไม่น้อย เพราะเธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
ลุคเล่าเรื่องมอนสเตอร์บอสให้กับน้องสาวฟัง รวมถึงคุณสมบัติในเนื้อมอนสเตอร์ที่มีพลต่อการปรับสภาพร่างกายก่อนจะเตรียมตัวฉีดสารกระตุ้น
“พี่หมายความว่า...หนู”
“อืม รอน้องพร้อมพี่จะพาไปฉีดสารกระตุ้นพลังเหนือมนุษย์” ลุคพยักหน้ายืนยันความคิดเธอ
น้องสาวแววตาเป็นประกายทันที
...
รอเวลาจนถึง 2 ทุ่มลุคและน้องสาวก็ขึ้นไปที่ดาดฟ้า
ด้านบนเป็นร้านอาหารหรูหราที่จองได้ยาก มีโต๊ะจัดวางอยู่จำนวนมาก แบ่งออกเป็นสองโซนคือร้านอาหารและส่วนของบาร้านค้าที่บริการเครื่องดื่มทุกประเภท
ถึงที่นี่ลมจะค่อนข้างแรง แต่ก็บรรยากาศโดยรวมก็ดีมากจนสามารถมองข้ามไปได้ ด้านบนนี้สามารถมองเห็นวิวรอบเมืองของพื้นที่เขต 4 ได้อย่างชัดเจน แถมยังมีดาวบนท้องฟ้าประดับมากน้อยต่างกันไปตามหมู่เมฆและแสงไฟจากโลกเบื้องล่าง
แขกของทางโรงแรมแต่งกายด้วยชุดที่จัดเต็มตามสไตล์ของตัวเอง แต่โดยรวมก็ดูมีฐานะทางสังคมที่แบ่งยากชัดเจน ทำเอาลุคและเจนดูโดดเด่นอยู่ไม่น้อย
ถึงเสื้อผ้าทั้งสองจะไม่ได้มีราคาแพงระยับอะไร แต่ด้วยความที่หน้าตาและบุคลิกของสองพี่น้องก็ขับเน้นให้ดูราวกับเป็นคนจากครอบครัวร่ำรวยครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว
ชายหนุ่มสาวไม่น้องที่แอบมองมาทางทั้งสองคน โดยเฉพาะกับเจนเด็กสาวที่ดูน่ารักมากในเวลานี้
“ลูกค้าได้จองโต๊ะไว้ไหมครับ” บริกรชายสอบถามเขาอย่างสุภาพ
“จองไว้ครับ”
“ขอชื่อด้วยครับ”
“ลุค ซันเดอร์”
บริกรชายตรวจสอบรายชื่อของแขกก็พบกับรายชื่อที่ถูกเติมเข้ามา ก็จดจำได้ว่าผู้จัดการเน้นย้ำให้ดูแลเป็นพิเศษในระดับหนึ่ง
“เชิญทางด้านนี้ครับ” บริกรชายเดินไปส่งสองพี่น้องด้วยตัวเองถึงโต๊ะ
โต๊ะของพวกเขาเป็นโต๊ะที่อยู่ตรงมุมหนึ่งของดาดฟ้า มันแยกตัวออกมาเล็กน้อย มองเห็นจากด้านบนลงด้านล่างได้ชัดเจนแม้จะไม่ต้องลุกเดินไปดู
ลุคทำงานบริการมาไม่น้อยจึงรู้ว่าเวลานี้เขาควรจะดึงโต๊ะให้น้องสาวนั่งเพื่อแสดงความเป็นสุภาพบุรุษกลมกลืนไปกับสังคมบนนี้
หลังจากนั่งลงแล้ว เขาไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะทางโรงแรมได้จัดเมนูอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว โดยปรุงตามวัตถุดิบชั้นดีอย่างเนื้อมอนสเตอร์บอส
ระหว่างที่รอเจนดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยสายตามองรอบกายอย่างประหม่า เพราะไม่เคยมานั่งรับประทานอาหารในสถานที่แบบนี้มาก่อน ส่วนลุคนั้นดูนิ่งกว่า ถึงจะไม่เคยมารับประทานอาหารในร้านแบบนี้ แต่ก็เคยมารับงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสริมชั่วคราวให้กับงานหรูหราที่มีระดับแบบนี้อยู่ไม่มากก็น้อย
“น้องหนาวไหม”
“ไม่ค่ะ พี่หนูไปเดินตรงนั้นได้ไหมคะ”
เจนชี้ไปที่ระเบียงกระจกที่มองเห็นผู้คนและรถด้านล่างเล็กลงเหมือนมดตัวเล็ก ๆ
“อืม ระวังด้วยนะบนนี้ลมแรงอยู่ไม่น้อย”
“ค่ะ”
เจนออกไปเดินเล่นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีบริกรหญิงคนเดิมที่เคยพูดคุยกับเขาที่ห้องครัวหลังโรงแรมเข้ามาสอบถามเขาพอดี
“ขอโทษค่ะคุณลุค พอดีว่าทางเราต้องการสอบถามคุณว่าพอจะแบ่งขายเนื้อมอนสเตอร์ให้กับทางเราส่วนหนึ่งได้ไหม”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” ลุคถามด้วยความสงสัย
“พอดีมีแขกท่านหนึ่งได้ยินว่ามีเนื้อมอนสเตอร์บอส จึงอยากจะลิ้มลองและทางเราก็ปฏิเสธเขาไม่ได้ ถ้าคุณลุคยินดีขายเนื้อบางส่วนให้ ทางเรายินดีจ่ายด้วยราคาที่สูงมากกว่าปกติและเราจะเลี้ยงมื้อค่ำของคุณลุคด้วย ถือเป็นสินน้ำใจจากทางเราด้วยค่ะ”
ลุคมีสีหน้าครุ่นคิด ในเรื่องของเนื้อบอสก็พอเข้าใจว่าคนที่มีเงินก็อยากจะลิ้มลองรสชาติไม่แปลกอะไร ส่วนแขกที่ทางโรงแรมไม่อาจจะปฏิเสธนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจ เนื้อมีอยู่เยอะพอสมควรขายให้บ้างนิดหน่อยก็ได้อยู่ ที่สำคัญคือทางโรงแรมยินดีออกค่าใช้จ่ายในการปรุงมันให้นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาตอบตกลง
“ได้ครับ”
“ทางเราขอบคุณมากค่ะที่ยินดีแบ่งเนื้อมอนสเตอร์ให้กับทางเรา ขอให้มีความสุขกับมื้อค่ำนะคะ”
พนักงานกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะจากไป
ส่วนลุคก็พยักหน้าให้อย่างเกรงใจไปทีหนึ่ง เพราะไม่ค่อยชินกับการได้รับการปฏิบัติแบบนี้สักเท่าไหร่
ขณะที่ลุคมองพนักงานเดินจากไปสายตาก็เหลือบไปเห็นแขกสองคนที่พึ่งขึ้นมาถึงที่นี่ หนึ่งคนเป็นชายหนึ่งคนเป็นหญิง
ชายเขาไม่รู้จัก ยกเว้นหญิงสาวที่มาด้วย นิโคล เหนือมนุษย์ผู้มีพลังพรสวรรค์ควบคุมเชือก
“โลกกลมจริง ๆ” ลุคกล่าวอย่างประหลาดใจ
นิโคลก็สัมผัสได้ถึงสายตาของลุคเช่นกัน เธอก็แปลกใจไม่น้อยที่บังเอิญมาเจอลุคที่นี่ นิโคลไม่สนใจชายหนุ่มที่มาด้วยกันที่กำลังหันไปพูดคุยกับใครบางคนอยู่ได้เดินแยกตัวออกมา
‘เธอไม่ได้เดินมาหาเราใช่ไหม?’
เป็นอย่างที่เขาคิด นิโคลเดินมาหาเขา
“ฉันไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” นิโคลมาถึงก็กล่าวตรงประเด็นในทันที
“ผมก็เหมือนกัน”
“ฉันแค่มาทำงาน คุณพักอยู่แถวนี้เหรอ”
“ใช่ ก็ประมาณนั้น”
คำพูดของทั้งสองดูห่างเหินอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะทั้งเขาและเธอไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมาก
ในตอนนั้นก็มีหนุ่มหน้าหล่อผู้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มากับหญิงสาวในตอนแรกเดินเข้ามาคิดจะโอบกอดนิโคล แต่หญิงสาวเอียงตัวหลบอย่างชัดเจน ชายคนนั้นจึงหดมือกลับอย่างแนบเนียนราวกับคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอจะหลบ แต่ก็แฝงความไม่พอใจไว้ในสายตา
เขาหันมาประเมินลุคอย่างหยาบคาย ปฏิบัติราวกับเขาเป็นมอนสเตอร์ตัวหนึ่ง
ลุคขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ นิโคลก็เช่นกัน
ชายคนนั้นรู้ว่านิโคลไม่ชอบก็ไม่ได้ยั่วยุอีก แต่เลือกจะปั้นหน้าเป็นมิตรพูดคุยกับเขา
“รู้จักเขาเหรอ ไม่เห็นแนะนำให้ผมบ้าง”
นิโคลทำเป็นไม่สนใจชายหนุ่ม ชายหนุ่มก็ไม่ได้ถือสาจึงหันไปพูดกับลุคแทน
“สวัสดีผมเรทเจอร์”
“ผมลุค พวกเราแค่เคยพบกันตอนทดสอบฮันเตอร์เฉย ๆ”
ลุคไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งกับเรื่องของนิโคลและชายหนุ่มที่ชื่อเรทเจอร์คนนี้ เพราะเขาก็แน่ใจสถานะของทั้งสอง
“อ้อ...” เรทเจอร์ลากเสียงยาวแววตาครุ่นคิดอยู่ไม่น้อย
“เป็นเหนือมนุษย์หน้าใหม่ที่พึ่งเป็นฮันเตอร์นี่เอง ก็นึกว่า...ช่างเถอะ ฉันอยู่กิลด์กระดูกดำถ้าสนใจก็ลองไปสมัครดูได้ ถ้ามีฝีมือพออาจจะได้รับเข้ากิลด์”
เรทเจอร์หยิบนามบัตรที่เป็นสีดำลายกองกระดูกยื่นให้กับลุค
ลุคเข้าใจว่าเรทเจอร์เหมือนจะดูถูกเขาอยู่ไม่น้อย แต่เขาไม่ใส่ใจและสนใจเรื่องของกิลด์มากกว่า เขาพอจะรู้ว่ากิลด์คือชื่อเรียกของกลุ่มองค์กรที่เหนือมนุษย์รวมตัวกัน พวกเขามีอำนาจมาก ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ไม่ค่อยแน่ใจ คงต้องกลับไปอ่านเพิ่ม
“ไว้ผมสนใจจะลองไปดู”
ถึงจะกล่าวแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ยืนมือไปรับ
เรทเจอร์ส่งสายตาให้รับไป แต่ลุคทำเป็นมองไม่เห็น ทำให้เรทเจอร์ปากกระตุกแววตาเย็นชา เพราะเจอสถานการณ์น่าอึดอัด ลุคไม่ยอมรับ มันเท่ากับฉีกหน้าเขาตรง ๆ
“ฮ่า ๆ ถ้าอย่างนั้นโชคดี” เรทเจอร์ไม่หน้าด้านพอจะยัดนามบัตรใส่ลุค ก่อนจะเดินออกมาทันที เขาไม่อยากยืนอยู่ให้อับอาย
“แฟนคุณเหรอ” ลุคสอบถาม
“ไม่” นิโคลตอบกลับคำเดียว ก่อนจะเดินตามเรทเจอร์ไป
‘ท่าทีของเธอแปลก แสดงออกว่าไม่ชอบขี้หน้าหมอนั้น แต่ก็ยังตามไป ช่างเถอะไม่ใช่เรื่องของฉัน’ ลุคคิดในใจและโยนเรื่องของสองคนออกไป
“พี่ใครเหรอคะ” เจนที่เดินบนลานกระจกเดินกลับมาที่โต๊ะ พอเห็นว่าพี่กำลังคุยกับคนสองคนก็ถามอย่างอยากรู้อย่างเห็น
“แค่คนที่เคยเจอกันตอนทดสอบฮันเตอร์นะ ไม่ต้องใส่ใจหรอก...อาหารมาพอดีเลย”
ลุคเปลี่ยนเรื่อง หันไปสนใจอาหารที่กำลังมาเสิร์ฟให้พวกเขาสองพี่น้อง อาหารถูกเสิร์ฟทีละจานอย่างต่อเนื่อง บนโต๊ะเริ่มมีอาหารมากขึ้นให้ทั้งสองมองดูน้ำลายไหล เพราะกลิ่นที่หอมมาก
“พี่ค่ะ นี่คือเนื้อมอนสเตอร์เหรอคะ ดูน่ากินมากเลย เนื้อมันจะอร่อยแบบหน้าตาไหม” เจนมองจานอาหารตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นและถามพี่ชาย
“พี่ไม่เคยกินเหมือนกัน แต่จะมาลองพร้อมกับน้องนี่แหละ มากินกันเถอะ”
“อืม ๆ กินกันเถอะค่ะ”
สองพี่น้องเริ่มกินมื้ออาหารสุดพิเศษ
เนื้อแมงป่องหลังหนามนั้นคล้ายกับเนื้อปู แต่พิเศษทั้งหวานและแน่นกว่ามาก ทางเชฟของโรงแรมได้จัดเมนูให้พวกเขาทั้งหมด 5 จาน แม้ชื่อเมนูจะค่อนข้างธรรมดา แต่วัตถุดิบอย่างเนื้อบอสมอนสเตอร์ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญ พอรวมกับการจัดตกแต่งด้วยฝีมือเชฟของทางโรงแรม ก็ทำให้จานอาหารดูหรูหราอยู่ไม่น้อย
จานแรกคือ เนื้อแมงป่องหลังหนามนึ่งกับน้ำจิ้มซีฟูด
จานที่สองคือ เนื้อแมงป่องผัดผงกะหรี่
จานที่สามคือ เนื้อแมงป่องรมควันราดซอส
จานที่สี่คือ ข้าวผัดรวมทะเล โดยมีเนื้อแมงป่องเป็นตัวเอกที่ชิ้นใหญ่พิเศษมาก
สุดท้ายคือ แมงป่องอบชีส
ส่วนเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้และน้ำอัดลม เพราะเจนยังเด็กและลุคก็ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากเมื่อก่อนเขาไม่มีเงินไปซื้อของพวกนั้น จึงติดนิสัยการดื่มน้ำอัดลมไม่ก็น้ำเปล่ามาแทน ทางโรงแรมจัดการให้เขาอย่างดี
ทั้งสองกินอาหารและพูดคุยกันด้วยความสนุกสนาน มันเป็นภาพที่เกิดขึ้นได้น้อยมากและเขาคิดว่ามันดีเหลือเกินที่เขาจัดการแมงป่องตัวนี้มาให้น้องสาวได้ลิ้มลอง
“พี่นี่คือมอนสเตอร์ที่พี่เป็นคนจัดการจริงเหรอ”
“แน่นอน เป็นไงเนื้อของมันอร่อยไหม”
“อร่อยมากกว่าที่คิดมากค่ะ”
“ดีแล้ว ไว้พี่จะหามาให้กินอีก”
ลุคยิ้มด้วยความยินดีที่น้องสาวของเขาชอบ เนื้อมอนสเตอร์มีประโยชน์มาก มันให้พลังงานที่สูงและยังช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ที่สำคัญสุดคือมันจะช่วยปรับสภาพร่างกายอย่างช้า ๆ ให้มนุษย์เหมาะสมในการปลุกพลังขึ้นมา
ปกติแล้วพวกคนรวย ๆ มักจะให้ลูกหลานกินเนื้อมอนสเตอร์เป็นประจำ ยิ่งมีคุณภาพสูงก็ยิ่งดี เพราะเมื่อถึงเวลาใช้ยางกระตุ้นพลัง จะทำให้พลังตื่นขึ้นมาได้ง่าย
นี่เป็นเหตุผลที่คนรวยจะปลุกพลังได้ง่ายกว่าคนธรรมดา
ลุคก็ลงมือกินด้วยหลายวันมานี้ตั้งแต่ปลุกพลังเหนือมนุษย์ได้ เขารู้สึกมาตลอดว่าอาหารธรรมดากินแล้วมันไม่อิ่ม เดี๋ยวเดียวก็หิวอีกครั้ง ร่างกายเขาไม่ได้ต้องการสารอาหารที่มาจากวัตถุดิบธรรมดาอีกแล้ว
แต่ต้องการของจำพวกเนื้อมอนสเตอร์มาเติมเต็มร่างกาย