ตอนที่แล้วบทที่2 พบศัตรู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 กลับเมืองชิงหลิน

บทที่3 สวนกลับด้วยหม้ดเดียว


บทที่3 สวนกลับด้วยหม้ดเดียว

สำหรับความจริงที่ว่าสามคนนี้ไม่ได้ถูกฆ่าโดยหมาป่าสีคราม

เป็นเพราะหลินเป้ย สั่งให้หมาป่าสีครามฆ่าเฉพาะสัตว์อสูรเท่านั้น และไม่อนุญาตให้มันทำร้ายผู้คน เพื่อกันไม่ให้มันฆ่าผู้บริสุทธิ์

ดังนั้นสามคนนี้จึงรอดชีวิต

หากคำสั่งของหลินเป้ยคือ การฆ่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายทั้งหมด คนทั้งสามนี้คงไม่รอดอย่างแน่นอน

"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทั้งสาม กำลังตามหาข้าอยู่" หลินเป้ยเดินออกจากพุ่มไม้ด้วยรอยยิ้มในขณะนี้

“ใคร” เสียงที่จู่ๆดังขึ้นมา ทำให้พวกเขาทั้งสามตกใจ

ในที่สุด เมื่อเขาเห็นหลินเป้ย ดวงตาของพวกเขาก็ฉายแววชั่วร้าย

“หลินเป้ย เจ้ายังไม่ตาย!  ช่างเป็นโชคชะตา ตกจากที่สูงขนาดนี้ เจ้ายังรอดได้” ชายอ้วนเย้ยหยัน

ไม่ต้องควานหา แต่หลินเป้ยผู้นี้ ก็ริเริ่มที่จะออกมาเอง เพื่อแสวงหาความตาย ไม่เพียงแต่พรสวรรค์ของเขาจะไร้ประโยชน์ แต่สมองของเขายังย่ำแย่อีกด้วย

“ใช่ โชคชะตาของข้ายิ่งใหญ่ แต่โชคชะตาของเจ้าไม่ดีนัก วันนี้เจ้าต้องตายที่นี่ทุกคน” หลินเป้ยกล่าวอย่างใจเย็น

แม้ว่าหลินเป้ยจะไม่เคยฆ่าใคร แต่ตามความทรงจำในใจของเขา โลกปห่งนี้เป็นโลก ผู้อ่อนแอตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง

ดังนั้นเพื่อการแก้แค้น คนเหล่านี้จึงต้องตาย

ในโลกนี้ไม่มีอาชญากรรม มีแต่สิ่งสำคัญคือการได้รับความเมตตาและความเกลียดชัง

คนเหล่านี้มาหาเขาเพราะต้องการฆ่าตัวเขา ถ้าอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดที่ข้าจะดับลมหายใจพวกมันทั้งสาม

“ฮ่าฮ่าฮ่า เราได้ยินอะไร ขยะนี่กำลังจะฆ่าเราจริงๆ ข้ากลัวมาก” ชายอ้วนดูเหมือนพึ่งเคยได้ยินสิ่งที่ตลกที่สุดในโลก

ถ้าหลินเป่ยมีความสามารถในการฆ่าพวกมัน หลินเป่ยคงไม่หนีด้วยความอับอาย และถูกบังคับให้กระโดดลงจากหน้าผา

"ฟางซาน เจ้าไปกำจัดเขาซะ   เพื่อเราจะได้กลับไปรายงานนายหญิงโจวเหม่ย" ชายอ้วนกล่าว

ในการจัดการกับขยะเพียงชิ้นเดียว พวกเขาสามารถทำได้โดยลำพัง พวกเขาสามคนไม่จำเป็นต้องทำร่วมกัน

เมื่อฟางซานได้ยินสิ่งนี้ เขาก็เตรียมตัว พร้อมกับทำสีหน้าเย้ยหยันบนใบหน้าของเขา

"ไอ้หนู วันนี้ให้ข้าไปส่งเจ้าแล้วกัน" ฟางซานเย้ยหยัน

“เจ้าคิดว่าข้าโง่เหรอ ข้าจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าได้อย่างไร ถ้าข้าไม่มีไพ่ตาย เสี่ยวเฮย!” หลินเป้ยตะโกน

ทันทีที่หลินเป้ยตะโกน ร่างใหญ่ก็กระโดดออกมาจากพุ่มหญ้า และมาที่ด้านข้างของหลินเป้ย จ้องมองฟางซานและคนอื่นๆ ด้วยดวงตาหมาป่าคู่หนึ่งอย่างเย็นชา

"นั่นอะไร?" การปรากฏตัวของหมาป่าสีคราม ทำให้ทั้งสามคนประหลาดใจ

"นี่คือสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณตัวใหม่ของข้า วันนี้ให้ข้าพาเจ้าไปเที่ยวเถอะ" หลินเป้ยลูบขนของหมาป่าสีคราม และพูดเบาๆ

ตอนนี้ที่พึ่งมากที่สุดของหลินเป้ยคือหมาป่าสีคราม สัตว์อสูรขั้นสูงระดับสอง มันเพียงพอที่จะฆ่าสามคนที่อยู่ข้างหน้าเขา

ระดับการฝึกฝนที่แท้จริงของหมาป่าสีคราม คือระดับที่สองจากระดับที่เก้า อย่างไรก็ตาม เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั่วไปถือว่าสัตว์อสูรระดับที่หนึ่งถึงสามเป็นระดับต่ำ ระดับที่สี่ถึงหกเป็นระดับกลาง และระดับที่เจ็ดถึงเก้าเป็นระดับสูง .

"วิ่ง" ชายอ้วนเห็นหมาป่าตัวนั้น รู้เลยว่าสถานการณ์ไม่ดี ออร่าที่เปล่งออกมาจากหมาป่าสีครามนั้น แข็งแกร่งกว่าเขามาก มันเป็นสัตว์อสูรระดับสองอย่างแน่นอน

อีกสองคนไม่ต้องการให้ชายอ้วนบอก พวกเขามีแผนจะหนีแล้ว

พวกเขารู้สึกถอนหายใจในใจ มันช่างโชคร้ายจริงๆ พวกเขาไม่คาดคิดว่า หลินเป้ยจะรอดชีวิตจากภัยพิบัติ และแม้แต่รับสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณมาได้อย่างไร

เศษขยะนี้มีโชค?

“อยากหนีเหรอ ไม่มีทาง เสี่ยวเฮย ฆ่าพวกมันซะ” หลินเป่ยพูดอย่างเย็นชา

ด้วยโอกาสที่ดีเช่นนี้ หลินเป้ยจะปล่อยให้พวกเขากลับมามีชีวิตได้อย่างไร?

หลังจากได้รับคำสั่ง เสี่ยวเฮยรีบวิ่งไปหาทั้งสามคน

เมื่อเห็นว่าหมาป่ากำลังจะตะครุบชายอ้วน ใบหน้าของชายอ้วนก็เปลี่ยนไป และเขาก็ดึงเพื่อนข้างๆ มาขวางการโจมตีของหมาป่าทันที

จู่ๆก็ถูกใช้เป็นเกราะกำบัง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

แต่ในเวลานี้ กรงเล็บของเสี่ยวเฮยมาถึงแล้ว และโจมตีชายคนนั้นโดยตรง ทิ้งรอยกรงเล็บลึกหลายรอย และเลือดจำนวนมากไหลออกมา

ฆ่าเขาในทันที!

<ติ้ง รับค่าประสบการณ์ 4 แต้ม>

หลินเป้ย มีความสุขมาก ปรากฎว่าการฆ่าคนมีค่าประสบการณ์จริง ๆ ชายคนนี้นี้ เป็นนักรบฝึกหัดขั้นสี่ และเขาได้รับ 4 แต้มคะแนนประสบการณ์

ตอนนี้ค่าประสบการณ์อยู่ที่ 24/100 ตราบใดที่เขาถึง 100 คะแนน เขาจะสามารถก้าวไปสู่ขั้นที่ 5 ของนักรบฝึกหัดได้

ชายร่างอ้วนขว้างสหายที่ตายไปแล้ว และกำลังจะวิ่งหนี

เป็นผลให้เสี่ยวเฮยเคลื่อนที่เร็วขึ้น และวิ่งไปด้านหน้าขวางทางชายอ้วน

ความแข็งแกร่งของเสี่ยวเฮยทำให้เขาประหลาดใจ ความแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อสู้ได้

ชายอ้วนมองไปที่หลินเป้ยที่ด้านข้าง และแผนการก็แวบเข้ามาในหัวของเขา หลินเป้ยเป็นเจ้าของหมาป่าสีคราม ถ้าหลินเป้ยถูกฆ่าตาย หมาป่าสีครามจะจากไปแน่นอน

ท้ายที่สุด หลังจากเจ้าของสัตว์อสูรหลายคนตายไป สัตว์อสูรของพวกเขาก็จะกลายเป็นสัตว์ไร้เจ้าของ

“ฟางซาน ให้ข้าขวางหมาป่าสีคราม แล้วเจ้ารีบไปฆ่าหลินเป่ย ไม่อย่างนั้นเราทั้งคู่จะตายที่นี่” ชายร่างอ้วนออกคำสั่งทันที

ฟางซานรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นเพื่อนตาย แม้ว่าพฤติกรรมของชายอ้วนจะดูน่ารังเกียจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องนี้

ฟางซานรู้ว่าการตัดสินใจของชายอ้วนนั้นถูกต้อง ดังนั้นเขาจึงมองไปที่หลินเป้ยอย่างโหดเหี้ยม

“หลินเป้ย เจ้าจะต้องตายเพื่อข้า”ฟางซานพุ่งไปหาหลินเป้ยพร้อมกับเหวี่ยงฝ่ามือ ลมของฝ่ามือนั้นแหลมคม เห็นได้ชัดว่าใช้กำลังทั้งหมด เพื่อสังหารหลินเป้ยในทีเดียว

ฟางซานเป็นนักรบฝึกหัดขั้นสี่ และความแข็งแกร่งของเขามีถึง 500 จิน(250กิโลกรัม)

ถ้าหลินเป้ยเป็นคนธรรมดา เขาตายหากเขาถูกโจมตีด้วยกำลังทั้งหมด

จู่ๆ สีหน้าของหลินเป้ยก็เปลี่ยนไป เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะยังคงโจมตีเขาในเวลานี้

คู่ต่อสู้มาเร็วมาก หลินเป้ยจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟัน และชกด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นนักรบฝึกหัดขั้นสี่เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออมแรง

“หมัดเปลวเพลิง”

กำปั้นของหลินเป้ย เผชิญหน้ากับกำปั้นของฟางซาน โดยหมัดหลินเป้ยมีเปลวไฟลุกโชน

ตูม!

ฟางซานบินถอยปข้างหลัง พ่นเลือดออกมาคำใหญ่กลางอากาศ และตกลงบนพื้นอย่างแรง ได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที

“อะไร!” ใบหน้าของชายอ้วนเปลี่ยนไป เขาไม่คาดคิดว่าความแข็งแกร่งของ หลินเป้ยจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาสามารถโจมตีฟางซานอย่างแรง ด้วยการโจมตีครั้งเดียว ซึ่งมันไม่น่าเชื่อในสายตาของพวกเขา

หลินเป้ยเป็นขยะ เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าหลินเป้ยมีพลังมาก เขาคงไม่ถูกบังคับให้กระโดดลงจากหน้าผาแน่นอน

เมื่อชายอ้วนอยู่ในอาการงุนงง เสี่ยวเฮยก็ขยับ ลากกรงเล็บผ่านชายอ้วนไปในทันที ชายอ้วนคว้าคอที่มีเลือดออก และล้มลงโดยไม่เต็มใจ

<ติ้ง รับค่าประสบการณ์ 6 แต้ม>

เสี่ยวเฮยเชือดคอชายอ้วน และสังหารเป้าหมายโดยตรง

สำหรับฟางซาน เขามองไปที่หลินเป้ย ด้วยความสยดสยองบนใบหน้า เพื่อนที่ถูกใช้เป็นเกราะป้องกันโดยชายอ้วนตอนนี้นอนนิ่งอยู่บนพื้น และเขาก็ตายไปแล้ว

“ท่านปู่ ท่านหลินเป้ย ขอร้อง อย่าฆ่าข้า เราแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า”ฟางซาน ร้องขอความเมตตา

"ข้าบอกแล้วว่า วันนี้เจ้าต้องตาย" หลินเป้ยเดินมาหาฟางซาน เหยียบคอของฟางซาน และหักคอของเขาด้วยแรงที่ทำให้ฟางซานตายไปในทันที

<ติ้ง รับค่าประสบการณ์ 4 แต้ม>

หลังจากฆ่าสามคนนี้ หลินเป้ยก็ไม่รู้สึกอึดอัดเลย แค่ดูเหมือนว่า เขาเพิ่งฆ่าไก่ไปสองสามตัว

"ระบบ ทำไมข้าถึงโจมตีฟางซานได้ง่ายๆ ในเมื่อข้าก็เป็นนักรบฝึกหัดขั้นสี่เหมือนกัน" หลินเป้ยถามระบบ

<เนื่องจากทักษะระดับหงเหมิน(โกลาหล)นั้น เทียบไม่ได้กับทักษะระดับธรรมดาเลย สำหรับทักษะต่อสู้ธรรมดา ขั้นหนึ่งสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้เพียง 100 จิน( 50 กิโลกร้ม)  แต่สำหรับทักษะระดับหงเหมิน ขั้นหนึ่งนั้นสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ถึง1000 จิน (500 กิโลกรัม) ตำราจ้านเทียนเจ๋  นั้นแข็งแกร่ง ไม่มีใครเทียบได้ และมีผลทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง>

ระบบตอบกลับ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเป้ยรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าทักษะนี้จะมีอำนาจมากขนาดนี้ และพลังเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าของทักษะทั่วไป นี่ไม่ใช่การท้าทายสวรรค์เกินไปหรือ?

ความแข็งแกร่งด้วยมือข้างเดียวของผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยคือ 100 จิน(50 กิโลกรัม) หลังจากก้าวเข้าสู่การบ่มเพาะขั้นแรก ความแข็งแกร่งจะสูงถึง 200 จิน (100 กิโลกรัม) ทุกครั้งที่ระดับขั้นเพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น 100 จิน(50 กิโลกรัม)

แน่นอนว่านี่หมายถึงการเพิ่มขึ้นของทักษะระดับต่ำสุด

นอกจากนี้ยังมีทักษะระดับสูง แต่ละขั้นสามารถเพิ่มได้ 150 จิน (75 กิโลกรัม) หรือ200 ถึง300  จิน เป็นต้น ขึ้นอยู่กับระดับของทักษะ และความสามารถของตัวเองเป็นหลัก

นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ฝึกตนในระดับเดียวกันมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด