บทที่ 1 สัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวแรก
บทที่ 1 สัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวแรก
“ฉันปวดหัวจัง ที่นี่คือที่ไหนกันเนี้ย?” หลินเป้ย ตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง
หลินเป้ย พบว่าตัวเองนอนอยู่ในพุ่มไม้ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้มากมาย เขาจำได้ว่าเขากำลังเล่นเกมฟาร์มเคาเคา(Koukou) อยู่ที่บ้าน
ทันใดนั้นเกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านของเขาถูกพัดมาฝังอยู่ที่เชิงเขา ดวงตาของเขามืดไป และเมื่อเขาตื่นขึ้นพบว่าตัวเองอยู่ที่นี่
เมื่อหลินเป้ยรู้สึกงุงงวย ความทรงจำจำนวนมากก็ไหลเข้ามาในจิตใจของ หลินเป้ย ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว และเขาก็สลบไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเป้ยก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำแปลกๆ มากมายในหัวของเขา และเขารู้ว่าเขาได้เดินทางข้ามเวลามา
เจ้าของเดิมของร่างนี้ชื่อ หลินเป้ย แต่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งไล่ฆ่า เมื่อเขาหมดหวัง เขาก็กระโดดลงมาจากหน้าผาด้านบน
เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลงหลังจากที่เขาตกลงมา และเขาก็เสียชีวิตลง เป็นเวลาเดียวกับหลินเป้ยเดินทางข้ามเวลามาครอบครองร่างกายนี้ และกลับมามีชีวิต
"โอ้ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเมื่อฉันข้ามเวลามา ฉันจะกลายเป็นขยะ ความฝันของฉันที่จะเป็นคนที่แข็งแกร่งอยู่ที่ไหนเนี้ย" หลินเป้ยอดบ่นไม่ได้
หลินเป้ย สืบทอดความทรงจำของเจ้าของเดิม และรู้สถานการณ์ของเจ้าของเดิมดี หลินเป้ยเป็นลูกของตระกูลหลินในเมืองจิงหลิน เขาไม่สามารถฝึกฝนได้ และถูกทุกคนในตระกูลหลินรังเกียจ
หลินเป้ยได้อ่านนิยายมามาก และตอนนี้เขาก็ได้เดินทางข้ามเวลามาจริงๆ แต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
หลินเป้ยที่อยู่โลกเดิม พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเขายังเป็นเด็ก และค่าชดเชยก็มากเพียงพอสำหรับหลินเป้ย เพื่อเรียนจบมหาวิทยาลัย
เขาเพิ่งเรียนจบ และวางแผนว่าจะอยู่ที่บ้านเกิดสักหนึ่งหรือสองเดือนก่อนจะออกไปหางานทำ แต่ฝนดันตกหนักหนัก และน้ำท่วมฉับพลันจนเขาต้องมาที่นี่
โลกนั้นไม่มีญาติ ดังนั้นหลินเป้ยจึงไม่เศร้า ส่วนปู่ย่าเขาไม่มี พราะพ่อของ หลินเป้ยเป็นเด็กกำพร้า และชีวิตของเขายากลำบาก
<ติ๊ง! เปิดใช้งานระบบฟาร์มสัตว์อสูร ระบบจะต้องยืนยันตัวโฮสต์ ต้องการยืนยันหรือไม่>
ทันใดนั้น เสียงสังเคราะห์กลไกดังขึ้นในหัวของหลินเป้ย
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลินเป้ยก็ตกใจ เอาโว้ย! นิ้วทองในตำนานมาโดยไม่คาดคิด
“ยืนยัน มันต้องยืนยันอยู่แล้ว” หลินเป่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น
<ระบบกำลังยืนยันตัวตน กรุณารอสักครู่>
ประมาณสามนาทีต่อมา
<ตี๊ง การยืนยันสำเร็จแล้ว>
<เปิดใช้งานระบบบ้านสัตว์อสูร, ระบบเซียนเทียน และระบบห้างสรรพสินค้า>
<เนื่องจากโฮสต์ยืนยันระบบเป็นครั้งแรก ระบบจะส่งแพ็คเกจของขวัญมือใหม่ให้>
<ตรวจพบความผิดปกติในร่างกายโฮสต์ ระบบเริ่มซ่อมแซม>
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นอีกครั้ง
ทันทีที่พูดจบ หลินเป้ยพบว่าร่างกายของเขาอึดอัดเจ็บปวดและคันมาก
“เชี้ย! เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันเจ็บ โอ๊ย! เจ็บๆๆๆ” หลินเป้ยกลิ้งไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาที ความเจ็บปวดบนร่างกายของหลินเป้ยก็หายไป แต่ในเวลานี้มีสิ่งสกปรกสีดำหนาอยู่บนร่างกายของเขา
นี่คือสิ่งสกปรกในร่างกายของหลินเป้ย
“เหม็นฉิบ!” หลินเป่ยหอบหายใจหนัก เห็นแอ่งน้ำเล็กๆอยู่ไม่ไกล เขาจึงไปทำความสะอาด
หลังจากล้างตัวแล้ว เสื้อผ้าของเขาก็เปียกโชก เขาไม่มีเสื้อผ้าอื่นอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงสวมใส่ทั้งเปียกๆ
สถานที่นี้เป็นของพื้นที่ของเทือกเขาเทียนหยาง และมีสัตว์อสูรอยู่มากมาย ถ้าอยู่เป็นเวลานาน มันก็ไม่ต่างอะไรกับรอความตาย
เป็นเวลาบ่ายแล้ว และอีกไม่นานก็จะมืด ซึ่งมันจะอันตรายยิ่งกว่า
"<ระบบได้ล้างร่างกายและไขกระดูกให้โฮสต์แล้ว>
< ติ๊ง เปิดแพ็คเกจของขวัญมือใหม่ และรับโควต้าสัตว์อสูรระดับสอง หนังสือทักษะแบบสุ่ม ยาประสบการณ์ระดับหนึ่ง และทักษะการต่อสู้ระดับหนึ่ง หมัดเปลวเพลิง(เหยียนฮั่วฉวน) >
<โฮสต์: หลินเป้ย
ระดับบ่มเพาะ: นักรบฝึกหัดขั้นแรก 0/10>
<ต้องใช้ยาเสริมประสบการณ์หรือไม่>
หลินเป้ยมีความสุขมาก “คิดไม่ถึงจริงๆ หลังจากที่ระบบซ่อมแซมร่างกายแล้ว ข้ายังได้เข้าสู่การบ่มเพาะขั้นแรกทันที ระบบนี้ช่างทรงพลังจริงๆ”
“ใช้มันทันที” หลินเป้ยสั่งทางความคิด
<ใช้ยาประสบการณ์ระดับหนึ่ง ได้รับประสบการณ์ 100 >
<นักรบฝีกหัดขั้นสอง 30/30>
<นักรบฝึกหัดขั้นสาม 50/50>
<นักรบฝึกหัดขั้นสี่ 20/100>
หลินเป้ยได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบฝึกหัดขั้นสามทันที ออร่าของเขาแข็งแกร่งขึ้น และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง.
"เจ๋ง" นี่คือความรู้สึกของหลินเป้ย ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถเลื่อนระดับได้ แต่ตอนนี้ เขาได้รับการเลื่อนระดับหลายระดับพร้อมกัน มันเจ๋งมากที่ชีวิตใหม่นี้มีระบบ
จากนั้น หลินเป้ยได้ให้ระบบใช้ทักษะการต่อสู้ระดับแรก หมัดเปลวเพลิง และเรียนรู้ทักษะการต่อสู้โดยตรง และระดับของทักษะ ยังอยู่ในระดับสมบูรณ์แบบ
“ระบบ ข้าจะใช้โควต้าสัตว์อสูรระดับสองได้อย่างไร?” หลินเป้ย ถามคำถาม หลังจากเรียนรู้ทักษะเรียบร้อยแล้ว
<โควต้าสัตว์อสูรระดับสองคือ สัตว์อสูรที่ระบบมอบให้แก่โฮสต์ โฮสต์สามารถได้รับสัตว์อสูรระดับสองหรือต่ำกว่าชนิดใดก็ได้ในรัศมี 50 ลี้> ระบบอธิบาย
ทันใดนั้น หลินเป้ยก็ตระหนักว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี หากมีสัตว์อสูรระดับสองอยู่เคียงข้างเขา ความปลอดภัยของเขาในการออกจากภูเขาเทียนหยางจะง่ายขึ้นอย่างมาก
“ใช้โควต้าสัตว์อสูรระดับสอง” หลินเป้ยไม่สามารถรอที่จะใช้โควต้านี้
หลินเป้ยเห็นข้อมูลมากมายเกี่ยวกับสัตว์อสูรต่อหน้า
เช่นข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์และความแข็งแกร่ง
แน่นอน สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดคือสัตว์อสูรขั้นสูงระดับสอง และสัตว์อสูรขั้นต่ำระดับแรก ซึ่งอ่อนแอสุดในแผ่นข้อมูลนี้
นี่คือข้อมูลของสัตว์อสูรระดับหนึ่งและสองทั้งหมดที่อยู่ในรัศมี50ลี้ และมีหลายสิบตัว
ในที่สุด หลินเป้ยดู และเลือกสัตว์อสูรระดับสูงระดับสอง หมาป่าสีคราม
อาจกล่าวได้ว่าหมาป่าสีครามตัวนี้ เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในรายชื่อ และหลินเป่ยก็ย่อมต้องเลือกมันอย่างแน่นอน
การบ่มเพาะของเผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นเก้าขอบเขตจากต่ำไปสูง: นักรบฝึกหัด(หวู่ตู้), นักรบแท้จริง(หวู่เฉิน), ปรมาจารย์นักรบ(หวู่ฉี), มหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง), ราชานักรบ(หวู่หวาง), จักรพรรดินักรบ(หวู่ฮวง), บรรพจารย์นักรบ(หวู่ซุน), ปราชญ์นักรบ(หวู่เซิ่ง)และเทพเจ้านักรบ(หวู่เฉิน)
แต่ละขอบเขตแบ่งออกเป็นสิบระดับ
สำหรับการแบ่งประเภทของสัตว์อสูร พวกมันมีตั้งแต่ระดับหนึ่งไปจนถึงระดับเก้า และความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรระดับสองนั้นเทียบเท่ากับฐานการบ่มเพาะของนักรบแท้จริง(หวู่เฉิน)แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรในระดับเดียวกันมักจะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกัน เนื่องจากสัตว์อสูรจะต่อสู้ได้ดีกว่า ซึ่งเกิดจากกฎของป่า
แน่นอนว่ามีอัจฉริยะบางคน ที่สามารถเอาชนะสัตว์อสูรในระดับเดียวกันได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือดูที่ความแข็งแกร่ง
<โควต้าถูกใช้แล้ว และหมาป่าสีครามกำลังวิ่งมาหาโฮสต์ โปรดรอสักครู่> ระบบกล่าว
ทันทีที่ระบบพูดจบ หลินเป้ยรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างเชื่อมโยงอยู่ในใจของเขา และสิ่งนั้นกำลังเข้ามาหา และหลินเป้ยรู้สึกได้อย่างชัดเจน
“วู้” มีเสียงหมาป่าร้องโหยหวน จากนั้นหลินเป่ยก็เห็นหมาป่าตัวใหญ่พุ่งเข้ามาหาเขา
หมาป่ายักษ์ตัวนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนน้ำเงินอ่อน ตัวสูงพอๆกับหน้าอกของ หลินเป้ย และยาวสองเมตร
เมื่อหมาป่ายักษ์พุ่งเข้ามา ใบหน้าของหลินเป้ย เปลี่ยนไปด้วยความตกใจ และเขาอยากจะวิ่งหนีทันที
แต่ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน เขาจะเร็วกว่าหมาป่าครามที่เพียงแค่ลมหายใจก็ทำให้เขารู้สึกใจสั่นได้อย่างไร?
“เชี้ย! ตายแน่” ใบหน้าของ หลินเป้ยซีดลง เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม เมื่อหมาป่าสีครามมาถึงด้านข้างของหลินเป้ย มันไม่ได้โจมตี แต่มองไปที่หลินเป้ยอย่างซื่อสัตย์
หลินเป้ยรู้ได้อย่างรวดเร็วว่านี่อาจเป็นหมาป่าสีครามที่เขาเพิ่งเลือก
ด้วยความคิด หลินเป้ยสั่งให้หมาป่าสีครามนั่งลง และแน่นอนว่าหมาป่าสีครามก็นั่งลงทันที
มันเชื่อฟังมาก!