ตอนที่ 18 มื้อค่ำ 1(อ่านฟรี)
ตอนที่ 18 มื้อค่ำ 1
ตุบ!
ร่างของบอสแมงป่องหลังหนามยาว 6 เมตรถูกโยนลงต่อหน้าตกคน ลุคบิดคอเอี้ยวตัวไปมาด้วยความเมื่อยล้า เขาไม่คิดว่าซากของบอสแมงป่องหลังหนามจะหนักขนาดนี้ แค่ลากออกมาก็ยากมากแล้วจริง ๆ
“คุณฆ่ามันเหรอ” บอสตันถามอย่างอยากรู้
“ข้างในมีอะไรแล้ว ผมจะไปที่จุดนัดผมก่อน”
ลุคไม่ได้ตอบคำถามของบอสตัน แต่การไม่ตอบก็คือการยอมรับ
“ไม่มีแล้วเป็นไปไม่ได้ แล้วหินพลังงานละ” นิโคลถามด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถ้าไม่มีมอนสเตอร์แล้ว ชายคนก็คงขุดหินพลังงานมาหมดแล้วแน่นอน
บอสตันและไอกะก็เข้าใจคำพูดของลุคเหมือนกัน
ทั้งสามคนมองหน้ากัน นิโคลไม่อยากเชื่อ เธอวิ่งเข้าไปด้านใน ระยะทางตามถ้ำรวมกันไม่เกิน 1000 ถ้าวิ่งเต็มกำลังยังไงก็ไปกลับใช้เวลาไม่นาน
ลุคไม่ได้ถามเธอ
ไอกะเหมือนจะอยากพูดบางอย่างส่วนบอสตันก็ดูสีหน้าผิดหวังอยู่ไม่ใช่น้อย
“พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ลุคหันไปถาม
“พวกเรายังได้เหล็กในของแมงป่องหลังหนามไม่ครบ ที่จริงเป็นของผมที่ขาดไปอันหนึ่ง”
บอสตันกล่าวด้วยรอยยิ้มหดหู่
“ด้านในมีซากมอนสเตอร์อยู่ใช่ไหม คุณขายให้พวกเราได้ไหม เรายินดีแลกกับซากมอนสเตอร์แมงป่องหลังหนาม 5 ตัวที่พวกเราฆ่าเลยก็ได้” ไอกะพยายามหาวิธีช่วย ยังไงซะเธอก็เหมือนร่วมมือกับบอสตัน แต่มีแค่เธอที่ได้เหล็กในแมงป่องหลังหนามที่ใช้ยืนยันครบเพียงคนเดียว ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก
“ไม่มีเหลือ” ลุคตอบไปสั้น ๆ เพราะด้านในไม่มีเหลือจริง ๆ
สองคนไม่เข้าใจว่าเคลียร์ชิ้นส่วน แต่ไม่เหลือซากได้ยังไง ลุคก็ไม่คิดจะอธิบายและพูดเสริมว่า “แต่ผมมีเหล็กในแมงป่องหลังหนามเกินมา 2 ชิ้น ถ้าพวกคุณสองคนช่วยผมแบกเจ้านี่ออกไป ผมจะมอบให้”
“จริงเหรอ” ไอกะพูดเสียงดังอย่างยินดี
“แน่นอน”
ลุคหยิบเหล็กในออกมา มีทั้งหมด 5 ชิ้น เขาแบ่งออกมา 3 ชิ้นเป็นของตัวเองซึ่งได้มาจากตอนโดนตามล่า ส่วนอีกสองชิ้นได้มาจากซากชิ้นส่วนที่หลงเหลือของแมงป่องหลังหนาม
ซากแมงป่องหลังหนามถูกเขาเปลี่ยนเป็นไอเทมหอกหนามไปแล้ว แต่ว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดยังไงก็ย่อมต้องมีซากที่ไม่สมควร มีสองชิ้นที่มาจากส่วนหางหลุดออกมา จะทิ้งไว้ก็เสียดายเขาจึงเก็บเอาเหล็กในออกมา เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์
เขากำลังใช้มันแลกกับการให้ทั้งสองคนช่วยเขาแบกซากแมงป่องหลังหนามออกไป ที่จริงลุครอให้คนมาขนพวกมันไปก็ได้ แต่ว่าแบบนั้นซากบอสแมงป่องหลังหนามอาจจะโดนเหมารวมยกไปขายด้วย
คุณค่าของบอสแมงป่องหลังหนามตัวนี้มีค่าเกินกว่าจะเอาไปขายเป็นเงิน
“ตกลง ผมจะช่วย” บอสตันรับข้อเสนอด้วยความยินดี
ลุคส่งมอบเหล็กในให้กับบอสตันแต่ชายคนนี้กลับขอเพียงชิ้นเดียวเขาก็ไม่ขัดข้อง เหล็กในแมงป่องหลังหนามสามารถขายได้ ถึงจะไม่แพงแต่ราคาก็ยังมากถึงหลักพันอยู่
พวกเขาช่วยกันยกเอาซากบอสแมงป่องหลังหนามออกมาด้านนอกรัง ตรงบริเวณทางเข้าถือว่าเป็นอุปสรรคพอสมควร เนื่องจากความลาดเอียงของพื้นที่ รวมกับความยาวและน้ำหนักของบอสแมงป่องหลังหนาม ทำให้ทั้งสามคนค่อนข้างจะทุลักทุเลกว่าจะเอาซากบอสแมงป่องหลังหนามยาว 6 เมตรออกมาได้
“โชคยังดีที่มันยาว แต่ความกว้างยังแต่เกือบ ๆ 2 เมตรเลยเอาออกจากปากหลุมมาได้”
ลุคกล่าวพึมพำกับตัวเอง สายตามองปากหลุมที่ข้าง ๆ มีซากบอสแมงป่องหลังหนาม
เวลานั้นเองนิโคลกระโดดออกมาจากรังหันไปมองลุคด้วยแววตาจริงจัง
“นายมีพลังพรสวรรค์”
เธอถามเขาออกมาตรง ๆ เพราะฉากที่เห็นในโถงถ้ำสุดท้าย ถ้าไม่ใช่คนที่มีพลังพรสวรรค์ก็ต้องเป็นเหนือมนุษย์คลาส E เท่านั้นที่จะทำได้ แต่นิโคลเลือกจะเชื่ออย่างแลกมากกว่า
เหนือมนุษย์คลาส E ไม่มีความจำเป็นต้องมาเล่นเกมทดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้
ลุคไม่ได้ตอบ แต่ก็เท่ากับยอมรับ นิโคลก็ไม่ได้ซักไซ้ถามต่อ แต่แอบมองอย่างเสียดายไปที่ซากบอสและนึกถึงหินพลังงานที่หายไปพวกนั้นด้วย มันคือเงินจำนวนมาก
‘เธอร้อนเงินเหรอ’ ลุคแค่คิดในใจ เพราะดูเหมือนสาวสวยหน้าเคร่งขรึมดูจะอยากได้ซากบอสอยู่ไม่น้อย
สุดท้ายรังก็ถูกเคลียร์และทุกคนก็ได้เหล็กในของมอนสเตอร์แมงป่องหลังหนามมากันครับภารกิจก็เป็นอันเสร็จสิ้น พวกเขาสามคนจึงรีบไปหาอีลิกเพื่อรายงานการทดสอบฮันเตอร์
นิโคลไม่มีอะไรต้องแบก เธอจึงเดินนำหน้าไป แต่ลุค บอสตัน ไอกะยังต้องช่วยกันขนซากบอสไปด้วยจึงเดินช้าพอสมควร
“คุณก็มีพลังพรสวรรค์เหมือนกัน ดูเหมือนการทดสอบนี้จะรวมคนที่มีพลังพรสวรรค์ไว้ถึง 3 คนเลยทีเดียว”
บอสตันที่แบกอยู่ตรงกลางพูดขึ้นมา
‘3คน?’ ลุคทำหน้างงเล็กน้อย ‘ถ้านับเรากับนิโคลก็มีแค่สองคน หรือว่ายังมีคนอื่นอีก’
สองคนที่เหลือคือบอสตัน แต่บอสตันคือคนที่พูด เขาเดาว่าคนที่น่าจะมีพลังพรสวรรค์ไอกะหญิงสาวแม่บ้านคนนั้น ไม่คิดว่าเธอก็มีพลังพรสวรรค์ด้วย
สองคนนี้น่าจะเป็นพลังพรสวรรค์โดยกำเนิด เพราะนิโคลดูจะร้อนเงิน บางทีทางบ้านเธออาจจะไม่มีเงินมากนัก ส่วนไอกะเธอดูเหมือนจะมีความจำเป็นบางอย่างต้องมาเป็นฮันเตอร์ ไม่น่าจะมีเงินมากพอมาซื้อร่างพลังพรสวรรค์มา อีกอย่างหลังจากรู้ข้อมูลของพลังพรสวรรค์เขาก็รู้ว่า ราคาร่างพลังพรสวรรค์ราคาแพงมาก และไม่ใช่แค่มีเงินก็ซื้อได้
ถ้าทั้งสองคนมีคงเอาไปขายจะหาเงินได้ง่ายกว่า
ส่วนเขาเป็นข้อยกเว้น เพราะก็ยังไม่รู้เลยว่าร่างพลังพรสวรรค์ที่บังเอิญหลอมรวมกับร่างกายไปแล้วมาอยู่กับเขาได้ยังไง นั้นยังคงเป็นปริศนา
‘พลังพรสวรรค์ของนิโคลเป็นประเภทจิตควบคุมวัตถุ พลังพรสวรรค์ ควบคุมเชือก แต่ของอกะไม่รู้ว่าเป็นพลังแบบไหน เพราะเรายังไม่เห็นเธอใช้มัน’
‘บางทีออกไปอาจจะมีคนบอกเรื่องพลังพรสวรรค์ของเรา’ ลุคคิด แต่ก็ทิ้งความคิดนี้ทันที เพราะเขาคิดว่าสามคนนี้น่าจะไม่มีใครบอกเรื่องพลังของคนอื่นให้หรอก เพราะพวกเขาเหมือนจะจริงจังในเรื่องมารยาทที่ไม่สอดรู้เรื่องพลังของเหนือมนุษย์คนอื่นมากจนเกินไป
แต่ต่อให้สำนักงานเหนือมนุษย์จะรู้ตอนนี้ลุคก็ไม่ได้กลัวแล้ว เขาก็แค่อ้างว่าพลังพรสวรรค์พึ่งตื่นขึ้นหลังจากการทดสอบเหนือมนุษย์ 1 วัน และอ้างว่าเป็นประเภทสร้างสรรค์ พลังชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กก็พอ
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่สำนักงานเหนือมนุษย์ต้องสร้างเครื่องทดสอบมาอ่านค่าพลังของเหนือมนุษย์โดยเฉพาะ เนื่องจากคำพูดของเหนือมนุษย์โกหกได้ง่าย
...
อีลิกนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีร่มคันใหญ่กางบังแดดในมือถือแก้วน้ำเก็บความเย็น หรี่ตามองแสงแดดรอบ ๆ ด้วยความหงุดหงิด เหงื่อไหลไปตามใบหน้าและตัวราวกับเขาพึ่งอาบน้ำมาแล้วลืมเช็ดตัว
“ร้อนสุด ๆ เลย พวกนั้นทำไมถึงช้ากันนัก หรือเจอปัญหาอะไร ไม่น่าจะใช้ ถ้าเจอคงขอความช่วยเหลือไปแล้ว เวลาเหลืออีกเกือบสองชั่วโมง ชักรอไม่ไหวแล้ว หรือจะช่วยพวกเขาให้ผ่านไปได้เลยดี ไม่ได้แบบนั้นเจอพ่อด่าแน่”
“เอ๊ะ!...พวกเขามาแล้ว”
เขาลุกขึ้นมือป้องตามองออกไปยังจุดที่ไกล ๆ เห็นหญิงสาวกำลังเดินมาทางนี้ แต่สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ด้านหลัง
“มอนสเตอร์!”
อีลิกตกใจคิดว่าสาวคนนั้นวิ่งหนีมอนสเตอร์ แต่พอกวาดพลังตรวจสอบกลับพบว่าไม่ใช่ เธอเหมือนแค่เดินมาตามปกติและมอนสเตอร์ตัวนั้นก็ตายแล้ว แต่ตายแล้วมันขยับได้ยังไง สุดท้ายพอเข้าใกล้มากพอก็เห็นชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้น
มีคนช่วยกันแบกซากมอนสเตอร์มา
“นั้นมันบ้าอะไร! บอสไม่ใช่เหรอ”
อีลิกพูดด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะดีดตัวพุ่งไปด้วยความเร็วสูง ซึ่งขัดแย้งกับรูปร่างของเขามา พริบตาเดียวก็ไปโผล่อยู่เบื้องหน้าของลุคและคนอื่น ๆ แล้ว
นิโคลตั้งท่าระวังตัวด้วยความตื่นตระหนก
ลุคเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ทำไมชายคนนี้ถึงรวดเร็วแบบนี้ บอสตันกับไอกะอยู่ด้านหลัง กว่าจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็เห็นอีลิกชัดเจนแล้ว
“ใครฆ่ามัน” อีลิกถามคำถามเดียว
แต่ทุกคนกลับมองไปที่ลุคเป็นสายตาเดียวกัน อีลิกก็ไม่ได้โง่ แต่เขาก็ไม่อยากเชื่อ คนอื่น ๆ อาจจะไม่มีข้อมูล แต่อีลิกมีข้อมูลของลุคจากสำนักงานเหนือมนุษย์ ชายคนนี้พึ่งจะเป็นเหนือมนุษย์ได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น แถมพลังยังอ่อนแอสุด ๆ แค่ไม่กี่สิบหน่วย จะฆ่าบอสที่มีพลัง
อีลิกเหมือนจะนึกขึ้นได้หรี่ตามองลุคโดยไม่พูดอะไรในทันที
“มอนสเตอร์ถูกกวาดล้างแล้ว ผมขุดเอาหินพลังงานมาแล้วด้วย ถ้าตามที่คุณเคยบอกของทั้งหมดที่ได้จะเป็นของคนนั้นใช่ไหม” ลุคพูดออกไปตามตรง หยิบหินพลังงานให้ดู
“ใช่ ตามที่พูดนะแหละ” อีลิกพอจะเดาได้ว่าบอสตายก็คงเคลียร์ได้จริง ๆ และถามเพิ่มว่า “ผลการทดสอบละ”
คนทั้ง 4 หยิบเหล็กในออกมายืนยันว่าตัวเองนั้นจัดการมอนสเตอร์ได้ 3 ตัวแล้ว ซึ่งตรงตามเงื่อนไขในการผ่านการทดสอบฮันเตอร์
ที่จริงแล้วการทดสอบฮันเตอร์ตั้งเงื่อนไขไว้ต่ำมากแต่นั่นเพราะมีนี่เป็นเพียงการทดสอบการต่อสู้และความกล้าในการเผชิญกับมอนสเตอร์ก็เท่านั้น
“ในเมื่อจบเรื่องแล้วก็ออกไปได้แล้ว ในนี้โคตรร้อนเลย” อีลิกกล่าวจบก็ปาดเหงื่อบนใบหน้า ถึงจะสนใจเรื่องของลุค แต่เขาอยากออกไปจากที่นี่มากกว่า
...
หลังจากกลับมาอีลิกก็รับรองผลให้กับทุกคนพร้อมทั้งส่งคนไปเอาซากมอนสเตอร์ด้านในชิ้นส่วนโลกต่างมิติ ก่อนที่ประตูจะพังทลายหายไป นิโคล บอสตันและไอกะบอกตำแหน่งมอนสเตอร์ไป
แต่ลุคไม่ได้บอกเพราะเขาไม่มีซากมอนสเตอร์ตัวอื่นอยู่อีก
ซากบอสแมงป่องหลังหนามเป็นที่สนใจของทุกคนมาก โดยเฉพาะพวกนายหน้าซื้อขายที่จะเข้ามาติดต่อซื้อซากมอนสเตอร์โดยตรง
สำนักงานเหนือมนุษย์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการค้าขายเหล่านี้ จึงทำให้มีบริษัทเข้ามาซื้อขายเอง
หลังจากตรวจสอบและรายงานผลการทดสอบฮันเตอร์ไปแล้ว อีลิกก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ
“พลังของเขาคืออะไร ลองไปบอกพ่อก่อนก็ได้ดูเหมือนจะทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว ฮ่า ๆ ๆ” อีลิกจากไปด้วยอารมณ์ดี
นิโคล บอสตันและไอกะขายเนื้อมอนสเตอร์ที่ตัวเองได้มาให้นายหน้าที่รอรับซื้อและรับเงินมา โดยพวกเขาขายมอนสเตอร์แมงป่องหลังนามได้ตัวละ 7,000 เครดิต รับเงินหลักหมื่นกลับไปด้วยความดีใจ
ทั้งสามคนเหมือนจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งนิโคลก็ไม่ได้เย็นชาต่อคนรอบ ๆ แต่ยังมีสีหน้าจริงจังประดับไว้เหมือนเดิม
ลุคยังไม่ได้ไปไหน ที่จริงจะบอกว่าไปไม่ได้มากกว่า เพราะโดนนายหน้าสองสามคนพยายามยื้อตัวไว้หวังจะเจรจาซื้อขายบอสแมงป่องหลังหนาม สุดท้ายพูดคุยอยู่นานก็เหลือนายหน้าเพียงคนเดียว
“80,000 เครดิต ว่ายังไงคุณพอใจกับราคาไหม เราเสนอให้ราคาที่สูงมากเลยนะ” นายหน้ายกชูนิ้วทั้งห้าให้ลุคบ่งบอกถึงตัวเลข ก่อนจะถูมือไปมารอคำตอบของเขาอย่างคาดหวัง
‘ราคาสูงขนาดนี้เลยเหรอ สมกับเป็นบอส’
ลุคหันไปอีกสามคนอยู่ที่ขายซากมอนสเตอร์แมงป่องหลังหนามไปแล้วกำลังยืนมองดูประตูมิติของชิ้นส่วนโลกต่างมิติอยู่
“ผมไม่คิดจะขายเนื้อ แต่พวกเปลือกและชิ้นอื่น ๆ ขายได้”
“คุณต้องการเก็บเนื้อไว้” นายหน้าผิดหวัง แต่ด้วยความเป็นนายหน้าที่ชำนาญในการชักจูงต่อรองก็ยื่นข้อเสนอใหม่
“ถ้าคุณต้องการแต่เนื้อ เอาแบบนี้ผมขอซื้อส่วนอื่น ๆ 40,000 เครดิตและทางเราจะเป็นชำแหละให้ด้วย คุณไม่ต้องทำอะไรเลย” นายหน้าต่อรองอีกครั้ง ถึงจะเสียดายเนื้อ แต่ที่จริงมอนสเตอร์จำพวกแมงป่อง มีเงินไม่เยอะ สิ่งที่มีค่าที่สุดบนตัวของมันคือเปลือกและเหล็กใน ชิ้นส่วนพวกนี้มาจากบอสคุณภาพจึงเรียกว่าสูงที่สุดในมอนสเตอร์ระดับ F เลยก็ว่าได้
“ตกลง”
ลุคไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ยังไงเขาก็ไม่ถนัดการชำแหละอยู่แล้ว
‘เสร็จ ฉันได้กำไรแล้ว ฮ่า ๆ ๆ’
นายหน้าหัวเราะในใจรีบทำสัญญาซื้อขายกับลุค ขอรหัสและที่อยู่เพื่อจะโอนเงินและส่งเนื้อมอนสเตอร์ที่ชำแหละไปให้ในภายหลัง
‘เงิน40000 เลยแถมไม่ได้ครั้งนี้รวมกับหินพลังงานแล้วก็คือ 150,000 เครดิตเลยทีเดียว สมแล้วที่เป็นอาชีพฮันเตอร์ หาเงินได้ง่ายจริง ๆ’
ลุคไม่คิดมากที่จริงเขาไม่สนใจเปลือกแต่สนใจเนื้อมากกว่า แถมก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร ในสายตาของเขามอนสเตอร์คือไอเทม เจ้านี่แม้จะเป็นบอส แต่ก็เป็นไอเทมเกรดสีม่วง เขามีหอกเกรดสีม่วงอยู่แล้ว 1 อัน และยังมีหอกหนามเกรดอื่น ๆ จำนวนมากพอที่จะเปลี่ยนเป็นหอกหนามเกรดสีม่วงได้อย่างไม่มีปัญหา
‘เนื้อพวกนั้นนอกจากจะช่วยยกระดับคลื่นพลังแล้ว สิ่งสำคัญคือช่วยเจนปรับสภาพร่างกายเตรียมตัวฉีดสารกระตุ้น’
นี่ต่างหากคือสิ่งที่ลุคต้องการ