นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 30 - ถังพลังงาน
ครูฝึกเอลล่ายังนั่งอยู่ตรงนั้นนิ่ง ๆ เหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ ‘นี่มันยุ่งยากเสียจริงเชียว ช่างมันเถอะ แค่จับพวกเขาโยนเข้าไปในถังพลังงานก็พอแล้ว พอตื่นขึ้นมาได้ ก็ให้พวกเขาจ่ายกันเอง’ เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะหิ้วร่างของเดวิดให้ลอยขึ้นจากพื้น แล้วก็นำไปรวมไว้กับนักเรียนคนอื่น ๆ อีก 7 คน
หลังจากนั้น เธอก็เอ่ยเสียงดังกับนักเรียนที่ยังคงวิ่งอยู่อีกไม่กี่คน
“หลังจากที่พวกเธอวิ่งได้ครบตามจำนวนรอบที่สั่งเอาไว้แล้ว ก็สามารถกลับไปได้เลย แล้วค่อยเจอกันใน...เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” และด้วยการคิดคำสั่งในใจ เรือเหาะสีชมพูของเธอก็ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่เหนือศีรษะ มันรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อจริง ๆ มันมาปรากฏตัวได้ภายในเวลาชั่วพริบตาเลย
หลังจากหิ้วเด็กนักเรียนทั้ง 8 คนเอาไว้ด้วยกันแล้ว เธอก็กระโดดขึ้นอย่างแรง ส่งให้ตัวเองพุ่งขึ้นไปบนฟ้าราวกับจรวด ลอยเข้าไปในประตูของห้องโดยสารที่เปิดเอาไว้อย่างแม่นยำ ประตูห้องโดยสารปิดตัวลง เครื่องยนต์ส่งกำลังสั่นขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่ามันกำลังสะสมพลังงานอยู่
หลังจากเสียง ‘วูซซ!’ ยาวดังขึ้น ไอพลังงานร้อน ๆ ก็ระเบิดออกมาเป็นสายยาวจากทั้งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนทั้งสอง อย่างพร้อมเพรียงกัน พาให้เรือเหาะพุ่งแหวกอากาศออกไปด้วยความเร็วสูง เหลือไว้แค่เพียงกลุ่มเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือสนามฝึกซ้อมเท่านั้น
.........
ด้วยดวงตาที่ยังไม่เปิดขึ้นมาอย่างเต็มที่ แต่ก็เริ่มสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง แล้วยอมรับกับตัวเองอย่างจริงใจ ว่านี่คือการนอนหลับที่สบายที่สุดแล้ว ตั้งแต่ย้ายมายังโลกใหม่ใบนี้ แต่ตอนที่เขาจะพยายามพลิกตัวไปอีกข้าง ด้วยเจตนาที่จะนอนหลับต่อไปนั้นเอง
“หืม?” ร่างกายของเขานั้นดูเหมือนว่ามันจะหนักมาก ทำให้เดวิดต้องลืมตาขึ้นมาในทันที เพื่อดูว่ามันมีอะไรผิดปกติ สายตาของเขานั้นพร่ามัวเป็นอย่างมาก มันมองเห็นเป็นฟ้าเต็มไปหมด
อาการสะลึมสะลือของเขานั้นหายไปในทันที เหมือนกับมีใครเอาน้ำเย็น ๆ มาราดใส่ทั้งถัง หลังจากที่เริ่มสำรวจตัวเอง เดวิดก็พบว่า ความคิดของเขานั่นแจ่มใสมาก ร่างกายก็ผ่อนคลาย มีเพียงแต่หัวใจเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าจะเริ่มเต้นแรงขึ้น แต่โดยรวมแล้ว เขาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดี
แต่เมื่อเขาสังเกตออกไปรอบ ๆ ตัวอย่างระมัดระวัง เขาก็ตัวแข็งด้วยความตกตะลึง
เพราะว่าในตอนนี้ เขากำลังนอนอยู่ในน้ำ จมอยู่ในของเหลวใส ที่มีร่องรอยของสีฟ้าปนอยู่ให้เห็น ก่อนหน้านี้ ของเหลวนี้น่าจะเป็นสีฟ้า แต่คงจะถูกบางอย่างดูดซับสารสีฟ้านั่นไป เขาทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็รู้ได้ทันทีว่า ทำไมตอนที่เพิ่งลืมตาขึ้นมา ถึงได้เห็นแต่สีฟ้าเต็มไปหมด
ด้วยความที่ของเหลวนี้ค่อนข้างที่จะใสมาก ทำให้เขาสามารถมองเห็นรอบข้างได้อย่างชัดเจน หลังจากพยายามปรับโฟกัสของดวงตาไม่กี่ครั้ง เขาก็พอจะรู้แล้วว่า เขาอยู่ในสภาพอย่างไร มันเป็นถังขนาดใหญ่ บรรจุเต็มไปด้วยของเหลวใสสีฟ้า และเขาถูกปล่อยให้จมอยู่ในนี้อย่างอิสระเลย
ถังใส่ของเหลวใบนี้มีลักษณะใส ทำให้แม้ว่าเขาจะยังจมอยู่ในของเหลว ก็สามารถมองทะลุออกไปสังเกตได้ว่า ภายนอกนั้นเป็นห้องทดลองอะไรสักอย่าง และมีถังแบบเดียวกันนี้ตั้งเรียงรายกันอยู่อีกเป็น 100 ถัง ขนาดของพวกมันไม่ใช่เล็ก ๆ เลย ความสูงนั้นน่าจะเกือบ 5 เมตร ทุกถังมีของเหลวบรรจุอยู่เต็ม แต่ความเข้มข้นในแต่ละถังนั้นไม่เหมือนกันเลย บางถังนั้นมีสีฟ้าเข้มจนเกือบจะเป็นสีน้ำเงิน บางถังก็เป็นสีฟ้าธรรมดา แต่เกือบทุกถังที่เขาเห็น มีสีที่เข้มมากกว่าของเหลวที่เขากำลังจมอยู่ในขณะนี้ ข้างบนของแต่ละถังเชื่อมต่ออยู่กับท่ออะไรสักอย่าง
ถังทั้งหมดถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างเป็นระบบ มันถูกเรียงชิดติดกัน เว้นตรงกลางเอาไว้เป็นช่องทางเดินเท่านั้น
‘นี่มันอะไร...’ ความคิดของเดวิดนั้นสับสนไปหมด พยายามจะนึกให้ออก ว่าทำไมเขาถึงได้มาจมอยู่ในของเหลวนี่ได้ หลังจากจมอยู่ในห้วงของความคิดนานพอสมควร ก็คิดออกว่าก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในนี้ เขากำลังทำอะไรอยู่ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง แต่ดูโดยรวมแล้ว ท่าทางเหมือนคนที่กำลังจะยิ้มออกมามากกว่า
หลังจากที่พยายามสะบัดหัวตัวเองอย่างแรง เพื่อไล่ความลุ่มหลงนั้นออกไปให้หมด ตอนนี้เขากลับมามีสติครบสมบูรณ์อีกครั้งแล้ว
“ดูเหมือนว่าต่อไป จะต้องหลีกเลี่ยงแม่นั่นอย่างเต็มที่เลยใช่มั้ยเนี่ย?” เดวิดบ่นพึมพำ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากของเขา มีแต่ฟองอากาศเท่านั้น
ด้วยการใช้มือแหวกว่าย พาตัวเองขึ้นไปด้านบน ในที่สุดแล้ว หัวของเดวิดก็โผล่พ้นออกจากของเหลวสีฟ้านั่นได้ ทำให้สามารถเห็นรอบ ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าตอนนี้ เขาอยู่ในห้องขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และมันก็เป็นห้องทดลองอย่างที่เดาเอาไว้จริง ๆ
เขายื่นมือออกไปจับขอบด้านบนของถังเอาไว้ ก่อนที่จะยกตัวเองขึ้นจากถังของเหลวใหญ่นั่นทันที และเห็นว่าด้านข้างมีบันไดติดอยู่ด้วย
เมื่อเขาลองบิดยืดร่างกายเพื่อทดสอบดู ก็ได้ยินเสียงกระดูกและกล้ามเนื้อของตัวเองลั่นดังออกมา
“นี่มัน..” เขารู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า แต่ความสนใจของเขาตกอยู่ที่สิ่งอื่นอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เดวิดก้มลงมองที่มือของตัวเอง เมื่อกำมือลงไปให้แน่น อากาศที่อยู่รอบตัวเหมือนจะส่งเสียงร้องออกมา ตามแรงที่เขาใช้ออกไป ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง อย่างที่มันไม่เคยมีมาก่อน การเคลื่อนไหวดูจะคล่องแคล่วขึ้นอีก ทั้งยืดหยุ่น และว่องไว คล้ายกับเสือดาวที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี
เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ถูกสูบฉีดอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็วและหนักแน่นอยู่ในอก แต่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดเลย กลับกัน เขารู้สึกว่ามันเร็วและแรงอย่างที่ควรจะเป็น บางที อาจจะต้องเต้นแรงมากขึ้นกว่านี้อีกด้วยซ้ำ
ผิวหนังและกล้ามเนื้อ ดูจะกระชับขึ้นกว่าเดิม เมื่อเขาลองสัมผัสกับผิวหนังของตัวเองดู มันเหมือนกับกำลังสัมผัสอยู่กับหนังสัตว์ที่ได้รับการฟอกมาเป็นอย่างดี มันดูเหนียวแต่กลับนุ่มอย่างเหลือเชื่อ
เดวิดยิ้มกว้างออกมา เขาพอใจกับสภาพร่างกายในตอนนี้มาก ด้วยการย่อตัวเพียงเล็กน้อย เขากระโดดลงมาจากบนถังที่สูงจากทางเดิน 5 เมตรนั่นทันที ไม่ได้สนใจเลย ว่ามันมีบันไดให้สามารถปีนลงมาได้
เมื่อเขาตกลงมาถึงพื้น แทนที่จะได้ยินเสียงตกกระแทกพื้นดังลั่น กลับได้ยินเพียงเสียงทึบเบา ๆ ขึ้นมาครั้งหนึ่งเท่านั้น เขาลงมายืนที่พื้นได้อย่างนิ่มนวล เหมือนกับแมวที่กระโดดลงมาจากโต๊ะเท่านั้น ไม่มีกระดูกชิ้นไหนแตกหัก หรืออาการบาดเจ็บอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้รับรู้ความสามารถของร่างกายที่เพิ่มขึ้น เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกับเป็นคนบ้า มือทั้งสองกุมอยู่ที่ท้อง หัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมาเต็มที่ เขาดีใจมากจริง ๆ และภูมิใจในตัวเองมาด้วย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”
“เงียบเสียงลงเดี๋ยวนี้หนุ่มน้อย ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นคนทำให้เธอเงียบเองเอามั้ย?” เสียงแหบแห้งของชายชราคนหนึ่งดังขัดเสียงหัวเราะขึ้นมา
เดวิดหยุดการหัวเราะของตัวเองอย่างทันควัน แล้วหันมองไปที่ประตูทางเข้า ซึ่งเป็นทิศทางที่เสียงนั้นดังเข้ามา
แล้วเขาก็เห็นชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานที่ดูเก่าแก่โบราณอย่างยิ่ง จากเท่าที่เห็น มันต้องเป็นโต๊ะที่มีราคาแพงไม่น้อยอย่างแน่นอน ชายชราคนนั้นกำลังทำกิริยาเหมือนนั่งอ่านรายงานอยู่ ตัดสินได้จากเงาแสงรูปกระดาษในมือของเขา แต่เพิ่งจะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นของเดวิดเมื่อสักครู่นี้
ข้าง ๆ กับชายชราคนนั้น ยังมีกลุ่มคนยืนอยู่อีกทั้งหมด 14 คน แบ่งอยู่คนละฟากของโต๊ะอย่างเท่า ๆ กัน พวกเขาแต่งกายอยู่ในชุดสีขาวเรียบร้อย ยืนก้มหัวนิ่งอยู่อย่างสงบ
แต่พวกเขาทุกคนเหลือบมองมาที่เดวิดด้วยสายตาที่ทิ่มแทงเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่าเขาไม่เท่าไร กล้าที่จะมองจ้องมาอย่างดุร้าย เขาก็ได้แต่กลอกตา ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดี เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ ปล่อยไปก่อนก็ได้
“คงไม่ต้องรบกวนหรอกคนแก่หรอกครับ ผมกำลังจะออกไปแล้ว” เดวิดกล่าวออกมาอย่างสบาย ๆ และรีบหันกลับไปเลือกเสื้อคลุมสีฟ้าที่แขวนอยู่ด้านข้างของถังใหญ่นั่นทันที
หลังจากสวมเสื้อคลุมนั่นเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถอนหายใจอย่างยินดี พร้อมที่จะออกไปจากห้องทดลองนี่แล้ว