ตอนที่ 268 วิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้น (ฟรี)
ตอนที่ 268 วิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้น
นิกายขนนกสวรรค์ส่งมอบสิ่งของอย่างเชื่อฟัง
ไม่กี่วันต่อมา
นิกายอื่นๆ ก็เริ่มส่งสิ่งของๆ ตนออมาทีละกลุ่ม
หลังจากได้สิ่งเหล่านี้มา
รากฐานของนิกายหยวนพุ่งสูงขึ้นทันที
นี่เป็นเพราะสิ่งที่นิกายหยวนได้รับนั้นไม่เรียบง่ายเหมือนกับรากฐานของนิกายทั้งแปดในดินแดนชี่ หากจะนับกันอย่างจริงจัง มันก็เพียงพอแล้วที่เทียบเคียงรากฐานของนิกายใหญ่สิบแห่งในดินแดนจิตวิญญาณ
สำหรับทรัพยากรเพิ่มเติ่มมาจากไหน …
เขาไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อทำความเข้าใจ
หลังจากได้รับทรัพยากรเหล่านี้แล้ว
ฉินซู่เจียน เลือกสามเทคนิคบ่มเพาะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำ และรวบรวมทั้งเจ็ดเทคนิคบ่มเพาะในคราวเดียว
บนยอดดเขาเหลียง
ชายชุดเขียวนั่งไขว่ห้าง
หินวิญญาณที่ถูกฝังไว้แต่เดิมได้ฝังเข้าไปในภูเขา เมื่อภูเขาเหลียงเกิดการขยายตัว พวกมันหล่อเลี้ยงภูเขาพร้อมกับพลังชี่จิตวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม …
เมื่อเทียบกับภูเขาสูงเก้าพันฟุตในปัจจุบัน ผลกระทบของหินวิญญาณสองก้อนในเวลาอันสั้นนั้นน้อยมาก
ไม่ว่าหินวิญญาณจะทรงพลังเพียงใด…
มีการจำกัดปริมาณของพลังชี่จืตวิญญาณที่หินวิญญาณสามารถดึงดูดได้
อย่างไรก็ตาม เงินหาได้ง่าย แต่หินวิญญาณหายาก
ฉินซู่เจียน ต้องการรวบรวมหินวิญญาณมากขึ้น แต่ก็น่าเสียดายที่แม้แต่กลุ่มพ่อค้าเฉิงหยุนยังไม่มีหินวิญญาณ
ต้องรู้ว่าหินวิญญาณเกิดจากสวรรค์และโลก พวกมันหายากมาก
ผู้ที่ได้รับมันจะไม่ขายมัน
ท้ายที่สุด หากใช้หินวิญญาณอย่างเหมาะสม มันเกือบจะถือได้ว่าเป็นสมบัติที่สืบทอดได้ ซึ่งเทียบเท่ากับการจัดหาพลังชี่จิตวิญญาณอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อให้ผู้คนได้ดูดซับ
บนยอดเขาเหลียง
แสงหนาแน่นปกคลุมพื้นที่ ราวกับว่ามีร่างลวงตาขอเทพเจ้าที่หายใจเข้า และออก ดูดกลืนพลังชี่จิตวิญญาณ
ในเวลาเดียวกัน
ฉินซู่เจียน ยังได้รับการแจ้งเตือนจากระบบอย่างต่อเนื่อง
“ท่านได้ฝึกฝนอย่างหนัก และยกระดับคัมภีร์วิหารเทพนภาเป็นระดับสอง!
“ท่านได้ฝึกฝนอย่างหนัก และยกระดับคัมภีร์วิหารเทพนภาเป็นระดับสาม!
“ท่านฝึกฝนอย่างหนัก…”
“..”
“ท่านได้ฝึกฝนอย่างหนัก และยกระดับคัมภีร์วิหารเทพนภาเป็นระดับสิบเอ็ด!”
หลังจากถึงจุดสูงสุดของระดับที่หกของขอบเขตจิตวิญญาณ หากมีใครย้อนกลับไป และฝึกฝนอีกครั้ง ความเร็วของการพัฒนาจะเพียงพอที่จะทำให้ระดับนักสู้ฝึกหัดทั้งหมด และแม้แต่อัจฉริยะของขอบเขตเหนือธรรมชาติก็หน้าแดงด้วยความละอายใจ
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือน
ฉินซู่เจียนได้ยกระดับเทคนิคบ่มเพาะทั้งหกจนถึงระดับหนึ่ง บทเหนือธรรมชาติ
เมื่อเทคนิคบ่มเพาะเข้าสู่บทเหนือธรรมชาติ แม้ว่าความคืบหน้าของการฝึกฝนจะช้าลง แต่ก็ไม่ได้ช้าไปกว่าเดิมมากนัก มันยังคงพัฒนาด้วยความเร็วที่มากพอสมควร
ผ่านไปอีกครึ่งเดือน
คัมภีร์วิหารเทพนภาได้มาถึงระดับหกของบทเหนือธรรมชาติ ห่างจากระดับเจ็ดของบทเหนือธรรมชาติเพียงก้าวเดียว และเข้าสู่ขั้นกายคงกระพันอย่างเป็นทางการ
คัมภีร์วิหารเทพนภา
ผู้ฝึกฝนต้องร่างเต๋าในใจให้เป็นรากฐาน และใช้มันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
เทคนิคบ่มเพาะแบบนี้…
มันต้องใช้จิตตานุภาพอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน เขาจำเป็นต้องทำสมาธิวาดร่างสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง
มีภาพมากมายแสดงบนคัมภีร์วิหารเทพนภา สำหรับคนที่จะใช้มันเพื่อเริ่มต้นการบ่มเพาะ
อย่างไรก็ตาม …
ฉินซู่เจียน ไม่ได้ใช้ภาพจากคัมภีร์วิหารเทพนภา เขากลับใช้ร่างกายของเขาเองเป็นรากฐาน และมองว่าตัวเองเป็นเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เขาใช้สิ่งนี้เพื่อนึกภาพตัวเอง และเพิ่มความแข็งแกร่ง
วิธีนี้…
การปรับปรุงอาจจะช้าในช่วงแรก แต่ผลประโยชน์จะมากขึ้นเมื่อมีการพัฒนา
แน่นอน
คนที่ทำต้องมีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากพอ มิฉะนั้นจะไม่มีผลมากนัก
นับตั้งแต่ ฉินซู่เจียนมาถึงโลกนี้ เขาไม่เคยแพ้การต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่เขาต่อสู้และสังหาร หัวใจของเขาก็พัฒนาความเชื่อมั่นอย่างเป็นธรรมชาติ เขาถือได้ว่าเป็นคนที่แข็งแกร่ง
ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขาที่จะจินตนาการถึงร่างกายของเขาเองเป็นรากฐาน
ฉินซู่เจียนเป็นข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว
ธนูจักรวาล ดอกบัวทอง และกระบี่เฉียนซานเสวี่ยยังหายใจเข้าและออกด้วยพลังชี่จิตวิญญาณ อย่างไรก็ตาม ผลของการหายใจเข้าและออกด้วยพลังงานนี้มีผลน้อยมากหลังจากถึงระดับสิ่งประดิษฐ์เต๋า
อย่างไรก็ตาม สิ่งประดิษฐ์เต๋าสามารถดูดซับพลังชี่จิตวิญญาณได้จากทุกทิศทาง
มันไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อสิ่งประดิษฐ์เต๋าเท่านั้น
มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งนิกาย
เมื่อสอดรับกับสิ่งนี้
ฉินซู่เจียนโยนสิ่งประดิษฐ์เต๋าที่ไม่ได้ใช้งานอีกแปดชิ้นที่เหลือออกไป หลังจากสร้างค่ายกลกักกันในบริเวณโดยรอบแล้ว เขาก็ปล่อยให้พวกมันดูดซับ และปล่อยพลังชี่จิตวิญญาณเพื่อหล่อเลี้ยงตัวเอง
มันทำให้พลังชี่จิตวิญญาณในนิกายหลักของนิกายหยวนหนาแน่นขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
ยิ่งหนาแน่น มันก็ยิ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการฝึกฝนของคนในนิกาย
ในขณะนั้น ฉินซู่เจียนออกจากภาวะฝึกตนของเขา จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น และมองไปในระยะไกล เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
สำหรับธนูจักรวาลในอีกด้านหนึ่ง มันก็ได้ถอนตัวออกมาเช่นกัน และคันธนูก็ลอยไปด้านข้างของเขา
ในการรับรู้ของฉินซู่เจียน และธนูจักรวาล
ดูเหมือนจะมีแสงเจ็ดสีล่องลอยอยู่ในที่ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
“กำแพงกั้นสวรรค์!”
ฉินซู่เจียนจะไม่มีวันลืมแสงเจ็ดสี
ย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่ที่จุดสิ้นสุดของดินแดนชี่เหลียงซาน เขาได้เห็นการมีอยู่ของกำแพงกั้นสวรรค์เป็นการส่วนตัว
หรือจะกล่าวได้ว่า คนส่วนใหญ่ในดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซานในตอนนี้คุ้นเคยกับกำแพงกั้นสวรรค์
ต้องรู้ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับขอบของโลกนี้ ใครก็ตามที่อยากรู้อยากเห็นจะไปที่ขอบของโลกเพื่อสำรวจ และโดยธรรมชาติจะสามารถเห็นการมีอยู่ของกำแพง
อย่างไรก็ตาม
กำแพงกั้นสวรรค์อยู่ในสภาพที่อยู่ระหว่างภาพลวงตาและความเป็นจริงมาโดยตลอด หากไม่เข้าใกล้ พวกเขาจะไม่สามารถตรวจจับการมีอยู่ของมันได้เลย
แต่ตอนนี้ …
อย่างไรก็ตาม ฉินซู่เจียนสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของกำแพงกั้นสวรรค์ผ่านจิตเทพของเขาในขณะที่เขาอยู่บนภูเขาเหลียง นี่มันไร้เหตุผลชัดๆ
เขามองไปที่ธนูจักรวาล
หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ และเขาถามทันทีว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะสังเกตเห็นการมีอยู่ของกำแพงกั้นสวรรค์ด้วย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมกำแพงกั้นสวรรค์ถึงมีความผิดปกติเช่นนี้”
ออร่าหนาทึบถูกเปล่งออกมาจากธนูจักรวาลและมีเสียงเก่าแก่ดังออกมา “ข้ารู้ว่ากำแพงกั้นสวรรค์ครอบคลุมทุกทิศทาง หากไม่มีใครเข้าใกล้ขอบและโลก พวกมันจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน”
"แต่ …"
“มีบางสถานการณ์ที่กำแพงกั้นสวรรค์จะเปลี่ยนไป นั่นคือดินแดนใหม่กำลังจะเกิดขึ้น!”
รูม่านตาของฉินซู่เจียนหดตัวเมื่อเขาได้ยินคำพูดของธนูจักรวาล เขามองไปในระยะไกลทันทีอีกครั้งและพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “เจ้าหมายถึงว่าแดนมรณะกำลังจะถือกำเนิดขึ้น?”
กำเนิดแดนมรณะ!
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตกใจมากนัก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาตกใจอย่างแท้จริงคือ ความเร็วของแดนมรณะที่เกิดขึ้น
ตามแผนเดิมของฉินซู่เจียน
กว่าที่แดนมรณะจะเกิดได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามทศวรรษ หรือแม้แต่สองสามศตวรรษ
เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้แล้ว คงใช้เวลาไม่นานนักที่จะปรากฏขึ้น
“ในความคิดของเจ้า จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่แดนมรณะจะถือกำเนิดขึ้น”
“แดนมรณะจะเกิดในหนึ่งปี อย่างเร็วก็ไม่กี่เดือนอย่างแน่นอน!” น้ำเสียงธนูจักรวาลก็จริงจังเช่นกัน
“พื้นที่นี้ได้รับการยกระดับจากดินแดนชี่และดินแดนจิตวิญญาณ และได้รับการส่งเสิรมจากพลังชี่จิตวิญญาณหลายครั้ง ทำให้พื้นที่โดยรอบเติบโตอย่างมาก ในทำนองเดียวกัน การถือกำเนิดของแดนมรณะก็ได้เร็วขึ้นเช่นกัน”
พูดความจริง
แม้มันจะมีประสบการณ์มาก แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความตกใจในสถานการณ์ปัจจุบัน
เพราะในความทรงจำ…สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ที่ตั้งของดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซานนั้นละเอียดอ่อนเกินไป มันเกิดขึ้นที่ขอบของโลก การหลั่งไหลของพลังชี่จิตวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้เร่งความก้าวหน้าของการก่อตัวของแดนมรณะ
เมื่อได้ยินดังนั้น
หัวใจของฉินซู่เจียนจมลงอีกครั้ง
อาจใช้เวลาตั้งแต่สองสามเดือนถึงหนึ่งปี
ถ้าเป็นอย่างเร็ว ในอีกไม่กี่เดือน แดนมรณะใหม่จะเกิดที่พรมแดนของดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซาน นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญ
แดนมรณะถือกำเนิดขึ้น
หมายความว่าปีศาจร้ายได้ถือกำเนิดขึ้นมาด้วย
แม้ว่าปีศาจร้ายจำนวนมากจะตายด้วยน้ำมือของเขา แต่ฉินซู่เจียนก็จะไม่ประมาทพวกมันเพียงเพราะสิ่งนั้น
เหตุผลที่ปีศาจร้ายถูกเขาฆ่าเพราะมันถูกสะกดโดยแดนมรณะ และไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงได้ เหตุผลที่สองคือมันเพิ่งถูกปลดออกจากผนึก และอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ
ถ้าเกิดแดนมรณะเกิดใหม่ เขาจะต้องเผชิญกับปีศาจที่จุดสูงสุดของพวกมัน
ปีศาจร้าย
แม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์
ที่สำคัญกว่า …
ฉินซู่เจียน ไม่สามารถปล่อยให้หายนะปีศาจออกจากอาณาเขตเขตของแดนมรณะได้
นี่เป็นเพราะเมื่อพวกมันเดินออกมาจากแดนมรณะ พวกเขาจะเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณ เนื่องจากแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญประทับเทพก็สามารถทะลวงพันธนาการของดินแดนวิญญาณได้ หายนะครั้งใหญ่จะปะทุขึ้น
ในตอนนั้นหากเขาไม่ระวัง…
แม้ว่าหายนะปีศาจจะกลืนกินดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซานทั้งหมด หากมันร้ายแรง มันอาจส่งผลกระทบต่อมณฑลเป่ยหยุนทั้งหมด และอาจถึงสิบสามมณฑลของอาณาจักรต้าจ้าว
“เรากำลังมีปัญหาแล้ว!”
นี่เป็นความคิดเดียวในใจของฉินซู่เจียนในตอนนี้
ใช่!
นี่เป็นเรื่องยุ่งยาก!
หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นยอดปรมาจารย์ค่ายกล เขาอาจพิจารณารวบรวมทั้งนิกายหยวน และย้ายออกไปก่อน
แม้ตอนนี้ในฐานะยอดปรมาจารย์ค่ายกล เขาก็ยังไม่แน่ใจเขาจะชนะได้หรือไม่
เป็นเพียงข่าวลือว่ายอดปรมาจารย์ค่ายกลเทียบได้กับผู้ฝึกขอบเขตสวรรค์ อย่างไรก็ตาม เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่
นอกจากนี้ …
แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับเดียวกับผู้ฝึกฝนขอบเขตวรรค์ แต่เป็นไปไม่ได้ที่ขอบเขตสวรรค์จะเป็นเพียงระดับเดียวกันทั้งหมด และไม่มีความแตกต่างระหว่างระดับบนและระดับล่าง
ถ้าจะพูดตรงๆ ฉินซู่เจียนยังไม่รู้ความแข็งแกร่งที่เฉพาะเจาะจงของตน
นี่เป็นครั้งแรกที่ ฉินซู่เจียน ได้พบกับสถานการณ์เช่นนี้ในดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซาน
ท้ายที่สุด มันเป็นดินแดนจิตวิญญาณ
ส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยดินแดนชี่ หรือแม้แต่ดินแดนไพศาล แม้แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็อาจเชื่อมโยงกับแดนมรณะ
อย่างไรก็ตาม ดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซานอาจเป็นสถานที่แห่งเดียวในสิบสามมณฑลของอาณาจักรต้าจ้าวที่เชื่อมต่อโดยตรงกับกำแพงกั้นสวรรค์
อย่างไรก็ตาม …
มีข้อดีและข้อเสียสำหรับแดนมรณะ
ข้อได้เปรียบคือโดยธรรมชาติแล้วแดนมรณะที่พัฒนาขึ้นใหม่มีสมบัติมากมาย ในฐานะที่เป็นนิกายที่อยู่ใกที่สุด นิกายหยวนมีโอกาสที่จะเข้าสู่ดินแดนนี้ก่อน และฉกฉวยทรัพยากร
สำหรับข้อเสีย…
จากนั้นอาจเป็นเพียภัยคุกคามของปีศาจร้าย
แม้ว่าเขาจะกังวล แต่ฉินซู่เจียน ก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขายังคงเป็นยอดปรมาจารย์ค่ายกล แม้ว่าแดนมรณะจะถือกำเนิดขึ้นจริง ๆ เขาก็จะไม่กลัว
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจัดการกับปีศาจร้ายได้ แต่เขาก็ยังสามารถปกป้องนิกายหยวนได้