ตอนที่ 1201 ไปจัดการกับปัญหานี้ ..ให้มันจบไป
เมื่อเห็นสภาพที่มือของ ชายที่มีรอยแผลเป็น ชายหน้าตาธรรมดา ที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ตกใจมาก สิ่งแรกที่เขานึกคิดคือ ..ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า กลับมาแล้ว ในความรู้สึกของเขา ก็คงมีเพียง ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า คนนี้เท่านั้น ..ที่มีความสามารถนี้ได้
อย่างไรก็ตาม.. เมื่อเขาได้หันไปมอง เหงื่อเย็นๆ มันก็ได้ผุดขึ้นมาจากหน้าผาก เขาตกตะลึงไปจริงๆ ผู้ที่มานี่.. กลับไม่ใช่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า แต่เป็นชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่ง!
นี่ใครว่ะ?
หลินฟาน ได้เดินเข้าไปหาพวกเขาทีละก้าวๆ ด้วยสีหน้าบึ้งตึง และก็ได้เห็นว่ามีเหรียญถูกหนีบอยู่ระหว่างนิ้วทั้งสอง ..ของเขา
“แกเป็นใครวะ อย่าได้ก้าวเข้ามาอีก!”
ชายหน้าตาธรรมดาได้กัดฟัน แล้วพยายามเข้าไปหยุด หลินฟาน
แน่นอนว่า ..หลินฟาน ไม่คิดที่จะฟังเขา
ชายหน้าตาธรรมดา ทําได้แค่กัดฟัน กระโจนเข้าไปหา หลินฟาน แล้วปล่อยหมัดชกออกไป เพื่อพยายามหยุด หลินฟาน
และนี่ก็คือ ..แขนของตั๊กแตนตำข้าวที่ยกขึ้นมาเพื่อพยายามขัดขวางเกวียน(1) ..อย่างไม่ต้องสงสัย หลินฟาน ได้หันหน้าไปใช้มือข้างหนึ่งกระชากเขาเข้ามา และก็ได้ยกเข่าข้างหนึ่งกระทุ้งท้องของอีกฝ่าย วินาทีต่อมา.. ลูกตาของ ชายหน้าตาธรรมดา ก็เกือบปูดโปนออกมา ใบหน้าของเขาก็ได้เขียวไปหมด พร้อมกับกระโจนลงไปคุกเข่าลงกับพื้น ร่างกายของเขาเองก็ได้โค้งงอเป็นกุ้ง ปากของเขาก็ได้เปิดอ้ากว้างค้างเอาไว้ …ร้องโหยหวนออกมาอย่างไร้เสียง
“..อยู่นิ่งๆ ไว้” หลินฟาน ได้กล่าว พร้อมกับได้เดินผ่านเขาไป
ชายที่มีรอยแผลเป็น ได้ตอบสนอง และเขาก็ได้พบ หลินฟาน แต่ด้วยความตกใจ เขาจึงได้พยายามข่มขู่ หลินฟาน โดยจะใช้มืออีกข้างเข้าบีบคอของ หลัว หลี่
แต่ หลินฟาน ไม่คิดปล่อยโอกาสให้เขา เขาได้วิ่งออกไปปานดุจลูกธนู เข้าไปคว้าคอเสื้อของ ชายที่มีรอยแผลเป็น และยกร่างใหญ่ของเขาขึ้นโดยตรง และสะบัดมือเหวี่ยงร่างของเขาออกไป
ชายที่มีรอยแผลเป็น ได้บินลอยออกไปเข้ากระแทกกับกำแพงข้างๆ และล้มลงไปกับพื้น.. ตามลำตัวของเขาได้กระตุกขยับตัวไม่ได้อยู่พักใหญ่ ได้แต่อาเจียนเลือดออกมาจากปากอย่างรุนแรง
หลัว หลี่ ที่ได้เห็นว่า ..เป็น หลินฟาน ที่มา มันก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับเธอ เธอเองได้รู้สึกดีใจมากๆ จนมีน้ำตาได้ไหลออกมา ยังดีที่ หลินฟาน มาทัน ..ไม่งั้น เธออาจจะถูก ชายที่มีรอยแผลเป็น ทำร้าย
หลินฟาน ได้รีบเข้ามานั่งยองๆ ลง และช่วย หลัว หลี่ ฉีกเทปที่ปิดปากของเธอออกก่อน
เมื่อ หลัว หลี่ กลับมาพูดได้ เธอก็ได้พูดว่า : “เย่ เทียนอวี่.., เย่ เทียนอวี่ อยู่ตรงนั้น!”
หลินฟาน ก็ได้มองตามสายตาของเธอไปที่มุมหนึ่งของโกดัง และก็ได้เห็น เย่ เทียนอวี่ ที่ถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่เหล็ก
หลินฟาน ได้รีบฉีกดึงเชือกที่ผูกมัดร่างกายของ หลัว หลี่ จนขาด และเขาก็ได้ลุกขึ้น เดินเข้าไปหา เย่ เทียนอวี่ อย่างรวดเร็ว
หลัว หลี่ ที่ได้สลัดเชือกที่มัดออกทั้งหมดแล้ว เธอก็ได้กลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง และก็ได้รีบเดินไปดู เย่ เทียนอวี่ ทันที
“เขา.. ตายแล้ว?” หลัว หลี่ ได้ถาม
หลินฟาน ที่ได้นั่งยองๆ ลงต่อหน้า เย่ เทียนอวี่ เขาก็ได้เอื้อมมือไปจับชีพจรของเขา แล้วพูดว่า : “ยังไม่ตาย.. แต่ก็ใกล้แล้ว ดังนั้นคงต้องรีบรักษาเขา”
พูดพลาง หลินฟาน ก็ได้ช่วย เย่ เทียนอวี่ ปลดโซ่เหล็กออก เขาได้วางเขานอนราบลงกับพื้น และเริ่มทำการช่วยเหลือ
“สภาพที่นี่แย่เกินไป ผมได้แต่รักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้น และเขาต้องไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาล คุณรีบโทรขอกำลังเสริมทางตํารวจก่อนเถอะ และก็เรียกรถพยาบาลให้มาด้วย” หลินฟาน ได้กล่าว พร้อมกับมอบโทรศัพท์มือถือของเขาให้กับ หลัว หลี่
หลัว หลี่ ที่รับโทรศัพท์ของเขามาแล้ว และต้องการจะโทรแจ้งตํารวจ แต่ก็กลับพบว่าสัญญาณไม่ดี จึงได้ยืนขึ้น และตั้งใจจะหาที่ที่สัญญาณดีกว่านี้
พอหันหลังกลับ ก็กลับได้เห็น ชายหน้าตาธรรมดา คนนั้น ในเวลานี้เขาได้ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากลําบาก พร้อมกับได้รีบวิ่งโซซัดโซเซออกไปข้างนอก คาดไม่ถึงว่าเขาคิดจะหลบหนี!
“เฮ้ หยุด อย่าขยับ!” หลัว หลี่ ได้ร้องตะโกนขึ้น พยายามไล่ตาม และเข้าปราบอีกฝ่ายหนึ่ง
แต่ก็เห็นว่า หลินฟาน โบกมือของเขา
เมื่อนั้นเสียงบางอย่างแหวกฝ่าอากาศก็ได้ดังขึ้น แสงสีเงินก็โผล่ออกมา และแค่พริบตาเดียวมันก็ได้เข้ากระทบด้านหลังศีรษะของ ชายหน้าตาธรรมดา
ชายหน้าตาธรรมดา ก็ได้ส่งเสียงครวญครางออกมา ล้มหัวกระแทกกับพื้น และก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ขยับอีกแล้ว
หลินฟาน พึมพําออกมาเบาๆ ว่า : “ฉันบอกไปแล้วว่าให้นายอยู่นิ่งๆ แต่กลับไม่เชื่อฟัง…”
หลัว หลี่ ที่ถือโทรศัพท์อยู่ ก็ได้อึ้งไปแล้ว …นี่เขา ใช้วิธีไหนกัน แล้วก็.. มันไม่ดูแรงเกินไปไหม ทั้งในเวลานี้ หลินฟาน ได้ฆ่าเขาไปแล้วงั้นเหรอ?
หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณไม่ต้องกังวลหรอก เขายังไม่ตาย คุณรีบๆ โทรเร็วๆ เถอะ”
“อืม” หลัว หลี่ ตอบสนองทันที และเธอก็ได้รีบวิ่งออกไปหาที่ที่มีสัญญาณ และได้โทรเรียกเพื่อนร่วมงานให้มาที่นี่
หลังจากที่ได้โทรแจ้งเพื่อนร่วมงานแล้ว หลัว หลี่ ที่ได้กลัวว่า ชายทั้งสองคนนั้น ต้องการจะคิดหลบหนีอีกครั้ง เธอจึงได้ใช้เชือกที่มัดเธอเอาไว้ในก่อนหน้านี้ เพื่อมามัดมือมัดเท้าของพวกเขา ทั้งชายทั้งสองคนนี้ก็ดูค่อนข้างน่าสังเวช ชายที่มีรอยแผลเป็นคนนั้น ก็ได้ถูก หลินฟาน ทำร้ายด้วยเหรียญจนมือข้างหนึ่งของเขาพิการ และก็ถูก หลินฟาน โยนเข้าไปกระแทกกับกําแพง จนกระอักเลือดออกมา ร่างกายของเขาในตอนนี้มันก็เหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ชายหน้าตาธรรมดาคนนั้น ก็ได้ถูกเหรียญของ หลินฟาน กระแทกเข้าที่ด้านหลังศีรษะ แม้ว่าจะไม่ทิ้งบาดแผลเอาไว้ แต่ก็คงช็อกจากแรงกระแทก และหมดสติไป ถ้าหาก หลินฟาน ไม่ได้แสดงความเมตตาออกมา เธอเองก็เกรงว่าทั้งหัวของเขาคงได้ระเบิดออก…
“หลินฟาน แล้วนี่คุณหาฉันเจอได้ยังไง?” หลัว หลี่ ได้ถามไปพลาง ในขณะที่เธอเองก็กำลังยุ่งอยู่
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนั้น ได้มาหาผม เพื่อทําข้อตกลง ผมจึงได้จับตัวเธอไว้”
อะไรนะ? หลัว หลี่ รู้สึกประหลาดใจมาก เธอได้พูดว่า : “คุณจับตัวเธอได้แล้ว แล้วนี่เธออยู่ที่ไหน?”
หลินฟาน พูดว่า : “ในที่ที่ปลอดภัย”
หลัว หลี่ ตกตะลึง เธอรู้สึกไม่เข้าใจความหมายของ หลินฟาน ในทันที.. แต่เธอก็ไม่ได้ถาม แค่ถามไปว่า : “ฉันไม่เข้าใจ ทําไมเธอถึงต้องการจับตัวฉัน แล้วการที่เธอไปทําข้อตกลงกับคุณ นี่มันหมายความว่ายังไง?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “จำได้ไหมว่า.. ผมเคยบอกคุณไปในก่อนหน้านี้ว่า ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และคนของ ถังเหมิน ต่างก็มาเพื่อเงินของ เย่ เทียนอวี่”
หลัว หลี่ กล่าวว่า : “อืม.. ใช่ เย่ เทียนอวี่ ได้ซื้อชีวิตของเขาด้วยเงินหนึ่งพันล้านหยวน ทางตํารวจของเราเองก็ได้พยายามค้นหาร่องรอยของเงินหนึ่งพันล้านหยวนที่ว่านี้ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ก็กลับไม่ได้อะไรเลย”
หลินฟาน ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะตรวจสอบไม่ได้.. เพราะเงินก้อนนี้มันอยู่ในบัญชีลับ บัญชีนี้เป็นของ หลี่ หวยซาน ทั้งเงินก้อนนี้เองก็เป็นของ หลี่ หวยซาน หลี่ หวยซาน ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว เงินก้อนนี้จึงตกไปเป็นของทายาทเพียงคนเดียวของเขา ซึ่งก็คือลูกสาวของเขา หลี่ จื่อเสีย ที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง”
หลัว หลี่ กล่าวว่า : “อืม.. แต่แล้วทําไมเธอต้องจับตัวฉัน ฉันยังไม่เข้าใจในข้อนี้”
หลินฟาน กล่าวว่า : “เพราะตอนนี้.. เงินก้อนนี้ มันอยู่ในมือของผม วันนั้นเป็น เย่ เทียนอวี่ ที่ได้บอกบัญชีลับ และรหัสผ่านนั้นมาให้กับผมทราบ แล้วเขาก็ได้ขอให้ผมคืนเงินก้อนนี้ให้กับ หลี่ จื่อเสีย ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าที่ได้จับคุณไป เธอก็แค่ต้องการอยากขู่ผม และให้ผมคืนเงินก้อนนี้แก่เธอ”
“อ๋า?” หลัว หลี่ งุนงงไปหมดแล้ว หลินฟาน ได้เงินของ เย่ เทียนอวี่ ไป แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ทำไมเธอไม่รู้…
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และศิษย์ถังเหมินทั้งสามคน ไม่คิดจะยอมแพ้เรื่องเงิน ในตอนนั้นผมเคยคิดว่าจะมอบเงินก้อนนี้ให้กับทางตํารวจของพวกคุณ และประกาศว่าเงินก้อนนี้อยู่ในมือของตํารวจแล้ว เพื่อให้พวกเขาตายใจ แต่คิดไปคิดมา.. แบบนี้ดูจะไม่เหมาะสม ในเวลานั้น เย่ เทียนอวี่ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกทางตํารวจควบคุมตัวไว้ เขายังหวังว่าพวกเขาจะมาช่วยเขาออกไป เช่นนี้ผมจึงไม่มีเหตุผลที่จะบอกที่อยู่ของเงินกับทางตํารวจ และแน่นอนว่าพวกเขาก็ย่อมที่จะไม่เชื่อ ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงต้องการเข้ามาปล้นแย่งชิงตัว เย่ เทียนอวี่ ออกไป และใช่.. ผมก็แค่ปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ และได้โอนเงินก้อนนี้ออกไปเท่านั้น”
หลัว หลี่ พูดว่า : “สรุป.. ก็คือคุณอยากใช้ เย่ เทียนอวี่ ในการล่อพวกเขาให้ออกมา แล้วจับพวกเขา”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืม.. ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่ผมคาดเดา ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ผิดไปเล็กน้อย สุดท้าย ..ในที่สุด วันนั้นเธอก็สามารถช่วย เย่ เทียนอวี่ ออกมาได้สําเร็จ และหลบหนีออกไปโดยใช้วิธีการปลอมตัว แต่มัน.. ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ตามเงินยังคงอยู่ในมือของผม และผมเองก็รู้ดีว่าเธอ ..จะต้องมาหาผมในไม่ช้าก็เร็ว สุดท้ายวันนี้เธอก็ได้มาจริงๆ ผมเองก็แค่ไม่คิดว่าเธอจะจับตัวคุณไว้ เพียงเพราะคุณเป็นแฟนของผม ดังนั้นเธอจึงได้ใช้คุณมาเพื่อข่มขู่ผม”
“......” หลัว หลี่ รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย.. สําหรับเธอแล้ว นี่มันเท่ากับเป็นหายนะสำหรับเธอ เธอเองนึกไปถึงว่าเมื่อกี้ เธอ ..ก็เกือบจะถูก ชายที่มีรอยแผลเป็น ทําร้าย ก็ยิ่งรู้สึกเศร้าในใจเข้าไปใหญ่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่า หลินฟาน กําลังรักษา เย่ เทียนอวี่ อยู่ในขณะนี้ เธอเองก็คงอยากต้องการขอให้เขาเข้ามากอดปลอบใจเธอ…
ตอนนี้.. ในที่สุดเธอก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว และเธอก็ได้กำลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดถามเขาไปว่า : “แล้วต่อไปล่ะ พวกเขาที่รู้ว่าเงินอยู่ในมือของคุณแล้ว เช่นนี้.. ฉันเองเกรงว่าแม้ว่าคุณจะส่งเงินมาให้กับทางเรา พวกเขาก็ยังคงต้องการสร้างปัญหาให้กับคุณอยู่ดี”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืม.. ดังนั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมเองก็ได้วางแผนที่จะออกจากเมืองหยุนเฉิง ไปสักพักหนึ่งนะ”
หลัว หลี่ ก็ได้ถามอย่างสงสัย : “คุณจะไปไหน?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ไปจัดการกับปัญหานี้ ..ให้มันจบไป”
(1)[ตั๊กแตนห้ามรถ (螳臂当车)] - เป็นอุปมาอุปไมยถึงการทำสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ หรือเกินตัวจนเกินไป และย่อมที่จะล้มเหลว โดยทั่วไปจะใช้เป็นกริยา หรือวัตถุในประโยค และมีความหมายในทางเสื่อมเสีย