ตอนที่ 1200 เย่ เทียนอวี่!
เจ็บ.. ทำไมฉันถึงรู้สึกปวดหัวมาก...
หลัว หลี่ รู้สึกเหมือนตัวเธอกำลังล่องลอยอยู่ในความมืด และอาการปวดอย่างรุนแรงมันก็แทบระเบิดออกมาจากหัวของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ..ในที่สุดสติของเธอก็ได้กลับมาอีกครั้ง และฉากหนึ่งมันก็ปรากฏขึ้นทันทีในหัวของเธอ เมื่อเธอเพิ่งจัดการคดีเสร็จ กำลังจะกลับไปที่สถานีตำรวจ และในระหว่างทางที่กลับ เธอก็ได้แวะไปเข้าห้องน้ำ…
ทันทีที่เธอเปิดประตูออกจากห้องน้ำมา เธอก็เห็น ผู้หญิงคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัยยืนอยู่ตรงหน้า.. และก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกไป ศีรษะของเธอก็ได้ถูกบางอย่างกระแทก และหมดสติไป…
นั่นเธอ!
ผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยที่ปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องน้ำคนนั้น ก็คือผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ที่เธอกําลังตามล่าตัวอยู่!
แต่แล้ว.. ทำไม ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ถึงเข้าทําร้ายเธอ?
เรื่องยาวเหล่านี้ จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงความคิดของ หลัว หลี่ ที่ได้แวบเข้ามา เมื่อเธอตั้งสติได้ ก็รีบเงยหน้าขึ้นทันที และพบว่าตัวเองอยู่ในโกดังที่มืดสลัว ทั้งมีกลิ่นฉุนลอยอยู่ในอากาศ
ไม่ไกลนัก.. ใต้หน้าต่างที่ชํารุดแตกหักทรุดโทรมบานหนึ่ง มีชายสองคนได้นั่งยองๆ อยู่บนไม้กระดาษเก่าๆ เพื่อเล่นไพ่ พวกเขาได้พูดคุย และหัวเราะกัน
สองคนนี้.. น่าจะเป็นพวกเดียวกันกับผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า แต่ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ ..ที่นี่ ในขณะนี้
คืนนั้นที่ลานหน้าฟาร์มแห่งหนึ่งในหมู่บ้านไจ๋เจียจวง ตํารวจได้เข้าไปพบศพหลายศพ รวมถึงต่อมาในป่า พวกเขาก็จับชายคนหนึ่งเอาไว้ได้ แต่ในเวลาต่อมาก็กลับพบว่าเขาถูกฆ่าตาย.. หลังจากตรวจสอบแล้ว ผู้เสียชีวิตเหล่านี้ล้วนอยู่กับ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และพวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตด้วยน้ำมือของศิษย์จาก ‘ถังเหมิน’ ทั้งสามคน
ทางตำรวจได้พยายามค้นหาตัวตนของบุคคลเหล่านี้ โดยการระบุรูปพรรณสัณฐานของผู้เสียชีวิตเหล่านี้ เพื่อให้โยงไปถึงตัวตนที่แท้จริงของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า แต่การสืบสวนในเรื่องนี้คืบหน้าไปได้ช้ามาก และยังไม่มีผลออกมาจนถึงขณะนี้ เหตุผลก่อนอื่นเลยก็คือ อัตลักษณ์ของคนเหล่านี้นั้นค้นหาได้ยาก และไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขามาจากไหน ทั้งตัวตนของกลุ่มคนเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะถูกเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่นั้นก็อาจบอกได้ว่าพวกเขา ..ไม่มีข้อมูลอยู่ในทะเบียนราษฎร์
น่าเสียดายที่พวกเขาเหล่านี้เป็นคนตายไปแล้ว คนตายก็ไม่สามารถมาอ้าปากพูดได้
และนี่ก็เป็นเบาะแสเดียวของทางตํารวจ ทั้งทางตํารวจเองก็ยังไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้ ตํารวจคาดว่าคนเหล่านี้น่าจะมาจากองค์กรเดียวกัน และตามเท่าที่ค้นพบองค์กรนี้ ก็จะสามารถระบุตัวตนของ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ..ได้แล้ว
ในตอนนี้ ผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้าฉัน พวกเขาอาจจะเป็นคนในองค์กรเดียวกันกับผู้ตายเหล่านั้น!
หลัว หลี่ ได้คิดว่าตราบใดที่เธอสามารถจับผู้ชายสองคนนี้ได้ทั้งเป็นๆ อยู่ เธอก็จะสามารถสอบสวนพวกเขาได้ และรู้ถึงตัวตนของพวกเขาได้ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอถูกจับผูกมัดเอาไว้แน่นกับเก้าอี้ และดูเหมือนยังไม่มีโอกาสได้จับสองคนนี้
แต่อยู่ดีๆ เธอก็ได้ยินผู้ชายสองคนนี้กําลังพูดคุยกันเรื่องผู้หญิง ต่อมา.. ชายที่มีรอยแผลเป็นคนนั้น จู่ๆ เขาก็เกิดความคิดร้ายกับ หลัว หลี่ ขึ้นมา
หลัว หลี่ ก็ได้ตกใจมาก และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแล้ว ..เธอเองก็ถูกมัดอยู่
และก็เห็นชายที่มีรอยแผลเป็นคนนั้น เดินยิ้มหยาบคายเข้ามาหา หลัว หลี่
ปากของ หลัว หลี่ เองก็ถูกปิดเอาไว้ด้วยเทปกาว และไม่สามารถพูดได้ เธอเองได้พยายามดิ้นรน แต่ก็ไม่สามารถขยับได้ ได้แต่มอง ชายที่มีรอยแผลเป็นคนนั้น ก้าวเดินเข้ามาหาเธอ ..อย่างช่วยไม่ได้
ชายที่มีรอยแผลเป็น ได้มองไปที่ หลัว หลี่ เขาได้หัวเราะออกมาพร้อมกับพูดไปว่า : “ไม่เลวจริงๆ ดูมีพลังมากกว่าม้าตัวเก่าของฉันอีก ฮี่ฮี่ๆ”
ชายหน้าตาธรรมดา ได้เดินตามมา และยังพยายามเกลี้ยกล่อมเขาว่า : “พี่อย่ามั่วยุ่งกับเรื่องนี้เลย เอาจริงๆ นะ ถ้า หญิงสาวหยุนคนนั้นรู้ ..เกรงว่าจะไม่ปล่อยคุณไป ฉันเองก็อาจจะต้องทนทุกข์ทรมานตามไปด้วย”
ชายที่มีรอยแผลเป็น พูดว่า : “สบายใจเถอะน่า เราไม่ใช่คนของ นางนั่น และท้ายที่สุดแล้ว เรา.. ก็เป็นผู้มีพระคุณของเธอ แล้วเช่นนี้เธอจะทําอะไรกับเราได้? และอีกอย่าง ..แม่สาวคนนี้ก็มีดูน้ำมีนวลมากจริงๆ ในไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องถูกนางผู้หญิงโรคจิตนั่นฆ่าตายอยู่แล้ว ..ช่างน่าเสียดายจริงๆ สู้ก่อนที่เธอจะตาย.. มาช่วยทำงานหนักกับ เล่าจื้อ หน่อยดีกว่ามั้ย”
พูดพลาง ชายที่มีรอยแผลเป็น ก็ได้เอื้อมมือไปจับใบหน้าของ หลัว หลี่
หลัว หลี่ ได้รีบสะบัดหน้าของเธอ เพื่อหลีกเลี่ยงมือของเขา
ชายที่มีรอยแผลเป็น ได้หัวเราะ แล้วพูดว่า : “คนสวย อย่าดิ้นไป เธอนะ.. หนีไปไหนไม่พ้นหรอก”
ทันที.. เขาก็ได้จับผมของ หลัว หลี่ และบังคับดึงศีรษะให้เธอได้เงยหน้าขึ้นมามองเขา
ดวงตาของ หลัว หลี่ เต็มไปด้วยความโกรธ และเธอก็ได้ส่งเสียงออกจากปากที่ถูกปิดด้วยเทปกาว แม้ว่าจะไม่ได้ยินว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่มัน.. ก็ไม่ได้ขัดขวางการแสดงออกของเธอว่าเธอกำลังโกรธอยู่ในขณะนี้
ชายที่มีรอยแผลเป็น ..เหมือนกำลังมองลูกแกะตัวน้อยๆ ที่กำลังรอการถูกเชือด เขาได้หัวเราะ พร้อมกับพูดไปว่า : “ไม่มีประโยชน์หรอกน่า.. เลิกดิ้นรนเถอะ เพราะนับตั้งแต่ที่เธอตกไปอยู่ในมือของนางนั่น มันก็นับได้ว่าเธอ.. มันโชคร้ายแล้ว และในตอนนี้ ก็มาให้พี่ชายคนนี้มีความสุขหน่อยเถอะ ถือซะว่า ..เป็นสิ่งดีๆ ที่คุณจะได้ทำมันครั้งสุดท้ายในโลกนี้”
ผัวะ!
ทันใดนั้น จู่ๆ หลัว หลี่ ก็กระโดดขึ้นพร้อมกับเก้าอี้ และเอาศีรษะพุ่งชนกระแทกหน้าชายที่มีรอยแผลเป็น
ชายที่มีรอยแผลเป็น กลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาได้ก้าวถอยหลังทันที เพื่อหลบแรงปะทะของ หลัว หลี่ แล้วจากนั้นก็ยกฝ่ามือขึ้นตบเธอลงไปนอนกับพื้นอย่างรุนแรง
หลัว หลี่ ได้นอนคว่ำอยู่กับพื้น ..พร้อมกับเก้าอี้ ซึ่งก็เป็นเก้าอี้ไม้เก่าๆ ซึ่งอาจจะถูกทิ้งร้างเอาไว้โดยคนที่เคยทํางานอยู่ในโกดังแห่งนี้มาก่อน
หลังจากล้มลงไปกับพื้น ..เก้าอี้ ก็ได้พังทลายลง และหลัว หลี่ ก็ได้สังเกตเห็น และได้ดิ้นรนทันทีพยายามที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการของเชือก และเก้าอี้ที่ยึดตัวเธออยู่
แต่ความตั้งใจของเธอกลับถูกค้นพบทันที โดยชายที่มีรอยแผลเป็นที่ในขณะนี้.. เขากำลังมีรอยยิ้มชั่วช้า และได้กำลังเดินเข้ามา พร้อมกับอ้าแขนออกพยายามที่จะจับ หลัว หลี่
หลัว หลี่ ได้เตะไปที่ ชายที่มีรอยแผลเป็น ชายที่มีรอยแผลเป็น ก็ได้เอื้อมมือออกไปจับเท้าข้างนั้นของเธอ และลากเธอไปด้านข้าง เขาเองได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “สมกับที่เป็นตำรวจหญิงนะ ช่างเป็นหญิงที่ดูดุร้ายมากจริงๆ แต่ไม่เป็นไร เล่าจื้อ.. ชอบผู้หญิงที่ดุร้ายอย่างคุณมากที่สุดแล้ว ฮ่าๆ”
ทั้งสองได้ต่อสู้กัน แต่ในที่สุด หลัว หลี่ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ ชายที่มีรอยแผลเป็น นั่นก็เพราะเธอถูกมัดเอาไว้ด้วยเชือก ในที่สุด.. เธอก็ถูก ชายที่มีรอยแผลเป็น กดหัวของเธอลงกับพื้น ทั้งเธอยังขยับตัวไม่ได้
ในเวลานี้.. สายตาของ หลัว หลี่ ก็ได้เห็นบางสิ่งบางอย่าง และภายในดวงตาของเธอก็เผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก ความหวาดกลัว ปรากฎว่าเธอได้มองไปเห็นที่มุมหนึ่งที่มืดสลัวๆ ของโกดังร้างแห่งนี้ว่ามีชายคนหนึ่งที่หัวของเขาได้ห้อยลง และนั่งทรุดตัวอยู่บนพื้น มือของเขาทั้งสองข้างถูกแขวนเอาไว้ด้วยโซ่
เย่ เทียนอวี่!
ในขณะนี้ เย่ เทียนอวี่ ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด และดูไม่ขยับเขยื้อน ดูเหมือนว่าเขาจะไปตายแล้ว และเขาก็น่าจะเสียชีวิตลงไป ..ภายใต้การทรมาน
เย่ เทียนอวี่ ..อาจไม่เคยคาดคิดว่า วันนั้น วันที่เขาได้ดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือจาก ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า และเขาที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า คนนั้นในวันนั้นไป ..แต่ ใครจะไปรู้ว่าเขาได้ตกลงไปในรังของหมาป่า ถ้า เย่ เทียนอวี่ ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ เขาคงเลือกยินดีที่จะตกไปอยู่ในมือของตํารวจมากกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะต้องติดคุกไปตลอดชีวิตก็ตาม แต่มันก็ยังดีกว่าถูกทรมาน ..ขนาดนี้
เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของ เย่ เทียนอวี่ หลัว หลี่ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น และได้ตะโกนเสียงดังออกไป ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็ระเบิดพละกำลังออกมา เธอได้สะบัดศีรษะสลัดมือของชายที่มีรอยแผลเป็น ที่กดศีรษะเธอเอาไว้ออกอย่างรุนแรง พลิกตัว และหันหน้าเข้าต่อสู้กับ ชายที่มีรอยแผลเป็น อีกครั้ง
ใบหน้าของ ชายที่มีรอยแผลเป็น ดูออกจะรำคาญเล็กน้อยแล้ว : “เยียดแมมมรึง อีนังนี่!, ในเมื่อพูดด้วยดีๆ ไม่ยอม งั้นได้, มาดูว่า เล่าจื้อ จะจัดการกับแกยังไง!”
ผัวะ!
ชายที่มีรอยแผลเป็น ก็ได้ตบหน้า หลัว หลี่ ทันที ซึ่งตบนี้ก็แรงพอที่จะทำให้ใบหน้าครึ่งซีกของ หลัว หลี่ บวม และแดงขึ้นมาได้ทันที ทั้งนี้มุมปากของเธอเองก็ได้มีเลือดไหลออกมา
ชายที่มีรอยแผลเป็น ตั้งใจจะตบตี หลัว หลี่ ให้หมดสติ ทำให้ หลัว หลี่ ไร้ซึ่งแรงจะต่อต้านเขา และเมื่อนั้นเขา.. ก็จะทำทุกอย่างที่เขาต้องการได้
ทันทีหลังจากที่เขาได้ยกกำปั้นของเขาขึ้น และตั้งใจที่จะชกไปที่ใบหน้าของ หลัว หลี่ และด้วยพละกำลังของเขา หลัว หลี่ เกรงว่าไม่อาจต้านทานเขาถึงสามหมัดได้ และคงจะมีจมูกเขียวช้ำ ใบหน้าบวม และหมดสติลงไป
เมื่อเห็นว่ากำปั้นของ ชายที่มีรอยแผลเป็น กำลังจะตกลงถึงเธอ
ในเวลานี้เอง
ฟิ้วว!
ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมคม ทิ่มแทงดังขึ้นมา ราวกับมีบางสิ่งอย่างก็ได้ฉีกอากาศ ไม่มีใครมองออกได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นอะไร แต่วินาทีต่อมา กําปั้นของ ชายที่มีรอยแผลเป็น ก็ได้มีเลือดสาดกระเซ็น คาดไม่ถึงว่าจะถูกกระสุน และมือของเขาก็ได้ถูกทําลายโดยตรง
“อ๊ากก!”
ชายที่มีรอยแผลเป็น ได้เปล่งเสียงร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าสังเวช เขาได้มองไปที่มือของตัวเอง และคาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นเพียงเหรียญหนึ่งหยวนที่ฝังอยู่ในมือของเขาอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งมันในตอนนี้ก็กำลังเปื้อนเลือด
ให้ตาย นี่มันแม่นยำมาก! เหรียญนี้เข้าชนที่หลังมือของเขา เจาะทะลุผ่านหมัดของเขา และโผล่ให้เห็นออกมาที่ฝ่ามือ ดังนั้นมือของเขาในตอนนี้มันจึงเต็มไปด้วยเลือด
ชายที่มีรอยแผลเป็น เห็นฉากนี้ก็ถึงกับหวาดผวาสุดขีด และมันก็ดูออกจะเหลือเชื่อ.. ว่านี่มันเป็นเรื่องจริง และเขาเองก็กำลังคิดอยู่ในตอนนี้ว่า ..นี่มันเป็นเพียงภาพหลอนของเขาเท่านั้น