1014 - ข้าจะส่งท่านไปที่บ้านเอง
1014 - ข้าจะส่งท่านไปที่บ้านเอง
ในโลกภายนอกการต่อสู้นั้นเต็มไปด้วยความดุเดือด ศิษย์พี่น้องเอี๋ยนอี้ซีและหลี่เทียนมีสภาพน่าสังเวชอย่างถึงที่สุด
อย่างไรก็ตามหลี่เทียนยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างชั่วร้าย เขารู้ว่าเตาหลอมเซียนต้องถูกใช้งานแล้ว
เพราะตอนนี้พลังของความปราถนาที่ปะทุออกมาในตอนแรกดูเหมือนจะหายสาบสูญไปโดยสิ้นเชิง นั่นแสดงให้เห็นว่าเย่ฟ่านกับอี้ชิงอู่ดูดกลืนพลังเหล่านี้ไปจนหมดสิ้น
“เข้ามาเถอะไอ้พวกสารเลวทั้งหลาย ตอนนี้ข้าจะมอบหญิงงามอันดับ 1 ของโลกคืนให้กับพวกเจ้า”
“ครืน”
ความว่างเปล่าสั่นสะท้าน เขาหมุนเตาหลอมเซียนและปล่อยผู้คนที่อยู่ข้างในออกมา
“ทุกคน โปรดดูด้วยตาของตัวเอง”
ในขณะนี้สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เตาหลอมเซียน โดยเฉพาะชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งหลายคน พวกเขาต้องการทราบชะตากรรมของอี้ชิงอู่ว่านางจะถูกครอบงำด้วยความปรารถนาจริงๆหรือไม่
ใบหน้าของประมุขวังกวงหานนั้นขาวราวกับหิมะ นางเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หากเกิดอะไรขึ้นกับอี้ชิงอู่วังกวงหานจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองผู้คนได้อีกแล้ว
เวลานี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว พระจันทร์เต็มดวงอยู่บนท้องฟ้า ทะเลสีดำในระยะไกลมีระรอกขึ้นผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ม่านราตรีครอบคลุมไปทั่วโลก
ในขณะนั้นอี้ชิงอู่บินออกมาข้างนอก เสื้อผ้าสีขาวของนางยังคงสง่างามราวกับปีกผีเสื้อ การปรากฏตัวของนางทำให้โลกสูญเสียสีสัน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หรี่แสงลงไม่สามารถเปรียบเทียบความงามกับนางได้
ผู้อาวุโสของวังกวงหานใช้ดวงตาสวรรค์ตรวจสอบอี้ชิงอู่จากนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวว่า
“ชิงอู่สบายดี นางรอดพ้นจากหายนะครั้งนี้แล้ว และอนาคตของนางมีแต่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!”
สำหรับมรดกเซียนอื่นๆ ยังมีปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้ที่นี่ ดวงตาของพวกเขาเหมือนสายฟ้า และพวกเขายังพบว่าร่างกายของนางไม่มีอันตราย ไม่มีที่ติ ซึ่งทำให้หลายคนเกิดความประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“เทพธิดาอี้น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง เตาหลอมเซียนนี้ต่อให้เป็นเซียนโบราณก็ยังยากที่จะรอดพ้นภัยพิบัติได้!”
หลายคนในหมู่คนรุ่นเยาว์โห่ด้วยความตื่นเต้น อี้ชิงอู่คือหญิงงามอันดับหนึ่งของโลก ต่อให้ไม่มีโอกาสครอบครองนางทุกคนก็ยังเกิดความตื่นเต้นยินดีที่นางรอดพ้นภัยพิบัติและสำเร็จ
“เทพธิดาอี้นับเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่เย้ยหยันทั้งอดีตและปัจจุบัน แม้แต่เตาหลอมเซียนก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้ ความศักดิ์สิทธิ์ของนางแม้แต่เหล่าทวยเทพก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว”
“เทพธิดาอี้บริสุทธิ์และปราศจากมลทิน เตาชั่วร้ายไม่สามารถทำให้นางแปดเปื้อนได้!”
ทุกคนต่างอุทานและชื่นชม เสน่ห์ของอี้ชิงอู่ทำให้ผู้คนมากมายเกิดความคุ้มคลั่ง
“ให้ตายสิ!”
หลี่เทียนสาปแช่ง และพยายามระงับความโกรธแค้นในใจให้สงบลงอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาต้องการทำให้ประมุขวังกวงหานเสียหน้าอย่างถึงที่สุด แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับยังคงเป็นปกติดีซึ่งทำให้ตัวเขาที่เป็นผู้สืบทอดมรดกโบราณแห่งเตาหลอมเซียนได้รับความอับอายแทน
เย่ฟ่านบินออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจเช่นกัน
แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขาอยู่กับหลี่เทียนและเห็นได้ชัดว่าเป็นสหายที่ดีต่อกัน ดังนั้นความปลอดภัยของเขาจึงเป็นสิ่งที่คาดคำนวณได้
ในเวลานี้ผู้คนทุกหนทุกแห่งต่างก็ประหลาดใจและยกย่องอี้ชิงอู่นางคือเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ในใจของผู้คนมากมาย เสื้อผ้าหิมะของนางพลิ้วไหวราวกับวิญญาณของเซียนกวงหานที่กลับชาติมาเกิด
อี้ชิงอู่มีรูปร่างที่เพรียวบาง ผมสีดำของนางสว่างราวกับผ้าไหม เอวของนางคลอดกิ่วเท่าหยิบมือ และไฝสีแดงที่กึ่งกลางคิ้วของนางก็ดูเหมือนจะเปล่งประกายมากกว่าเดิมหลายเท่า
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่ฟ่านและเขายืนอยู่ในระยะไกล เฝ้าดูทั้งหมดนี้อย่างเงียบๆ
ใบหน้าของหลี่เทียนขยับเล็กน้อย เขาหรี่ตาเย่ฟ่านและกล่าวว่า
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าสารเลวกำลังเย้ยหยันผู้อื่นด้วยรอยยิ้ม ราวกับเจ้ากำลังบอกว่าเทพธิดาที่ทุกคนบูชาเป็นสตรีของข้าแล้ว”
“เจ้ากำลังคิดมากเกินไป อี้ชิงอู่ได้ทำข้อตกลงกับข้าแล้ว มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น” เย่ฟ่านกล่าว
“ไอ้สารเลว!” หลี่เทียนสบถ
เย่ฟ่านเพิกเฉยต่อคำสาปของเขาและบินเข้าหาต้นชบาที่สูงหกวา เขาประสานมือแสดงความเคารพชายชราแขนเดียวและกล่าวว่า
“ผู้อาวุโส ข้าจะส่งท่านกลับไปที่บ้านเอง ไม่ทราบว่าบ้านเกิดของท่านอยู่ที่ไหน”
หลายคนตกใจเป็นอย่างมาก การดำรงอยู่ของชายชราแขนเดียวและโลงศพโบราณทำให้ทุกคนเกิดความหวั่นไหวตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตามในเมื่อชายชราแขนเดียวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ พวกเขาจึงไม่คิดจะตอแยตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
แต่เย่ฟ่านกลับบินเข้าไปทักทายชายชรา หรือพวกเขาจะรู้จักกันตั้งแต่แรก?
บ้านเกิด? นี่คือวังแห่งจักรพรรดิสุริยันอย่าบอกนะว่าที่นี่คือบ้านเกิดของชายชรา มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
ภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคน ต้นชบาสีทองเปล่งประกายสดใส ชายชราแขนเดียวยืนอยู่ใต้ต้นชบาด้วยท่าทางสับสนและไม่ตอบสนองต่อเย่ฟ่าน
ข้างหน้าเขาวางโลงศพโบราณที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแปลกๆ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวมากที่สุด
เหนือต้นชบาทองมีวิหารเก่าแก่ตั้งตระหง่านด้วยความงามที่ไม่สิ้นสุด
ชายชราในชุดสีเขียวดูเหมือนจะสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้วและตอนนี้เขาก็อยู่ในความสับสน ไม่มีความผันผวนของพลัง เขายืนเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
“ผู้อาวุโส!”
เย่ฟ่านเปล่งเสียงของเขาอีกครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับชายชราแขนเดียว เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
ข้างหน้าต้นชบาศักดิ์สิทธิ์ เปลวเพลิงลุกโชนอย่างร้อนแรง พลังศักดิ์สิทธิ์ของดวงอาทิตย์กำลังเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่โลงศพและร่างกายของชายชรากลับดูเหมือนจะไม่รับผลกระทบอะไรเลย
ในบรรดาผู้คนทั้งหมดนี้คนที่มองเห็นความน่าสะพรึงกลัวของชายชราได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นเผ่าพันธุ์อีกาทอง
พวกเขารู้ดีว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของดวงอาทิตย์นั้นร้อนแรงและน่าสะพรึงกลัวมากเพียงใด แต่โลงศพทองแดงและชายชรากลับดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้
“เจ้ากำลังทำอะไร”
บางคนกล่าวอย่างเย็นชาเมื่อเห็นเย่ฟ่านเดินไปข้างหน้า พวกเขาหวาดกลัวจริงๆว่าเย่ฟ่านจะได้รับอะไรบางอย่าง
“เราไม่สนใจสิ่งอื่นใด ต้นชบานี้เป็นของเผ่าอีกาทองของข้า ดังนั้นหากใครคิดจะแย่งมันไปต้องข้ามศพเราไปก่อน!”
อีกาทองชรากล่าวอย่างเคร่งขรึม
ด้านข้าง องค์ชายทั้งแปดแห่งเผ่าอีกาทองได้ปลดปล่อยจิตสังหารออกมา พวกเขาล้อมเย่ฟ่านไว้ตรงกลางและเตรียมที่จะใช้อาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วลงมือจัดการได้ตลอดเวลา
หลี่เทียนและเอี๋ยนอี้ซีขับเตาหลอมเซียนบินไปข้างหน้า สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันในขณะที่ปกป้องอยู่เบื้องหลังของเย่ฟ่าน
บุตรแห่งไท่หยินและนักพรตซานเชวียก็บินไปพร้อมกับครึ่งก้าวอาวุธเต๋าสุดขั้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามผู้คนจากวังกวงหานได้ปิดล้อมอี้ชิงอู่อย่างแน่นหนา แต่ในสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาคล้ายกับได้รับคำสั่งบางอย่างและไม่มีทีท่าว่าจะลงมือแต่อย่างใด
สำหรับกองกำลังขนาดใหญ่อื่นๆ ซึ่งมีความแข็งแกร่งรองลงมาพวกเขาทำได้เพียงมองจากและไกลและไม่มีทีท่าว่าจะลงมือเช่นกัน
บรรยากาศในที่เกิดเหตุตึงเครียด การสู้รบดำเนินไปเป็นเวลานานมาก มันคลี่คลายลงเพียงเพราะอี้ชิงอู่หลุดพ้นจากปัญหา และในเวลานี้ดูเหมือนการสู้รบกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
แน่นอนว่ายังมีการต่อสู้ประปรายระหว่างผู้บ่มเพาะระดับต่ำในวิหารโบราณแห่งนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงกลับไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด
ตอนนี้ เปลวไฟแห่งสงครามลุกลามเข้าสู่ความเข้มข้นอย่างถึงที่สุดแล้ว ใช้เวลาเดียวกันอีกาทองที่มีร่างกายใหญ่โตที่สุดก็บินลงมาจากท้องฟ้าด้านนอกพร้อมกับแสงสว่างจ้าราวกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก
“ประมุขแห่งเผ่าอีกาทองได้เคลื่อนไหวแล้ว!” มีคนอุทานด้วยความกลัว
……