(ฟรี) ตอนที่ 114 เนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์
ปั้มลูกฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ตอนที่ 114 เนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์
อันที่จริง ความขัดแย้งของนินจาในปัจจุบันกำลังขยายตัว เลยมาถึงสถานการณ์ที่แม้แต่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ก็ไม่สามารถควบคุมได้
ไม่น่าแปลกใจที่สงครามจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ!
แม้นว่าทุกฝ่ายจะมีความตั้งใจในการเตรียมตัวเตรียมใจทำสงครามแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เป็นฝ่ายเปิด กำลังรอฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดฉากสงครามอยู่
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มควันแห่งสงครามที่แปลกประหลาดนี้จึงยังอบอ่วนอยู่ ไม่ปะทุขึ้นสักที
สำหรับการกำราบตระกูลอุจิวะพูดได้เพียงว่าเป็นเรื่องตลกฉากหนึ่ง โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ยังคงเน้นอยู่ที่การข่มสงคราม
ป้องปรามภายนอก, ใช้ไม้แข็งไม้อ่อน, เพิ่มขวัญกำลังใจภายใน, การป้องกันความขัดแย้งภายใน
เขาทำงานหนักมาก
แต่ทุกอย่างมีขอบเขตของมัน
ตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่ง ขัดขวางภารกิจของหมู่บ้านคิริ
อาโอเป็นผู้ติดตามที่มีประสบการณ์ต่อสู้เจนจัดของมิซึคาเงะ เขามีจิตใจที่ละเอียดรอบคอบ เรียกได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของเทรุมิ เมย์
เดิมทีเขานำคำสั่งของเทรุมิ เมย์มาเพื่อข่มขู่ —หากเขาทำไม่ได้ ก็จะให้เขาสารภาพความจริง
เป็นผลให้ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถึงกับตวาดลั่น อีกฝ่ายก็เป็นคนขี้ขลาดตาขาวนี่เอง
เพราะหลังจากที่ทดสอบหลายครั้ง เขาก็ค้นพบความจริง จนถึงกับคำรามลั่นในทันที!
ถึงฉันจะขี้ขลาด แต่คิดไม่ถึงว่าเธอก็ขี้ขลาดเหมือนฉัน!
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 มองความตั้งใจของมิซึคาเงะไม่ออก เพราะมีคนบ้าในหมู่บ้านคิริมากเกินไป แต่ที่แน่นอนคือหากมิซึคาเงะไม่ต้องการเริ่มสงคราม หมู่บ้านคิริก็จะไม่ต้องการเริ่มสงคราม แต่ใครจะคาดคิดล่ะว่าจู่ๆ สงครามจะเริ่มด้วยการเคลื่อนไหวของคนบ้าไม่กี่คน?
ทว่านินจาคิริอยู่ต่างแดน ไม่ว่าวางแผนยังไง ก็ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อแผ่นดินใหญ่ของหมู่บ้านคิริ
โคโนฮะทำไม่ได้!
แม้นว่าโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จะเดาจุดประสงค์ของมิซึคาเงะได้ แต่เขาก็ต้องเลือกปล่อยวาง เพราะโคโนฮะทำอะไรกับมันไม่ได้ เขาจึงต้องจ่ายค่าชดเชย หาจุดสมดุลในการบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับหมู่บ้านคิริในท้ายที่สุด
"ในอดีตเราต่อสู้นองเลือดกับตระกูลอุจิวะมาตั้งนาน แต่กลับไม่อาจหาจุดสมดุลในการบรรจุข้อตกลงกันได้ คิดไม่ถึงว่ามันจะส่งมาหาฉันเองซะงั้น..."
เทรุมิ เมย์เองก็ไม่คาดไม่ถึงว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น
แม้นว่าต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ก็ไม่มีใครขัดขวางว่าไม่เป็นผลงานของเทรุมิ เมย์ นินจาคิริจึงสนับสนุนเมย์ต่อไป
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 เองก็รู้สึกว่าได้กำไรมาก เพราะยังไงซะ หมู่บ้านคิริก็มีทรัพยากรทางการเงินที่จำกัด แค่เรียกร้องสักเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
ยอมจ่ายค่าชดเชยเพียงเล็กน้อย เพื่อแลกกับระยะเวลาการพัฒนาของโคโนฮะ ถือว่าคุ้มค่าที่สุด...
ในความคิดของเขา นี่เป็นข้อตกลงที่ดีมาก!
แต่ถึงเขาจะไม่ได้จ่ายค่าชดเชยมากนัก แต่ก็ยังส่งผลให้คนในหมู่บ้านรู้สึกอัปยศ และสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวของโฮคาเงะ
ศักดิ์ศรีของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จึงลดลงเล็กน้อย แต่ปีที่ 60 หมู่บ้านอื่นๆ ก็เริ่มทำการเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน
ในเวลานี้เอง โฮคาเงะรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจ——
"มาสอบจูนินกันเถอะ!" เขามีแววตาแน่วแน่: "เรียกชุมชนหมู่บ้านคิริกับหมู่บ้านซึนะ อวดความแข็งแกร่งของนินจาโคโนฮะของเรา!"
แก่นแท้ของการสอบจูนินนั้นไม่ได้จัดขึ้นเพื่อการเลื่อนระดับจูนิน แต่เป็นโอกาสสำคัญที่ระหว่างหมู่บ้านจะสังเกตเห็นความแข็งแกร่งกันและกัน
แม้นว่าคนรุ่นใหม่จะไม่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็เป็นตัวแทนอนาคตของหมู่บ้านนินจา!
อีกทั้งยังตัวแทนความแข็งแกร่งของหมู่บ้านอีกด้วย!
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 นั้นชัดเจนมากว่า ถึงนินจาระดับสูงของโคโนฮะจะถูกเสียชีวิตจากความขัดแย้งภายใน แต่ก็ยังมีต้นกล้าที่ดีในหมู่เกะนินอีกมากมาย ที่เหนือกว่าหมู่บ้านอื่นอย่างสิ้นเชิง
"ส่งคำเชิญไปยังทุกหมู่บ้าน!"
โฮคาเงะพูดเสียงเข้ม
คำสั่งของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่ใช่ความลับ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเช่นกัน เขาได้ประโคมข่าวไปยังหมู่บ้านอิวะ หมู่บ้านคุโมะ หมู่บ้านซึนะ และหมู่บ้านคิริ
แน่นอนว่าความเป็นไปได้ที่หมู่บ้านอิวะกับหมู่บ้านคุโมะจะเข้าร่วมนั้นต่ำมาก ในขณะที่หมู่บ้านซึนะกับหมู่บ้านคิริเป็นพันธมิตรเก่าแกของหมู่บ้านโคโนฮะ โดยเฉพาะหมู่บ้านคิริที่เพิ่งบรรจุข้อตกลงร่วมกัน มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมสูงมาก การสอบจูนินเองก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่าย
การสอบจูนินต้องใช้เวลาเตรียมตัวพอสมควร ต้องมีการติดต่อระหว่างหมู่บ้านต่างๆ อยู่พักหนึ่ง เพื่อให้เวลาหมู่บ้านต่างๆ ได้เตรียมตัว
และในช่วงนี้ นัตสึฮิโกะก็ไม่ได้อยู่เฉย
เขายังขยันปั้มลูก พยายามทำให้เหล่าภรรยาตั้งท้อง และผู้หญิงที่ท้องรอบนี้ มีหลายคนอยู่ในระดับโจนิน
อีกทั้งช่วงนี้ก็ยังมีหลายคนที่คลอดลูก ถึงจะยังไม่มีลูกที่สามารถเรียกว่า "ตัวบั๊กของโลก" แต่ในหมู่ทายาทครั้งนี้ก็พรสวรรค์ไม่น้อยเช่นกัน ส่วนใหญ่มีพรสวรรค์อยู่ประมาณ 100
แต่ก็มีไม่น้อยที่มีพรสวรรค์เกิน 100!
นัตสึฮิโกะได้รับการยกระดับพลังจิตและพลังจักระอย่างมาก!
ด้วยการสะสมพลังจิตอย่างต่อเนื่อง คอขวดเสี้ยวสุดท้ายที่ติดชะงักอยู่ก็ถูกบดขยี้อย่างง่ายดาย
พลังจักระที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงปรากฏขึ้นมา ทำให้ดวงตาของเขารู้สึกชาวาบ แล้วลายของดวงตาก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
นัตสึฮิโกะหลับตาลง สัมผัสกับความเงียบอยู่ชั่วขณะ
จากนั้นก็พลันลืมตาขึ้น
เขามองเข้าไปในกระจก ในดวงตามีกลุ่มกังหันลมและดวงดวงแฉกที่ส่องแสงเป็นประกาย
"เนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์... ฉันขยันขันแข็งมานาน ในที่สุดก็สำเร็จสักที!"
นัตสึฮิโกะมองดูเนตรในกระจก สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ไร้ที่สิ้นสุดของเนตร จากนั้นก็ยิ้มออกมา
ข้อแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผากับเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์คือ ดวงตาของผู้ใช้จะไม่มีผลข้างเคียงถึงขั้นตาบอด!
อีกทั้งยังมีพลังเนตรที่แข็งแกร่งกว่า!
ผลข้างเคียงของการตาบอด ไม่มีความหมายสำหรับนัตสึฮิโกะ เพราะกายเซียนสามารถรักษาผลข้างเคียงนี้ได้
แต่กายเซียนไม่สามารถชดเชยความแตกต่างพื้นฐานของพลังเนตรเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผากับเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ได้!
มีเพียงเบิกเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์เท่านั้นจึงจะดึงพลังขั้นสุดของซูซาโนะโอะ และสามารถใช้ได้ตลอดเวลา!
มีเพียงเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์เท่านั้น———ที่จะเรียกซูซาโนโอะร่างสมบูรณ์!
“ทันเวลาพอดี อาจจะได้ใช้ประโยชน์เร็วๆ นี้แหละ”
นัตสึฮิโกะครุ่นคิด แล้วมองไปยังคาบูโตะที่ยิ้มและกำลังปรับยาในร่างกายของเนจิ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นนัตสึฮิโกะก็เผยยิ้มบาง
…