ตอนที่แล้วบทที่ 11
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13

บทที่ 12


บทที่ 12

ถูกจ้องมองด้วยดวงตาแดงก่ำ ฉินห่าวไม่มีความกลัว

ยังไงซะ ความเกลียดชังที่ผีสาวตนนี้มี เขาสามารถเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงที่นี่ และเห็นศพสหายร่วมนิกาย ต่อให้ผีสาวตนนี้เคยเป็นผู้ถูกกระทำมาก่อน ก็ต้องได้รับการลงโทษ

“ข้ายอมให้เจ้าออกไปล้างแค้นได้ แต่ศพเจ้าต้องอยู่ที่นี่ และต้องไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ เมื่อสาสมใจแล้ว ก็กลับมาให้ข้าทำลายดวงจิตซะ หากเจ้ากล้าตุกติก ข้าจะผนึกศพเจ้า ไม่ให้เจ้าได้ผุดได้เกิดอีก” ฉินห่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด

“ตกลง”

เกิดความเงียบชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่ผีสาวจะตอบกลับ จากนั้นค่อยๆจมหายไปในความมืด

ฉินห่าวกับคนอื่นๆเฝ้าร่างศพของเธอ เมื่อมีหลักประกันนี้ เขาก็ไม่กลัวว่าผีสาวจะหลบหนีไป เพราะดวงจิตที่ไม่มีที่พักอาศัย สุดท้ายจะสลายไปอยู่ดี

ภายในหมู่บ้าน เสียงกรีดร้อโหยหวนดังถึงชั้นฟ้า เสียงนี้ดังเนิ่นนานไม่หายไป ชาวบ้านที่ได้ยินต่างขลาดกลัว ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ตัวสั่นระริก

หนึ่งเค่อผ่านไป ผีสาวกลับมาที่ห้องใต้ดินตามสัญญา

“ข้ามีคำถาม ดวงจิตเจ้ากลายเป็นผีร้ายได้อย่างไร? แล้วทำไมศพถึงกลายเป็นผีดิบไปได้?” ฉินห่าวจ้องผีสาว เริ่มสอบถามเงื่อนงำ

“มีคน... ช่วย”

ผีสาวลังเล แต่ละคำที่เปล่งช่างยากเย็น

“ใคร?”

“ข้า ... ไม่รู้” ผีสาวส่ายหัว

ฉินห่าวถอนหายใจ เบาะแสเรื่องศพกลายเป็นหยกคงหาได้เพียงเท่านี้ ส่วนดวงจิตที่กลายเป็นผีร้าย คาดว่าผีสาวตอนยังมีชีวิตโชคร้ายที่หน้าตาดีเกินไป เมื่อถูกย่ำยีจึงเกิดความแค้น ออกอาละวาดเข่นฆ่าคนตามอำเภอใจเช่นนี้

“ข้าหมดพันธะแล้ว ขอบคุณ ...!”

เมื่อไม่มีอะไรติดค้างคาใจ ความโล่งใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผีสาว

ฉินห่าวไม่พูดอะไรสักคำ เหวี่ยงค้อนศึกทำลายดวงจิตและศพเนื้อหยกของผีสาว นำศพของสหายร่วมนิกายกลับไป แล้วใช้พลังปราณกลบฝังห้องใต้ดินแห่งนี้

มองไปยังสหายร่วมนิกายสองคนที่เหลือ เขาได้แต่ยิ้มเจื่อน

ขามา พวกเขามีกันทั้งสิ้น 7 คน แต่ตอนนี้เหลือแค่ 3 นับเป็นความสูญเสียอย่างยิ่ง

“กลับกันเถอะ”

ฉินห่าวเข้าไปในหมู่บ้าน และพบว่ามีผู้ชายหลายคนหายตัวไปรวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน ที่น่าตกใจคือผู้หญิงบางคนก็หายไป แต่เด็กๆทุกคนอยู่ครบ

ฉินห่าวไม่สนใจ นี่เป็นการกระทำที่พวกเขาก่อ ฉะนั้นรับกรรมไป เขาหยิบยันต์สื่อสารออกมา เรียกเรือเหาะให้มารับ

“ศิษย์พี่ เหตุใดเราไม่ฆ่าผีสาวตั้งแต่ที่เจอตัว แต่ปล่อยให้นางออกไปฆ่าคนอื่นต่อ?” บนเรือเหาะ สาวกคนหนึ่งไม่เข้าใจ

“หรือศิษย์พี่ต้องการสั่งสอนคนในหมู่บ้านให้ทุกคนเกิดความกลัว ไม่กล้าทำผิดแบบนี้ซ้ำสองอีก?”  อีกคนตอบ

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น จะสู้เลยมันก็สู้ได้ แต่ข้าไม่อยากให้คนของนิกายต้องตายมากไปกว่านี้ เลยคิดว่าไหนๆพวกเราก็ทำลายผนึกในห้องใต้ดินโดยบังเอิญแล้ว เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางออกไปล้างแค้น แล้วกลับมายอมให้ฆ่าโดยไม่เปลืองแรงดีกว่า”

ฉินห่าวคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบกลับ

“ศิษย์พี่ พวกเรามาถึงทางแยกแล้ว”

ณ ขณะนี้ สาวกที่ขับเรือเหาะเดินมาแจ้ง

ฉินห่าวพยักหน้า ก่อนมา เขารับทั้งสิ้นสามภารกิจ ดังนั้นยังกลับนิกายทันทีไม่ได้ เขาโบกมือให้สองคนที่เหลือ “พวกเจ้ากลับเถอะ”

“ศิษย์พี่ เดินทางปลอดภัย”

“ศิษย์พี่ ภารกิจสำรวจพื้นที่เสี่ยงนี้อันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเป็นไปได้อย่าเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลางเด็ดขาด” ทั้งสองโบกมืออย่างไม่ลดละ หลังจบเรื่องผีสาว พวกเขาเกิดความรู้สึกว่าฉินห่าวก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมด

ล่างเรือเหาะ

ที่นี่คือเส้นทางสายหลักในการเดินทางเข้าออกนิกาย ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้

เพื่อความแน่ใจ ฉินห่าวหยิบแผ่นที่ออกมาดู ยืนยันทิศทาง ก่อนพุ่งเป็นเส้นแสงไปยังทิศทางหนึ่ง

ตลอดทาง มีสัตว์ร้ายเข้ามาขวางและสร้างความวุ่นวาย แต่ก็ถูกฉินห่าวโจมตีและสังหารไป ได้รับค่าความเกลียดชังมาไม่น้อย

“แค่ก ...”

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงไอรุนแรงมาจากข้างหน้า

ฉินห่าวชะงัก พุ่งตรงไปตามเสียงโดยไม่กลัวความตาย

ในป่าหญ้า ชายชราสวมเสื้อคลุมลัทธิเต๋าสีขาวนอนแผ่อยู่บนพื้น ในเวลานี้ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเลือด หากไม่ใช่เพราะหน้าอกที่ยังกระเพื่อม ใครมาเห็นคงคิดว่าเป็นคนตาย

“ท่านปู่เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?”

ฉินห่าวโน้มตัวไปข้างหน้าตรวจสอบร่างกายเขา

“หลิวเหอ ...”

ชายชราคล้ายเจอฟางเส้นสุดท้าย คว้าแขนของฉินห่าวแล้วยัดอะไรบางอย่างใส่มือเขา ก่อนคอพับลง หมดลมหายใจโดยสมบูรณ์

“หลิวเหอ?”

ฉินห่าวขมวดคิ้ว นี่สมควรเป็นชื่อคนใช่หรือไม่? “ท่านปู่ ท่านจะบอกว่าหลิวเหอฆ่าท่านใช่หรือไม่ เช่นนั้นสบายใจได้ หากข้าเจอเขา ข้าจะล้างแค้นให้ท่านแน่นอน”

ว่าจบ ฉินห่าวก็ค่อยๆวางศพชายชราลง และก้มมองถุงมิติที่ถูกยัดเข้ามาในมือ จึงลองเปิดดู

และข้างในเก็บของสิ่งหนึ่งไว้

นี่มัน ...ค่ายกลกระบี่? ค่ายกลกระบี่เทพเต๋า??

ฉินห่าวเหม่อมองทักษะฝึกในมือตัวเอง หลากหลายความคิดหลั่งไหลเข้ามาในใจ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด