นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 25 - ไม่ธรรมดา
หลังจากที่เดวิดสงบอารมณ์ และตั้งสติของตัวเองได้ เขาเริ่มคิดย้อนกลับไปถึงการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้ ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่เชื่อในความทรงจำของตัวเอง ในตอนนั้นเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้คิดอะไรเลย มันเป็นช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ไม่มีทางที่เขาจะทำอย่างนั้นได้ในสถานการณ์ปกติแน่ ร่างกายของเขาไม่ได้ยืดหยุ่น ไม่ได้คล่องแคล่วขนาดนั้น
เขาเริ่มเกิดความสงสัยในบางอย่างขึ้นมา แต่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองที่ครูฝึก ซึ่งกำลังเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง และดึงความสนใจของเขากลับไปได้
เอลล่ากล่าวออกมาเสียงดัง ให้นักเรียนทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน “ในตอนนี้ ฉันคงต้องแสดงความยินดีกับพวกเธอบางคน ที่ในที่สุด ก็สามารถออกเดินก้าวแรกที่สำคัญที่สุด ในการที่จะกลายเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญได้”
เธอกวาดสายตามองไปทั่ว ๆ อีกครั้ง ท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
นั่นเป็นตอนที่สายตาของเธอนั้นกวาดไปถึงนักเรียนบางคน มันเป็นเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น ที่ประกายในดวงตาของเธอปรากฏความสงสาร และสมเพชขึ้นมาพร้อม ๆ กัน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาจริง ๆ สายตาขอเธอกลับมาเย็นชาเหมือนเดิมอีกครั้ง เหมือนกับว่ามันไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาก่อน
สำหรับคนที่ร่างกายสามารถยอมรับชิ้นส่วนจีโนมได้แล้ว ความสามารถที่แสดงออกมาของพวกเขาจะสังเกตได้อย่างชัดเจน สิ่งที่เธอลงมือทำไปก่อนหน้านี้ เป็นทั้งการกระตุ้นการเริ่มต้น และการทดสอบไปในคราวเดียวกัน ระบบส่วนตัวของเธอจะเป็นคนบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไว้ และส่งภาพของคนที่สามารถผสานเข้ากับชิ้นส่วนจีโนมได้ เข้าสู่สมองให้เธอรับรู้โดยตรง
หลังจากเงียบไปสักพัก ครูฝึกสาวก็กล่าวออกมาอีกครั้ง พร้อมกับใช้นิ้วเรียวสวยที่ขาวราวกับหิมะของตัวเองขยับแว่นไปด้วย
“ไม่ต้องให้ฉันเสียเวลาและพลังงานไปโดยไม่จำเป็น จะไม่มีการขานชื่ออะไรทั้งนั้น แค่คนที่รู้สึกว่าตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในร่างกาย อาจจะเป็นความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้น หรืออาจจะรู้สึกว่าร่างกายคล่องแคล่ว ตัวเบาขึ้น ทุกครั้งที่หายใจเข้า จะรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น หรืออย่างสุดท้าย ถ้ามีใครรู้สึกว่าอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพียงในระยะเวลาสั้น ๆ ได้ ใช้ย้ายไปยืนรวมกันอยู่ทางด้านนั้น” มือของเธอชี้ไปที่ทางด้านหนึ่งของสนามซ้อม
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ครูฝึกพูด เดวิดก็รีบหลับตาลงทันที เขาพยายามสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างละเอียด อัตราการเต้นของหัวใจเขาเคยขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงมาก แม้ว่าตอนนี้มันจะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว แต่เขาก็ยังจำได้ดีว่าหัวใจของตัวเองตอนนั้นเต้นแรงขนาดไหน ตอนที่เขาคิดไปเรียบร้อยแล้วว่าตัวเองอาจจะต้องตายจริง ๆ และเขายังรู้สึกได้อีกว่า ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้น ตามจังหวะของหัวใจที่เต้นแต่ละครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยนิดเป็นอย่างมาก แต่เขาก็คิดว่าตัวเองรู้สึกได้จริง ๆ
‘หืม?’ คิ้วของเดวิดเริ่มขมวดเข้าหากัน ตาเริ่มหลับแน่นลงไปอีก มีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นมาในร่างกาย ทำให้เขาต้องตั้งสมาธิ พยายามโฟกัสอยู่ที่ประสาทสัมผัสของตัวเอง ก่อนที่เขาจะสังเกตได้ถึงบางอย่างที่ทั้งแปลกประหลาด แปลกปลอม และน่าขนลุก บางสิ่งที่กำลังเต้นอยู่ตามจังหวะของหัวใจ อยู่ข้าง ๆ กันภายในร่างกายของเขาเลย มันไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เหมือนกับว่ามันกำลังทำหน้าที่เป็นหัวใจดวงที่ 2 ให้เขาอยู่
มีทั้งความตกใจ ประหลาดใจ และทึ่ง ปรากฏขึ้นในดวงตาของเดวิดพร้อม ๆ กัน เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ก่อนที่เขาจะตรวจสอบมันให้แน่ใจอีกครั้ง เสียงดังกังวานก็ก้องขึ้นมาจากตรงหน้า
“รีบไปให้เร็วกว่านี้อีก อย่าทำให้ฉันเสียเวลา...ไปได้แล้ว!” เอลล่าตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนกลับไปกลับมาของนักเรียน การแสดงออกของพวกเขาตอนนี้มันน่าขบขันไม่น้อย
นักเรียนบางคนมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังขา ไม่เชื่อกับสิ่งที่พวกเขารู้สึก หรือจับสังเกตได้จากร่างกายของตัวเอง ในขณะที่บางคน ทั้งตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมาก เริ่มแสดงท่าทางกายกรรมออกมา ตีลังกาม้วนหน้ากลับหลังกันอยู่อย่างคล่องแคล่ว เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ
แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนของครูฝึก ก็ไม่มีใครลังเลอยู่อีกเลย พวกเขารีบวิ่งไปยังพื้นที่ที่เธอเคยชี้เอาไว้ก่อนหน้านั้นทันที
เดวิดก็รีบวิ่งเพื่อไปยังบริเวณนั้นพร้อมกับนักเรียนคนอื่น ๆ ร่างกายของเขานั้นเบา และคล่องแคล่วขึ้นเป็นอย่างมาก และเขาคิดว่าตัวเองแข็งแรงมาขึ้นเล็กน้อยอีกด้วย แค่การย่ำเท้าลงไปกับพื้นตามปกติ ก็สามารถส่งให้เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ได้ด้วยความเร็วที่เหมือนกับกำลังเหาะอยู่ ตอนนี้ตัวของเขาคะมำไปข้างหน้า เพราะยังไม่สามารถควบคุมแรงของตัวเองได้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขานั้นมีปฏิกิริยาที่ว่องไว และมีไหวพริบดีพอสมควร หน้าของเขาคงจะลงไปจูบกับพื้นของสนามซ้อมอย่างแน่นอน
ตอนที่ตัวของเขาเริ่มคะมำไปข้างหน้า เขาออกแรงที่ขาให้เพิ่มมากขึ้น และบิดเอวม้วนตัว ส่งตัวเองให้อยู่ในท่าตีลังกากลับหลังได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
หลังจากที่ลงมายืนบนพื้นได้อย่างปลอดภัย เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ไม่เสียหน้าต่อคนหมู่มากตั้งแต่เข้าเรียนวันแรก และรีบไปเข้าแถวอยู่กับนักเรียนคนอื่น ที่เริ่มจัดแถวตามลำดับความสูงขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว
แต่ตอนนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่เย็นชาและอันตรายจ้องมาจากทางด้านหลัง ทำให้ร่างกายของเขามีการตอบสนองออกมาในทันที หนังตาของเขาเริ่มตกลงมาอีกครั้ง ร่างกายคลายตัวลง พาตัวเองเข้าสู่สภาวะที่พร้อมจะต่อสู้ได้ทันที
และเขายังรู้สึกได้อีกว่า การไหลเวียนของโลหิตในร่างกายเริ่มช้าลง แต่แรงดันของการไหลเวียนกลับเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว หัวใจเต้นช้าลง แต่มันเต้นแรงเหมือนกับว่ากำลังจะระเบิดออกมาจากอก สภาพในตอนนี้เหมือนกับเสือดาวที่กำลังหมอบซุ่มอยู่ พร้อมจะกระโจนเข้าใส่เหยื่อเมื่อโอกาสมาถึง
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีเท่านั้น เดวิดสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ แต่เขาไม่สามารถสังเกตมันได้อย่างละเอียดเลย ตอนนี้เขากวาดสายตาไปรอบ ๆ ก่อน เพื่อหาว่าสายตาของศัตรูนั้นจ้องมาจากที่ใด
แต่สายตาของเขาก็ต้องมองเลยนักเรียนทั้งหมดไป มันไปจบอยู่ที่ครูฝึก ซึ่งกำลังจ้องมองมาอยู่ที่เขา เหมือนกับสิงโตตัวเมียที่กำลังโกรธมากตัวหนึ่ง
เขาตกใจจนหัวใจเย็นเยียบลงไปในทันที และรีบปรับตัวให้ออกจากโหมดพร้อมรบ ก้มหน้าลงให้ความสนใจกับรองเท้าของตัวเองอย่างจริงจัง เหมือนกับว่ามันเป็นงานศิลปะที่มีชื่อเสียงอะไรสักชิ้นก็ไม่ปาน
เสียงตะโกนที่เธอสั่งให้พวกนักเรียนให้เลิกทำตัวไร้สาระ และรีบทำตามคำสั่งเพิ่งจะจางไป แต่ก็มีเจ้าโง่คนหนึ่งดันตีลังกากลับหลังโชว์ออกมาเสียอย่างนั้น นี่มันเป็นการเสียมารยาท และหยาบคายอย่างมาก เอลล่าจ้องไปที่เด็กนักเรียนคนนั้นอย่างโมโหไม่น้อยในตอนแรก แต่มันก็เปลี่ยนเป็นความสงสัย และความน่าสนใจขึ้นมาในทันที
จากสายตาที่เธอจ้องเข้าไป มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ร่างกายของนักเรียนคนนั้นตอบสนองออกมาอย่างรวดเร็ว มันคลายตัวลงจนเหมือนกับเฉื่อยชา ซึ่งขัดกับความจริงที่ว่า เขาเพิ่งจะตีลังกากลับหลังโชว์อยู่เมื่อสักครู่นี้ และที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้น อัตราการเต้นของหัวใจของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว แต่กลับเต้นแต่ละครั้งได้อย่างทรงพลังมาก
การที่โลหิตหมุนเวียนช้าลง ทั้ง ๆ ที่แรงดันเพิ่มมากขึ้น มันเหมือนกับเป็นการยับยั้งตัวเองเอาไว้ เฝ้ารอจังหวะในการโจมตีอย่างรุนแรงเพียงแค่ครั้งเดียว ราวกับว่า เขานั้นเคยฝึกทักษะการต่อสู้มาก่อนแล้ว?
สิ่งที่ทำให้ครูฝึกเอลล่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก ก็คือการที่เธอไม่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนเลย จึงได้สั่งให้ AI ทำการบันทึกภาพทั้งหมดของนักเรียนคนนั้นเอาไว้ทันที
แต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ธรรมดาอย่างไร ความสนใจของเธอที่มีต่อเขา ก็เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น