ตอนที่ 140 เส้นทางสู่ระดับ 7 เปิดออกอย่างสมบูรณ์!
ตอนที่ 140 เส้นทางสู่ระดับ 7 เปิดออกอย่างสมบูรณ์!
ผู้อำนวยการหลิวและเลขาของซูเหยาตงที่อยู่ข้างหลังแสดงอาการตกใจสุดขีด แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็มีความรู้และความเข้าใจในระดับหนึ่ง
ทำลายเครื่องทดสอบพลังยุทธ์ที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย? เรื่องนี้สามารถทำได้ด้วยพลังยุทธ์อย่างน้อยหนึ่งล้าน นั่นคือระดับปรมาจารย์
หากเครื่องทดสอบพลังยุทธ์ถูกทำลายก็หมายความว่าพลังยุทธ์ของคนผู้นั้นถึง...
ระดับปรมาจารย์???
"เป็นเขา" ผู้คุมสอบพลังยุทธ์เอ่ยตอบพร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบอารมณ์ในใจ แม้เสียงจะยังคงสั่นอยู่ก็ตาม
“ผู้เข้าสอบคนนั้นเป็นคนทำลาย หากหัวหน้าไม่เชื่อ เราสามารถตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดได้”
ซูเหยาตงเงียบ เขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของลู่เซิงราวกับพยายามจะมองผ่าน
ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น "ให้ผู้เข้าสอบคนอื่นออกไปรอข้างนอกก่อนและไปเตรียมเครื่องทดสอบพลังยุทธ์ระดับปรมาจารย์มาจากสมาคมจอมยุทธ์เดี๋ยวนี้ เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี..."
"ครับ!" เลขาและผู้คุมสอบสองคนรีบดำเนินการ
ผู้เข้าสอบสามคนในห้องสอบสั่นสะท้านไปทั้งตัวในเวลานี้ ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว ในสายตาของพวกเขา ลู่เซิงกลายร่างเป็นอสูรกายน่ากลัว
พลังหมัดที่ทำลายเครื่องทดสอบพลังยุทธ์จนระเบิดอาจกลายเป็นฉากที่ยากจะลืมเลือนในใจของพวกเขาไปตลอดกาล
พวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกเขาโชคดีหรือโชคร้ายที่พบเจอเรื่องเช่นนี้
ในไม่ช้า มีเพียงลู่เซิง,ซูเหยาตงและผู้อำนวยการหลิวเท่านั้นที่อยู่ในห้อง
บรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นเล็กน้อย
ซูเหยาตงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรและลู่เซิงก็นิ่งเงียบไม่คิดจะพูดเช่นกัน
ในที่สุดผู้อำนวยการหลิวก็เป็นผู้ทำลายความเงียบนี้
"ลู่...นักเรียนลู่ ทำไมเธอไม่นั่งพักสักแปปนึงล่ะ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าเครื่องทดสอบจะมาถึง"
ลู่เซิงพยักหน้าและหาเก้าอี้นั่ง
หนึ่งคนนั่งสองคนยืนและบรรยากาศก็ดูน่าอึดอัดยิ่งขึ้น
"ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำลายเครื่องทดสอบเพื่ออวดหรืออะไรทำนองนั้น..."
จู่ๆลู่เซิงก็พูดขึ้นดึงดูดความสนใจของซูเหยาตงและผู้อำนวยการหลิว “เพราะผมไม่ได้ทดสอบพลังยุทธ์ของตัวเองมานาน ผมแค่อยากรู้ขีดจำกัดของตัวเองในตอนนี้ ผมต้องขอโทษหัวหน้าผู้คุมสอบด้วยครับ”
ซูเหยาตงและผู้อำนวยการหลิวมองหน้ากัน จากนั้นผู้อำนวยการหลิวก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า "อย่ากังวลเลยนักเรียนลู่ไม่มีใครตำหนิเธอ อย่ามีภาระทางจิตใจใดๆ ตอนนี้แค่เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเราจะเริ่มทดสอบอีกครั้งในภายหลัง"
ลู่เซิงพยักหน้าและนิ่งเงียบ น่าขันเขาจะมีภาระทางจิตใจได้อย่างไร ถ้าเขาทำเครื่องทดสอบพัง เขาก็จ่ายได้
ความกังวลจริงๆของเขาคือเขาทำให้การสอบของผู้เข้าสอบคนอื่นๆล่าช้า เขาค่อนข้างรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ซูเหยาตงมองลู่เซิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสงบนิ่งด้วยแววตาซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ
ในระยะห่างนี้ เขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่มองไม่เห็นเล็ดลอดออกมาจากตัวลู่เซิงอย่างชัดเจนทำให้รู้สึกเสียวซ่าเล็กน้อยบนผิวหนังของเขา
นี่คือสัญชาตญาณต่อสู้ที่ผ่านการฝึกฝนเป็นเวลาหลายปี มันเป็นการเตือนล่วงหน้าถึงอันตราย ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไรความรู้สึกนี้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น
ยากที่จะคิดว่าประธานสมาคมจอมยุทธ์ระดับ 6 จะรู้สึกถึงวิกฤตเช่นนี้ต่อหน้าผู้เข้าสอบอายุ 18 ปี
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาแข็งแกร่งจนอาจเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเขาได้
หากไม่ได้รู้สึกด้วยตัวเอง ใครจะเชื่อ
ในขณะนี้ ซูเหยาตงมีความคิดในใจของเขาแล้วและตอนนี้เขาแค่ต้องการยืนยัน
หากความคิดของเขาเป็นจริง...
ซูเหยาตงไม่สามารถคิดต่อไปได้
เพราะนั่นอาจจะก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วประเทศมังกร
เวลาไหลผ่านไปทุกนาทีและวินาทีราวกับผ่านไปชั่วนิรันดร์สำหรับซูเหยาตงและผู้อำนวยการหลิว
เมื่อเทียบกับลู่เซิงที่นั่งเงียบๆ บนเก้าอี้ ทั้งสองคนเป็นเหมือนคนสมาธิสั้นที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้
ในที่สุด...
"ปัง!" ประตูห้องสอบเปิดออกและเลขาก็เดินเข้ามาพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ "ท่านประธาน เครื่องทดสอบมาถึงแล้ว"
ผู้คุมสอบทั้งสองคนผลักเครื่องทดสอบขนาดใหญ่เข้าไปในห้องสอบ
ความคาดหวังฉายวาบในแววตาของซูเหยาตงและเขารีบออกคำสั่งทันทั "เตรียมให้พร้อมสำหรับการทดสอบทันที"
"ครับ"
ทุกคนเริ่มยุ่งอย่างรวดเร็ว
ครึ่งนาทีต่อมา ลู่เซิงยืนอยู่หน้าเครื่องทดสอบปราณโลหิตอีกครั้ง
ในขณะนี้ เขาเป็นเพียงผู้เข้าสอบคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องและทุกคนต่างจ้องมองมาที่เขาด้วยสีหน้าประหม่า
"เธอพร้อมหรือยัง ฉันจะเริ่มเจาะเลือดที" ผู้คุมสอบปราณโลหิตถามลู่เซิงอย่างประหม่า
ลู่เซิงมองมือที่สั่นเทาเล็กน้อยของผู้คุมสอบและพยักหน้า
ผู้คุมสอบเปิดซองที่มีเข็มเจาะเลือดระดับสูง
เข็มเจาะเลือดระดับสูงถูกเตรียมไว้สำหรับจอมยุทธ์ระดับ 7 ขึ้นไป ดังนั้นจึงเรียกอีกชื่อว่าเข็มเจาะเลือดปรมาจารย์
ปลายเข็มทำจากโลหะผสมพิเศษและมีสีทองจางๆ
ภายใต้แสงสว่างของห้องสอบ เข็มเจาะเลือดที่เปล่งแสงสะท้อนสีทองทำให้ทุกคนมีสีหน้าซับซ้อน
เมื่อเข็มเจาะเลือดนี้ถูกผลิตขึ้นคงไม่มีใครคิดมาก่อนว่าต้องใช้กับผู้เข้าสอบอายุราวๆ 18 ปีในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในวันหนึ่ง
ครั้งนี้การเจาะเลือดเป็นไปอย่างราบรื่น
ลู่เซิงรู้สึกว่าผิวบนปลายนิ้วของเขาถูกเจาะอย่างง่ายดายและเลือดหนึ่งหยดก็ไหลออกมา
ในความคิดเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แม้ว่ากายาอมตะทองคำจะทรงพลัง แต่ก็ยังมีช่องว่างระหว่างมันกับร่างกายของปรมาจารย์ตัวจริง ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เปราะบางเหมือนเต้าหู้ภายใต้เข็มเจาะเลือดปรมาจารย์
เมื่อหยดเลือดของลู่เซิงไหลออกมา เสียงหายใจเข้าดังขึ้นเล็กน้อยในห้อง
คนแรกที่ตกใจคือซูเหยาตง
หยดเลือดที่ไหลออกมาแตกต่างจากเลือดของคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง
หยดเลือดนี้เข้มข้นเกินไปและหลังออกมาจากร่างของลู่เซิง มันก็ห้อยอยู่บนปลายเข็มเหมือนไข่มุกสีแดงเข้ม
มันข้นหนืดเหมือนปรอท
“เลือดปรมาจารย์?!” คำหนึ่งผุดขึ้นในความคิดของซูเหยาตงอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็รีบส่ายหัว
“เลือดนี้ยังไม่ถึงระดับปรมาจารย์” ซูเหยาตงเคยเห็นเลือดของปรมาจารย์มาก่อน มันหนาแน่นกว่านี้ แต่เขาก็ยังตกใจ อย่างน้อยเลือดของซูเหยาตงไม่สามารถไปถึงระดับนี้ได้
หรือก็คือเลือดของลู่เซิงสูงกว่าระดับ 6 แล้ว แต่ยังไม่ถึงระดับ 7 และแม้ลู่เซิงจะไม่ใช่ระดับ 7 แต่คุณภาพเลือดก็เกือบจะถึงระดับ 7 แล้ว
ซูเหยาตงคิดไม่ออกว่าลู่เซิงฝึกฝนมาได้อย่างไร!
"เส้นทางสู่ระดับ 7 เปิดออกแล้ว ตราบใดที่ปราณโลหิตเพิ่มขึ้น ร่างกายสามารถบรรลุระดับปรมาจารย์ได้อย่างมั่นคง..."
จู่ๆ ซูเหยาตงก็ได้ข้อสรุปนี้ที่ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหว
"ติ๊ง-" เครื่องทดสอบปราณโลหิตแสดงตัวเลขออกมา
"1233.56"
บูม—
ผู้คุมสอบที่เพิ่งเจาะเลือดของลู่เซิงตัวสั่นอย่างรุนแรงเกือบจะทำเข็มเจาะเลือดปรมาจารย์ตกจากมือ
ปฏิกิริยาของคนอื่นๆ ก็คล้ายกัน
ผู้อำนวยการหลิวก้าวเท้าไปข้างหน้ากะทันหันจ้องมองตัวเลขบนเครื่องทดสอบอย่างมีความสุขด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มือที่ไพล่หลังสั่นไม่หยุดราวกับต้องการกระโดดเต้นรำอย่างเมามัน
ซูเหยาตงตัวสั่นสะท้าน
ค่าปราณโลหิตมากกว่า 1,200!
จอมยุทธ์ระดับ 6!
"ในประวัติศาสตร์ของเมืองไป๋เหอ ไม่สิทั้งมณฑลตงหนิง ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลย!" ผู้อำนวยการหลิวอุทานอย่างตื่นเต้น
"นักเรียนลู่ นักเรียนลู่ เธอทำได้ดีมาก! เธอได้ทำลายสถิติค่าปราณโลหิตของมณฑลในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว!"
คนอื่นๆ ไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้
นี่จะไม่ทำลายสถิติของมณฑลได้ยังไง?
ดูสิจอมยุทธ์ระดับ 6 อายุ 18 ปี?
พวกเขาคิดได้แค่คำเดียว...คนวิปริต!
[ วิปริต = ผิดปกติ ในทางที่ผิด ณที่นี้หมายถึงเหนือสามัญสำนึก ]
ลู่เซิงไม่แปลกใจมากนัก
ท้ายที่สุด เขาได้ใช้《คัมภีร์จุติเทพนรก》เพิ่มปราณโลหิตแล้ว 25%
.........
“ถ้าคำนวณตามสถานะปกติ ค่าปราณโลหิตของฉันควรอยู่ราวๆ 900 ซึ่งยังต่ำกว่า 1,000 แม้จะไม่ได้อยู่ที่ระดับ 6 แต่ตอนนี้ฉันเทียบเท่าระดับ 6 แล้ว...แต่ในความเป็นจริง ฉันอยู่แค่ระดับ 4 เท่านั้นและฉันยังไม่ได้บ่มเพาะพลังปราณเลยด้วยซ้ำ...” ลู่เซิงคิดกับตัวเอง
"ต่อไปเราจะทดสอบพลังยุทธ์กัน" ซูเหยาตงซึ่งเป็นประธานสมาคมจอมยุทธ์แห่งเมืองซูไห่รีบสงบสติอารมณ์และออกคำสั่ง
ผู้คุมสอบพลังยุทธ์เตรียมการทันทีและให้ลู่เซิงมายืนตรงหน้าเครื่องทดสอบพลังยุทธ์
เครื่องทดสอบพลังยุทธ์ระดับปรมาจารย์ที่เพิ่งมาถึงนี้ยืมจากสมาคมจอมยุทธ์แห่งเมืองไป๋เหอชั่วคราว
มันใหม่เอี่ยมมาก..แทบไม่ได้ถูกใช้งานเลย!
เพราะมีเพียงไม่กี่คนในเมืองไป๋เหอที่สามารถใช้เครื่องนี้ได้
ตอนนี้มันกำลังถูกใช้โดยเด็กที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก อารมณ์ความรู้สึกในใจของทุกคนยกเว้นลู่เซิงซับซ้อนมากจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
ลู่เซิงหายใจเข้าลึกๆ
อากาศในห้องสอบเริ่มเบาบางลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นลมหายใจแผ่วเบาที่ทำให้ตัวสั่นสะท้านก็ออกมาจากร่างของลู่เซิง
คนในห้องแปลกใจ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนอง ลู่เซิงก็เคลื่อนไหวแล้ว
เปิดสถานะต่อสู้ 100%
พลังดวงดาว 20 เท่า สิบตะวันเหนือโลกา!
ทันใดนั้น ดวงตะวันสีทองสิบดวงโผล่ขึ้นในสายตาของทุกคน
แรงกดดันประหลาดปกคลุมทั่วห้อง แต่ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกอะไรไปมากกว่านี้ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น
"บูม!" คลื่นพลังงานสีขาวแผ่กระจายออกไปทุกทิศทางผลักผู้อำนวยการหลิวและผู้คุมสอบทั้งสองกระเด็นถอยหลัง
มีเพียงซูเหยาตงเท่านั้นที่ยังคงยืนตรง
กระแสลมรุนแรงที่ตามมาทำให้เสื้อผ้าของเขาปลิวว่อน เวลานี้ภายในใจของเขาเกิดพายุโหมกระหน่ำ!
“เจตจำนงปรมาจารย์! นี่คือเจตจำนงปรมาจารย์อย่างแน่นอน!” ซูเหยาตงคำรามในใจ!
สิ่งที่เขาเฝ้าแสวงหาอย่างไม่รู้จบเป็นเวลาหลายปีปรากฏขึ้นกับเด็กหนุ่มอายุราว 18 ปี
เขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร!
“ไม่ใช่แค่เส้นทางสู่ระดับ 7 เท่านั้นที่เปิดออก แต่นี่เป็นการเปิดเส้นทางสู่ระดับ 7 อย่างสมบูรณ์! เด็กคนนี้คือปรมาจารย์หนุ่ม!”