ตอนที่ 13 การทดสอบฮันเตอร์ 1(อ่านฟรี)
ตอนที่ 13 การทดสอบฮันเตอร์ 1
เช้าวันต่อมา
ลุคลืมตาตื่นขึ้นมาและมองไปรอบห้อง ที่โต๊ะมีอาหารจัดวางอยู่และน้องสาวของเขาที่พึ่งออกมาจากห้องแต่งกายด้วยชุดกระโปรงเรียบร้อย
“พี่ตื่นพอดีเลยมากินอาหารพร้อมกันเลย หนูจัดเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ” เจนกล่าว
ลุคพยักหน้าตกลงจัดการเก็บผ้าห่มเข้าตู้วางของจัดโซฟาอีกเล็กน้อยให้เข้าที่ ก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะอาหาร อาหารทั้งหมดถูกสั่งมาจากร้านอาหารชั้นล่างของโรงแรม
“หนูสั่งผัดเนื้อที่พี่ชอบมาด้วยค่ะ” เจนส่งกล่องอาหารที่เป็นเนื้อผัดเผ็ดมาให้พี่ชาย
ส่วนของเธอนั้นเป็นหมูกรอบราดด้วยซอสหวาน ข้าวไม่เยอะมาก
ขณะที่นั่งกินอาหารลุคก็ถือโอกาสสอบถามเจนไปด้วย
“น้องจะไปโรงเรียนเหรอ”
“ใช่แล้วค่ะ สามอาทิตย์ที่เหลือนี้หนูมีสอบทุกวันเลย ถ้าผ่านสามอาทิตย์นี้ไปได้หนูก็ได้เรียนจบและได้รับใบจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นแล้ว พี่คิดว่ามันอันตรายไหม”
“น่าจะไม่มีอะไรถ้าอยู่ที่โรงเรียนเดี๋ยวพี่ไปรับไปส่งด้วยจะได้ปลอดภัยมากขึ้น” ลุคบอกกับน้องสาว ที่จริงเขาไม่อยากให้เจนไป แต่ถ้าทำแบบนั้นเธอจะต้องออกจากโรงเรียนและทำให้เสียโอกาสในการเรียนที่สูงขึ้นมา
ลุคไม่มีโอกาสในการเรียนมากนักนอกจากจบมัธยมปลายก็ต้องออกมาหางานทำเพราะพ่อแม่จากไปพอดี เขาไม่อยากให้น้องสาวต้องเป็นแบบตัวเอง
อีกอย่างแค่ 3 สัปดาห์เจนก็จะจบและได้วุฒิการศึกษา หลังจากนั้นเขาจะพาเธอไปยังโรงเรียนในเขตอื่นหรือไม่ก็ย้ายไปเมืองอื่นเลย
ตอนนี้เขาเป็นเหนือมนุษย์แล้ว ลุคเชื่อว่าต่อให้ไปยังเมืองอื่นเขาก็สามารถดูแลน้องสาวและหาเงินได้มากพ่อในการใช้ชีวิตของพวกเขาสองพี่น้อง
ทั้งสองกินอาหารเช้ากันอย่างรวดเร็ว จากนั้นลุคก็ไปส่งเจนที่โรงเรียนด้วยตัวของเขาเอง ก่อนจะตรงไปยังสถานที่นัดพบกันตอน 10 โมงเช้าที่เขต 4 เพื่อเข้าร่วมการทดสอบ
สถานที่ทางสำนักงานเหนือมนุษย์ส่งพิกัดมาให้นั้นคือบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ถูกปิดไปชั่วคราวแล้ว บริเวณรอบมีสายเทปกั้นเขตสีเหลืองสลับดำถูกพันติดไว้รอบทั้งบริเวณเห็นเด่นชัด เหมือนกับที่โรงงานร้างประตูมิติและชิ้นส่วนโลกมิติแรกที่เขาเข้าไป เมื่อไม่กี่วันก่อน
แต่ที่นี่ต่างออกไป เพราะเป็นใจกลางเมือง จึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา กันคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจนหมด
ด้านนอกและด้านในมีตำรวจเฝ้าไว้ตลอด
เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้แม้จะคล้ายกัน แต่พวกเขาต่างจากตำรวจทั่วไป เพราะคนเหล่านี้เป็นหน่วยพิเศษที่แยกตัวมาจากตำรวจธรรมดา ทุกคนติดอาวุธหนักและคุ้มกันอย่างแน่นหนา ถูกใช้ด้วยหน้าที่เดียวคือ เฝ้าระวังทางเข้าประตูที่เชื่อมไปยังชิ้นส่วนโลกต่างมิติ รอให้สำนักงานเหนือมนุษย์ส่งเหนือมนุษย์มาเคลียร์ชิ้นส่วน
รถของตำรวจเหล่านี้มีตราสัญญาลักษณ์ของสำนักงานเหนือมนุษย์ติดอยู่ด้วย เรียกได้ว่าเป็นกองกำลังของสำนักงานเหนือมนุษย์ก็ได้
ลุคแสดงสถานะตัวตนกับทางเจ้าหน้าที่ด้วยแหวนเครือข่ายไกอา เขาก็สามารถเข้าไปด้านในได้อย่างไม่มีปัญหา หลังจากเดินไปตามที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพอไป พวกเขาก็ไปถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน สถานที่ซึ่งมีประตูมิติปรากฏอยู่
ห่างออกไปไม่ไกลมีรถมินิบัสที่ถูกใช้เป็นสำนักงานเคลื่อนที่ของสำนักงานเหนือมนุษย์โดยเฉพาะจอดอยู่ไม่ไกล
รถสำนักงานเคลื่อนที่แบบนี้จะมีเฉพาะในจุดที่มีการทดสอบฮันเตอร์เท่านั้น ส่วนชิ้นส่วนโลกต่างมิติอื่น ๆ จะมีเพียงเจ้าหน้าที่ของสังเกตการณ์ 1-2 คนเท่านั้น หรือบางครั้งอาจจะไม่มีเลยก็ได้
“คุณต้องไปรายงานตัวที่นั่นก่อน ผมมาส่งคุณได้แค่ตรงนี้ ขอให้โชคดีครับ”
เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษแสดงความเคารพลุค ก่อนจะจากไป ลุคประหลาดใจมากต่อท่าทีของพวกเขา แต่พอมาคิดดูบางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้เคารพเขาที่เป็นลุค แต่เคารพเขาที่เป็นเหนือมนุษย์และต้องการเป็นฮันเตอร์
ฮันเตอร์คือคนที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์และเคลียร์ชิ้นส่วนโลกต่างมิติ ไม่ให้มอนสเตอร์ออกมาอาละวาดทำลายเมืองกับชีวิตผู้คน ซึ่งต้องเสี่ยงตายเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าไม่มีฮันเตอร์ก็ไม่มีใครหยุดมอนสเตอร์ บางทีครอบครัวพวกเขาอาจจะโดนฆ่าตายในการโจมตีของมอนสเตอร์ เจ้าหน้าที่เหล่านี้จึงเคารพพวกฮันเตอร์มากที่ช่วยปกป้องผู้คนและครอบครัวพวกเขา
นี่คือมุมมองของเหล่าเจ้าหน้าที่ แม้ฮันเตอร์จะล่าเพื่อเงินก็ตาม
ลุคเดินเข้าไปที่รถสำนักงานเพื่อรายงานตัวเข้ารับการทดสอบ แต่พอประตูถูกเปิดออกมาก็เผยให้เห็นชายหนุ่มใบหน้าอวบอ้วนร่างกายราวกับผู้เขาก้อนเนื้อไม่มีผิด แต่งกายด้วยชุดสูทรัดตัวแน่นเปรี๊ยะ
“ลุค ซันเดอร์ ใช่ไหม เหนือมนุษย์ที่ต้องการทดสอบเป็นฮันเตอร์นะ”
อีลิกรู้ข้อมูลของลุคอยู่แล้วในรายงานเอกสาร และเขาคือคนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์การทดสอบฮันเตอร์ในครั้งนี้
“ใช่ครับ”
“นายมาคนสุดท้าย แต่ก็ยังไม่สาย ไปรอทางด้านนั้นได้เลยอีกสักพักเราจะเริ่มกันแล้ว”
อีลิกชี้นิ้วไปยังกลุ่มคนอีก 3 คนที่ยืนรออยู่ ก่อนจะกลับเข้าไปในรถโดยไม่สนใจว่าลุคจะเป็นอย่างไร
ลุคเดินไปรวมกลุ่มคนอีกสามคนด้วยท่าทางปกติ เขามองดูเหนือมนุษย์ทั้งสามคนเช่นเดียวกับที่ทั้งสามก็ตรวจสอบลุคด้วยสายตาเหมือนกัน
การแต่งตัวของทั้งสามคนนั้นแทบจะบ่งบอกตัวตนของพวกเขาอย่างชัดเจน
คนแรกเป็นชายหนุ่มพนักงานบริษัทที่ราวกับทำโอติดต่อกัน 2 วัน สภาพตาคล้ำ อ่อนแรงมาก แถมเส้นผมก็ยุ่งอยู่ไม่น้อย เสื้อผ้าก็ยังยับอีกด้วย
คนที่สองเป็นหญิงสาวเป็นหญิงสาวอายุ 30 แต่งกายด้วยชุดกระโปรงเรียบง่ายมาก ๆ ท่าทางอ่อนโยนให้ที่นิ้วมือนางสวมแหวนไว้แสดงออกมาว่าเธอนั้นแต่งงานแล้ว
คนสุดท้ายนั้นต่างออกไป เธอเป็นหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลุค แววตาสงบนิ่งราวกับไม่สนใจว่ารอบข้างจะเป็นอย่างไร มีกระเป๋าผ้าแบบถือสีดำใบใหญ่วางอยู่ข้างเท้าด้วย
นอกจากนั้นเธอยังเตรียมตัวมาพร้อม สวมใส่ชุดคล้ายกับทหารที่เรียกว่าชุดยุทธวิธีป้องกันร่างกายอย่างเต็มที่
แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นพวกมีประสบการณ์ที่ต่างจากคนอื่น ๆ รวมถึงลุคด้วยเช่นกัน
ทุกคนเว้นระยะห่างของตัวเอง ยืนรอคอยอย่างเงียบ ๆ จนในที่สุดก็ได้เวลาเริ่มแล้ว
อีลิกเดินออกมาจากรถด้วยท่าทางเกียจคร้านอยู่ไม่น้อย เขาบิดตัวไปมา ก่อนจะเดินมาหาทุกคน
“โอเค ทุกคนมารวมกันครบแล้ว ฉันชื่ออีลิกเป็นผู้สังเกตการณ์และประเมินการทดสอบในครั้งนี้ ก่อนเราเข้าไปฉันจะแนะนำคนอื่น ๆ ให้รู้ก่อน ที่จริงไม่ต้องแนะนำก็ได้ แต่ยังไงในเมื่อฉันมาดูแลพวกนายก พวกนายก็ควรจะรู้ชื่อกันไว้”
“บอสตัน ไอกะ นิโคล ลุค”
แม้จะบอกเป็นการแนะนำตัว แต่อีลิกเพียงชี้และบอกชื่อออกไปเฉย ๆ เท่านั้น แต่ละคนเหลือบมองกันและกัน โดยไม่พูดอะไร ยกเว้นแต่หญิงสาวไอกะ สาวคนที่อายุ 30 คนนั้นที่เข้ามากล่าวทักทายและบอกยินดีที่ได้รู้จักทุกคนอย่างมีมารยาท
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
บอสตันคือชายที่เป็นพนักงานบริษัทกล่าวด้วยความสุภาพกลับไป
“เช่นกันครับ”
ลุคเองก็กล่าวตอบกลับเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
มีเพียงหญิงสาวผมดำที่อายุเท่ากับลุคไม่มีการตอบสนองอะไร เธอไม่แม้แต่จะสนใจท่าทางของไอกะด้วยซ้ำ
อีลิกมองสถานการณ์ตรงหน้า แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกันว่าผู้เข้าร่วมทดสอบแต่ละคนจะแสดงท่าทีหรือมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือรีบพาทุกคนไปทดสอบให้จบ ๆ และตากแอร์เย็นฉ่ำในรถ
“เอาละงั้นไปกันเริ่มการทดสอบได้เลย”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ คือว่าจะมีแค่คุณที่ไปกับเราเหรอ” ไอกะถามด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้มีแค่พวกเขา 5 คนเท่านั้น เธอนึกว่าเจ้าหน้าที่ติดอาวุธหนักจะไปกับพวกเขาด้วย
“ใช่แล้ว ไม่ต้องห่วงพวกเราไปกันเถอะ” อีลิกขมวดคิ้วกล่าวเร่งเร้า ก่อนจะเดินอย่างมั่นใจเข้าไปในประตูมิติ โดยไม่สนใจว่าใครจะตามมาหรือไม่
นิโคลก้มลงไปหยิบกระเป๋าสีดำที่วางข้างเท้าขึ้นมาและเดินตามอีลิกเข้าไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
คนอื่น ๆ ได้แต่เดินตามหลังเข้าไปในประตูมิติ
...
ลุคผ่านประตูเข้าไปพวกเขาก็พบว่าชิ้นส่วนโลกมิติชิ้นนี้ คือพื้นที่โล่งกว้าง มีแสงแดดร้อนแรงจนอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส พื้นทรายร้อนระอุ ที่นี่เป็นทะเลทรายโดยสมบูรณ์
“ไม่ใช่ว่าชิ้นส่วนโลกต่างมิติจะมีขนาดเล็กเหรอ แบบพวกถ้ำหรืออะไรอย่างนั้นเหรอ แต่ที่นี่ดูใหญ่มากและเหมือนจะเป็นด้านนอกด้วย”
บอสตันเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเขารู้สึกแสบตาเป็นอย่างยิ่งจนแทบจะเอามือปิดตาไว้
“ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน ระดับต่ำไม่ได้หมายความว่าต้องขนาดเล็กและอยู่แต่ในถ้ำสักหน่อย” นิโคลที่เงียบมาตลอดเอ่ยปากพูดประชดขึ้นมา เธอไม่ค่อยชอบท่าทีของคนทั้งสาม เพราะพวกเขาราวกับมาเดินเล่นไม่มีผิด
“ถูกของนิโคล” อีลิกยิ้มให้หญิงสาวด้วยสายตาหวาน แต่นิโคลกับแสดงสีหน้าบึ้งตึงไม่สนโลกเหมือนเดิม ทำเอาอีลิกหุบยิ้มไม่ทัน
“อะแฮ่ม” อีลิกกระแอมก่อนจะกล่าวว่า “ชิ้นส่วนโลกต่างมิติไม่ได้จำกัดเพียงถ้ำหรือใต้ดินเท่านั้น มันจะมีแบบที่เป็นสภาพแวดล้อมบนดินด้วย อย่างที่นี่ที่เป็นทะเลทรายซึ่งสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ แต่ยังไงก็ยังมีพื้นที่จำกัดอยู่ ขนาดต่างกันไปตามระดับของชิ้นส่วนโลกต่างมิติ”
“ชิ้นส่วนโลกต่างมิติชิ้นนี้คือระดับ F มีมอนสเตอร์ระดับ F อาศัยอยู่ ฉันเข้าไปตรวจสอบให้แล้วในก่อนหน้านี้ ที่นี่มีมอนสเตอร์แมงป่องหลังหนามครอบครองอยู่”
อีลิกให้ข้อมูลกับพวกเขา
แมงป่องหลังหนาม? ลุคอยากรู้ว่ามันจะให้ไอเทมอะไรกับเขา
อีลิกเริ่มอธิบายรายละเอียดให้ฟังต่อ
“แมงป่องทะเลทรายหลังหนามถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่พบได้ทั่วไปในชิ้นส่วนโลกมิติระดับต่ำ ส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับ F แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีตัวที่ระดับสูงกว่านี้ พวกมันเป็นเหมือนกับแมงป่องทั่วไป มีผิวที่เปลี่ยนสีได้ตามสภาพที่อยู่อาศัย นั้นทำให้มันพรางตัวได้ในระดับหนึ่ง เปลือกตามตัวโดยเฉพาะที่หลังจะมีหนามงอกออกมา ถึงจะไม่มีพิษ แต่ก็ทำให้ผู้คนที่โดนหนามเจ็บปวดไม่น้อย”
“สิ่งที่ต้องระวังจริง ๆ คือป้องพิษที่หาง ในนั้นมีเหล็กในที่มีพิษอันตรายถึงตายเลยและที่ต้องระวังเพิ่มคือก้ามใหญ่ทั้งสองข้างที่ค่อนข้างทรงพลัง เป็นเหมือนกับกรรไกรเหล็กขนาดใหญ่ ถ้าโดนจับก็อาจจะโดนตัดเป็นสองท่อนได้ เคยมีฮันเตอร์คลาส F ที่ประมาทจนโดนแมงป่องหลังหนามในระดับเดียวกันลอบโจมตีที่เอวด้วยก้ามของมัน สุดท้ายโดนตัดร่างขาดครึ่งทันที”
“มันมีจุดอ่อนไหม” ไอกะยกมือขึ้นถาม
“แน่นอน จุดอ่อนนั้นคือที่ท้องและตามข้อต่อ ที่สำคัญมุมมองของดวงตามันมีจำกัด”
“ช่วยบอกได้ไหม ภารกิจคืออะไร จะได้เริ่มกันสักที” นิโคลพูดตัดบท
อีลิกขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทีของอีกฝ่าย แต่เพราะเห็นเป็นสาวสวยเขาจึงไม่ว่าอะไร
“ภารกิจในครั้งนี้คือการฆ่าแมงป่องหลังหนามให้ได้ 3 ตัวอย่าลืมดึงเหล็กในที่หางมาด้วยเพื่อใช้ยืนยันการฆ่าส่วนชิ้นส่วนมอนสเตอร์จะเป็นของพวกคุณ แต่คงต้องขนกันออกมาเอง หรือไม่ก็รอจนกว่าที่นี่จะถูกเคลียร์แล้วถึงจะให้ทีมเก็บกวาดมาจัดการเอาออกมาให้ในภายหลัง”
‘ดูเหมือนเขาไม่ได้คาดหวังว่าพวกเราจะเคลียร์ชิ้นส่วนโลกต่างมิตินี้ได้’ ลุคคิดในใจ
“ทุกคนเปิดแหวนเครือข่ายไว้ ถ้ามีอันตรายอะไรส่งสัญญาณและตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ฉันจะไปช่วยในทันที แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าตายทันทีฉันคงไปช่วยไม่ทัน เอาละฉันจะรออยู่ตรงนี้ ขอให้ทุกคนแยกย้ายกันไปได้”
อีลิกกล่าวจบก็โบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนแยกตัวออกไป แต่ทุกคนกลับยืนนิ่งไม่ได้จากไปแบบที่อีลิกคาดหวัง ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ไม่ใช่น้อย
“พวกคุณรออะไรกัน เริ่มการทดสอบแล้ว” อีลิกกล่าวย้ำกับพวกเขาทุกคนถึงเริ่มขยับตัวแยกกันไป แต่ตอนนั้นเองลุคที่ยังไม่ได้ไปไหนก็เอ่ยถาม
“มีเวลาจำกัดด้วยไหม”
ทุกคนเหมือนจะพึ่งนึกได้ หันกลับไปมองเป็นสายตาเดียวกัน
“เออ...ฉันลืมไป เวลาจำกัดคือ 3 ชั่วโมง จะร่วมมือกันก็ได้หรือแยกก็ได้” อีลิกรีบตอบ
ลุคและคนอื่นเริ่มสงสัยแล้วว่าชายอ้วนคนนี้แท้จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ที่พึ่งมาทำหน้าที่ควบคุมการทดสอบฮันเตอร์หรือไม่
แต่ไม่มีเวลาให้ทุกคนมาอ้อยอิ่งเมื่ออีลิกเริ่มกดที่แหวนเปิดฟังก์ชันนาฬิกามาจับเวลา
“เอาละเริ่ม”
ตัวเลข 3 ชั่วโมงลดเหลือ 2 ชั่วโมง 59 นาที 59 วินาทีทันที เริ่มลดลงเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่าเวลาได้เดินแล้ว
...