ตอนที่ 1198 แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย!

เปลือกตากระตุกไปมา และดวงตาคู่หนึ่งก็ได้เปิดขึ้นมา ทันใดนั้นผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็ได้กลับมามีสติอีกครั้ง เธอจําได้ทันทีว่าเธอกําลังพูดคุยอยู่กับ หลินฟาน แต่ทันใดนั้นดวงตาทั้งสองข้างของเธอก็มืดสนิทลงไป เธอ.. หมดสติ เดี๋ยวก่อนนะ มีคนลอบโจมตีฉัน!

ด้วยจิตใต้สํานึก ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็อยากที่จะลุกขึ้น แต่วินาทีต่อมาเธอก็พบว่าร่างกายของเธอไม่เชื่อฟัง และเธอก็ไม่สามารถขยับตัวได้!

จากนั้นเธอจึงได้พบว่า ตอนนี้เธอกําลังอยู่บนรถคันหนึ่ง ร่างกายของเธอเป็นอัมพาตอยู่บนเบาะนั่งที่นุ่มสบาย แม้ว่าสติของเธอจะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ร่างกายของเธอก็เหมือนยังคงหลับอยู่

“คุณตื่นแล้ว”

เสียงของ หลินฟาน ดังมาจากที่นั่งข้างคนขับ

ผู้หญิงคนนี้ได้ตกใจ และมองไปด้านข้างเล็กน้อย และเธอก็ได้เห็น หลินฟาน

เธอตกไปอยู่ในมือของ หลินฟาน แล้ว และแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่า หลินฟาน ทํามันได้อย่างไร แต่เธอก็ตกไปอยู่ในมือของ หลินฟาน แล้วจริงๆ

ด้วยจิตใต้สํานึกของเธอที่ต้องการพยายามดิ้นรนอีกครั้ง แต่ร่างกายก็ยังไม่ยอมขยับ เธอพยายามระดมกำลังภายในทันที ใช่แล้ว.. เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภายใน และได้พยายามระดมกำลังภายในเพื่อให้ร่างกายของเธอฟื้นตัว ถึงแม้เธอจะโชคไม่ดี แต่กำลังภายในยังดีอยู่ พอตรวจทุกอย่างแล้ว เธอก็ได้รวบรวมกำลังภายในจากจุดเลือดลม แต่กลับรู้สึกเจ็บแปลบๆ และก็ได้มีเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมา

“คุณทําอะไรกับฉัน?” ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา และโชคดีที่เธอยังสามารถพูดได้

เธอกำลังคิดว่า ..เธอได้ถูก หลินฟาน ทำลายจุดเลือดลม (丹田, ตันเถียน) ไปแล้ว เมื่อนั้นเธอก็ได้ตกใจอย่างมาก

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ผมแค่ใช้เข็มเงินปิดผนึกจุดของคุณ ทําให้คุณขยับตัวไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้น”

หลินฟาน มีทักษะด้านการแพทย์ระดับบนสุด ด้วยความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ หากเขาต้องการทําให้คนๆ หนึ่ง เป็นอัมพาตชั่วคราว มันก็เป็นแค่เรื่องยากที่ว่า ..จะลงมือ หรือไม่ลงมือก็เท่านั้น

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ไม่สามารถมองเห็นด้วยตัวเองได้ ..แต่คนนอกมองเห็นได้ว่ามีจุดสำคัญๆ หลายแห่งบนร่างกายของเธอที่ได้มีเข็มสีเงินเสียบอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ รวมถึงจุดกลางหว่างคิ้ว นอกจากนี้ยังเห็นเข็มสีเงินส่องแสงสว่างไสว ซึ่งมันก็ดูน่ากลัวไม่น้อย.. .

หลินฟาน ได้ใช้ฝีปากของเขาเกลี้ยกล่อม ชายหนุ่ม ชายหนุ่ม จึงได้ทิ้งผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ที่หมดสติไว้ แล้วจึงเดินจากไป หลินฟานก็ได้รักษาสัญญา และไม่ได้คิดที่จะไล่ตาม ชายหนุ่ม

อันที่จริง.. สิ่งที่เขาพูดกับ ชายหนุ่ม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะส่งชายหนุ่มเข้าคุก แต่คิดที่จะปล่อย ชายหนุ่ม ไปมากกว่า และเขาเองก็ได้ตั้งใจวางแผนที่จะมอบสิ่งนี้เป็นของขวัญให้กับ ถังเหมิน.. และหวังว่าความคับข้องใจของเขากับ ถังเหมิน จะสิ้นสุดลงเพียงแค่นี้

ถ้าหากมันเป็นไปได้ เขาจะไม่คิดทําลาย ถังเหมิน ไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้า.. แต่ถ้ามีทางออกที่ดีกว่านี้ แล้วจะทํามันไปทำไมล่ะ ท้ายที่สุดแล้ว ..ความทะเยอทะยานของ หลินฟาน คือการทําเงินให้ได้มากมาย ไม่ใช่การต่อสู้ หรือการเข่นฆ่ากันจนตายไปข้าง

เขาหวังเพียงว่า ผู้นำสำนักถังเหมิน ..จะคิดเช่นเดียวกัน และเขาก็หวังเพียงว่าผู้นำถังเหมินคนนี้ ..จะเป็นคนฉลาด และตระหนักได้ว่าการเป็นศัตรูกับเขานั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรกับ ถังเหมิน

แก้ไขความขัดแย้ง เพื่อให้เหตุการณ์สงบลง

นี่มันก็คือความคิดโดยพื้นฐานของ หลินฟาน ในการจัดการกับเหตุการณ์ทั้งหมดของ เย่ เทียนอวี่ ทั้ง ถังเหมิน เอง.. หรือผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ เขาเองก็ได้วางแผนไว้แบบนี้ด้วยเช่นกัน เขาเองหวังว่าจะเป็นผู้ได้ริเริ่ม จนถึงตอนนี้ เรื่องนี้ทุกอย่าง ..มันก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

เขาได้พาผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าไปที่รถ และควบคุม ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ด้วยเข็มเงิน แล้วจึงปลุก ผู้หญิงคนนี้ให้ตื่นขึ้นมา

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ไม่เชื่อในคําพูดของ หลินฟาน ..แค่การทำให้เธอขยับตัวไม่ได้ แล้วทําไมเธอถึงได้รู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่จุดตันเถียน เมื่อออกแรงล่ะ?

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสัญญาณว่าตันเถียนของเธอถูกทำลายทิ้งไปแล้ว การกระทำของ หลินฟาน ครั้งนี้ นี่มันก็โหดร้ายเกินไป!

เธอตกใจ และก็โกรธอย่างมาก และเธอได้พูดออกไปว่า : “คุณมันกล้าทำลายกังฟูของฉันได้ไง ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้!”

หลินฟาน ได้พูดพร้อมกับหัวเราะออกไปว่า : “ถ้า ‘กังฟู’ ของคุณถูกผมทำลายทิ้งไปจริงๆ คุณจะเอาอะไรมาฆ่าผม? ผมบอกไปแล้ว ผมแค่ทําให้คุณสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปชั่วคราว แต่ต่อไป ผมจะทำลายกังฟูของคุณทิ้งไปหรือไม่นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับการแสดงของคุณ บอกผมมา ..ว่า แฟนของผมอยู่ที่ไหน?”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ได้ใจเย็นลง และพูดตะคอกออกไปว่า : “คุณอยากรู้ว่าแฟนของคุณอยู่ไหน? งั้นก็ปล่อยฉันไป แล้วเอาเงินหนึ่งพันล้านหยวนมาให้ฉัน ไม่เช่นนั้น.. คุณก็ไม่มีทางได้รู้!”

หลินฟาน กล่าวว่า : “โอ้วว ..ใช่ ตอนนี้คุณอยู่ในมือของผมแล้ว แต่กลับยังอยากคุยเงื่อนไขกับผมอีก?”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า พูดว่า : “งั้นคุณก็ฆ่าฉัน ยังไงฉันก็ตกไปอยู่ในมือของคุณแล้ว ฉันไม่ได้เงิน งั้นคุณก็อย่าหวังว่าจะได้ข้อมูลใดๆ จากปากฉัน!”

หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “ผมจะไม่ฆ่าคุณ ฆ่าคุณแล้ว ผมจะไปถามอะไรคุณได้ยังไง และแน่นอนว่าคนเป็นถึงจะพูดได้ แต่การที่ผมไม่ฆ่าคุณ มันก็ไม่ได้หมายความว่า ..ผม จะไม่ทําอะไรกับคุณ”

ขณะที่เขาพูดไปพลางอยู่นั้น หลินฟาน ก็ได้มองไปที่ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า

สายตาของ หลินฟาน ทําให้ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ตัวสั่น และเธอก็ได้พูดด้วยความตกใจไปว่า : “คุณคิดจะทําอะไร? ฉันขอเตือนคุณก่อนนะว่า ..ถ้าคุณกล้าทําเรื่องสกปรกๆ กับฉัน แล้วถ้าเกิดฉันกลายเป็นผี ฉันก็จะไม่ปล่อยคุณไปแน่! ทั้งบรรดาอาจารย์ของฉันที่สำนักก็จะไม่ปล่อยคุณไปเช่นกัน!”

หลินฟาน พูดว่า : “โอ้.. งั้นคุณ.. มาจากสำนักนิกายไหนกัน?”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ได้ฮึ่มเสียง แล้วพูดตะคอกไปว่า : “คุณมันไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ ฉันจะบอกคุณอีกครั้ง ปล่อยฉันไป แล้วเอาเงินมาให้ฉัน ฉันจะรักษาสัญญา เพื่อแลกกับแฟนคุณ โดยที่เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และก็ฉันจะปล่อยให้เรื่องนี้มันจบลงแค่นี้ มิฉะนั้นผลที่ตามมา ต่อให้เป็นคุณก็ไม่สามารถแบกรับมันได้!”

หลินฟาน กล่าวว่า : “งั้น.. ผลที่ตามมาคืออะไร?”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า พูดว่า : “หากฉันเป็นอะไรไป คนของฉันจะฆ่าแฟนของคุณทันที จากนั้นอาจารย์ของฉันก็จะมาแก้แค้นคุณอย่างแน่นอน หากคุณไม่ตายมันก็จะไม่มีวันสิ้นสุด! ต่อไปคุณจะไม่มีวันสงบสุขอีกในอนาคตจนกว่าคุณจะตาย และคุณก็จะถูกพวกเราตามล่า! แล้วนี่คือสิ่งที่คุณอยากจะเห็นหรือ?”

หลินฟาน ยิ้ม ..แล้วนี่มันก็เหมือนกับที่เขาพูดกับ ชายหนุ่ม ไม่ใช่หรือไง? ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้าคนนี้ ก็อยากใช้ฝีปากเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขายอมจํานน…

น่าเสียดายที่ หลินฟาน ไม่คิดจะสนใจคำพูดของเธอ..

หลินฟาน กล่าวว่า : “เอาเป็นว่าตอนนี้ผมจะพูดถึงแผนการของผม.. และต่อจากนี้ไป แน่นอนว่าผมจะทําทุกวิถีทางเพื่อให้คุณพูด ถ้าคุณจะไม่ยอมเปิดปากพูดมันออกมาจริงๆ งั้นผมก็คงได้แต่ต้องไปหาวิธีอื่น เพื่อตามหาแฟนผม ถ้าหากผมหาเธอเจอ แล้วเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มันก็จะจบลงแค่นั้น แต่หากเมื่อเธอได้รับบาดเจ็บใดๆ หรือตาย ผมจะทําให้คุณต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน และผมจะตามหาสำนักนิกายของคุณให้เจอ และก็จะถอนรากถอนโคนมันซะ แล้วนี่คือสิ่งที่คุณอยากจะเห็นหรือ?”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ได้พูดตะคอกกลับไปว่า : “งั้นคุณก็ฆ่าฉันซะจะได้ประหยัดเวลา ยังไงฉันก็ไม่คิดจะพูดอยู่แล้ว”

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณจะไม่พูดมันจริงๆ เหรอ? แต่ผมกลับไม่เชื่อ.. ว่าผมไม่สามารถถามอะไรจากคุณได้…”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า พูดว่า : “นอกเสียจากทำตามเงื่อนไขของฉัน ไม่งั้นคุณก็คงไม่มีทางทำให้ฉันพูดได้! ฉันขอแนะนําให้คุณอย่าเสียเวลา และฉันก็รู้ว่าคุณเป็นห่วงแฟนของคุณมาก หรือว่าคุณอยากเห็นเธอตายไปจริงๆ?”

หลินฟาน ได้พูดถามทันทีว่า : “คุณมีแฟนหรือยัง?”

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า พูดว่า : “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย!”

หลินฟาน กล่าวว่า : “พอดูๆ ไป คุณก็คงจะไม่มี ดังนั้นคุณคงจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผม จําคืนนั้นได้ไหม คุณทําร้ายแฟนของผม ..ก็เพื่อซื้อเวลาในการหลบหนีของตัวเอง? อีกอย่าง.. อย่าลืมนะว่าผมยังไม่ได้คิดบัญชีนี้กับคุณ!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็โกรธอย่างอธิบายไม่ได้ รู้สึกเหมือนถูกคนยัดอาหารสุนัขเข้าปาก แต่การกินอาหารสุนัข ก็ช่างมันเถอะ แต่นี่ยังจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอีก

“งั้นคุณก็ทําร้ายฉันเลย หรือไม่ก็ฆ่าฉันให้ตายไปซะ! ดูสิว่าฉันจะพูดออกมาได้อีกยังไง!” ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ได้ฮึ่มเสียง และพูดตะคอกกลับ

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณอยากจะตายขนาดนี้เลย? ในเมื่อคุณไม่ยอมพูด งั้นผมก็ได้แต่ต้องตรวจสอบเองเสียแล้ว ก่อนอื่นผมต้องรู้จักตัวตนของคุณก่อน…”

ขณะที่ หลินฟาน พูด เขาก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง และยื่นมืออีกข้างไปหา ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า

ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ตกใจ และพูดว่า : “คุณจะทําอะไร?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ก็ถ่ายรูปคุณไง แล้วขอให้ทางตํารวจช่วยตรวจสอบ ที่นี่เราก็จะรู้ในทันทีว่าคุณเป็นใครกันแน่”

ทันทีที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายจะถ่ายรูป ผู้หญิงที่ปกปิดใบหน้า ก็ตระหนักได้ทันทีว่า หลินฟาน ต้องการที่จะถอดหน้ากากอนามัยของเธอออก เธอก็ตื่นตัว และรีบพูดขึ้นทันทีว่า : “หยุดนะ คุณ.. ฉันบอกให้หยุดไง!”