ตอนที่ 1 ชิ้นส่วนโลกต่างมิติ(อ่านฟรี)
ตอนที่ 1 ชิ้นส่วนโลกต่างมิติ
ก้อนเมฆสีขาวเข้มลอยไปตามทิศทางของสายลมสลับกับสีฟ้าอ่อนของท้องฟ้า ภายใต้เงาเมฆและท้องฟ้าเคลื่อนตัวปกคลุมเมืองที่ขนานนามว่า “เมืองปลายฝน”
เมืองปลายฝนถือเป็นเมืองขนาดเล็ก ประชากรอาศัยอยู่เพียงหนึ่งแสนคน
ในเมืองมีแม่น้ำสายไม่เล็กไม่ใหญ่ทอดยาวเคียงคู่ไปกับเมือง สุดสายของแม่น้ำเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กกินเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ถูกทิ้งร้างไว้เมื่อหลายปี เพราะพิษเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษทำให้บริษัทเจ้าของโรงงานหลายแห่งปิดตัวลงไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ส่งผลกระทบมาถึงโรงงานเหล่านี้ด้วย
บนถนนปูนซีเมนต์สีเทาเข้มแตกทรุดเสียหายมีต้นหญ้าสีเขียวสดและน้ำตาลที่แห้งเหี่ยวขึ้นตามรอยแตกของปูนและขอบถนนที่มีตะไคร่น้ำขึ้นในบางจุด
รถรถเก๋งสีดำเงาจำนวน 5 คันขับนำเส้นทางไปพร้อมกับมีรถมินิบัสบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถขับตามหลัง ขบวนรถกำลังขับผ่านเส้นทางไปด้วยความเร็วที่มั่นคงเข้าไปในโรงงานร้าง
จุดหมายปลายทางของขบวนรถเป็นลานกว้างแห่งหนึ่งภายในโรงงาน
บริเวณประตูทางเข้ามีป้อมยามเก่าผุพังไปครึ่งหลังตามกาลเวลา เหล็กกั้นประตูถูกยกทิ้งไว้ตรงกอหญ้าข้างทาง
บริเวณรอบมีสายเทปกั้นเขตสีเหลืองสลับดำถูกพันติดไว้รอบทั้งบริเวณเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล สิ่งนี้มีไว้สำหรับถึงอันตรายของพื้นที่ด้านใน
แทบกั้นเขตมีสภาพใหม่เอี่ยมไม่เข้ากับสถานที่รอบข้าง เพราะพึ่งถูกนำมาปิดล้อมพื้นที่รอบ ๆ เมื่อไม่นานมานี้
กลางถนนทางเข้ามีผู้ชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่เดินวนไปวนมา ห่างไปไม่ไกลมีรถมอเตอร์ไซต์จอดอยู่หนึ่งคัน สีหน้าของเขาเคร่งเครียดและร้อนใจอยู่ไม่น้อย แต่พอเห็นได้เห็นขบวนรถที่กำลังวิ่งเข้ามาก็คล้ายโล่งใจขึ้นมา
รถเก๋งสีดำคันหน้าสุดขับมาจอด ก่อนคนขับจะลดกระจกข้างลงมาพูดคุย
“เรียบร้อยดีไหม”
“แน่นอน พึ่งเกิดไม่นาน”
เมื่อได้รับคำตอบคนขับพยักหน้าให้ มือล้วงไปหยิบซองสีน้ำตาลที่อัดแน่นไปด้วยเงินมอบให้ เจ้าหน้าที่คนนั้นรับซองเงินสด ไม่คิดจะแกะดูและรีบจากไปในทันที
เมื่อทางสะดวกขบวนรถก็เคลื่อนตัวเข้าสู่ลานกว้าง โดยไม่สนใจแทบกั้นเขตที่ถูกรถชนจนขาดปลิวออกไปกองอยู่ข้างทางจากลมปะทะของรถที่วิ่งผ่านไป
ขับไปไม่ถึง 100 เมตร ก็พบว่าด้านหน้าของพวกเขามีสิ่งหน้าเหลือเชื่อปรากฏอยู่ มันคือรอยแยกมิติ รอยแยกมิตินี้เป็นจุดหมายของพวกเขา รถทุกคันก็หยุดและดับเครื่องยนต์กันทันที
บนรถมินิบัสมีชายหนุ่มร่างสูงผอม ใบหน้ามีสิวและผิวหมองคล้ำ ผมสั้นดำขลับ คิ้วเข้ม แววตาดูเหนื่อยล้า แถมยังมีรอยฟกช้ำตามใบหน้าและมุมปาก
เขามีชื่อว่า “ลุค”
ลุคนั่งอยู่ที่นั่งเบาะติดหน้าต่าง สายตากำลังจับจ้องจากบนรถไปยังรอยแยกมิติด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและจริงจัง ในใจยากจะคาดเดาว่าคิดอะไรอยู่
“มองกี่ครั้งก็ยังน่าตื่นตาตื่นใจเหมือนเดิม เคยเข้าไปไหม?”
เสียงหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
ลุคหันหัวกลับไปมองที่นั่งข้างตัวเอง
ชายวัยกลางคนไว้หนวดและเคราสั้นไม่ยาวมากนัก หน้าตาหมองคล้ำและมีกลิ่นเหล้าออกมาเล็กน้อย เป็นคนที่พูดกับเขาเมื่อครู่
สายตาของชายคนนั้นกำลังมองออกไปด้านนอก ก่อนมองกลับมาที่ลุค
“ไม่เคย คุณเคยเข้าไป?”
“3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อ 3 วันก่อน”
ชายไว้หนวดยกมือขึ้นโชว์ 3 นิ้วมือที่ค่อนข้างหยาบกร้านเป็นคำตอบ
ลุคประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่พบว่าชายคนนี้จะมีประสบการณ์ด้านในมากขนาดนั้น
“คุณรอดมาได้ยังไง”
“ฉันรอด เพราะคนอื่นตาย”
ได้ยินคำตอบจิตใจลุคก็หนักอึ้งและกลัวอยู่ไม่ใช่น้อย ยิ่งจ้องมองไปที่รอยแยกมิตินั้นยิ่งทำให้เขากลัวขึ้นมา จึงใช้มือจับไปที่จี้สร้อยที่หน้าอกของตัวเอง เพื่อทำให้มีความกล้ามากขึ้น
ผู้คนในรถมินิบัสรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเจอนั้นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่มีทางเลือกมากนัก เนื่องจากว่าผู้คนทั้งหมดในที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นหนี้ของกลุ่มคนชุดดำในรถเก๋งสีดำเงาเหล่านั้น
ปัง!
ประตูรถมินิบัสที่ค่อนข้างเก่าถูกเปิดออกเสียงดัง ทำเอาคนในรถสะดุ้งและหันไปมองเป็นสายตาเดียวกัน
ผู้ชายชุดดำท่าทางเคร่งขรึมคนหนึ่งเดินก้าวเท้าขึ้นมาบนรถ
“ลงมาจากรถ พวกแกมาถึงที่ทำงานแล้ว” ชายชุดดำตวาดเสียงดัง
ผู้คนบนรถมินิบัสถูกพาลงมารวมตัวกันยังลานกว้าง
ลุคกวาดสายตามองดู พบว่ามีคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขาไม่น้อยกว่า 30 คน โดยแต่ละคนมีอายุต่างกันไป ตั้งแต่วัยรุ่นที่อ่อนกว่าเขาตลอดจนถึงคนแก่ผมขาว ส่วนใหญ่เป็นชายมีหญิงไม่กี่คนเท่านั้น สีหน้าของทุกคนหน้าดำคร่ำเครียด
นอกจากพวกเขาก็มีกลุ่มคนชุดดำที่ออกมาจากรถเก๋งทั้ง 5 คันรวมกันประมาณ 10 คน ทั้งหมดยืนล้อมพวกเขาไว้ตรงกลาง คนเหล่านี้คือ มาเฟีย
“มีพวกลูกหนี้แค่นี้เหรอ”
“ใช่ครับ”
“ช่างเถอะแค่นี้น่าจะพอ”
หนึ่งในมาเฟียกำลังยืนตอบคำถามของชายที่นั่งอยู่ในรถคันหน้าสุด
สิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึงนั้นก็คือพวกคนที่ถูกพาตัวมา ส่วนใหญ่แล้วทุกคนนั้นเป็นลูกหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้จากการพนันหรือการกู้เงินนอกระบบ ถ้าใช้หนี้พวกมันไม่ได้ มาเฟียพวกนี้ก็จะยื่นข้อเสนอให้กับลูกหนี้เป็นฮันเตอร์เถื่อนมาเคลียร์ชิ้นส่วนโลกต่างมิติให้กับพวกมัน
ชิ้นส่วนโลกต่างมิติ คือสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาอย่างไม่มีใครรู้สาเหตุ ทางเข้านั้นถูกเรียกว่า “ประตูมิติ” ที่พาเข้าไปยังพื้นที่ต่างมิติที่เรียกว่า “ชิ้นส่วนโลก” ขนาดและความอันตรายของพื้นที่ต่างมิติจะขึ้นอยู่กับระดับของชิ้นส่วนโลกนั้น ๆ
ระดับของชิ้นส่วนโลกมีการแบ่งไว้คือ A B C D E F ส่วนสูงกว่านั้นถูกเรียกว่า “โลกสมบูรณ์” ด้านในชิ้นส่วนโลกมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายอย่างมากอยู่ มันถูกเรียกว่า “มอนสเตอร์”
และชิ้นส่วนโลกด้านหน้านี้คือระดับ F ที่ถูกจัดเป็นชิ้นส่วนโลกที่มีระดับต่ำสุดในบรรดาชิ้นส่วนโลกทั้งหมด ซึ่งมีมอนสเตอร์คลาส F อยู่ด้านในแน่นอน
นี่คือความรู้พื้นฐานที่คนในโลกนี้ต่างก็รู้กันเป็นอย่างดี
“เริ่มได้แล้ว” ผู้ชายในรถสั่งลูกน้อง
ลูกน้องมาเฟียไปเปิดท้ายรถ เพื่อเอาอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ออกมา
ลุคกับคนอื่น ๆ ที่เคยมาเป็นครั้งแรกหันไปมองการกระทำของมาเฟีย เขาเห็นมาเฟียสองสามคนทยอยเปิดฝากระโปรงท้ายรถที่ด้านในเต็มไปด้วยอาวุธประเภทดาบ
มาเฟียเริ่มแจกจ่ายดาบให้กับลูกหนี้ทั้ง 30 คนด้วยความรวดเร็ว แต่ละคนรับมาและถือไว้ในมือ คนที่เคยมาก่อนจะถือมันไว้แน่ เพราะถือเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตได้
ดาบที่ยาวประมาณ 2 ไม้บรรทัดกว่า สภาพดาบดูไม่ได้มาตรฐานสักเท่าไหร่และมีคราบสีดำคล้ำติดอยู่ไม่น้อย
‘ไม่รู้ว่าเป็นเลือดของคนหรือมอนสเตอร์’ ลุคจ้องมองดาบในมือของตัวเอง
คนที่พึ่งเคยมาก็มองไปที่ดาบด้วยความสงสัยและเริ่มสีหน้าไม่ค่อยดีแล้ว อันที่จริงลูกหนี้ทุกคนเริ่มจริงจัง เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังจะเผชิญกับอะไรอยู่
นอกจากดาบแล้วพวกเขายังได้รับไฟฉายคาดศีรษะกันคนละกระบอกด้วย
ตอนนั้นลูกพี่มาเฟียที่นั่งในรถก็เปิดประตูออกมาและได้เดินหยุดเบื้องหน้าเพื่อกล่าวกับทุกคน
“ฟังให้ดี!”
เพียงเอ่ยปากพูดก็ตะเบ็งเสียงดังด้วยความดุดัน ทำให้คนอื่น ๆ ตื่นกลัวอยู่ไม่น้อย
“วันนี้ต้องเคลียร์ชิ้นส่วนโลกระดับ F นี้ให้เสร็จ ฆ่ามอนสเตอร์ด้านในแล้วเอาเนื้อพวกมันออกมาเนื้อเหล่านั้นคือสิ่งที่จะช่วยปลดหนี้ที่ติดไว้กับพวกเราได้ ถ้าพวกแกคนไหนทำไม่สำเร็จก็ไม่ต้องออกมาจากในนั้นและรอเป็นอาหารของพวกมอนสเตอร์ด้านในได้เลย ส่วนใครกล้าถอยกลับหรือคิดหนีจะโดนแบบนี้”
หัวหน้ามาเฟียสั่งให้ลูกน้องไปลากชายคนหนึ่งในสภาพเปื้อนเลือดที่ถูกยัดไว้ท้ายรถออกมา ทุกคนมองว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ยังไม่ทันได้ตั้งสติ หัวหน้ามาเฟียคนนั้นก็รับปืนจากลูกน้องมาเฟียอีกคนมา ก่อนจะเล็งปืนไปที่ชายคนที่บาดเจ็บสาหัสคนนั้น
“อย่า ๆ” ผู้ชายที่ตัวอาบเลือดร้องขอชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ผู้ชายคนนั้นโดนยิงร่างล้มลงนอนจมกองเลือดตายต่อหน้าต่อตาทุกคนที่กำลังตื่นตกใจด้วยความกลัว
การกระทำและความโหดเหี้ยมของมาเฟีย อย่างการเชือดไก่ให้ลิงดู ดูท่าจะได้ผลอย่างมาก เพราะสร้างความหวาดกลัวและข่มขวัญเหล่าลูกหนี้เป็นอย่างมาก
ลุคหน้าขึงฉายแววตาแห่งความโกรธ เมื่อมองหัวหน้ามาเฟียคนนั้น เขารู้ชื่อมาเฟียคนนี้ เพราะเป็นมาเฟียคนเดียวกับที่เคยมาหาเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน
มาเฟียคนนี้มีชื่อว่า ซาด เป็นมาเฟียระดับสูงของกลุ่มมาเฟียจะเรียกว่าหัวหน้าก็ได้ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าเป็นหัวหน้าใหญ่สุดหรือเปล่า
ซาดมองท่าทีของทุกคนและพยักหน้าพึงพอใจที่เห็นว่าทุกคนเข้าในสิ่งที่ตัวเองจะสื่อสาร จึงสั่งให้เริ่มงานทันที นั้นคือการส่งทุกคนเข้าไปในชิ้นส่วนโลกต่างมิติ
โดยเริ่มจากคนที่ยืนด้านหน้าสุดให้เดินเข้าไป แม้จะมีความกลัวในการเดินเข้าไปในรอยแยกมิติ แต่ว่าศพที่นอนตายอยู่ทำให้เขากลัวมากกว่า
ลูกหนี้เดินถือดาบต่อแถวเดินเข้าไปในประตูมิติทีละคนสองคนด้วยสีหน้าขึงขัง
“มาร่วมมือกันไหม”
ขณะที่กำลังต่อแถวเดินเข้าไปประตูมิติผู้ชายไว้หนวดที่เคยพูดคุยกับเขาบนรถมินิบัสก็เข้ามาเสนอความร่วมมือ แต่ลุคยังไม่ทันกล่าวอะไร ซาดที่จ้องมองการกระทำของทุกคนอยู่ก็เดินเข้ามาหาลุค เพื่อพูดบางอย่างกับเขาเป็นการเฉพาะ
“แกควรทำให้ดีไม่อย่างนั้นพวกฉันจะไปเยี่ยมน้องสาวของแก เข้าใจไหม”
ลุคมองสายตาเย็นชา แต่เพียงไม่กี่วินาที เขาก็ข่มอารมณ์เก็บมันเป็นความแค้นในใจ และสาบานว่าจะต้องจัดการซาดให้ได้
ซาดเหลือตามองไปทางชายไว้หนวด
“เข้าไปได้แล้ว”
“ครับ ๆ”
ผู้ชายไว้หนวดรีบพยักหน้าตอบ และเมื่อเห็นว่าลุคโดนเพ่งเล็งโดยซาดก็ถอยออกมาและไปหารวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ เพื่อเข้าไปในประตูมิติแทน
ซาดไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของลุค เพราะสำหรับเขาลุคเป็นเพียงเด็กดวงซวยที่ต้องมาใช้หนี้แทนพ่อและแม่เท่านั้น ที่เขาสนใจคือเงินที่ลุคจะทำให้ได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าน้อยเกินไปเขาก็ยังไปเอาเด็กคนนี้ไปขายอวัยวะได้ ส่วนน้องสาวยิ่งเป็นของหายากในสายตาของเขา
ลุคข่มความโกรธและรู้ว่าตนทำอะไรไม่ได้
เมื่อ 7 วันก่อน ชีวิตเขายังดำเนินไปอย่างปกติ แต่แล้วพวกมันก็มาหาเขาและน้องสาว
มาเฟียพวกนี้อ้างว่า พ่อกับแม่ที่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 3 ปี ได้กู้ยืมเงินและหนี้พวกมันมากกว่า 5 ล้านเครดิต โดยที่มีลายเซ็นของพ่อเขาไว้อย่างชัดเจน
พวกมันต้องการให้เขาและน้องสาวใช้หนี้มันคืนภายใน 1 เดือน แน่นอนว่าลุคไม่มีปัญญาหาเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นได้อยู่แล้ว ต่อให้ขายสมบัติทุกอย่างออกไปคงหามาได้ไม่เกิน 10,000 เครดิตด้วยซ้ำ
พ่อกับแม่ได้ทิ้งเงินมรดกก้อนสุดท้ายไว้ให้เขาและน้องสาวที่เพียงพอต่อการใช้จ่ายชั่วคราวเท่านั้นและเงินพวกนั้นก็กำลังจะหมดลงในไม่ช้า
ที่ผ่านมาลุคต้องทำงานที่ร้านอาหารและควบกับงานพนักงานร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้เงินพอใช้จ่ายและดูแลสุขภาพน้องสาวและส่งเรียนหนังสือไปด้วย
แต่ด้วยเงินและรายได้ที่มีเพียงน้อยนิดไม่มีทางจ่ายหนี้ที่เป็นเงินมากถึง 5 ล้านเครดิตได้
ดังนั้นพวกซาดจึงยื่นข้อเสนอเชิงบีบบังคับให้เขาเลือก คือ ให้มาเป็นฮันเตอร์ผิดกฎหมาย เพื่อล่ามอนสเตอร์ให้พวกมัน และหักหนี้จากเนื้อมอนสเตอร์ที่ล่าได้ แน่นอนว่าราคาคงไม่ยุติธรรมและเสี่ยงชีวิตที่อาจจะตายได้ตลอดเวลา
แต่ถ้าลุคไม่ตกลงทั้งเขาและน้องสาวจะโดนพวกมันจับไปขาย สำหรับเขาคงเป็นการโดนขายอวัยวะ ส่วนน้องสาวของเขาคงเลวร้ายยิ่งกว่า
ลุคเคยคิดจะไปแจ้งตำรวจ แต่น่าเจ็บใจคือมีตำรวจบางคนรับเงินของมาเฟีย ได้เอาเรื่องที่ลุคไปแจ้งความไปบอกให้กับกลุ่มมาเฟียทำให้ระหว่างทางกลับจากสถานีตำรวจ เขาถูกพวกมันดักทำร้ายและซ้อมจนแทบหมดสติ
ซาดเป็นคนมาจัดการเขาด้วยตัวเองและคิดจะไปที่บ้านเขา เพื่อจับตัวน้องสาวของเขาไปด้วย แต่ว่าลุคขอร้องและตกลงที่จะยอมรับข้อเสนอพวกมัน ทำให้ซาดปล่อยน้องสาวเขาไปและสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับน้องสาวของเขา ตราบใดที่ลุคยังเป็นฮันเตอร์ผิดกฎหมายให้พวกมัน
ลุคกำมีดสั้นในมือแน่นด้วยความคับแค้นใจ ถ้าเขาเป็นเหนือมนุษย์ เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่คนที่ยากจนจะเอาความหวังที่ไหนในการเป็นเหนือมนุษย์
“เดินเข้าไปได้แล้ว” ซาดผลักไหล่ของลุคให้เดินไปที่ประตูมิติ
ลุคเดินเข้าไปอย่างตึงเครียด
เขาเคยได้ยินมาว่ามอนสเตอร์นั้นโหดร้ายมาก พวกมอนสเตอร์มองมนุษย์เป็นเหมือนอาหารและการที่มันพยายามจะออกมาจากประตูก็เพื่อกินอาหาร
มีพวกนักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมุติฐานว่า เหตุที่มอนสเตอร์โจมตีมนุษย์ เพราะพวกมันติดอยู่ในชิ้นส่วนโลกเป็นเวลานาน จึงกระหายในการกินมากและมนุษย์ก็อ่อนแอจึงเป็นเหยื่อที่ล่าง่าย
มีนักล่าที่หิวกระหายตัวไหนบ้างจะไม่อยากกินเหยื่อที่ฆ่าง่าย ๆ เพื่อเติมเต็มกระเพาะยามหิวกระหาย ซึ่งตอนนี้ลุคกำลังเดินเข้าไปหาพวกมันถึงถิ่น
ลุคเดินผ่านม่านแสงของประตูมิติที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเดินผ่านม่านน้ำเย็น ๆ เพียงแต่ตัวไม่เปียก พอเข้ามาได้มาเฟียที่เหลือก็ตามมาในชิ้นส่วนโลกต่างมิติพร้อมกับปืนคนละกระบอก และทิ้งมาเฟียสองคนให้เฝ้าด้านนอกประตูมิติเท่านั้น
มาเฟียพวกนี้มาเพื่อควบคุมพวกเขาให้ต่อสู้ ถ้าใครไม่สู้คงโดนปืนในมือพวกมันยิงแน่ ส่วนเรื่องหนีนั้นตัดทิ้งไปได้เลย เพราะทางเข้าออกชิ้นส่วนโลกต่างมิตินั้นมีทางเข้าออกเพียงหนึ่งเท่านั้น
ลุคมองรอบตัว มันมืดพอสมควร แต่ทุกคนเริ่มทยอยเปิดไฟฉายคาดหัวของแต่ละคน ทำให้พวกเขามองเห็นสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น
ถ้ำ!
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้ตั้งตัว ตอนนั้นก็มีแสงสีแดงปรากฏขึ้นมาทางด้านหน้าของพวกเขา ทุกคนต่างส่องไฟไปยังทิศทางนั้นกันในทันทีก็พบว่ามันเป็นหนู
หนูขนาดตัวเท่าสุนัขขนาดกลาง ขนพวกมันเป็นสีดำสลับสีเทายาวและดูหยาบ แต่ที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุดคือ ดวงตาสีแดงฉานสองข้างที่เปล่งประกายในความมืด
“มอนสเตอร์!”