เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 13: เกรซในวันเดอร์แลนด์
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 1 บทที่ 13: เกรซในวันเดอร์แลนด์
.
(เกรซ)
ข้าคือเกรซ
ข้ารู้ ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าข้าแตกต่าง
เส้นผมของข้ามีสีที่แปลกมากสีหนึ่ง มันเข้มกว่าสีดำ แต่มีประกายระยิบระยับ
ข้าไม่สามารถเข้าใกล้น้ำได้ทุกชนิด ถ้าข้าสัมผัสน้ำที่มีธาตุน้ำอยู่ข้างใน มันจะทำให้ตัวข้าเกิดแผลขึ้น
และตัวข้ายังมีคำสาป...
เมื่อใดก็ตามที่ข้ามองตาใครสักคน ข้าจะโกรธและโกรธอย่างไม่อาจหยุดได้ ข้าจะปรารถนาที่จะทำลายทุกสิ่งที่มองมายังดวงตาของข้า
ข้าคิดว่านั่นคือคำสาป
เพราะคำสาปของข้า ทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่และกระทำกับข้าอย่างเลวร้าย
ทุกคนเรียกข้าด้วยชื่อมากมาย
'ตัวประหลาด'
'สัตว์ประหลาด'
'สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน'
ข้าไม่ชอบมัน ข้าไม่ชอบ...ตัวเองเลย เพราะข้าเหมือนกับกำลังถูกทุกคนเกลียดอยู่
แต่โชคดีที่เรื่องราวพวกนั้นเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
ตอนนี้ข้าชอบตัวเองมาก
เพราะวอลสันชอบข้าเหมือนที่ข้าเป็นอยู่
แม้ว่าข้าจะสื่อสารไม่เก่ง แต่เขาก็คิดเสมอว่ามันเป็น "วิธีการพูดในแบบของข้า"
เขาบอกกับข้าว่ามันน่ารักมาก แต่ข้าไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
ข้าน่ะมีพรสวรรค์ตั้งแต่แรกเกิดที่จะเป็น [นักเวทย์] ตามที่บาทหลวงมาร์บอนบอกไว้ ข้าจะเติบโตเป็นคนที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม จะกลายเป็นคนที่จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์
ทว่า...คำสาปของข้า มันขัดขวางการเชื่อมต่อของข้ากับธาตุน้ำ เป็นผลให้ข้าไม่สามารถควบคุมธาตุน้ำ ในรูปทรงหรือรูปแบบใดๆ โดยไม่ทำร้ายตัวเองในการใช้คาถาได้เลย
ในทางกลับกัน องค์ประกอบธาตุอื่นๆ ทั้งหมดกลับยอมรับข้าได้อย่างง่ายดาย ทำให้ข้าสามารถควบคุมธาตุอื่นได้ทุกชนิด
ไฟ ดิน ลม แสงและความมืด คาถาใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำ ข้าสามารถเรียนรู้และเชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดาย
ข้าสร้างโครงสร้างเวทมนตร์ในใจของข้า โดยการสื่อสารกับธาตุผ่านคาถาและคำพูดแห่งพลัง จากนั้นข้าก็สามารถใช้คาถาด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย
ทุกสิ่งสำหรับข้ามันง่ายมาก แต่ข้าได้ยินมาว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเช่นนั้นได้
มานี่ แม่ชีในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเรา รวมถึงบาทหลวงมาร์บอนพยายามไม่ให้ข้าใช้เวทมนตร์ความมืด
แต่ข้าโชว์มันให้วอลสันเห็น
นานๆ ครั้งเมื่อข้าได้ไอเดียใหม่ๆ ข้าก็จะแสดงเวทมนตร์ของข้าให้วอลสันดู ซึ่งในทุกครั้ง เขาจะมอบรอยยิ้มและสัมผัสที่อบอุ่นแก่ข้าหรือลูบผมของข้า
ถึงตัวข้าจะเริ่มสูงขึ้นกว่าวอลสัน...แต่ข้าก็ยังชอบที่จะก้มหัวลง เพราะมันจะทำให้วอลสันลูบหัวของข้าได้ง่ายขึ้น
วอลสันบอกข้าว่าข้ามหัศจรรย์มาก ข้าเยี่ยมมากและบอกว่าข้าแx่งโคตรเก่งมาก
อันที่จริงข้าก็ไม่เข้าใจว่าคำพูดประโยคสุดท้ายหมายความว่ายังไงเหมือนกัน
ในอนาคตข้าอาจจะกลายเป็น [ผู้ใช้ธาตุ] ซึ่งเป็นนักเวทย์ที่สามารถควบคุมธาตุอย่างน้อยสามอย่างได้ ทว่าตัวข้ามีห้าในหก
แต่นั่นมันก็...เรื่องในอนาคตของข้า แต่วอลสันจะเลือกเป็นอะไรในอนาคตล่ะ?
เขาแตกต่างจากข้า เขาเป็น [สามัญชน]
แต่เขามักจะทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์อยู่เสมอ!
วอลสันทำให้ข้ามีอาหารอร่อยที่ไม่สามารถหาได้จากทุกที่หรือทุกคน มีแต่จากเขาเท่านั้น ลึกๆ แล้วข้ามั่นใจว่าอาหารแบบนั้น ต่อให้เป็นขุนนางที่ร่ำรวยที่สุดก็ไม่สามารถซื้อได้เป็นประจำหรอก
จากนั้นเมื่อมีเวลาว่างหรือโอกาสอันดี วอลสันก็มักจะแสดงให้ข้าเห็นถึงสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา
ข้าเห็นทุกอย่างที่เขาทำ ตั้งแต่การปลูก การแปรรูป ไปจนถึงการสร้างบางอย่าง
มันทำให้ข้างงงันมาก
จากนั้นข้าก็ได้ถูกเชิญเข้าไปในฐานลับของเขา และสิ่งที่ข้าเห็นก็ทำให้ข้าตะลึงไปเลย
ก้อนที่เปล่งแสง ซึ่งเป็นสิ่งที่วอลสันเรียกว่า [โคมไฟเรดสโตน] เขาบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ใช้แทนเทียน ทั้งยังบอกว่ามันจะดีกว่าที่จะอ่านหนังสือในเวลากลางคืนโดยใช้มัน เพราะมันเหนือกว่าเทียนมาก
เขาไม่ได้นำ [โคมไฟเรดสโตน] เหล่านั้นไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย... เขาคงมีเหตุผลของเขา ข้าจะไม่สอดรู้สอดเห็นหรอก
นอกจากนี้เขายังมีบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัว
มันยากมากสำหรับข้าที่จะทำความสะอาดตัวเอง เพราะข้าไม่สามารถสัมผัสน้ำได้ มันต้องต้มก่อน ตัวข้าไม่ค่อยได้อาบน้ำในแม่น้ำ
แต่น้ำพุร้อนของวอลสันทะลุคำสาปของข้า เนื่องจากมันร้อนและไม่มีธาตุน้ำ
พอจุ่มตัวลงไป ความรู้สึกของมันยอดเยี่ยมมาก ข้าคล้ายกับถูกล่อลวงให้มีความต้องการอยากย้ายเข้ามาในฐานลับถาวรเลย
นอกจากนี้วอลสันก็สร้างสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆ ด้วย ทุกอย่างสร้างมาจากมือของวอลสัน
ซึ่งด้วยเหตุผลบางอย่าง วอลสันก็มีระดับที่สูงมากเช่นกัน
นอกจากมานี่และหลวงพ่อมาร์บอนแล้ว เขาก็มีระดับสูงที่สุดในหมู่บ้าน
เขาไปถึงระดับ 25 ได้ยังไง? เขาฝึกฝนตัวเองด้วยวิธีไหนกันนะ?
วอลสันไม่มีอะไรเหมือน [สามัญชน] เลย ในสายตาของข้า เขาคล้ายกับคนที่ออกมาจากเรื่องเล่าและเทพนิยายเท่านั้น
ครั้งหนึ่งเขาเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกลงมาในหลุมและพบกับโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์
ข้ารู้สึกว่าเมื่อใดก็ตามที่ข้าอยู่กับเขา โลกจะเปลี่ยนไป มันจะสวยงามยิ่งขึ้น
เขาอายุเท่ากับข้า แต่เมื่อข้ามองเข้าไปในดวงตาของเขา ข้ามักจะเห็นความชาญฉลาดอันยิ่งใหญ่ที่ใครจะเทียบได้
บางครั้งข้าก็อยากจะเรียกเขาว่าพี่ชาย
พี่ชาย
ในอนาคตเขาคงจะกลายเป็นคนที่น่าทึ่งแน่
...เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะสามารถอยู่เคียงข้างเขาได้หรือเปล่านะ?
“เกรซ แน่ใจนะว่าอยาก [ปาร์ตี้] กับวอลสัน?” มานี่ถามข้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“เกรซยืนยัน วอลสันเท่านั้น”