ตอนที่ 597 ลางสังหรณ์ไม่ดี(ตอนฟรีค้าบ)
แน่นอน ข่าวที่กู่ฉางเกอฆ่าผู้สืบทอดจักรพรรดิสวรรค์โบราณแห่งการเกิดใหม่วนเวียนแค่ท่ามกลางราชวงศ์กลืนกินสวรรค์
หลายคนในโลกภายนอกยังเชื่อว่ากู่ฉางเกอคือผู้สืบทอดตัวจริง
นี่แค่หนึ่งในเหตุผลเบื้องหลังที่เจียโหลวเคารพกู่ฉางเกอ ราชวงศ์กลืนกินสวรรค์ชมชอบความแข็งแกร่ง และด้วยวัยเช่นนี้ กู่ฉางเกอกลับไปถึงระดับที่ไม่มีใครเคยทำได้ เขาจึงได้รับความเคารพโดยเจียโหลว
ในอีกด้าน ในอนาคต ราชวงศ์กลืนกินสวรรค์จะยังต้องการความช่วยเหลือของกู่ฉางเกอในการสร้างแท่นสังสารวัฏ
สำหรับสิ่งมีชีวิตกลืนกินสวรรค์ แท่นสังสารวัฏสำคัญมาก ในแง่หนึ่ง มันเกี่ยวกับการเกิดใหม่และการหล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตกลืนกินสวรรค์
“ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ นายน้อยฉางเกอกับราชวงศ์กลืนกินสวรรค์เคยพบปะกัน”จักรพรรดิหยูหัวเราะขณะที่แสงประหลาดแวบผ่านตา ถ้าเจียโหลวไม่พูด เขาคงไม่รู้ว่ากู่ฉางเกอเคยติดต่อกับราชวงศ์กลืนกินสวรรค์
กู่ฉางเกอซ่อนไว้ลึกจริงๆ
“ข้าพบกับพี่สาวขององค์ชายเจียโหลวโดยบังเอิญเท่านั้นเอง ไม่ได้คุยอะไรกันมาก”กู่ฉางเกอยิ้ม
“ถ้ามีโอกาส นายน้อยฉางเกอต้องไปเยือนราชวงศ์กลืนกินสวรรค์เราในฐานะแขก ข้าคิดว่าท่านพ่อของข้าคงชอบท่านมาก ตลอดมา พี่สาวของข้าคุยถึงท่านต่อหน้าข้าบ่อยยิ่งนัก”เจียโหลวมีรอยยิ้มบนหน้าและส่งจดหมายเชิญให้กู่ฉางเกอ
สิ่งที่เขาพูดทำให้ทุกคนในสถานที่นี้คิดไปต่างๆนาๆ องค์หญิงแห่งราชวงศ์กลืนกินสวรรค์ชื่นชมกู่ฉางเกอ?
หลายคนยังคิดถึงฉากโรแมนติก ตัดสินจากคำพูดของเจียโหลวแล้ว สถานะของพี่สาวเขาในราชวงศ์กลืนกินสวรรค์ไม่ควรธรรมดา
แน่นอน นี่ก็เป็นเจตนาของเจียโหลว เขาพูดเพื่อกระชับสัมพันธ์กับกู่ฉางเกอ ดวงตาของเขามักมองด้านบน ไม่สนใจใครอื่น ต่อให้มันเป็นจักรพรรดิหยูก็ตาม
“หลังจากนี้ ผู้แซ่กู่จะไปราชวงศ์กลืนกินสวรรค์ พอถึงเวลานั้น ข้าคงต้องรบกวนองค์ชายเจียโหลวนำทางแล้ว”กู่ฉางเกอตอบด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีปัญหา การไปเยือนของนายน้อยฉางเกอถือเป็นเกียรติของเรา”เจียโหลวมีสีหน้าแปลกใจ
ท่าทีขององค์ชายราชวงศ์กลืนกินสวรรค์ที่มีต่อกู่ฉางเกอและทุกคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ต่อให้เป็นองค์หญิงหยูเฟยหยา คนที่เขาอยากแต่ง เขาก็ไม่สนใจมาก พอเห็นแบบนี้ ขุนนางทั้งหลายก็มีความคิดแตกต่าง พวกเขารู้สึกว่าเจียโหลวต้องมาตามคำสั่งของคนอื่น เขาไม่ได้ชื่นชมหยูเฟยหยาจริงๆ
“ท่านพี่ ทัศนคติของคนคนนี้แปลกมาก ถ้าท่านพ่อตกลง ข้าเกรงว่าเขาจะทำผิดต่อท่านและละเลยท่านหลังแต่งงาน”
แม้หยูหมิงจะเป็นคนตรงไปตรงมาและทำตัวสบายๆ แต่ครั้งนี้เขาเป็นห่วงหยูเฟยหยาจริงๆ แม้เขาจะเป็นองค์ชาย เขาก็ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของจักรพรรดิหยู แม้แต่หยูเล่ยก็ยังไม่มีสิทธิ์
แม้เขาจะพูดเบา แต่คนรอบตัวเขาไม่ธรรมดา พวกเขาจึงได้ยิน จักรพรรดิหยูไม่สั่งอะไร ดังนั้นขุนนางมากมายจึงไม่กล้าแสดงความเห็น
สีหน้าของหยูเฟยหยายังไม่เปลี่ยน นางแค่ส่ายหัว ไม่พูดมาก
เจียโหลวเองก็ได้ยิน เขาไม่เพียงยิ้ม แต่ยังมองหยูเฟยหยา”เพราะข้าเห็นคนที่ข้าชื่นชมมาตลอด ข้าเลยอดตื่นเต้นไม่ได้ หวังว่าองค์หญิงเฟยหยาจะไม่ถือสา’
หยูเฟยหยายิ้ม“องค์ชายเจียโหลวคิดมากไป ทำไมเฟยหยาถึงต้องสนใจเรื่องเล็กน้อยพรรค์นั้น?”
“ฮ่าๆ องค์ชายเจียโหลวเป็นคนมีพรสวรรค์ ต่อให้จะแต่งกับเฟยหยาแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรผิด?”จักรพรรดิหยูหัวเราะขึ้น เขาดูมีความสุขมาก
เหล่าขุนนางเองก็พูดเห็นด้วย มีเพียงถัวปาเซียวเหยาที่เงียบ มองหยูเฟยหยาเป็นครั้งคราว ไม่สามารถปิดซ่อนความกังวล เพราะการมาถึงขององค์ชายจากราชวงศ์กลืนกินสวรรค์ เทศกาลล่าจึงจบไว
จากนั้นขุนนางที่รับผิดชอบการจัดงานก็มาประกาศอันดับของผู้เข้าร่วม ในเวลาเดียวกันก็มอบรางวัล
ถัวปาเซียวเหยาแสดงพลังของเขา สุดท้าย แม้หอคอยหลากสีจะไม่เปิดเผยว่าเขารอดได้ไง มันก็น่าประทับใจ
แต่เขายังติดห้าอันดับแรก พลังของชายหน้าบากชัดเจนดี มันน่ากลัวมาก แม้กระทั่งเหล่าองค์ชายก็ยากจะต่อกร
ถัวปาเซียวเหยาสมควรกับอันดับเช่นนี้ แม้กระทั่งพี่สาวของเขาก็แค่ติดสามสิบอันดับแรก
หลังงานล่าจบ เรือบินมากมายก็บินข้ามมิติ กลับไปเมืองหลวง
จักรพรรดิหยูมีความสุขมาก เขาจัดงานเลี้ยง และมอบสมบัติให้รุ่นเยาว์
แน่นอน ในด้านหนึ่ง มันยังเพราะองค์ชายหยูเล่ยไม่เจอมือสังหาร ซึ่งทำให้เขาโล่งใจ
ที่งานเลี้ยง ขุนนางหลายคนอยากรู้ว่าทำไมถัวปาเซียวเหยาถึงปกปิดพลังจนถึงตอนนี้ แต่ก็ไม่ถาม
ตรงกันข้าม จักรพรรดิหยูฉวยโอกาสนี้และถามหยูเฟยหยาว่ารู้เรื่องการลอบสังหารได้ไง เรื่องนี้ หยูเฟยหยาได้แต่บอกว่านางได้ยินข่าวลือ แต่ไม่ทราบแหล่ง
สำหรับว่าทำไมมือสังหารไม่เผยตัว มันเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายคงยอมแพ้เพราะเห็นจักรพรรดิหยูระวังตัวมาก ขุนนางทั้งหลาย รวมถึงจักรพรรดิหยูสามารถอ่านออกว่าหยูเฟยหยาปกปิด
แต่พวกเขาไม่พูดมาก จักรพรรดิหยูส่ายหัวและยิ้ม รู้ว่าหยูเฟยหยาจงใจปกปิด เขาจึงไม่ถามต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะกู่ฉางเกอ
ถ้ากู่ฉางเกอรู้ว่าหยูเฟยหยาลอบบอกว่าเขาตั้งใจจะส่างฆ่าไปลอบสังหารหยูเล่น จักรพรรดิหยูคงไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง
ที่งานนี้ ถัวปาเซียวเหยากลายเป็นจุดสนใจหลักนอกจากองค์ชายของราชวงศ์กลืนกินสวรรค์
ขุนนางทั้งหลายตั้งใจส่งลูกสาวเข้าหาเขา จากมุมมองหนึ่ง ถัวปาเซียวเหยายังไม่มีการหมั้นหมาย พ่อของเขายังเป็นขุนนางคนสำคัญ
แต่ถัวปาเซียวเหยากลับปฏิเสธทุกคนอย่างสุภาพ ด้วยใบหน้าสงบนิ่ง
“ดูเหมือนบุตรชายรองของจวนถัวปาจะมีความทะเทอทะยานสูง ทำไมฝ่าบาทไม่ฉวยโอกาสนี้ถวายการแต่งงานให้เขาเล่า?”
ครั้งนี้ กู่ฉางเกอที่นั่งบนที่นั่งหลักจิบสุราและพลันยิ้มก่อนพูดกับจักรพรรดิหยู
หลังได้ยินแบบนี้ ขุนนางทั้งหลายด้านล่างก็ตกตะลึง พวกเขาแสดงสีหน้าอิจฉา
กู่ฉางเกอเปิดปากเองเพื่อเสนอการแต่งงาน ถัวปาเซียวเหยาผู้นี้มีความสามารถแค่ไหนกัน?
แม้กระทั่งถัวปาอวิ๋นเทียนก็ยังตื่นเต้น ในความคิดเขา ตอนกู่ฉางเกอพูดเช่นนี้ มันหมายความว่าเขาให้ค่าลูกชายเขา
ถ้าลูกชายเขาเข้าตากู่ฉางเกอ นั่นจะวิเศษ มีเพียงใบหน้าของถัวปาเซียวเหยาที่น่าเกลียด ฝ่ามือบีบแก้วอย่างผิดธรรมชาติ
เขามีลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ การที่จู่ๆกู่ฉางเกอเสนอเรื่องนี้มาย่อมไม่ใช่เจตนาดีแน่
“ฮ่าๆ ที่นายน้อยฉางเกอพูดก็พูด คนหนุ่นมีความสามารถเช่นเขาคู่ควรกับลูกสาวของข้า นี่เป็นโอกาสอันดี!”
จักรพรรดิหยูหัวเราะตอนได้ยินคำพูด เขาเองก็มีเจตนานี้อยู่แล้ว
จากนั้นเขาก็เพ่งมองถัวปาเซียวเหยา และอดชื่นชมไม่ได้ เขาถามเสียงดัง ตั้งใจจะเลือกองค์หญิงมาหมั้นกับถัวปาเซียวเหยา