ตอนที่แล้วตอนที่ 362 เงื่อนไขจากกรมทหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 364 เขามังกรเพลิง

ตอนที่ 363 วันสุดท้ายของการประมูล


ตอนที่ 363 วันสุดท้ายของการประมูล

หลังจากวิลเลียมจากไปเซี่ยเฟยก็นั่งอยู่บริเวณริมชายหาดเพื่อรับชมวิวทิวทัศน์ท้องทะเลเพียงลำพัง

“ฉันคิดว่าดินแดนของพวกเซิร์กเข้าง่ายแต่ออกยากนะ แผนการนี้มันเสี่ยงมากเกินไปนายควรคิดทบทวนใหม่ดูอีกที” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“มันเป็นการเดินทางที่เสี่ยงอันตรายจริง ๆ แต่มันก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่ฉันจะมีสิทธิ์ปกครองภูมิภาคดวงดาวด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“ถ้านายกลับมาไม่ได้แล้วของรางวัลพวกนั้นมันจะไปมีประโยชน์อะไร นอกจากนี้อย่าลืมว่านายไม่ได้ลงมือเพียงลำพัง ดังนั้นถ้าหากว่าพวกเจ้าหน้าที่ทหารลงมือผิดพลาด ทุกคนที่เดินทางไปด้วยก็จะต้องเสี่ยงอันตรายด้วยกันหมด” อันธกล่าว

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันขออำนาจในการจัดการกองยานทั้งหมดไง เพราะฉันพยายามป้องกันไม่ให้มีใครโง่เปิดเผยตัวก่อนจะถึงเวลา” เซี่ยเฟยกล่าว

“ถึงแม้ว่าวิลเลียมจะสัญญาว่าจะมอบอำนาจในการควบคุมสูงสุดให้กับนาย แต่มันก็มีผู้รับผิดชอบควบคุมอำนาจจากกรมทหารในกองยานอีกคนด้วยเหมือนกัน ถ้าหากว่าผู้มีอำนาจในระดับเดียวกันมีความเห็นขัดแย้งกับนายล่ะ ถึงตอนนั้นนายจะทำยังไง?” อันธกล่าว

“ฉันรู้ว่าโดยปกติการควบคุมคนมากขนาดนี้จำเป็นจะต้องแบ่งชั้นการควบคุมอำนาจอย่างชัดเจน และนายก็กลัวว่าฉันจะตกอยู่ในอันตรายภายใต้ความสะเพร่าของคนอื่น แต่นายคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะยอมฝากชีวิตไว้กับคนอื่นจริง ๆ ดังนั้นตั้งแต่ก่อนที่ฉันจะตอบตกลง ฉันก็เตรียมวิธีรับมือกับสถานการณ์แบบนี้เอาไว้แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวตอบพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

“นายจะรับมือยังไงหรือว่านายจะฆ่าเจ้าหน้าที่ทหารคนนั้น?” อันธถามอย่างสงสัย

“นายรู้ได้ยังไง?”

อันธถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะเซี่ยเฟยเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป และถ้าหากว่าเขาสังหารเจ้าหน้าที่จากกรมทหารจริง ๆ ไทสันก็คงจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ

“ถึงยังไงฉันก็ตัดสินใจไปแล้วและฉันก็ไม่ยอมเอาชีวิตไปเสี่ยงกับความผิดพลาดของคนอื่นอย่างเด็ดขาด ดังนั้นทันทีที่เขามีความคิดที่จะทำให้ฉันตกอยู่ในอันตราย ในเวลานั้นฉันก็จะมองว่าเขาคือศัตรู” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างเฉยเมย

“แล้วถ้าสมมุติว่าในกองยานมีเจ้าหน้าที่ของกรมทหารแฝงตัวมาเป็นจำนวนมากล่ะ ถ้าหากว่าในเวลานั้นนายมีความเห็นขัดแย้งกับผู้บัญชาการของพวกเขาจริง ๆ ฉันก็คิดว่านายนั่นแหละจะเป็นฝ่ายที่ถูกรุม” อันธตะโกนออกไปอย่างเย็นชา

อย่างไรก็ตามจู่ ๆ เซี่ยเฟยก็หยิบกระดิ่งนรกออกมาจากแหวนมิติ ซึ่งกระดิ่งนี้คืออุปกรณ์สื่อสารที่สามารถสื่อสารโดยตรงไปยังศิษย์ในสำนักเงาสังหารได้ และการที่เซี่ยเฟยนำมันออกมาอย่างกะทันหันแบบนี้ก็ทำให้อันธกำลังรู้สึกสงสัยว่าชายหนุ่มกำลังจะสื่อถึงอะไรกันแน่

“ฉันตั้งใจจะขอยืมนักฆ่าเดนตายจากสำนักตามฉันเข้าไปในดินแดนของเซิร์กด้วย และถ้าหากว่ามันมีเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างฉันกับเจ้าหน้าที่ทหารจริง ๆ ในเวลานั้นนักฆ่าเดนตายก็จะช่วยพวกเราจัดการกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด” เซี่ยเฟยกล่าว

“นี่นายกำลังพูดเล่นอยู่หรือยังไง? นายตั้งใจจะฆ่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเลยงั้นเหรอ?!” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

“พูดเล่น? เรื่องความเป็นความตายแบบนี้จะเอามาพูดเล่นได้ยังไง? ความเป็นจริงฉันไม่ได้กลัวคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจเลยสักนิด แต่ฉันกลัวเพื่อนร่วมทีมที่โง่ดักดานมากกว่า ถ้าพวกเจ้าหน้าที่ทหารที่เดินทางไปพร้อมกับฉันเป็นพวกที่โง่ดักดานจนขุนไม่ขึ้นแล้วจริง ๆ ในเวลานั้นฉันก็จำเป็นจะต้องเก็บชะตาชีวิตเอาไว้ในเงื้อมมือของตัวเองแล้วกำจัดพวกเขาออกไปให้พ้นทาง” เซี่ยเฟยกล่าว

“แล้วเรื่องภารกิจล่ะ? นายจะทำยังไง? อย่าลืมนะว่าภารกิจหลักของนายในครั้งนี้คือการแทรกซึมเข้าไปในดินแดนของเซิร์กเพื่อพยายามเข้าใกล้เต็นท์ทองคำของพวกมันให้ได้ ถ้าหากนายสังหารพวกเจ้าหน้าที่ทหารไปแล้วใครจะช่วยนายกวาดล้างพวกผู้นำของเผ่าเซิร์ก?” อันธกล่าว

“แน่นอนว่าฉันคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้วและถึงแม้ว่าจะมีกำลังรบที่ลดลง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าการทำภารกิจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะยิ่งกองกำลังของพวกเรามีกำลังน้อยลงเท่าไหร่ พวกเซิร์กก็จะยิ่งประมาทพวกเรามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันก็จะช่วยสร้างโอกาสให้พวกเราสามารถลงมือได้อย่างง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม” เซี่ยเฟยกล่าว

“ถึงแม้ว่านายจะทำลายเต็นท์ทองคำลงไปได้ แต่อย่าลืมว่านายก็จำเป็นจะต้องหนีออกมาจากดินแดนของเซิร์กอีกนะ ในเวลานั้นนายยังจะคิดแต่จะพึ่งความแข็งแกร่งของตัวเองเพียงลำพังอยู่อีกงั้นเหรอ?” อันธกล่าว

เซี่ยเฟยเข้าใจความกังวลของอันธเป็นอย่างดี เพราะเงื่อนไขของการทำภารกิจนี้คือสมาชิกภายในทีมจะต้องเคลื่อนไหวอย่างสอดคล้องกัน จากนั้นพวกเขาจะต้องจู่โจมเต็นท์ทองคำอย่างกะทันหันและยังจะต้องหาเส้นทางหลบหนีกลับมายังพันธมิตรให้ได้อย่างปลอดภัย

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องไหนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่น่าปวดหัวด้วยกันทั้งนั้น แต่เซี่ยเฟยก็ยังเต็มใจที่จะลองเสี่ยงดู เพราะความเสี่ยงครั้งใหญ่ครั้งนี้มีโอกาสที่จะทำให้เขาได้กลายเป็นผู้ปกครองภูมิภาคดาว

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยสามารถอยู่ในพันธมิตรได้อย่างสบาย ๆ และสามารถหาซื้อที่ดินอย่างมั่นคงโดยไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องเงินทอง แต่ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนที่มีนิสัยแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่ปีนขึ้นมาจนถึงจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบันนี้

อันธก็พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่เช่นกัน เพราะเขารู้ดีว่าถึงแม้เขาจะบ่นไปมากแค่ไหน แต่มันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเซี่ยเฟยได้อยู่ดี

“เอาล่ะพวกเรามาเตรียมตัวกันเถอะ การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางธรรมดาแล้วมันก็มีของที่ต้องเตรียมพร้อมเยอะแยะไปหมด”

เซี่ยเฟยลุกยืนขึ้นพร้อมกับเก็บบัตรจ่ายเงินเอาไว้ในแหวนมิติ ซึ่งบัตรนี้คือบัตรที่ทางกรมทหารได้ให้เขามาใช้จ่ายล่วงหน้าเป็นจำนวน 1 ล้านล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งมันก็เป็นจำนวนเงินมากพอที่จะทำให้เขาเตรียมการอย่างเหมาะสมได้

“นักสู้เดนตายของสำนักใช้อุปกรณ์อะไร? แล้วพวกเขาอยู่ในระดับไหนบ้าง?” เซี่ยเฟยถาม

“สำนักเงาสังหารไม่ใช่สำนักเล็ก ๆ นายไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์ของพวกเขาหรอก ฉันคิดว่าสิ่งที่นายควรจะต้องเตรียมเอาไว้จริง ๆ คือการเตรียมสมุนไพรเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน” อันธกล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้าซึ่งมันก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เขาอยู่ในงานแสดงสินค้าชั้นนำของพันธมิตรอยู่พอดี เขาจึงเริ่มออกเดินหาเพื่อซื้อของในสิ่งที่เขาต้องการ

ตลอดทั้งวันชายหนุ่มได้ซื้อเสบียงและสมุนไพรที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการเดินทางไกล ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับเสบียงและสมุนไพรเหล่านี้ก็มีมูลค่าถึง 100 ล้านสตาร์คอยน์

ขณะเดียวกันบริเวณหน้าสำนักงานประชาสัมพันธ์ก็มีคนต่อแถวรออยู่อย่างมากมาย เนื่องจากว่าวันพรุ่งนี้เป็นงานเทศกาลวันสุดท้ายและมันก็ใกล้เวลาที่จะประกาศสินค้าที่จะนำมาประมูลในวันพรุ่งนี้แล้ว

หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็นำรายการสินค้าออกมาแจกจ่ายฝูงชน ซึ่งเซี่ยเฟยก็เดินไปหยิบรายการสินค้ามาเช่นกันพร้อมกับเปิดอ่านพวกมันในระหว่างที่เขาเดินทางกลับ

“น่าตื่นเต้นดีจริง ๆ” เซี่ยเฟยอุทานหลังจากที่ได้อ่านรายการสินค้าไปได้เพียงแค่หนึ่งหน้า

“สมแล้วที่งานเทศกาลครั้งนี้คืองานเทศกาลครั้งใหญ่ของพันธมิตร เพราะมันมีสินค้าหายากทุกชนิดถูกนำมาขายในเทศกาล”

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้พบเครื่องมือโบราณจากรายการสินค้าในหน้าที่ 2 ซึ่งมันก็ทำให้แววตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“เมต้า? เครื่องมือชิ้นนี้มันน่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ?” อันธถามขึ้นมาอย่างสงสัย

“ใช่แล้ว มันคือเครื่องมือชั้นยอดที่ถูกคิดขึ้นโดยอารยธรรมโบราณ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“เครื่องมือชั้นยอด? ไม่ว่าฉันจะดูยังไงมันก็เป็นแค่ก้อนอิฐ” อันธกล่าว

“ความน่าสนใจของมันไม่ได้อยู่ที่รูปร่างหน้าตา แต่มันขึ้นอยู่กับว่ามันจะกลายเป็นอะไรได้บ้างต่างหาก” เซี่ยเฟยกล่าว

“มันเปลี่ยนรูปร่างได้งั้นเหรอ?” อันธถามด้วยความประหลาดใจ

“เมต้าถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะพิเศษที่สามารถเลียนแบบเครื่องมือได้ทุกชนิด แม้กระทั่งเครื่องมือของอารยธรรมโบราณก็ไม่มีข้อยกเว้น”

“นายกำลังบอกว่าตราบใดก็ตามที่นายได้เจ้านี่มา นายก็จะได้ชุดเครื่องมือมาครบชุดเลยสินะ แบบนี้ถ้านายต้องเจอกับสถานการณ์ที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ นายก็สามารถใช้เมต้าจำลองเครื่องมือพิเศษนั้นขึ้นมาได้ใช่ไหม?”

“แต่ราคาเริ่มต้นของมันอยู่ที่ 100 ล้านสตาร์คอยน์เลยนะ ดังนั้นราคาหลังจบการประมูลจริง ๆ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านสตาร์คอยน์ การซื้อชุดเครื่องมืออเนกประสงค์จำเป็นจะต้องใช้เงินมากมายขนาดนี้เลยเหรอ?” อันธถาม

“นายยังไม่เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของมันสินะ คุณค่าที่แท้จริงของมันอยู่ที่การเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องมือเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ที่หลงเหลือมาจากอารยธรรมโบราณต่างหาก และถึงแม้ว่าชุดเครื่องมือธรรมดาจะพอสามารถซ่อมแซมเครื่องมือจากอารยธรรมโบราณได้ แต่มันก็คงจะไม่มีชุดเครื่องมือไหนเหมาะสมจะซ่อมแซมอุปกรณ์จากอารยธรรมโบราณได้ดีเท่ากับเครื่องมือจากอารยธรรมโบราณด้วยกันเอง”

“ซึ่งการได้ครอบครองเครื่องมือชิ้นนี้ มันก็จะทำให้ฉันสามารถจัดการกับอุปกรณ์โบราณได้ง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“อ๋อแบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นมันก็สมเหตุสมผลแล้วที่มันจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านสตาร์คอยน์” อันธกล่าวหลังจากตระหนักถึงประโยชน์ที่เซี่ยเฟยได้พูดถึง

เซี่ยเฟยไล่ดูสินค้าที่จะมาเข้าร่วมงานประมูลไปเรื่อย ๆ ซึ่งราคาก็เพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างรวดเร็ว จากหน้าแรก ๆ ที่สินค้ามีราคาเริ่มต้นประมาณ 100 ล้านสตาร์คอยน์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นไปจนกลายเป็นสินค้าที่มีราคาเริ่มต้นสูงถึง 1,000 ล้านสตาร์คอยน์

การที่สินค้ามีราคาเริ่มต้น 1,000 ล้านสตาร์คอยน์ถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก เพราะราคาปิดท้ายของสินค้าพวกนี้มักที่จะมีมูลค่าหลายพันล้านสตาร์คอยน์ หรืออาจจะสูงถึงหลักหมื่นล้านสตาร์คอยน์เลยก็ได้

เมื่อเปิดรายการสินค้าไปจนถึงหน้าที่ 27 ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ได้พบกับสินค้าชิ้นที่ 2 ที่เขาต้องการนั่นก็คือผลวิญญาณไมก้า

ผลวิญญาณไมก้าเป็นผลไม้สมุนไพรที่มีรูปร่างคล้ายกับเห็ดสีขาวราวกับหิมะ ที่มีลวดลายคล้ายก้อนเมฆบนใบไม้ที่ทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จึงทำให้สมุนไพรชนิดนี้ดูเป็นสมุนไพรที่มีรูปร่างงดงามมาก

“นั่นมันผลจิตวิญญาณไมก้าแล้วมันยังเป็นจิตวิญญาณไมก้าที่มีอายุมากถึง 10,000 ปี ถ้าหากว่านายได้สิ่งนี้ไปมันจะช่วยพัฒนาความเร็วให้กับนายได้อย่างแน่นอน” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“มันจะช่วยยกระดับพลังของฉันได้ใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถาม

“ฉันมั่นใจว่ามันจะช่วยยกระดับความเร็วของนายจากระดับสตาร์ริเวอร์ขั้นกลางไปเป็นสตาร์ริเวอร์ขั้นสูงได้อย่างแน่นอน และถ้าหากว่านายโชคดีมากพอไมก้าจะช่วยยกระดับความเร็วของนายไปจนถึงระดับลีเจนด์เลยก็ได้” อันธกล่าวอย่างตื่นเต้น

คำอธิบายนี้ทำให้เซี่ยเฟยชะงักค้างไปครู่หนึ่ง เพราะระดับพลังก่อนถึงระดับลีเจนด์ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นระดับพลังที่ขึ้นต้นด้วยคำว่าสตาร์ด้วยกันทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่สตาร์ไลท์, สตาร์เบส, สตาร์ฟิลด์และสตาร์ริเวอร์

แต่หลังจากระดับลีเจนด์เป็นต้นไปมันจะไม่มีการจัดระดับพลังโดยชื่อซ้ำ ๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะนักสู้ในระดับนี้จะถูกยอมรับว่าเป็นนักสู้ชั้นยอดที่แท้จริง และบางคนก็อาจจะถูกยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม

การก้าวข้ามไปสู่ระดับลีเจนด์ถือว่าเป็นการก้าวผ่านประตูบานใหญ่ของนักสู้ทุกคน และไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถก้าวข้ามประตูบานนี้ได้สำเร็จ พวกเขาก็จะมีอนาคตอันสดใสรอคอยพวกเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง, สถานะหรือเงินทองต่างก็จะหลั่งไหลเข้ามาหาพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านั้นเลยก็ตาม

แต่สำหรับเซี่ยเฟยแล้วสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับการเลื่อนระดับสู่ระดับลีเจนด์นั่นก็คือสังคมนักสู้ใหม่ ๆ ที่เขาจะได้พบเจอ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับนักสู้ระดับสูง มันย่อมช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ แล้วมันก็จะช่วยให้เขาสามารถพัฒนาการต่อสู้ได้ดีมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าผลประโยชน์ของจิตวิญญาณไมก้าจะสูงมาก แต่ราคาประมูลเริ่มต้นของมันก็สูงถึง 12,000 ล้านสตาร์คอยน์ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถ้าหากว่ามันต้องมีการต่อสู้ในระหว่างการประมูลจริง ๆ ราคาของมันก็อาจจะทะลุหลักแสนล้านสตาร์คอยน์

“ราคามันสูงมากจริง ๆ แต่เพื่อก้าวเข้าสู่ประตูระดับลีเจนด์ ฉันจะต้องซื้อวิญญาณไมก้า 10,000 ปีชิ้นนี้มาให้ได้!!”

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด