CD บทที่ 372 การค้นพบที่คาดไม่ถึง
ชายฉกรรจ์ทั้งสามที่ฮัวฮัวชี้ตัว ตอนนี้กำลังคุกเข่าต่อหน้าจ้าวหยู่และฮัวฮัว ใบหน้าของพวกเขาถูกจ้าวหยู่ชกจนเสียโฉมไปแล้ว หนึ่งในพวกเขาถูกโยนบนโต๊ะแก้วก่อนหน้านี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเศษแก้วสองสามชิ้น
เพื่อแก้แค้นพวกเขาที่ถอดชุดชั้นในของฮัวฮัว จ้าวหยู่ได้ถอดกางเกงและเอากางเกงในของพวกเขาออกมา บังคับให้พวกเขาสวมชั้นในบนหัว
พวกเขาทั้งสามอับอายและหวาดกลัว ในสายตาของพวกเขา จ้าวหยู่ไม่ต่างจากปีศาจเลย ขณะนั้น ทุกคนคุกเข่าพร้อมก้มหัวโดยไม่มีใครกล้าขยับแม้แต่นิดเดียว
จ้าวหยู่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจพวกเขา แต่เขาเรียกอากุ้ยให้นำเครื่องรูดบัตรมา เพราะเขาต้องการโอนเงินทั้งหมดในบัตรให้พวกเขา
จ้าวหยู่จะไม่กลับคำของเขา เขาทุบตีคนจำนวนมากให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เงินที่เหลืออยู่ในบัตรคงจะไม่เพียงพออย่างแน่นอน แต่อย่างน้อย ๆ ก็เป็นค่าชดเชยเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการรักษา
“ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะมีประกันสุขภาพ!” หลังจากที่จ้าวหยู่โอนเงินเสร็จแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปหาไส้หรอกอ้วน
เมื่อมองไปที่จ้าวหยู่ที่เดินเข้ามาใกล้เขา ไส้กรอกอ้วนตัวสั่นด้วยความกลัว ใครจะรู้ว่าปีศาจตนนี้จะทำอะไรต่อไป
“ไส้กรอกอ้วน! หนี้ระหว่างเราถือว่าจบกันแล้ว” จ้าวหยู่พูดอย่างจริงจัง “เงินที่ฮัวฮัวติดไว้ คุณก็ได้คืนแล้ว และหนี้ของฮัวฮัว ฉันก็เอาคืนแล้วเช่นกัน! เราเคลียร์หมดแล้วเข้าใจมั้ย? หากคุณไม่เห็นด้วยคุณสามารถแย้งออกมาได้เลย!”
“ตกลง! ตกลง! ฉันเห็นด้วย” ไส้กรอกอ้วนไม่กล้าพูดอย่างอื่น พยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
"เยี่ยม! จงจำไว้นะคำพูดของคนมีค่าดั่งทอง ฉันหวังว่าคุณจะจำสิ่งที่พูดเอาไว้ให้ขึ้นใจ หากคุณคิดจะสร้างปัญหาให้กับฮัวฮัวอีกล่ะก็...“จ้าวหยู่จ้องที่เขา”คุณต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา!”
จากนั้น จ้าวหยู่ก็พาฮัวฮัวหันหลังกลับและจากไป ไส้กรอกอ้วนปิดหน้าที่ฟกช้ำ เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
เนื่องจากบันไดถล่มลงมา จ้าวหยู่จึงค่อย ๆ ปล่อยฮัวฮัวลงข้างล่างอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะหาชั้นวางของที่อยู่ใกล้บันไดเพื่อเหยียบ แล้วกระโดดลงลงบนพื้น
“พี่หยู่ ฉันขอโทษ...” ในขณะที่พยุงฮัวฮัว และพร้อมที่จะออกจากร้านดอกไม้ เธอก็ร้องไห้ราวกับดอกท้อที่อาบไปด้วยสายฝน "มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด! เงินของคุณ! ฉันจะหามาคืนให้คุณเอง!”
“ยัยเด็กโง่ เรื่องนั้นไว้คุยทีหลัง เรารีบไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ”
ขณะที่จ้าวหยู่ปลอบโยนฮัวฮัว สายตาของเขามองไปรอบ ๆ ชั้นแรกของร้านขายดอกไม้ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าคนที่ถูกเขาโยนลงไปในในตอนแรก ตอนนี้ได้หายหมดแล้ว!
พวกเขาคงหนีไปแล้ว!
ในขณะที่จ้าวหยู่กำลังคิดเรื่องนี้ ประตูหน้าร้านก็เปิดออกทันที จกานั้น คนหลายสิบคนรีบเข้ามาจากข้างนอก เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้เป็นกำลังเสริมที่ชายฉกรรจ์เป็นคนเรียก พวกเขาทั้งหมดดูดุร้ายในมือของพวกเขามีถือมีด ไม่ก็ถือแท่งเหล็ก!
"นั่นเขา!" ในหมู่พวกเขามีคนจำจ้าวหยู่ได้ และกวักมือเรียกที่เหลือให้ตามมาทันที “เขาเป็นคนทุบตีพี่ไส้กรอกอ้วน! พวกเราฆ่าเขาซะ!”
“แม่งเอ๊ย!”
จ้าวหยู่สบถออกมา ส่วนฮัวฮัวตัวสั่นด้วยความกลัว เธอซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของจ้าวหยู่
“พี่หยู่… เราจะทำยังไงดี?”
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคิดกันอีกที” จากนั้น จ้าวหยู่ก็หยิบแท่งเหล็กขึ้นมาจากพื้นแล้วดันฮัวฮัวไปข้างหลังเขา
"ไป!"
ตามคำสั่งของใครบางคน ทุกคนพุ่งไปข้างหน้าหาจ้าวหยู่ด้วยมีดและแท่งเหล็ก ในขณะที่จ้าวหยู่ปกป้องฮัวฮัวพร้อมกับสู้กลับ
เมื่อจ้าวหยู่เข้ามาร้านขายดอกไม้ก่อนหน้านี้ เขาก็เข้าใจพื้นที่โดยรวมของสถานที่แห่งนี้หมดแล้ว
มันเป็นร้านขายดอกไม้โดยส่วนใหญ่ในร้านสร้างด้วยไม้ นอกจากนี้ ใต้ผนังของร้านดอกไม้นั่นก็น่าจะเป็นไม้เหมือนกัน ตราบเท่าที่เขาสามารถผ่านมันไปได้ เขาก็สามารถหนีออกจากที่นี่ไปได้
"ฆ่ามัน!"
ชายฉกรรจ์สองคนที่ถือมีดดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊ง จ้าวหยู่ได้เข้าไปหลบและซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ เขาสังเกตเห็นว่าดอกไม้เหล่านี้ต้องเป็นของที่มีราคาแพงมาก ชายสองคนจึงทำท่าทางลังเลที่จะบุกเข้ามาเพราะกลัวว่าจะทำให้แจกันแตก!
แต่จ้าวหยู่ไม่สนใจ เขาขว้างกระถางไปข้างหน้าและโดนหนึ่งในนั้นเข้าเต็ม ๆ ส่วนอีกคนหนึ่งโต้กลับอย่างรวดเร็ว แต่จ้าวหยู่ได้เปลี่ยนตำแหน่งของเขาหลังจากการโจมตีเสร็จ เขาดึงฮัวฮัวไปกับเขาและวิ่งเข้าไปในอีกมุมที่ลึกกว่า
จ้าวหยู่ไม่สนใจว่าดอกไม้จะมีราคาแพงหรือไม่ ระหว่างทางพวกเขาทำลายไปจำนวนหนึ่ง ชายฉกรรจ์เหล่านั้นก็ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นสิ่งนี้
แต่พวกเขาไม่ได้โง่ เมื่อพวกเขาเห็นว่าจ้าวหยู่กำลังวิ่งเข้าไปในด้านใน พวกเขาจึงรีบกรูเข้ามาเพื่อปิดกั้นไม่ให้พวกเขาหนีไปไหนได้
เมื่อจ้าวหยู่และฮัวฮัวไปถึงขอบร้านดอกไม้ ผู้ชายผมทองก็ปรากฏตัวขึ้นและเหวี่ยงแท่งเหล็กไปที่ฮัวฮัว จ้าวหยู่รีบยื่นแขนออกไป และดึงฮัวฮัวไปด้านข้าง
ในเวลาเดียวกัน มีอีกคนหนึ่งตามมาข้างหลังจ้าวหยู่พร้อมกับยกมีดขึ้นสูงเหนือหัวจ้าวหยู่ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโยนแท่งเหล็กในมือใส่หน้าอีกฝ่าย
คน ๆ นั้นล้มลงไป แต่ก็มีคนอื่น ๆ พุ่งเข้ามา มีคนหนึ่งต้องการจับตัวฮัวฮัวจึงพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถานที่แคบจึงยากที่จะหลบ จ้าวหยู่กังวลว่าฮัวฮัวจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงยกแขนขึ้นและวิ่งไปหาอีกฝ่าย
เมื่อแท่งเหล็กเหวี่ยงลงมา จ้าวหยู่ใช้แขนของเขากั้นมันโดยตรง ในเวลาเดียวกัน เขาก็กระแทกเข้ากับคน ๆ นั้น ทำให้เขากระเด็นออกไปและตกลงไปท่ามกลางกระถางดอกไม้!
จากนั้นคนอื่น ๆ ก็พุ่งเข้ามาหาเขาเช่นกัน จ้าวหยู่ย่อตัวลงและถือกระถางไม้บราซิลที่หนักมากไปข้างหน้า
“เดี๋ยว ๆ! กระถางอันนั้นแพงมาก เร็วเข้า รีบหยุดเขา!!” มีคนหนึ่งตะโกนด้วยความตกใจ
จ้าวหยู่ไม่สนใจว่ามันมีค่าหรือไม่ ในขณะที่เขาโยนกระถางไปที่ผนังของร้านดอกไม้ ผนังไม้ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงได้ ทันใดนั้นก็แตกออกเผยให้เห็นรูขนาดใหญ่
"ไปกันเถอะ!" จ้าวหยู่ตะโกน จากนั้นฮัวฮัวก็รีบออกมาจากรูอย่างรวดเร็ว ตามด้วยจ้าวหยู่
ฝนยังคงตกอยู่นอกร้านขายดอกไม้ แต่พวกเขาสองคนก็หาได้ใส่ใจไม่ ทันทีที่ออกจากร้านดอกไม้ พวกเขาก็เริ่มวิ่งทันที
แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวหยู่ประหลาดใจก็คือ แม้ว่าจะเป็นร้านขายดอกไม้ แต่ก็มีกำแพงหลังบ้านสูงขวางทางพวกเขาอยู่ ใครจะเดาได้ว่าร้านขายดอกไม้ถูกสร้างขึ้นในสวนหลังบ้าน!
“แม่งเอ๊ย!”
จากนั้น จ้าวหยู่เห็นคนไล่ตามพวกเขาจากด้านหลังและต้องการที่จะออกทางรู เขาเตะคนที่เข้ามาใกล้เพื่อซื้อเวลา ในขณะเดียวกัน เขาก็คลุมศีรษะของบุคคลนั้นด้วยผ้าพลาสติกที่อยู่ใกล้เคียงแล้วรัวหมัดใส่เขา!
ทันใดนั้น ใบมีดก็แทงออกมาจากข้างใน จ้าวหยู่รีบหลบพวกมันอย่างหวุดหวิด
*ฉึก ฉึก ฉึก*
นอกจากเสียงผ้าพลาสติกขาดแล้ว ชายฉกรรจ์ประมาณสี่ถึงห้าคนก็มุดเข้าไปในรูและไล่ตามจ้าวหยู่และฮัวฮัวอีกครั้ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ จ้าวหยู่ก็รีบลากฮัวฮัววิ่งกับเขาไปตามกำแพงโดยมองหาทางหนี
น่าเสียดายที่ไม่มีทางออกใด ๆ แต่พวกเขาวิ่งเข้าไปในตรอกที่อยู่ติดกับร้านขายดอกไม้แทน ตรงท้ายซอย นอกจากบ้านไม่กี่หลังก็ไม่มีอะไรเลย!
“โธ่เอ๊ย!”
จ้าวหยู่มองไปที่บ้านหลังหนึ่งและรีบวิ่งไปก่อนหนึ่งในนั้น เขาพิงหลังกับประตูกันขโมยและตะโกนใส่ฮัวฮัวว่า
“เร็วเข้า ฉันจะดันคุณขึ้นไปบนหลังคา!”
เมื่อมองไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์ถือมีดและแท่งเหล็กกำลังวิ่งเข้ามาหาพวกเขา ฮัวฮัวถามขึ้นมาอย่างกระวนกระวายว่า
“พี่หยู่ แล้วพี่ล่ะ?”
“รีบขึ้นไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ เร็วเข้า!” จ้าวหยู่ตะโกนและฮัวฮัวรีบก้าวขึ้นไป แต่เมื่อจ้าวหยู่พร้อมที่จะดันฮัวฮัวขึ้นไปบนหลังคา สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ประตูกันขโมยที่อยู่ข้างหลังเขาเปิดออก และได้ยินเสียงของคนที่กำลังหงุดหงิด
"นี่มันเรื่องอะไรกัน? รู้มั้ยที่มันเวลากี่โมงกี่ยาม?”
‘ฮะ!?’
จ้าวหยู่และฮัวฮัวตกตะลึง เมื่อประตูเปิดออก ชายเปลือยท่อนบนก็เดินออกมา พวกเขามองหน้ากันแล้วผู้ชายก็รู้ว่าเขาไม่รู้จักชายหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในเวลาเดียวกัน กลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังกรูเข้ามาพร้อมกับตะโกนเสียงดัง นั่นทำให้ดวงตาของชายคนนั้นเบิกกว้าง!
“เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!” จ้าวหยู่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาต่อยชายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้น เขาก็โยนอีกฝ่ายทิ้งไว้ที่สวนหลังบ้าน ขณะที่เขาและฮัวฮัวเข้าไปในห้องผ่านประตูกันขโมย
*ตึง! ตึง! ตึง!*
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นที่ด้านนอกประตู ชายฉกรรจ์กำลังทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง แต่ประตูกันขโมยนั้นแข็งแรงและเปิดไม่ได้ ในที่สุด จ้าวหยู่และฮัวฮัวก็สามารถผ่อนคลายได้ในที่สุด
“แฮ่ก! แฮ่ก!”
จ้าวหยู่หอบหายใจอย่างหนัก จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อเขาปลดล็อคโทรศัพท์ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
จ้าวหยู่รีบมองหาสวิตช์ไฟ เมื่อห้องสว่างขึ้น ทั้งฮัวฮัวและเขาก็ต้องตกใจ
พื้นบ้านเกลื่อนไปด้วยข้าวของเครื่องใช้นานาชนิด พวกมันเต็มไปด้วยเศษดินบนตัวของมัน ราวกับว่าพวกมันเป็นโบราณวัตถุที่เพิ่งถูกขุดขึ้นมา!
‘มันคงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่มั้ย?’
จ้าวหยู่คิดว่า นี่อาจเป็นของที่ถูกขโมยไปโดยพวกโจรปล้นสุสาน!