Martial Peak ตอนที่ 2176 ดอกบัวมหาสมบัติ
นทีศักดิ์สิทธิ์ชำระจิต เกษียรกำเนิดเซียน และวารีหยกคืนชีพ นี่คือสามสุดยอดวารีศักดิ์สิทธิ์
ในบรรดาสามสุดยอดวารีศักดิ์สิทธิ์ การถือกำเนิดของนทีศักดิ์สิทธิ์ชำระจิตนั้นส่วนมากจะเป็นเรื่องบังเอิญ มันต้องอาศัยการตายของยอดฝีมือที่มีจิตวิญญาณอันทรงพลัง และอย่างน้อยต้องเป็นเขตแดนราชันหวนกำเนิดขั้นที่สามในสถานที่ที่พลังฟ้าดินมหาศาลมารวมตัวกัน หลังจากผ่านไปหลายร้อยปีและหากโชคดีพอ สระนทีศักดิ์สิทธิ์ชำระจิตก็จะก่อกำเนิดขึ้น แม้จะเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่ง แต่มันก็ยังถูกพบได้เป็นครั้งคราว
ส่วนอีกสองอย่างที่เหลือนั้นหายากยิ่งกว่า
วารีหยกคืนชีพอาจซ่อนอยู่ตามสถานที่ลึกลับสักแห่งในพิภพดารา ของสิ่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยปริศนา
สำหรับเกษียรกำเนิดเซียนนั้น… ไม่มีใครเคยหาเจอแม้จะพยายามตามหามากแค่ไหนก็ตาม
นั่นเป็นเพราะเกษียรกำเนิดเซียนคือผลพลอยได้จากพฤกษาเซียน! มันคือแก่นแท้ที่ถูกกลั่นออกมาจากพฤกษาเซียน!
เกษียรกำเนิดเซียนเพียงหยดเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนที่อยู่หน้าประตูแห่งความตายฟื้นคืนชีพอีกครั้ง นับเป็นผลลัพธ์สุดวิเศษและท้าทายสวรรค์ยิ่ง
ในโลกนี้มีพฤกษาเซียนอยู่เพียงต้นเดียวซึ่งถูกปลูกไว้ในสวนโอสถขนาดเล็กของหยางไค ดังนั้นจึงไม่มีทางที่คนอื่นจะมีหรือได้รับเกษียรกำเนิดเซียนไป
ตอนนี้เขายังมีเกษียรกำเนิดเซียนหยดหนึ่งอยู่ในครอบครองซึ่งได้มาจากพฤกษาเซียนเมื่อหลายปีก่อน แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่เต็มใจที่จะใช้มัน!
ด้วยสมบัติที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ หากหยางไคนำมันออกมาแลกกับผลทัณฑ์ฟ้าดิน แน่นอนว่าคงไม่มีใครปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม หยางไคกำลังกังวลอยู่ว่าการที่เกษียรกำเนิดเซียนหนึ่งหยดปรากฏขึ้นมานั้นว่าจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมารึไม่
แต่เพื่อผลทัณฑ์ฟ้าดินแล้วเขามิอาจลังเลได้ หากมีคนถาม เขาก็แค่บ่ายเบี่ยง คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเขาจะมีสมบัติล้ำค่าอย่างพฤกษาเซียนอยู่ในครอบครองด้วย
ดังนั้นหยางไคจึงนั่งขัดสมาธิและเริ่มรออย่างเงียบๆ
ยังเหลือเวลาอีกราวๆห้าถึงหกวันก่อนที่ทวีปสี่ฤดูจะปิดลง และเห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกยุทธที่อยู่ข้างในก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะออกก่อนเวลา เพราะยังมีโอกาสอีกมากมายให้แสวงหา ดังนั้นบริเวณทางออกจึงเงียบเชียบไร้ผู้คน
เวลาเคลื่อนผ่านไป หนึ่งวันต่อมา ตรงทางเข้านั้นยังคงว่างเปล่า มีเพียงหยางไคที่นั่งรออยู่เช่นเดิม
ทว่า ณ จุดๆหนึ่ง หยางไคก็ขมวดคิ้วพร้อมกับลืมตาขึ้นและหันไปยังทิศทางหนึ่ง
ในขณะนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานผันผวนแปลกประหลาด มันหายไปเกือบจะเร็วพอๆกับตอนที่ปรากฏขึ้น!
แต่เมื่อมองไปยังทิศดังกล่าวอีกครั้ง หยางไคกลับไม่พบเห็นอะไรเลย นั่นทำให้เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยและอดถามตัวเองไม่ได้ว่าคิดไปเองรึเปล่า
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ณ ที่ห่างไกลออกไปอีก รัศมีแสงก็ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน
ข้าจะกระซิบให้เจ้าฟังถึงความลับของหยางไค มาที่ mynovel.co สิ
รัศมีแสงนี้ดูเหมือนจะจับต้องได้และแผ่ออกไปทุกทิศทางราวกับระลอกคลื่นในสระน้ำ
หยางไคลุกขึ้นยืนและหรี่ตามองทันที
ในทิศทางที่เขากำลังจ้องมองอยู่นั้น ห่างออกไปประมาณร้อยลี้บนยอดเขาแห่งหนึ่ง รัศมีแสงยังคงเปล่งประกายไม่หยุด ในตอนแรก รัศมีแสงนี้มีเพียงสีเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆสีต่างๆก็เริ่มปรากฏขึ้นมาเพิ่ม
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าพลังฟ้าดินโดยรอบจะพลุ่งพล่านขณะที่ท้องฟ้าเหนือภูเขาลูกดังกล่าวเต็มเปี่ยมไปด้วยเมฆหลากสี บังเกิดเป็นฉากที่แปลกตาและระยิบระยับไปหมด
“ปรากฏการณ์สวรรค์สำแดงเดช!” หยางไคกระซิบ “สมบัติล้ำค่าบางอย่างกำลังถือกำเนิดขึ้นงั้นรึ?”
แม้เขาจะไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน หยางไคเชื่อว่าสมบัติบางอย่างกำลังจะถือกำเนิดขึ้น และเป็นสมบัติที่ไม่ธรรมดาเลย มิฉะนั้น การถือกำเกิดคงไม่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่ชัดเจนเยี่ยงนี้
“ทำไม… ถึงเป็นตอนนี้ล่ะ…?” หยางไคขมวดคิ้ว ใบหน้าดูมืดมนอย่างยิ่ง
ตอนนี้ทางออกสู่ทวีปสี่ฤดูก็เปิดแล้ว แต่มันจะปิดลงในอีกสี่หรือห้าวัน ดังนั้นศิษย์ทั้งหมดจากสำนักใหญ่ที่อยู่ด้านในคงจะกลับมาที่นี่ในอีกไม่ช้าแน่นอน
ทางออกอยู่ห่างจากจุดที่สมบัติถือกำเนิดเพียงร้อยลี้เท่านั้น
พูดอีกอย่างก็คือ ปรากฏการณ์สวรรค์สำแดงเดชซึ่งเป็นผลมาจากการถือกำเนิดของสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้จะดึงดูดผู้คนมากมาย และเมื่อเวลาผ่านไป คงจะมีผู้คนมามากขึ้นเรื่อยๆ! ในเวลานั้นคงเกิดการแย่งชิงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การนองเลือด!
เมื่อมันเกิดขึ้น แผนของหยางไคที่จะแลกเปลี่ยนเกษียรกำเนิดเซียนหนึ่งหยดกับผลทัณฑ์ฟ้าดินคงจะถูกรบกวน
---------------
สนับสนุนผลงานอย่างถูกต้องได้ที่ MyNovel และ Thai-Novel
---------------
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นปรากฏการณ์สวรรค์สำแดงเดช ความคิดแรกของหยางไคจึงไม่ใช่ความรู้สึกตื่นเต้นแต่เป็นความหงุดหงิดเพราะจังหวะของมันไม่ดีเอาเสียเลย
และแม้จะสาปแช่งอยู่ในใจ แต่ปรากฏการณ์สวรรค์สำแดงเดชก็เด่นชัดมากจนความสนใจของเขาถูกกระตุ้นเช่นกัน!
เมื่อพิจารณาทุกอย่างดูแล้ว หยางไคก็เรียกเรือเหาะออกมาทันทีและขึ้นไปบนนั้น จากนั้นจึงกระตุ้นปราณต้นกำเนิดและพุ่งออกไป
ความเร็วของเรือไม้นั้นไม่ธรรมดาเลย สิบลมหายใจต่อมาก็มาถึงจุดหมายแล้ว เมื่อเข้าไปใกล้ หยางไคก็ได้กลิ่นหอมแปลกประหลาดในอากาศ นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้วยังผ่อนคลายอีกด้วย แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกราวกับกำลังประสบกับการรู้แจ้งอย่างหนึ่ง…
“ต้องเป็นสมุนไพรบางอย่างที่หายากแน่ๆ…” หยางไคพึมพำอย่างครุ่นคิด และระบุได้ทันทีว่าสมบัติที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นนั้นเป็นสมุนไพรหายากที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการฝึกฝนของผู้ฝึกยุทธ เขาตัดสินได้อย่างรวดเร็วเพราะทันทีที่กลิ่นหอมดังกล่าวพุ่งเข้าจมูก หยางไคก็รู้สึกได้รางๆว่าจุดตีบตันของเขาซึ่งอยู่ตรงจุดสูงสุดของเขตแดนต้นกำเนิดวิถีขั้นที่หนึ่งนั้นกำลังคลายลงเล็กน้อย!
เขาข้ามผ่านสู่เขตแดนต้นกำเนิดวิถีเมื่อไม่นานมานี้เอง และแม้จะใช้เวลามากมายในการต่อสู้และฝึกฝนอย่างขยันหมั่นเพียร แถมกระทั่งได้รับโอกาสจากขั้นบันไดกาลเวลาอีก แต่ควรต้องใช้เวลาอีกสักระยะก่อนที่เขาจะข้ามผ่านไปยังเขตแดนต้นกำเนิดวิถีขั้นที่สองได้ ทว่าตอนนี้ ระยะห่างที่เขารู้สึกนั้นกำลังลดลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรมหัศจรรย์นี้เหลือเชื่อมากเพียงใด
หยางไคอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเพราะตอนนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเขาอยู่เลย... บางทีเขาอาจจะได้สมบัติล้ำค่านี้มาครองก็เป็นได้!
นับเป็นความบังเอิญอันประเสริฐยิ่งที่ได้มากเจอสิ่งนี้เข้า เป็นเพราะหยางไคเร่งรีบที่จะมาถึงทางออกก่อนเวลาอันควรเพราะมีสาเหตุอื่น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว
ขณะที่ความคิดต่างๆแล่นเข้ามาในหัว หยางไคก็มาถึงยอดภูเขาดังกล่าวแล้วและมองลงไปด้านล่าง
ณ จุดๆหนึ่งบนยอดเขา ท่ามกลางแนวหินที่กระจัดกระจาย ดอกไม้ชนิดหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ
ดูจากรูปทรงแล้วจะเห็นว่านี่คือดอกบัวชนิดหนึ่ง และถึงแม้จะอยู่ในช่วงก่อนออกดอก แต่กลีบดอกที่พับอยู่นั้นก็เป็นสีขาวโพลนและดูไร้ที่ติ กระแสพลังสุกสว่างได้หลั่งไหลออกมาจากดอกบัวนี้อย่างช้าๆขณะที่กลิ่นหอมอันเย้ายวนกระจายไปรอบๆ ดอกบัวนี้ดูใสบริสุทธิ์มากจนเกือบคิดไปว่าไม่ใช่ของจริง แต่เป็นภาพลวงตาอันน่าหลงใหลซะมากกว่า
ขณะที่มองดูใกล้ๆ หยางไคก็เหลือบไปเห็นอักษรลึกลับเล็กๆที่เปล่งแสงวูบวาบผ่านกลีบดอกบัว อักษรที่พลิ้วไหวไปมาเหล่านี้ดูเหมือนจะมีความหมายลึกล้ำบางอย่างซึ่งหากทำความเข้าใจกับมันได้ก็จะเกิดประโยชน์อย่างไร้ที่สิ้นสุด
หัวใจของหยางไคสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนต้องอ้าปากค้าง “นี่มัน…”
ขณะพูด เขาก็พลิกมือและนำแผ่นหยกออกมาจากแหวนมิติ จากนั้นก็หลับตาลงและเพ่งจิตเข้าไปในนั้นเพื่อค้นหาข้อมูลบางอย่าง
แผ่นหยกนี้เป็นมรดกตกทอดของกงซุนมู่ และหยางไคได้จดจำทุกอย่างที่ถูกบันทึกไว้ในนี้แล้ว แต่ฉากตรงหน้าเขานั้นน่าตกใจมากจนต้องเปรียบเทียบกับบันทึกอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
ไม่นานหลังจากนั้น หยางไคก็พบบันทึกที่เขากำลังมองหาในแผ่นหยกและหลังจากทวนมันซ้ำถึงสามครั้ง เขาก็ลืมตาที่แทบจะส่องประกายได้เอง พอกลับไปมองดูดอกบัวซึ่งใกล้จะบานออกเต็มที หยางไคก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ดอกบัวมหาสมบัติ!”
มีข้อความหนึ่งในแผ่นหยกของกงซุนมู่ที่อธิบายเกี่ยวกับการถือกำเนิดของดอกบัวมหาสมบัติซึ่งอยู่ในเส้นทางแห่งสวรรค์ชั้นฟ้าอย่างแยกกันไม่ออก ดอกบัวนี้จะดูดซับแก่นแท้บริสุทธิ์ที่สุดของดวงสุริยันจันทราเท่านั้น และในวันที่เบ่งบาน มันจะเปี่ยมไปด้วยเจตจำนงจักรพรรดิที่ไม่ธรรมดา หากใครก็ตามที่กลืนกินและหลอมรวมกับดอกบัวมหาสมบัติได้สำเร็จ โอกาสในการข้ามผ่านสู่เขตแดนจักรพรรดิในอนาคตก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และหากสามารถหลอมเป็นโอสถขึ้นมาได้ ผลลัพธ์จะยิ่งดีขึ้นไปอีก!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือสมบัติที่ท้าทายสวรรค์และเพิ่มโอกาสในการขึ้นสู่แขตแดนจักรพรรดิ!
เขตแดนจักรพรรดิคือจุดสูงสุดของระดับการฝึกฝนในพิภพดารา
นอกจากสมบัติสองสามชิ้นที่ใกล้จะดับสูญหมดแล้ว ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ฝึกยุทธที่ต้องการข้ามผ่านสู่เขตแดนดังกล่าวได้อีก
แต่ดอกบัวมหาสมบัติคือหนึ่งในสมบัติที่ว่านั่น
ยิ่งไปกว่านั้น ดอกบัวมหาสมบัติยังแตกต่างจากสมุนไพรวิญญาณและโอสถทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะการใช้มันจะช่วยยกระดับความสามารถขั้นพื้นฐานของผู้ฝึกยุทธ ว่าด้วยการทำความเข้าใจในวิถียุทธแห่งสวรรค์ชั้นฟ้า และให้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมในการเพิ่มความสามารถหลายอย่าง แน่นอนว่ารวมถึงการบีบอัดและการสร้างเจตจำนงจักรพรรดิของตัวเองด้วย
คุณค่าของดอกบัวมหาสมบัตินี้ยากจะจินตนาการได้! หากยอดฝีมืออย่างเซี่ยเชิงหรืออู๋ฉางได้รับดอกบัวมหาสมบัตินี้ไป พวกเขาคงสามารถข้ามผ่านสู่เขตแดนจักรพรรดิได้ภายในห้าปีโดยไม่มีทางล้มเหลวอย่างแน่นอน
จักรพรรดิเป็นเสาหลักที่ช่วยค้ำจุนสำนักใหญ่ทุกแห่งหน และเป็นตัวชี้วัดถึงพลังของสำนักได้อย่างชัดเจน การมีจักรพรรดิเพิ่มขึ้นเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมให้กับสำนัก
หากคิดตามนี้ คุณค่าของดอกบัวมหาสมบัติจึงไม่อาจประเมินค่าได้เลย…
เลือดของหยางไคเริ่มเดือดปุดๆ ทว่าไม่นาน ความเศร้าโศกก็เข้ามาปกคลุมใบหน้าแทน
เพราะดอกบัวมหาสมบัติตรงหน้าเขานั้น… ยังไม่ผลิบานได้ไม่เต็มที่ เขาจึงเก็บมันไม่ได้ หากพยายามรีบเก็บมันในตอนนี้ สรรพคุณทางโอสถของมันก็จะหายไปทันที
และแม้จะบานเต็มที่แล้ว แต่ผู้ใช้จำเป็นจะต้องกลืนกินทันทีหรือไม่ก็หลอมมันเป็นโอสถภายในเวลาอันสั้น มิฉะนั้นสรรพคุณทางโอสถก็จะหายไปเช่นกัน
สวรรค์มักยุติธรรมในทุกเรื่อง และทุกโอกาสที่มีก็มาพร้อมอุปสรรคที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
ดอกบัวมหาสมบัตินั้นให้ผลลัพธ์ที่ท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง นี่คือสาเหตุที่ผู้คนไม่ค่อยได้พบเห็นมันอยู่ในจารึกประวัติศาสตร์
ภายในเวลาเพียงสามชั่วโมงหลังจากที่ดอกไม้ชนิดนี้เบ่งบาน สรรพคุณของมันจะเริ่มหายไป และไม่นานหลังจากนั้นก็จะเหี่ยวเฉาลง ทิ้งไว้เพียงชื่อเสียงในตำนานเท่านั้น
เช่นนั้นแล้ว แม้ดอกบัวมหาสมบัติจะถือกำเนิดและเบ่งบานขึ้นจากที่ไหนสักแห่งในพิภพดาราอันกว้างใหญ่ แต่หากไม่มีใครพบมันภายในเวลาสามชั่วโมง มันก็จะเหี่ยวเฉาและอันตรธานหายไปเฉยๆ…
“ต้องหาวิธีปกปิดปรากฏการณ์สวรรค์สำแดงเดชนี่ ดูๆไปแล้ว… กว่ามันจะเบ่งบานคงใช้เวลาอีกสักระยะ และหากเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะดึงดูดผู้คนมากขึ้น และเรื่องคงยากกว่านี้มาก” หยางไคพึมพำกับตัวเอง แต่เมื่อมองขึ้นไปบนภาพอันยิ่งใหญ่บนท้องฟ้า เขาก็รู้สึกสิ้นแรงทันที
หากเชี่ยวชาญเรื่องการจัดวางค่ายกลวิญญาณ เขาอาจจะทำอะไรบางอย่างกับเรื่องนี้ได้ แต่ความเข้าใจของหยางไคนั้นอยู่แค่ในระดับที่พอจะทำลายพวกมันได้ด้วยกำลัง ดังนั้นการจัดวางค่ายกลจึงไม่ใช่ทางเลือก
นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บดอกบัวมหาสมบัติไว้ในไข่มุกดินแดนมิติลึกลับเพราะนั่นก็เท่ากับเป็นการเก็บก่อนเวลาอันควรเช่นกัน และทำให้มันเหี่ยวเฉาทันที
ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับหยางไค
นับเป็นช่วงเวลาที่เขาทำได้เพียงเกาหัวอย่างร้อนรน
ขณะที่เขากำลังรู้สึกกระวนกระวายอยู่นั้น เสียงของบางอย่างก็ตัดผ่านอากาศลงมาถึงหู ร่างหลายร่างพุ่งมาจากทิศทางต่างๆก่อนจะหยุดลง ณ บริเวณใกล้เคียง
เป็นบุรุษสามคนและสตรีอีกหนึ่ง และแม้ทั้งสี่จะไม่ได้มาจากทิศเดียวกันทั้งหมด แต่ดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว
ทันทีที่สี่คนนี้ปรากฏตัวขึ้น ทุกสายตาจับจ้องไปที่ดอกบัวมหาสมบัติขณะที่ใบหน้าของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจและตกตะลึง
มีเพียงหญิงสาวคนเดียวที่ชำเลืองมองหยางไคแบบผ่านๆ แต่หลังจากพบว่าเขาเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธเขตแดนต้นกำเนิดวิถีขั้นที่หนึ่ง นางก็ไม่สนใจอีกต่อไป
---------------
อัพเดทข่าวสารล่าสุดและติดตามแฟนเพจนักแปลได้ที่: EP:IC Translation
ฝากผลงานเรื่องอื่นด้วยครับ : คลิกที่รูปโปรไฟล์ด้านล่าง