Martial Peak ตอนที่ 2173 เกล็ดหิมะน้อย
ท่ามกลางสายลมและหิมะ หยางไคยืนรออยู่สามชั่วโมงก่อนที่หลิวเหยียนจะกลับมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นสีหน้าอันลึกลับของนาง หยางไคก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยและถามออกไป “เจ้าไปที่นั่นเพื่อเอาสิ่งใดรึ?”
หลิวเหยียนไม่ได้ตอบตรงๆแต่กลับเรียกออกไปอีกทางแทน "ออกมาได้แล้ว อย่าได้กลัวไปเลย!"
ทว่าสถานที่ที่นางมองออกไปนั้นแลดูว่างเปล่า
หยางไคตกตะลึงแต่ก็รู้ว่าหลิวเหยียนคงไม่ล้อเล่นไร้สาระแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองอย่างตั้งอกตั้งใจ
แย่หน่อยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นั่นทำให้หลิวเหยียนถอนหายใจอย่างเหลืออด “นายท่าน โปรดรอสักครู่ ดูเหมือนมันจะขี้อายนิดหน่อย ข้าคงต้องขอคุยกับมันสักพัก”
หลังจากนั้นหลิวเหยียนก็นั่งยองๆกลางหิมะและส่งปราณจิตสัมผัสของตัวเองออกมา ราวกับว่านางพยายามสื่อสารกับบางคนหรือบางสิ่ง
หลังจากไม่มีการตอบสนองใดๆเป็นเวลานาน หลิวเหยียนก็เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย สีหน้าของนางทรุดลงก่อนจะแค่นเสียงเย็นชา “หากเจ้าไม่ยอมออกมา ข้าจะละลายเจ้าทิ้งซะ!”
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว กองหิมะเล็กๆก็พองตัวขึ้น ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังโผล่ออกมาจากด้านล่าง
หยางไคอดไม่ได้ที่จะจ้องมองด้วยความประหลาดใจ
หยางไคจะรอดอยู่ได้อย่างไร หากไร้การสนับสนุน โปรดแวะไปที่ห้าง mynovel.co เจ้าค่ะ
ครู่ต่อมาก็มีบางอย่างพุ่งออกจากพื้นหิมะ มันกลายเป็นลำแสงและเริ่มเต้นไปมาในอากาศ
แม้สิ่งนี้จะรวดเร็วมาก แต่หยางไคก็มองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
มันคือเกล็ดหิมะที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ!
อย่างไรก็ตาม เกล็ดหิมะนี้แตกต่างจากเกล็ดหิมะทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนว่ามันจะมีจิตวิญญาณและจิตสำนึกบางอย่างที่ดูคล้ายกับเปลวเพลิงจางๆซึ่งทำให้อากาศโดยรอบบิดเบือน
"นี่คือตัวอะไรกัน?" ดวงตาของหยางไคแทบถลนขณะถามด้วยความตกใจ
หลิวเหยียนตอบกลับ “ข้าเองก็ไม่อาจอธิบายได้ แต่มันคือบางอย่างที่คล้ายๆกับข้า!”
ขณะพูด นางก็กวักมือเรียกเกล็ดหิมะเบาๆและทำให้มันบินลงมาอยู่ต่อหน้าอย่างนุ่มนวล แต่ดูเหมือนมันจะไม่กล้าเข้าใกล้เกินไปนัก
หยางไคมองดูเกล็ดหิมะด้วยความสนใจ และในไม่ช้าก็พบว่ามีร่องรอยคล้ายกับใบหน้าอยู่ตรงกลาง ร่องรอยเหล่านี้ดูพร่ามัวและไม่เด่นชัด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดูไม่รู้เรื่องเลย
“วิญญาณสมบัติธรรมชาติงั้นรึ?” หยางไคพึมพำเสียงเบา
เกล็ดหิมะนี้น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่วิวัฒนาการอยู่ในเขตแดนฤดูหนาวมานานนับปี ด้วยร่างกายพิเศษที่มีลักษณะเฉพาะ เป็นไปได้ว่าไม่เคยมีใครเห็นหรือพบเจอมันมาก่อน
“ใช่แล้ว” หลิวเหยียนพยักหน้า “แต่มันก็น่าเป็นเปลวเพลิงน้ำแข็งชนิดหนึ่งด้วย! หาไม่แล้ว ข้าก็คงไม่รู้สึกถึงมัน”
เมื่อได้ยินที่นางพูด หยางไคก็เข้าใจทันที
หลิวเหยียนเป็นวิญญาณสมบัติลับที่กินเปลวเพลิงประหลาดมามากมาย เกล็ดหิมะน้อยเองก็ดูเหมือนจะเป็นเปลวเพลิงประหลาดเช่นกัน เป็นไปได้ว่ามีปฏิกิริยาบางอย่างระหว่างมันกับหลิวเหยียน…
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคุณสมบัติที่ร้อนและเย็นนั้นอยู่ตรงข้ามกัน เกล็ดหิมะน้อยจึงไม่อาจเข้าใกล้หลิวเหยียนได้มากนักและดูเหมือนว่ามันจะกลัวนางเป็นอย่างมาก
“เจ้านำมันมาที่นี่… เพื่ออะไรรึ?” หยางไคถามด้วยความประหลาดใจ
ตามหลักแล้ว หลิวเหยียนควรกลืนเปลวเพลิงน้ำแข็งนี่ให้จบๆเรื่องไป แม้จะเป็นเปลวเพลิงธาตุน้ำแข็ง แต่เพราะสติปัญญาได้เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว มันก็ยังพอเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของหลิวเหยียนอยู่บ้าง
แต่นางกลับไม่คิดจะกลืนมันและเอาออกมาหาหยางไคแทน นั่นหมายความว่านางไม่ได้เตรียมการที่จะใช้มันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
“มันคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก อาจพอช่วยเราหาของได้!” หลิวเหยียนยิ้มเล็กน้อย
"โอ้! เป็นความคิดที่ดีมาก!" ดวงตาของหยางไคกระจ่างชัดขึ้น
หลิวเหยียนกลับขมวดคิ้วแทน “แต่ว่า… สติปัญญาของมันค่อนข้างจำกัดและต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสื่อสารกับมัน ข้าไม่แน่ใจว่ามันจะช่วยได้มากเพียงใด”
“แต่ก็ดีกว่าการค้นหาอย่างไร้จุดหมายแหละนะ” หยางไคยิ้มกว้าง “สำหรับผลลัพธ์ เราต้องพยายามดูก่อนถึงจะรู้”
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็หันไปมองเกล็ดหิมะน้อยและถามเบาๆ “ที่นี่มีของดีอยู่บ้างไหม? พาข้าไปดูได้รึไม่?”
เกล็ดหิมะน้อยดูเหมือนจะไม่ได้ยินเขาและลอยต่อไปอย่างเงียบๆ
หยางไครู้สึกเขินเล็กน้อยขณะหันไปหาหลิวเหยียน “มันฟังไม่รู้เรื่องรึ?”
หลิวเหยียนยิ้มเล็กน้อยขณะเอ่ยตอบ “มันไม่เคยพบกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นมาก่อน เช่นนั้นแล้วจะเข้าใจภาษามนุษย์ได้อย่างไร? นายท่านจำต้องพึ่งปราณจิตสัมผัสเพื่อสื่อสารกับมันแทน”
ทันทีที่พูดจบ หลิวเหยียนก็ส่งปราณจิตสัมผัสของนางไปทางเกล็ดหิมะน้อย
วินาทีถัดมา อีกฝ่ายดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างและลอยไปยังทิศทางหนึ่ง
หยางไคและหลิวเหยียนชำเลืองมองกันก่อนจะตามไปทันที
หลังจากนั้นไม่นาน ภายใต้การนำของเกล็ดหิมะน้อย หยางไคและหลิวเหยียนก็มาถึงหุบเขาสักแห่ง เกล็ดหิมะน้อยมาหยุดอยู่ที่จุดๆหนึ่งแล้วเริ่มหมุนวนไปรอบจุดดังกล่าว
“น่าจะมีของดีอยู่ตรงนี้!” หลิวเหยียนกล่าว
“ข้าจะลองหาดู” หยางไคเริ่มเคลื่อนไหว เขาใช้ปราณต้นกำเนิดเพื่อขุดน้ำแข็งและหิมะออกไป
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป หลุมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหยางไคขณะที่เขาโดดลงไปสำรวจ
ครู่ต่อมา เขาก็กระโดดออกมาพร้อมรอยยิ้มเบิกบานบนใบหน้า ในมือมีสมุนไพรวิญญาณคล้ายหยกติดมาด้วย
"ยอดเยี่ยม!" หยางไคยิ้มแย้มขณะมองดูเกล็ดหิมะน้อยอย่างเอ็นดู “ดีกว่าการค้นหาอย่างไร้จุดหมายจริงๆซะด้วย”
---------------
สนับสนุนผลงานอย่างถูกต้องได้ที่ MyNovel และ Thai-Novel
---------------
ราวกับว่ามันเข้าใจคำชมเชยของเขา เกล็ดหิมะน้อยบินไปรอบๆหยางไคสองสามครั้งก่อนจะลงไปเกาะบนไหล่ ใบหน้าเลือนลางแลดูมีความสุขเช่นกัน
เมื่อเห็นเช่นนี้หยางไคเข้าใจทันทีว่าความคิดของอีกฝ่ายนั้นเรียบง่ายมาก เพราะการถือกำเนิดในเขตแดนฤดูหนาวทำให้มันมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆอย่างจำกัด พูดอีกนัยหนึ่งก็คือมันเป็นกระดาษขาวว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ หาไม่แล้ว มันจะมีความสุขจากคำชมเพียงเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร?
“ห้ามอู้ มิฉะนั้นข้าจะละลายเจ้าซะ!” หลิวเหยียนขู่เสริมในเวลาที่พอเหมาะ ใบหน้าอันงดงามของนางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง จิตสังหารเปล่งออกมาอย่างชัดเจน นั่นทำให้เกล็ดหิมะน้อยตัวสั่นด้วยความกลัวและหนีไปซ่อนอยู่ด้านหลังหยางไคโดยเกาะติดกับเขาขณะโผล่หน้าออกมาบางส่วนเพื่อจ้องไปที่หลิวเหยียนอย่างนอบน้อม
หยางไคอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหลิวเหยียนซึ่งอีกฝ่ายก็แลบลิ้นเล็กๆใส่ สายตาของทั้งสองแอบสื่อสารกันอย่างเงียบๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง หยางไคจึงกลอกตาและพูดขึ้น “ให้มันช่วยข้าหาของล้ำค่าที่สุดที่สิ และหากพบสมบัติดีๆระหว่างทางก็ให้มาบอกเราด้วย”
หลิวเหยียนพยักหน้าและใช้ปราณจิตสัมผัสของนางถ่ายทอดความหมายของหยางไคออกไป
เกล็ดหิมะน้อยได้รับคำสั่งแล้วจึงรีบพุ่งออกไปนำทางทันที
ด้วยการนำทางของวิญญาณสมบัติธรรมชาติ หยางไคจึงประหยัดเวลาไปได้มากและยังได้รับสมบัติมากมาย ตอนนี้เขาไม่ต้องค้นหาดินแดนเยือกแข็งนี้ราวกับคนตาบอดอีกแล้ว ไม่มีสมบัติล้ำค่าใดๆที่จะรอดพ้นการตรวจจับของเกล็ดหิมะน้อยไปได้ เมื่อใดที่มันหยุดนิ่งอยู่กับที่ หยางไคก็รู้ว่าตรงนั้นย่อมมีของดีฝังอยู่แน่นอน
ในระหว่างทาง หยางไคได้เก็บหญ้าวิญญาณธาตุน้ำแข็งและสมุนไพรจำนวนมากเข้าไปในแหวนมิติ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับต้นกำเนิดวิถีแต่ระดับจักรพรรดิก็มีโผล่มาให้เห็นบ้างเช่นกัน
สภาพแวดล้อมพิเศษของเขตแดนฤดูหนาวนั้นทำให้พวกมันเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และเพราะไม่ค่อยมีใครเข้ามาที่นี่เลย พวกมันเลยอยู่มาได้จนถึงตอนนี้ จนกระทั่งเกล็ดหิมะน้อยช่วยหยางไคตามหาพวกมัน
สมุนไพรชนิดใดก็ตามที่หยางไคเจอนั้นล้วนมีอายุไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปี!
หยางไคได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล!
และหลังจากติดต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการเดินทาง เกล็ดหิมะน้อยดูเหมือนจะเริ่มคุ้นเคยกับหยางไคและไม่ทำตัวขี้ขลาดเหมือนตอนแรกแล้ว มันเหมือนกับเด็กแรกเกิดที่เปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและสนใจสิ่งมีชีวิตแบบหยางไคมาก มันบินรอบตัวเขาเป็นครั้งคราว สังเกตเขาจากทุกมุมที่เป็นไปได้
แต่ทว่า… เพราะหลิวเหยียนยังคงสวมบทตัวร้ายตลอดทางและขู่มันเป็นระยะๆ เป็นธรรมดาที่เกล็ดหิมะน้อยจะไม่กล้าเข้าใกล้นางเกินสิบก้าว
นั่นทำให้หยางไคและหลิวเหยียนต้องอยู่ห่างกันชั่วคราว
แม้เขาจะได้รับผลประโยชน์มากมาย แต่หยางไคกลับรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ยังหาผลทัณฑ์ฟ้าดินไม่พบ!
เขาได้รับสิ่งที่หายากและมีค่ายิ่งกว่าผลทัณฑ์ฟ้าดินหลายอย่าง แต่เขาก็ยังขาดสิ่งที่ต้องการมากที่สุดไป
เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรรีบร้อนและทำได้เพียงสงบสติอารมณ์ก่อนจะค้นหาต่อไปเท่านั้น
สองสามวันต่อมา หยางไคได้พบกับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง
เบื้องหน้าไม่ไกลนัก มีทะเลสาบส่องประกายระยิบระยับ ทะเลสาบนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงไม่กี่ลี้และล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง นับเป็นภาพที่งดงาม
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือทะเลสาบนี้ไม่ได้ถูกแช่แข็งเอาไว้
หิมะตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง ทว่าพวกมันกลับละลายทันทีที่สัมผัสพื้นผิวของทะเลสาบ ราวกับว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษบางอย่าง
น้ำในทะเลสาบใสจนหยางไคเห็นปลาแปลกประหลาดแหวกว่ายอยู่เบื้องล่าง
เมื่อพิจารณาจากปากอันใหญ่โตและเขี้ยวแหลมคม ดูเหมือนจะไม่เป็นการดีนักหากต้องการท้าทายปลาเหล่านี้
แต่เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว เกล็ดหิมะน้อยก็ไม่เคลื่อนที่ต่อและกลับไปบินวนรอบๆหยางไคแทน ดูเหมือนว่ามันพยายามจะสื่ออะไรบางอย่างให้เขาทราบ
หลังจากอยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ หยางไคก็ตีความพฤติกรรมของเกล็ดหิมะน้อยได้ เห็นเช่นนี้แล้ว เขาจึงถามอย่างครุ่นคิด “เจ้าอยากจะบอกว่า สิ่งล้ำค่าที่สุดอยู่ก้นทะเลสาบแห่งนี้งั้นรึ?”
ทันทีที่หยางไคถามออกมา เกล็ดหิมะน้อยก็ลอยขึ้นลงราวกับกำลังพยักหน้าให้
หยางไคพยักหน้าตอบ “เช่นนั้นข้าจะลงไปดู!”
“นายท่าน โปรดระวังตัวด้วย!” หลิวเหยียนเตือนด้วยความเป็นห่วง
หยางไคพยักหน้าก่อนจะบินไปที่ใจกลางทะเลสาบ เขาเหลือบมองซ้ายขวาก่อนจะดำดิ่งลงไปในน้ำ
จอมยุทธอย่างหยางไคไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าเปียก เพียงแค่หมุนเวียนปราณต้นกำเนิดออกมาเล็กน้อย เขาก็สามารถป้องกันตัวเองจากน้ำและความเย็นได้แล้ว
เมื่อกระแสพลังของจอมยุทธเขตแดนต้นกำเนิดวิถีกระจายออกไป บรรดาฝูงปลาก็หนีกระจัดกระจายอย่างบ้าคลั่ง
แม้ปลาที่ก้นทะเลสาบจะดูน่ากลัว แต่พวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก
เกล็ดหิมะน้อยไม่ได้ติดตามเขาลงไป ดังนั้นหยางไคจึงทำได้เพียงสำรวจด้วยตัวเองเพื่อค้นหาสิ่งที่เรียกว่า 'สมบัติล้ำค่าที่สุด' โดยเริ่มจากใจกลางทะเลสาบก่อนจะไล่ย้อนออกไปด้านนอก
ที่ฝั่ง หลิวเหยียนสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ ดวงตาคู่งามของนางจับจ้องไปที่หยางไคและพร้อมสนับสนุนเขาทุกเมื่อ สำหรับเกล็ดหิมะน้อยนั้น มันลอยห่างจากหลิวเหยียนไปหลายสิบจั้งขณะเฝ้ามองหยางไคเช่นกัน ความกังวลแสดงอยู่บนใบหน้าอันเลือนลางขณะที่มันบินไปมาอย่างไม่สบายใจเป็นครั้งคราว
---------------
อัพเดทข่าวสารล่าสุดและติดตามแฟนเพจนักแปลได้ที่: EP:IC Translation
ฝากผลงานเรื่องอื่นด้วยครับ : คลิกที่รูปโปรไฟล์ด้านล่าง